การรุกรานของวิญญาณปิศาจได้เข้ามาถึงขั้นที่น่าเป็นห่วงหลังจากที่ผนึกได้ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์
ผู้เล่นทุกคนที่กำลังออกไปสำรวจกับทีมของตัวเอง บ้างก็ถูกซุ่มโจมตีและสังหารลงโดยเหล่ากองทัพปิศาจ บ้างก็ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดและพยายามหนีกลับไปที่คฤหาสน์แห่งความตาย
ผู้เล่นหลายคนต้องผงะกับการเพิ่มระดับความยากของการเอาชีวิตรอดในเกม
ตอนนี้ ชื่อเสียงของฮู่เฮ่อในฐานะที่เป็นผู้เล่นที่เลวร้ายได้แผ่ขยายไปทั่วทั้งเซิฟเวอร์ เขาถือบทเป็นตัวร้ายที่น่ากลัวกว่าราชาภูตผีเสียอีก และเขาก็ได้กลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเกม
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มระดับความยากนั้นก็ทำให้ผู้เล่นได้สามัคคีกันอีกครั้ง พวกเขารวมตัวกันที่เซฟโซนในคฤหาสน์แห่งความตายเพื่อปรึกษาหาวิธีทำลายเสาพลังงานซอมบี้และวิธีที่จะเอาตัวรอดภายใต้วิกฤตินี้ให้ได้
หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกัน ผู้เล่นที่ตัดสินใจว่ามันถึงเวลาของกองทัพเป่ยฉีที่มีทหารนับล้านจะต้องเข้าสู่สงครามอีกครั้ง
ในตอนนี้ สมาชิกของกิลด์มิธที่ได้ทำลายผนึกลงไปพร้อมกับฮู่เฮ่อกำลังขนร่างของฮิเดริกามิไปที่ผาแห่งความสิ้นหวัง
ทุกคนดูตื่นเต้นเมื่อพวกเขาไปถึง
พวกเขาพบสถานที่ที่เงียบสงบหลังจากที่ออกมาจากเมืองฝันร้ายปิศาจ
เมื่อคลาสของเขาได้ถูกระบบจัดการ ก็มีหลอดความคืบหน้าขึ้นบนหัวของเขาขณะที่เขากำลังควบคุมร่างของฮิเดริกามิ
เมื่อเขาควบคุมที่กะโหลก ความคืนหน้าเพิ่มขึ้นเพียงน้อยนิด
แต่เมื่อเขาควบคุมฮิเดริกามิ ความคืบหน้านั้นไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าเขาจะพยายามทุกวิถีทางที่เขาได้เรียนมาจากตำราโบราณ ด้วยความสามารถของเขาในปัจจุบันนั้นเขาไม่สามารถควบคุมฮิเดริกามิที่เป็นจักรพรรดิภูตที่เก่งกาจที่สุดได้
ในที่สุด ฮู่เฮ่อก็ยอมแพ้เพราะว่าเขาไม่สามารถทำลายเกราะป้องกันของฮิเดริกามิลงได้
ความจริงแล้ว เขาคิดว่าการรวบรวมสมุนไพรที่ถูกพูดถึงในตำราโบราณเพื่อช่วยในการควบคุม แต่ความคิดของเขาก็ถูกกู่หยูปฏิเสธ
กู่หยูคาดเอาไว้ว่าความสามารถปัจจุบันของผู้เล่นและร่างกายที่แข็งแรงของฮิเดริกามิ มันไม่มีโอกาสที่ผู้เล่นจะเอาชนะเขาได้เลย
เขายังรู้ว่ามันมีสถานที่ที่หนึ่งที่จะต้องเอาฮิเดริกามิไป ที่นั่นมันจะไม่มีปัญหาเรื่องการทำลายการป้องกันของฮิเดริกามิเลย
การที่ต้องแบกร่างที่หนักอึ้งของฮิเดริกามินั้นทำให้พวกเขาหมดแรง ระหว่างการเดินทาง ชาน้อยได้ช่วยพวกเขาในบางครั้ง แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะแบกฮิเดริกามิขึ้นภูเขาไปได้อย่างไร การเดินทางนั้นมันน่าตื่นเต้นเนื่องจากกู่หยูและสมาชิกทีมของเขาต้องถูกล้อมรอบไปด้วยลูกน้องเหล่าปิศาจนับไม่ถ้วน ถ้าไม่มีผงซอบบี้มาช่วยเอาไว้ พวกเขาก็คงตายไปแล้ว
ขณะที่พวกเขาขึ้นไปได้ครึ่งทาง กู่หยูก็โบกมือส่งสัญญาณให้ทีมได้พัก
เมื่อเห็นสัญญาณ ทั้งทีมก็ปล่อยร่างกายของฮิเดริกามิลงในทันที ทำให้มันหล่นลงบนพื้นอย่างแรง
เขามองไปที่เมนูสถานะและเห็นว่ามันมีสีแดงแจ้งเตือนเรื่องของความอดทนอยู่ กู่หยูปาดเหงื่อก่อนที่จะนำอาหารออกมาจากช่องเก็บของส่วนตัว
“กินอะไรกันก่อนทุกคน ความอดทนของเราเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วและเรายังต้องไปกันอีกไกล”
สมาชิกทีมที่เหลือก็ทำตามและหยิบอาหารออกมา พวกเขาพบสถานที่เพื่อพักก่อนที่จะเติมอาหารลงกระเพาะ
“บอส มีกระท่อมอยู่หลังหนึ่งและดูเหมือนว่าจะมีคนอยู่ข้างใน!” สมาชิกกิลด์ตะโกนขึ้นมาเมื่อพวกเขาพบกระท่อมของชายแก่ผมขาว
เมื่อรู้ว่าสถานที่นั้นน่าจะดีกว่า กู่หยูจึงพยักหน้าและเดินตรงไปที่กระท่อมหลังนั้น
สุนัขได้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันหยุดกันฮู่เฮ่อทันทีและเดินตามกู่หยูไปอย่างใกล้ชิด
เมื่อเขามาถึงที่ประตูหน้าของกระท่อม กู่หยูคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเคาะประตู
“ชายแก่ ท่านอยู่ไหม?”
เวลาผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง ประตูก็เปิดออกช้าๆก่อนที่ใบหน้าที่น่าเบื่อหน่ายของชายแก่ผมขาวจะโผล่ออกมา
“ไอ้หนุ่ม เจ้าเบื่อและอยากจะปีนเขาอีกงั้นรึ?”
เส้นเลือดบนหน้าผากของกู่หยูปูดขึ้นมา
“ข้าแค่ผ่านมาและอยากจะมาทักทายท่าน”
“ในเมื่อเจ้าเจอข้าแล้ว ข้าปิดประตูได้หรือยัง?”
คำตอบที่โหดร้ายของชายแก่ผมขาวทำให้กู่หยูชะงัก เขารู้สึกเสียใจที่ได้มาเคาะประตูของชายแก่โดยที่ไม่มีเหตุผลอะไร
“เฮ้! นี่มันเจ้ามานี่? ทำไม? เจ้าอยากจะสู้กับข้าอีกงั้นรึ?” ชายแก่ผมขาวหันไปเห็นซันฉี
“ข้าไม่กลัวท่านหรอก! คนที่เมาก่อนคือคนที่แพ้!” ซันฉีผู้ที่ไม่เคยอ่อนข้อตะคอกใส่เขา
เมื่อได้ยิน กู่หยูก็เหลือบไปมองที่ซันฉี “ลองกินไวน์สิแล้วดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
ซันฉีรู้สึกได้ถึงคำขู่ของซันฉีทันที เขาจำได้ดีว่ากู่หยูโมโหขนาดไหนเมื่อตอนที่เขาเมาครั้งที่แล้ว
แม้ว่าซันฉีอยากจะลิ้มลองไวน์ของชายแก่อีกครั้ง เขาก็เข้าใจได้ว่าพวกเขามีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำ ดังนั้นเขาจึงต้องยอมแพ้ไปก่อน
ในตอนนี้ ร่างเงาก็ปรากฏขึ้นที่ประตู ชาน้อยจ้องไปที่ชายแก่ผมขาวและแสดงท่าทีสตั้น
“ข้าคิดว่าข้าเคยเจอท่านที่ไหนมาก่อน!” ชาน้อยพูดด้วยความตกใจ
“ที่ไหน?” ชายแก่ผมขาวหรี่ตาลง
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าจำอะไรไม่ได้เลย แต่สัญชาตญาณของข้าบอกข้าว่าข้าควรจะกลัวท่าน”
ชาน้อยยกมือที่สั่นเทาของเขาขึ้นขณะที่พูด
ทั้งกู่หยูและซันฉีนั้นพูดอะไรไม่ออก
“พวกเจ้าหยุดแสดงเหมือนคนโง่สักทีได้ไหม?” นี่วิญญาณปิศาจได้ปนเปื้อนไปในสมองของพวกเจ้าแล้วงั้นรึ?”
ชายแก่ผมขาวจ้องไปที่ชาน้อยที่กำลังสั่นอยู่และดูเหมือนจะกลัวมาก
“พวกเจ้านี่โง่จริงๆ!” การถอนหายใจด้วยความผิดหวังได้ยินจากไกลๆ
ทุกคนหันไปหาต้นตอของเสียง ก็เห็นเพียงฮิเดริกามิที่นอนอยู่บนพื้นมองมาที่พวกเขา
ขณะที่พวกเตลิดแยกกันไป ฮิเดริกามิสามารถมองเห็นชายแก่ได้อย่างชัดเจน ทันใดนั้นฮิเดริกามิก็มีท่าทางที่เศร้าหมอง
“เจ้า…”
เพี๊ยะ!
เสียงตบที่ดังชัดเจนดังก้องไปในอากาศ ผู้ที่มุงดูอยู่ก็ช็อคที่เห็นรอยแดงบนแก้มที่ถูกตบของฮิเดริกามิผู้ที่ถูกทำลายไม่ได้
การตบที่ปรากฏขึ้นมาโดยไม่มีต้นตอ ทำให้ฮิเดริกามิสตั้น เมื่อเขาเรียกสติคืนมาได้ เขาก็เริ่มโกรธ
“เจ้า…”
เพี๊ยะ!
เงาฝ่ามืออีกเงาหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากอากาศก่อนที่จะกระแทกเข้ามาที่แก้มของฮิเดริกามิอย่างรุนแรง ทำให้หัวเขาหมุน
ในชณะนั้น เสียงของชาวแก่ก็ดังขึ้นในหัวของฮิเดริกามิ
“เจ้าเชื่อข้าไหมว่าข้าจะฆ่าเจ้าซะถ้าเจ้าพูดเลินเล่ออีกครั้ง?”
แม้ว่าฮิเดริกามิจะโกรธที่ถูกข่มขู่ แต่เขาก็เงียบ เขารู้ว่าชายแก่คนนี้นั้นมีความสามารถที่ฆ่าเขาได้จริงๆ
เขารู้ว่าชายาแก่ ที่เป็นเหมือนเขานั้นได้สำเร็จขั้นจักรพรรดิภูตแล้ว ดังนั้นเขาอาจจะไม่สามารถชายแก่ได้แม้ว่าเขาจะอยู่ระดับสูงสุด
กู่หยูกับพวกที่เหลือสตั้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าการตบนั้นมันมาจากที่ไหน
ขณะที่พวกมีคำถามเต็มไปหมด พวกเขาก็หันไปมองที่ชายแก่ผมขาว
ชายแก่ที่น่าทางเขร่งขรึม
“มันดูเหมือนพลังของเทพปิศาจ ข้าคิดว่าผนึกของเทพปิศาจได้คลายตัวลง”
กู่หยูลุกลี้ลุกลน
เขาถามด้วยความคาใจ “มันเป็นเทพปิศาจจริงๆเหรอ?”
“ข้าคิดว่ามันคือเทพปิศาจ ไม่อย่างนั้นพลังงานมันจะมาจากไหน?” ชายแก่ผมขาวแสดงท่าทีเหมือนขำเล็กน้อยขณะที่เขาโกหก
คำพูดของชายแก่ทำให้กู่หยูสับสนมากยิ่งขึ้น แม้ว่าเงาของฝ่ามือนั้นมันจะปรากฏขึ้นในตอนที่ฮิเดริกามิจ้องมาที่ชายแก่ มันก็ดูเหมือนว่าชายแก่ที่อ่อนแอจะไม่มีความสามารถที่จะทำให้ฮิเดริกามินั้นได้รับบาดแผลได้
“ยังไงซะ อย่ามากวนข้า ข้าจะไปนอนแล้ว มีวิญญาณปิศาจอยู่ทั่วทุกที่ ระวังตัวให้ดี”
ชายแก่ผมขาวเหลือบไปมองกลุ่มคนและสายตาของเขาก็ไปหยุดที่ฮิเดริกามิ เขาจ้องมองฮิเดริกามิด้วยสายตาที่น่ากลัวก่อนที่จะหันกลับเข้าไปในกระท่อมและปิดประตูไป
ชายแก่ยิ้มเมื่อเข้ามาในกระท่อม
“วิญญาณปิศาจ มู่จี้กวงและฮิเดริกามิ ทั้งหมดได้ปรากฏตัวขึ้น มันเริ่มสนุกขึ้นแล้ว ข้าจะรอชมโชว์ที่สนุกๆ! ฮี่ฮี่!”
ทันใดนั้น กู่หยูและคนอื่นๆก็เข้าไปหาฮิเดริกามิผู้ที่ดูกังวลแปลกๆ
พวกเขาถาม “ใครตบเจ้า?”
ฮิเดริกามิไม่ตอบคำถามของพวกเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบคำถาม กู่หยูก็ไม่ได้จี้ เขาโบกมือและคนอื่นๆก็แบกร่างของฮิเดริกามิไปข้างหน้าในทันทีก่อนที่พวกเขาจะเดินทางต่อไปที่ยอดเขา
หลังจากพวกเขาเดินไปบนทางขึ้นภูเขา ผ่านไปครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็ได้ยินเสียงแหบแห้งดังเข้ามาในหัว
“ฮิเดริกามิ!”
ฮิเดริกามิตาโตด้วยความระแวงทันทีที่ได้ยินเสียงที่เขานั้นคุ้นเคย มันมาจากผู้ที่เขากลัวมากที่สุด – เทพปิศาจ
“ฮ่าฮ่า! เจ้ากล้าจริงๆที่มาที่นี่ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
มันเป็นเสียงหัวเราะเหมือนกับคนที่เป็นบ้า
“เทพปิศาจ บอสของข้า ข้าได้ทำภารกิจที่ท่านมอบหมายให้กับข้า แต่ข้าล้มเหลวในการสังหารเขา ข้าจึงพาเขามาให้ท่าน” กู่หยูรีบอธิบาย
“ดีมาก! เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ฮ่าฮ่าฮ่า!”
จากนั้นหมอกดำก็ปรากฏขึ้นใต้เท้าของพวกเขาและพวกเขาก็เสียการทรงตัวทันที หมอกรอบๆภูเขาเคลื่อนตัวผ่านสายตาของพวกเขาทับหมอกสีดำและมุ่งไปที่ยอดเขาอย่างรวดเร็ว
ฮิเดริกามิกระวนกระวาย
แม้ว่าเทพปิศาจจะถูกผนึกเอาไว้ แต่พวกเขาที่อยู่ในขอบเขตดินแดนของเขาและหมอกเทพ ไม่มากก็น้อยจะต้องปลดปล่อยพลังงานบางอย่างออกมา เขาจะต้องแย่แน่ถ้าเขาถูกพาไปที่ยอดเขา
“อ้ากกก!”
ใบหน้าของฮิเดริกามิเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะที่เขาพยายามปลดปล่อยพลังชีโลหิตจากแกนโลหิตของเขา เขาต้องหนีไปจากการถูกตรึงจากหมอกสีดำแม้ว่าเขาจะต้องทำลายแกนโลหิตของตัวเองก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ปล่อยชีโลหิตออกมา มันก็ถูกดูดซับด้วยหมอกดำ
“ฮิเดริกามิ หยุดดิ้นรนซะ มันไม่มีทางไหนที่เจ้าจะหนีไปจากข้าได้อีกเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว เจ้าก็เป็นแค่ปิศาจที่อ่อนแอตนหนึ่ง”
เมื่อถูกเรียกว่าเป็นผู้ที่อ่อนแอจากเทพปิศาจ ฮิเดริกามิไม่แสดงท่าทีโมโหเลยแม้แต่น้อย กลับกัน เขาถูกครอบงำไปด้วยความกลัว
เพียงชั่วพริบตา พวกเขาก็ได้เดินทางผ่านหมอกไปและถึงที่ยอดเขา จากนั้นหมอกดำก็แยกตัวออก
ในตอนนี้ ด้านหน้าของเสาเจดีย์ที่ถูกสร้างขึ้นบนยอดเขา สายตาสีแดงคู่นั้นที่ถูกปกปิดด้วยหมอกมืดก็ต้องมาที่ฮิเดริกามิ
“ฮิเดริกามิ! ฮิเดริกามิ! ฮิเดริกามิ!”
เสียงที่ซ้อนกันดังขึ้นถี่ๆ ก้องไปในหัวของทุกคน บางเสียงก็ดูเหมือนบ่นพึมพำ บางเสียงก็ตะโกน และบางเสียงก็คำราม เสียงเหล่านั้นมันปลุกความรู้สึกด้านลบของพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะล้มลงกับพื้น ทีละคนทีละคน ด้วยท่าทีที่แข็งดั่งหิน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ได้รับผลกระทบจากความรู้สึกด้านลบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เป้าหมายหลักของความรู้สึกด้านลบนั้นก็คือฮิเดริกามิ ผู้ที่นอนอยู่บนพื้น
ทันใดนั้น ทะเลเลือดในหัวของฮิเดริกามิก็เต็มไปด้วยคลื่นความโกรธแค้น เสียงหัวเราะของเด็กโลหิตดังก้องในหูของเขาอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกเหมือนกับเรือที่ล่องไปบนทะเลเลือดอย่างโดดเดี่ยวและจะถูกดูดกลืนลงไปด้วยคลื่นโลหิตตลอดเวลา
ความกลัวเพิ่มมากขึ้น
ภายใต้การโจมตีด้วยความรู้สึกด้านลบของเทพปิศาจ ความกลัวภายในจิตใจของฮิเดริกามินั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หน้าตาของเขาบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวด จนกระทั่วเขาไม่สามารถทนกับมันได้อีกต่อไปและเริ่มร้องไห้ด้วยความทุกข์ทรมาน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฮิเดริกามิ เจ้าช่างน่าสงเพช เกิดอะไรขึ้นกับความโอหังของเจ้าที่เป็นผู้ที่บงการความตาย? เจ้าเคยบอกกับข้าว่าความอ่อนแอนั้นเป็นบาป แล้วดูเจ้าตอนนี้ อ่อนแอจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
หลังจากที่สัมผัสได้ถึงความกลัวภายใจจิตใจของฮิเดริกามิ เทพปิศาจก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
เขาเฝ้ารอคอยวันนี้มาเป็นเวลานาน เขาเกือบจะคิดว่าเขาจะไม่มีโอกาสได้แก้แค้นเสียแล้ว
ช่วงเวลานี้เป็นอะไรที่ทำให้เขามีความหวังเนื่องจากเขาต้องทรมานมาอย่างยาวนานภายใต้การผนึก
เทพปิดศาจพึงพอใจอย่างมากที่ได้เห็นฮิเดริกามิที่สั่นระริกด้วยความกลัว
แม้ว่าความจริงแล้วพวกเขาแค่ทุกข์ทรมานจากความรู้สึกด้านลบเท่านั้น แต่เหล่าผู้เล่นก็ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป
กู่หยูขอร้อง “เทพปิดศาจ โปรดหยุดพลังงานเหล่านี้เถิด พวกเขาทนไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว!”
เทพปิศาจไม่ตอบอะไร เขาหันไปจ้องที่กู่หยูด้วยสายตาสีแดงคู่นั้นเงียบๆแต่มันช่างดูน่ากลัว
จากนั้นความรู้สึกด้านลบก็เริ่มจางลง สีหน้าของพวกเขาดูดีขึ้นมา แต่ก็ยังเหลือความกลัวอยู่บนใบหน้าของพวกเขา
พวกเขารู้สึกเหมือนเพิ่งจะกลับออกมาจากประตูแห่งความตาย
ในหมู่พวกเขา ชาน้อยนั้นทรมานที่สุด ไม่ใช่แค่มือ แต่ทั้งตัวของเขาสั่นกลัว
การที่ได้เห็นพลังปิศาจที่น่ากลัวที่สุดของเทพในดินแดนแห่งเป่ยฉี หัวใจของเขาก็แทบหยุดเต้น ครั้งนี้ เขาไม่มีแม้แต่กำลังที่จะวิ่งหนี เขาย่อตัวลงขณะที่นวดแก้มตัวเอง แสดงท่าทีเหมือนกับว่าเขากำลังจะตายด้วยความกลัว
พวกเขาได้ยินกู่หยูพูดถึงเทพปิดศาจและก็ได้รู้ว่าเจ้าของสายตาสีแดงคู่นี้นั้นเป็นใคร แต่ถึงอย่างไร พวกเขาก็ได้ดูวิดิโอการต่อสู้ระหว่างฮิเดริกามิกับเทพปิศาจแล้ว
แต่นอกจากกู่หยูและสุนัขซันฉี คนอื่นๆนั้นเพียงแค่เข้าใจถึงพลังที่แสดงออกมาโดยร่างโคลนของเทพปิศาจเท่านั้น
“เทพปิศาจ นี่ถือว่าภารกิจเสร็จสมบูรณ์ไหม?”
“ใช่ มันสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่พวกเราสังหารฮิเดริกามิ ข้าจะบอกความลับเพื่อที่จะพัฒนาเมล็ดโลหิต”
กู่หยูดีใจที่ได้ยินคำตอบของเทพปิศาจ เขารู้ว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะแข็งแกร่งขึ้น
ในตอนนี้ ชายคนหนึ่งก็ปรากฎตัวอย่างเหนียมอายข้างๆกู่หยู
เขาถาม “ข้าของร่างกายของเขาได้ไหมหลังจากที่ท่านฆ่าเขาแล้ว?”
คนอื่นๆเงียบและสงสัย
ทุกคนรวมถึงเทพปิศาจจ้องไปที่ฮู่เฮ่อ
พวกเขาพูดไม่ออกกับความหมกมุ่นกับศพ
“เจ้าเป็นผู้สืบทอดแห่งซอมบี้ฟอจมาสเตอร์ใช่ไหม?” เทพปิศาจเหลือบไปมองที่ฮู่เฮ่อก็สามารถรู้ถึงภูมิฐานของฮู่เฮ่อได้ทันที
ฮู่เฮ่อหัวเราะคิกคักขณะที่เขาเกาหัวตัวเอง
“ได้สิ!”
ฮู่เฮ่อดีใจมากที่ได้ยินคำตอบของเทพปิศาจ กู่หยูประหลาดใจ
เขาได้เห็นความทรงจำส่วนหนึ่งของเทพปิศาจและได้เข้าใจว่าทำไมเขาถึงแค้นเทพปิศาจมากมายขนาดนั้น เขาคิดว่าเทพปิศาจนั้นจะต้องทำลายฮิเดริกามิอย่างแน่นอน และไม่คาดคิดว่าเทพปิศาจจะมอบร่างของฮิเดริกามิให้กับฮู่เฮ่อ
“ควบคุมมันเข้ากับวิญญาณซอมบี้และห้ามไม่ให้มันได้ไปสู่สุขคติ มันเป็นความคิดที่ดี! มันจะตายง่ายๆไม่ได้ ความคิดนี้มันดีมาก!”
เทพปิศาจได้คลายความสงสัยให้กู่หยู เขาเหลือบไปมองฮู่เฮ่อที่ดีใจอยู่
เมื่อเด็กคนนี้ได้ร่างของฮิเดริกามิ เขาจะไม่สามารถทำอะไรกับร่างนั้นได้ในตอนนี้ แต่ถ้าเขาทำสำเร็จ กู่หยูไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าผู้เล่นคนนี้จะแข็งแกร่งขนาดไหน
ร่างกายที่ทำลายไม่ได้จะถูกเปลี่ยนให้เป็นซอมบี้วิญญาณที่น่ากลัว จากนั้นเขาก็จะกลายเป็นผู้ที่ไร้เทียมทาน
แต่ในการตกลงของเทพปิศาจและฮู่เฮ่อได้ช่วยให้ภารกิจนี้เสร็จสมบูรณ์ กู่หยูก็ไม่คิดจะขัดขวาง
เขาพูดออกมา “เทพปิศาจ ลงมือเลย!”
เทพปิศาจหันไปจ้องที่ฮิเดริกามิที่ดูทุกข์ทรมานและหวาดกลัวอีกครั้ง
ยอดเขาถึงกับสั่นไหวก่อนที่ฮิเดริกามิจะถูกห่อหุ้มและกลืนไปด้วยเปลวไฟสีแดง
ไฟนั้นรุนแรงมาก ผิวของจักรพรรดิภูต ฮิเดริกามิฉีกออกทันที ขณะเดียวกัน เลือดของเขาที่ไหลออกมาจากผิวหวังก็เป็นเชื้อเพลิงให้กับเปลวไฟนั้นอย่างต่อเนื่อง
“อ้ากกกกก! เทพปิศาจ!” ร่างกายที่เจ็บปวดได้ปลุกฮิเดริกามิที่หมดสติอยู่ เขาลืมตาที่แดงก่ำและจ้องไปที่เทพปิศาจ
“จงมีความสุขกับของขวัญที่ข้ามอบให้เจ้าซะ ข้ารอคอยวันนี้มาเป็นเวลายาวนาน ข้าไม่คิดว่าข้าจะได้จัดการกับเจ้าเป็นการส่วนตัว”
หลังจากที่เทพปิศาจพูดจบ รูปแบบเลือดได้ปรากฏขึ้นด้านใต้ของร่างกายฮิเดริกามิ ถูกตรึงไปด้วยโซ่เหล็กช้าๆไปจนถึงตรงกลางของรูปแบบเลือด
“ให้ข้าได้สัมผัสถึงความกลัวของเจ้าก่อนที่เจ้าจะตาย ฮ่าฮ๋า!”
โซ่เหล็กที่กำลังเผาไหม้ได้รัดกุมฮิเดริกามิเอาไว้เป็นรูปไม้กางเขน
เปลวไฟลุกโชนอย่างต่อเนื่องขณะที่เงาของเทพปิศาจปรากฏขึ้นช้าๆด้านหลังของไม้กางเขน…