ขณะที่การต่อสู้ได้เข้าสู่ชั่วโมงที่สาม สถานการณ์ก็ได้หยุดชะงักลง
ไม่ใช่แค่เหล่าวิญญาณปิศาจไม่สามารถบุกทะลวงเข้าไปได้ แต่เหล่าผู้เล่นเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างทำให้ตัวเองอ่อนล้าลง
ยิ่งกว่านั้น เสาพลังงานซอมบี้นั้นก็ยังคงสร้างวิญญาณใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ ทำให้เหล่าผู้เล่นนั้นดูมีความสุขกับการได้เลเวลอัพ
อย่างที่เหล่าผู้เล่นคิดเอาไว้ว่าสถานการณ์มันจะยาวนานต่อเนื่องจนกระทั่งพวกเขาออฟไลน์ ทันใดนั้นต้นไม้ก็ถูกโค่นล้มลงทีละต้นที่ทางด้านทิศตะวันตดของภูเขาแห่งภูตผี ร่างเงาขนาดใหญ่มหึมาได้ปรากฏขึ้นให้พวกเขาเห็น
เงาของต้นไม้ปิศาจจำนวนมาก รวมไปถึงต้นไม้ปิศาจโบราณและต้นไม้ปิศาจระดับสูง ได้ปรากฏขึ้น
ในขณะเดียวกัน เงาขนาดใหญ่ก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้า มันพุ่งลงมาปะทะกับผืนดิน วิญญาณปิศาจจำนวนมากถูกทับอยู่เบื้องล่างของร่างกายขนาดใหญ่ของมัน
“บ้าน่า กองทัพหินอยู่ที่นี่!”
“พวกมันมาทำอะไรที่นี่? มันเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่?”
“หวังให้มันไม่ใช่ศัตรูเถอะ! พวกเราอาจจะป้องกันพวกวิญญาณปิศาจได้ แต่ข้าเองก็ไม่แน่ว่าเราจะป้องกันราชาผีหินได้หรือเปล่า!”
“ใจเย็นๆ! อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม!”
…
ขณะที่ผู้เล่นกำลังปรึกษากันด้วยความกังวล กองทัพของปิศาจต้นไม้ก็ได้บุกเข้ามาทางทิศตะวันตก พุ่งเข้าใส่กองทัพของปิศาจอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกมันก็เริ่มโจมตีเสาพลังงานซอมบี้ที่อยู่ถัดไป
“โฮ่ววว!”
ด้วยเสียงคำรามของราชาผีหิน ขนาดของพื้นที่ป่าได้ขยายออกอย่างรวดเร็ว วิญญาณที่อยู่ในขอบเขตลอยขึ้นไปบนอากาศด้วยกิ่งก้านจำนวนมากและถูกบีบรัดด้วยแรงมหาศาล
การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของราชาผีหินได้รู้ไปถึงแม่ทัพภูตปิศาจที่อยู่ใกล้ๆ มันรีบกระโดดออกจากเสาพลังงานซอมบี้และพุ่งเข้าใส่ราชาผีหินทันที
แต่ครั้งนี้ มันไม่มีโอกาสที่จะได้ฟื้นฟูพลังชีวิตของมันเมื่อได้เจอกับราชาผีหิน ผู้ที่มีระดับกลางของราชาแห่งภูต
ชั่วพริบตา เถาวัลย์สีเขียวนับพันเส้นก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดินและรัดเข้าไปที่แม่ทัพภูตปิศาจอย่างแน่น ยกมันขึ้นไปบนอากาศ
ตามมาด้วยเสียงคำรามกู่ก้องจากราชาผีหิน เถาวัลย์เหล่านั้นรัดแน่นยิ่งขึ้น มีเสียงระยิบระยับปรากฏขึ้นตามเส้นเถาวัลย์ ไม่นานก็ดูเหมือนแม่ทัพปิศาจจะต้านทานไม่ไหวอีกต่อไป เถาวัลย์เหล่านั้นได้ฉีกมันออกในอากาศและเศษเนื้อก็ร่วงลงมาสู่พื้นดิน
จากนั้นราชาผีหินก็กางอาณาเขตที่น่ากลัวออกมา แม้แต่วิญญาณปิศาจที่อยู่ในระดับแม่ทัพภูตก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
การต่อสู้ที่แนวหน้าจากการที่ปิศาจต้นไม้เข้าโจมตีอย่างต่อเนื่องเหมือนกับรถไถดิน มันทำให้วิญญาณปิศาจนั้นยากที่จะป้องกันได้ และมันก็ได้แสดงให้เห็นถึงพลังที่อยู่เหนือกว่าด้วยความแข็งแกร่งที่ต่างกันลิบลับ
หลังจากที่ถูกกองทัพปิศาจต้นไม้โจมตี เหล่าปิศาจก็ถูกทำลายลง ด้วยความจริงที่ว่าพวกมันถูกโจมตีจากประตูเทพในอีกด้านหนึ่ง ความเร็วในการสร้างวิญญาณปิมศาจจากเสาพลังงานซอมบี้ทั้งสิบสองเสานั้นไม่สามารถครอบคลุมจำนวนที่เสียไปได้ เนื่องจากพวกมันถูกสังหารลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้เห็นสถานการณ์ เหล่าผู้เล่นถึงกับสตั้น
พวกเขาไม่คิดว่าราชาผีหินจะยื่นมือเข้ามาช่วยพวกเขาจึงดูลุกลี้ลุกลนปนกับความมึน สับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นรอบๆตัวพวกเขา
หลังจากที่เหล่าวิญญาณถูกกำจัดจนหมดสิ้น ราชาผีหินก็เหลือบไปมองที่แคมป์ของผู้เล่นและจ้องไปที่หวู่กัวอี้
“ในเมื่อข้าได้มาช่วยเจ้า ทำไมจึงไม่มีใครเข้าโจมตีไปพร้อมกับข้า!?”
เมื่อพวกเขาได้ยิน หวู่กัวอี้กับคนอื่นๆก็รู้สึกปวดหัวจนขนลุก
พวกเขายังสังหารมอนสเตอร์ไม่มากพอ
แม้ว่าราชาผีหินจะใจกว้าง แต่พวกเขาก็ค่อนข้างฝืนใจที่จะต้องร่วมมือกับเขา เนื่องจากนี่เป็นโอกาสที่ดีในการฟาร์มเลเวล
แต่ถึงอย่างไร เมื่อสมดุลย์นั้นได้หมดลง พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก หวู่กัวอี้จึงประกาศผ่านทางแชทกิลด์…
“วอริเออร์ทุกคน ลุกขึ้น! เตรียมเข้าโจมตี!”
จากคำสั่งโจมตีของหวู่กัวอี้ วออริเออร์และนักฆ่าเริ่มรุดหน้าขึ้นมาที่แนวป้องกันของประตูเทพด้วยการสังหารวิญญาณปิศาจ
ขณะเดียวกัน นักเวทย์ที่อยู่ด้านในของแนวป้องกันก็ใช้คาถาเพื่อสนับสนุนการโจมตีในแนวหน้า
เมื่อต้องเจอกับการโจมตีจากผู้เล่นและปิศาจต้นไม้ แม้ว่าเสาพลังงานซอมบี้ทั้งสิบสองต้นจะสร้างวิญญาณปิศาจขึ้นมาเรื่อยๆ แต่มันก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่ทรงพลังจากกองทัพขนาดใหญ่ทั้งสองที่ร่วมมือกันได้
เมื่อเขาเห็นผู้เล่นได้เข้าร่วมสงคราม ความโล่งใจก็ปรากฏขึ้นในสายตาของราชาผีหิน
เขาใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจนำกองกำลังมาในครั้งนี้
เนื่องจากการมีตัวตนของเสาพลังงานซอมบี้ในภูเขาแห่งภูตผี นอร์ทร็อคที่เขาปกครองอยู่ก็ได้พูดเหล่าวิญญาณปิศาจบุกรุกอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจมาก
จากที่เขาเคยเจอการบุกรุกเมื่อ 400 ศตวรรษที่แล้ว เขาพบว่าเมื่อเสาพลังงานซอมบี้ถูกโจมตี เสาพลังงานซอมบี้ต้นอื่นๆจะรับรู้ได้และจะมาสนับสนุนทันที
ถ้าเขาเข้าโจมตีเสาพลังงานซอมบี้ในภูเขาแห่งภูตผีจริงๆ มันจะต้องมีการสูญเสียมากมายอย่างแน่นอน
มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้สำหรับเขา ถ้ากองทัพต้นไม้ปิศาจได้รับดาเมจอย่างรุนแรง เขาจินตนาการได้เลยว่ากองกำลังใหม่ในคฤหาสน์แห่งความตายที่กำลังเล็งเป้ามาที่นอร์ทร็อคจะต้องกระโดดเข้าหาโอกาสนี้เพื่อโจมตีเขาอย่างแน่นอน
แต่ถึงยังไง เขาก็ไม่คิดว่ากองกำลังใหม่จากคฤหาสน์แห่งความตายนั้นจะเปิดฉากโจมตีเสาพลังงานซอมบี้ก่อน
มันทำให้ทัศนคติของราชาผีหินนั้นดีขึ้น เขานำกองทัพของเขาบุกโจมตีทันที ขณะเดียวกัน เขาเองก็ติดตามการต่อสู้อย่างใกล้ชิด เพื่อที่ว่าเขาจะฉวยโอกาสเพื่อชิงความได้เปรียบขณะที่อีกสองฝ่ายกำลังต่อสู้กัน
แต่สถานการณ์การต่อสู้ก็เหนือความคาดหมายของราชาผีหิน ตอนแรกเขาคิดว่าการต่อสู้จะนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของกองกำลังใหม่เนื่องจากวิญญาณปิศาจนั้นเกิดขึ้นไม่หยุด แม้ว่าจะมีการโจมตีที่ทำลายเสาพลังงานซฮมบี้ลงและลากการต่อสู้ให้กลายไปเป็นเหมือนกับการขุดหลุมฝังศพตัวเอง
แต่หลังจากที่เฝ้าดูการต่อสู้อย่างจดจ่อระหว่างผู้เล่นกับวิญญาณปิศาจมาอย่างยาวนานนับสี่ชั่วโมง ราชาผีหินก็ได้รู้ว่าทั้งสองฝ่ายนั้นเท่าเทียมกันที่แม้แต่มอนสเตอร์ที่ทรงพลังยังถูกเหล่าผู้เล่นตรึงเอาไว้ได้
จากสถานการณ์ มันเป็นเหมือนกับสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ราชาผีหินตะลึง แต่ก็มีความคิดใหม่แล่นเข้ามาในหัวของเขา เขาวางแผนที่จะสมานฉันท์กับกองกำลังใหม่และเริ่มกวาดล้างเหล่าวิญญาณปิศาจไปพร้อมกัน
กองกำลังใหม่นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการพัฒนาทางความคิดที่จะให้เหตุผลในการร่วมมือได้ ไม่เหมือนกับพวกวิญญาณที่ต้องการเพียงแค่การต่อสู้เพื่อเติมเต็มความกระหายเลือดของพวกมัน มันยังพอมีโอกาสในการเจรจา
นอกจากนี้ ยังมีอีกเหตุผลที่สำคัญ ถ้าเหล่าผู้เล่นนั้นถูกกวาดล้างไปโดยพวกวิญญาณปิศาจ เช่นนั้นนอร์ทร็อคที่อยู่ใกล้กับภูเขาแห่งภูตผีมากที่สุดจะต้องเสี่ยงกับการถูกรุกรานจากพวกวิญญาณปิศาจที่เกิดมาจากเสาวิญญาณซอมบี้ทั้งสิบสองต้นอย่างแน่นอน
มันเป็นเหตุผลที่ดีที่จะเปิดฉากสงครามอย่างเต็มรูปแบบเพื่อต่อกรกับเหล่าวิญญาณปิศาจ เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าเขาเป็นผู้ชนะ เขาก็จะสูญเสียกองทัพต้นไม้ปิศาจไปเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ราชาผีหินจึงตัดสินใจนำกองทัพบุกโจมตีและสนับสนุนเหล่าผู้เล่นในการถอนรากถอนโคนเสาพลังงานซอมบี้พวกนั้นและหยุดความโกลาหลจากการรุกรานของปิศาจลง
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่รู้ว่าเหล่าผู้เล่นนั้นไม่ได้ปลื้มเท่าไหร่ พวกเขาเริ่มบ่นกันในแชทกิลด์
“อย่าคิดว่าแค่ยื่นมือเข้ามาช่วยแล้วข้าจะเลิกตัดต้นไม้นะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
“ใช่แล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะค้นพบสถานที่ในอุดมคติในการฟาร์มมอนสเตอร์ ตอนนี้มันพังลงแล้ว ข้ารู้สึกเศร้า”
“ขอบใจที่มาช่วยนะ แต่ต้นไม้พวกนั้นต้องโดนโค่น เพราะว่าเราไม่มีเงินมากพอที่จะมาอัพเกรดเรือของพวกเรา”
“มันคนละเรื่องนะ พวกเราไม่ใช่พวกไม่มีเหตุผล ดังนั้นพวกเราจะลดจำนวนการตัดต้นไม้ลงวันละหนึ่งต้นแล้วกัน เพื่อรักษาความภาคภูมิใจของราชาผีหิน”
“ใช่ใช่ เพื่อที่จะตอบแทนราชาผีหินที่มาช่วย พวกเราจะตัดต้นไม้ให้น้อยลงวันละต้น!”
“พวกนายแม่งหน้าไม่อาย แต่ข้าก็เห็นด้วยนะ!”
…
เมื่อได้เห็นผู้เล่นคุยกันในแชทกิลด์ ลู่หวู่รู้สึกละอายใจสุดๆ เขารู้สึกว่าราชาผีหินได้รู้ถึงความคิดของเหล่าผู้เล่น เขาจะไปช่วยกองทัพปิศาจแทนและล้างบางเหล่าผู้เล่นจนหมดสิ้น