“ข้ารับประกันไม่ได้ว่าพวกเจ้าจะฝึกฝนมันสำเร็จ!” ตงกั่วเสริม ทั้งสองคนยอมรับมัน
เมอร์ฟี่กับโพเมโล่น้อยพยักหน้าทันที
“โอเค ท่านตงกั่ว!”
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกต้นกำเนิดของตระกูลต้องสาปให้พวกเจ้าฟัง”
“ตระกูลต้องสาปไม่ใช่ตระกูลที่มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนแห่งเป่ยฉี แต่เป็นเผ่าที่ย้ายมากจากรานากะ เหมือนว่าพวกเขานั้นจะเข้าร่วมผิดฝ่ายระหว่างการต่อสู้เพื่อตำแหน่งราชัน หลังจากราชาองค์ใหม่ได้ถือกำเนิด พวกเขาก็ย้ายมาที่เป่ยฉีเพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลของตัวเองนั้นล่มสลาย”
“สถานการณ์ในเป่ยฉีตอนนั้นมันไม่มั่นคง ด้วยกองกำลังขนาดใหญ่ของทั้งสองฝ่ายที่แย่งชิงตำแหน่งราชันในเป่ยฉี”
“ตระกูลนี้มีโชคชะตาที่ขัดสน เพื่อที่จะมีที่ยืนในเป่ยฉี พวกเขาเลือกที่จะเข้าร่วมกับฝ่ายหนึ่งจากกองกำลังของทั้งสองหลังจากที่ประเมินความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายแล้ว แต่พวกเขาก็เลือกผิด กองกำลังที่พวกเขาไว้ใจนั้นแพ้ และพวกเขาก็เกือบจะล่มสลาย แต่ถึงอย่างไร ผู้นำของฝ่ายที่ชนะก็คือลู่หยาน ราชาคนปัจจุบันของเป่ยฉีผู้ที่เพิ่งจะสิ้นชีพไปเมื่อไม่นานมานี้”
เมื่อเขาคิดถึงราชาแห่งเป่ยฉีที่ดูแลเขามาอย่างดี ตงกั่วก็ถอนหายใจลึกๆในใจ
“ตระกูลต้องสาปถูกกำจัดไปด้วยหรือเปล่า?” ทั้งสองถามเหมือนกับเป็นเด็กขี้สงสัย
“พวกเขาไม่ได้ถูกกำจัดไปจนหมด แต่ก็เหลือเพียงไม่กี่คนที่รอดชีวิตและหนีไปที่’อาร์ค-ติก-อบีส’ด้วยกองกำลังที่ล่มสลาย แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะว่าข้าก็กำลังฝึกพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ในเวลานั้น ข้าปลีกตัวออกไปฝึกเป็นเวลานาน”
“อาร์คติกอบีส?” ทั้งสองคนเปิดแผนที่และเลื่อนลงมาดูที่ทิศใต้ทันที
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพวกเขานั้นไม่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน แผนที่จึงแสดงแค่แม่น้ำที่อยู่ด้านล่างของแดนสุสาน พื้นที่ที่เหลือนั้นถูกปกคลุมไปด้วยหมอก
“ดังนั้น ถ้าพวกเจ้าอยากจะเรียนความสามารถของตระกูลต้องสาปจริงๆ พวกเจ้าก็ต้องขออนุญาตจากพวกเขา ถ้าพวกเขามีคนที่รอดชีวิตมา พวกเขาก็หนีไปที่อาร์คติกอบีสแน่นอน เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ในดินแดนแห่งเป่ยฉี”
“แต่ถึงอย่างไร ข้าก็อยากจะเตือนเจ้าก่อนว่าที่อาร์คติกอบีสนั้นมันเหมือนกับแดนต้องห้ามในเป่ยฉี มันเป็นสถานที่ที่น่าขนลุก แม้ว่ามันจะตั้งอยู่เหนือพื้นที่ที่เป็นภูเขาไฟ แต่ธารน้ำแข็งก็ไม่ละลายมานานนับแสนปี มันกลับมีหิมะโหมกระหน่ำอยู่เสมอ”
“อีกอย่าง มีคนเคยบอกว่าการเกิดขึ้นของอาร์คติกอบีสนี้นั้นเกี่ยวข้องกับตระกูลหิมะน้ำแข็งผู้ที่อยู่เบื้องล่างของราชาแห่งเป่ยฉี ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สถานที่ที่ดีเช่นกัน นอกจากนี้ แม้ว่ากองกำลังที่ล่มสลายนั้นจะซ่อนตัวอยู่ในอาร์คติกอบีส แต่ตระกูลหิมะน้ำแข็งก็จะต้องกำจัดพวกเขาทิ้ง”
“ด้วยเหตุนี้ พวกเจ้าควรจะคิดให้รอบคอบ ในเมื่อเจ้าเป็นผู้อมตะ มันก็ไม่เป็นไรที่จะไปเที่ยวเล่น ถ้าพวกเจ้าเข้าไปที่ตระกูลหิมะน้ำแข็ง ก็อย่าไปวุ่นวายกับพวกเขาเพราะผู้นำของพวกเขาที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่นั้นอยู่ในระดับจักรพรรดิภูต เป่ยฉีอาจจะต้องเจอกับหายนะถ้าพวกเขาโกรธขึ้นมา”
“ข้าได้บอกพวกเจ้าไปหมดแล้ว พวกเจ้าคิดอย่างไร?”
ตงกั่วมองไปที่พวกเขาและถามขึ้นมา
“พวกเราจะไป!”
เมื่อได้เห็นคู่หูที่ดื้อดึง ตงกั่วก็โบกมือ เขาดูกลัวว่าพวกเขาจะกลับมาสร้างปัญหาให้กับเขาอีกถ้าพวกเขาหาตระกูลต้องสาปไม่เจอ เขาจึงพูดออกมาอีกครั้ง
“อย่าหมดหวังเลยถ้าพวกเจ้าหาพวกเขาไม่เจอ เมื่อพวกเจ้าเติบโตแข็งแกร่งขึ้น พวกเจ้าก็จงไปที่ดินแดนรานากะ หลายเผ่าที่นั่นมีพลังของนารากะ”
ทั้งสองคนพยักหน้าอีกครั้งและคำนับด้วยความนับถือแก่ตงกั่ว จากนั้นพวกเขาก็หันกลับไปที่ประตูและปีนออกไปทางหน้าต่างที่อยู่ข้างๆ
ตงกั่วพูดไม่ออก
“เดี๋ยวก่อนนะ พวกเขารู้ได้ยังไงว่าข้ารู้ถึงต้นกำเนิดของตระกูลต้องสาป?” ตงกั่วจับง่ามขาของเขา รู้สึกถึงความผิดปกติ
…
ที่โลกภายนอก เทศกาลวันหยุดยาวยังคงดำเนินต่อไป
ในตอนนี้ ผู้เล่นนับล้านปรากฏตัวขึ้นบนอากาศเนื่องจากพวกเขาถูกเคลื่อนย้ายมาที่รอบนอกของนอร์ทร็อค พวกเขาพุ่งเข้าไปที่พื้นที่ส่วนในของนอร์ทร็อค
การปะทะกับกลุ่มของผู้เล่นที่บ้าคลั่งนั้นทำให้หัวใจของราชาผีหินแทบหยุดเต้น เขารีบห้ามเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี
“ช้าก่อน ปล่อยให้พวกคนเถื่อนไป เดี๋ยวพวกมันก็ไป”
มันเป็นดั่งที่ราชาผีหินบอก หลังจากที่ผู้เล่นล้อมพื้นที่และบ้าคลั่งอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาก็หัวเราะและถอนทัพกลับไป
“ท่านลอร์ด พวกกองทัพใหม่นี้มันเป็นเผ่าอะไร แล้วทำไมพวกเราถึงไม่เคยเห็นมันมาก่อน?” ผู้บัญชาการซอมบี้เหล็กได้แต่ถามด้วยความสงสัย
แม้กระทั่งในสายตาของราชาผีหินเองก็ยังมีความไม่แน่ใจอยู่ภายใน เขาหันกลับไปมองที่ทูตวิญญาณตู่หยาน
“เจ้าเป็นคนแรกที่ติดต่อกับพวกมัน เจ้ารู้ต้นกำเนิดของมันไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตู่หยานตอบด้วยความเคารพ
“ท่านลอร์ด กองกำลังนี้ปรากฏขึ้นที่คฤหาสน์แห่งความตายอย่างลึกลับหลังจากการตายของราชาแห่งเป่ยฉี ข้าไม่รู้ถึงต้นกำเนิดของพวกเขา”
ราชาผีหินสับสนมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่ตู่หยานบอก
ราชาแห่งภูตอย่างพวกเขาจะไม่รู้ล่วงหน้าได้อย่างไร หากว่ามีกองกำลังขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นในเป่ยฉี?
ดินแดนแห่งเป่ยฉีนั้นเข้ามาได้เพียงแค่สี่ทางเท่านั้น: นอร์ทร็อคที่เขาอยู่, หลิวลี่ทิศตะวันออก, บาเลนกราสแลนด์ทิศตะวันตก, และอาร์คติกอบีสทิศใต้
อย่างแรกเลย อาร์คติกอบีสนั้น มนุษย์ไม่สามารถผ่านพื้นที่นั้นได้เลย พวกเขาจะต้องสังเกตถึงการรุกรานของสิ่งมีชีวิตได้จากนอร์ทร็อค ทางนอร์ทร็อคเองก็เช่นกัน
ต่อไปคือหลิวลี่ มันเป็นพื้นที่ที่ชานาประจำการอยู่ ถ้าพวกเขาจะต้องมาทางทะเลตะวันออก พวกเขาก็ต้องเจอกับชานา พวกเขาจะครอบครองคฤหาสน์แห่งความตายก่อนที่จะสังหารชานาได้อย่างไร?
ถ้าเป็นเช่นนั้น กองกำลังนี้ก็อาจจะมาจากทางบาเลนกราสแลนด์
แต่ถึงอย่างไร ราชาผีหินก็ยังสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
จากที่เขาพูดถึงสิ่งมีชีวิตพวกนั้นอยู่หลายครั้ง เขาพบว่าความสามารถที่พวกเขานั้นเชี่ยวชาญมันมาจากเป่ยฉี
รูนวอริเออร์, นักธนูล่าตะวัน, อาณาจักรนารากะแห่งตระกูลต้องสาปและอีกหลายอย่างที่เป็นความสามารถที่อยู่ในเป่ยฉี สมมติว่าสิ่งมีชีวิตพวกนั้นมาจากโลกภายนอกมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้
เขาคิดอยู่สักพักและสีหน้าของราชาผีหินก็ซีดลง
“ตู่หยาน เจ้าจำตอนที่ราชาแห่งเป่ยฉีพูดได้ไหม ว่าเขานั้นจะต้องครอบครองอันเดอร์เวิลด์ให้ได้สักวันหนึ่ง?”
เมื่อได้ยิน ตู่หยานก็พูดว่า “ราชาผีหิน ข้าจำได้ว่าราชาแห่งเป่ยฉีพูดมันเอาไว้”
“ถ้างั้น เจ้าจำได้ไหมว่าราชาแห่งเป่ยฉีจะรวบรวมกองทัพเป่ยฉีที่มีเหล่าวิญญาณของบรรพบุรุษที่มีระดับแม่ทัพภูตขึ้นไป และดวงวิญญาณของศัตรูที่พวกเขาสังหารในปราสาทวิญญาณกล้าหาญเพื่อการเคารพบูชา”
“ข้าจำได้ ราชาแห่งเป่ยฉีบอกว่า จุดประสงค์คือการทำให้รุ่นใหม่จดจำนักรบผู้ก่อตั้งนี้ได้”
ในตอนนี้ สีหน้าของราชาผีหินเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้น
เขานึกถึงสิ่งที่สำคัญ
ดูเหมือนว่าความสามารถของเหล่าผู้เล่นนั้นจะเกี่ยวข้องกับนักรบที่เสียชีวิตไปแล้วและอยู่ในปราสาทวิญญาณกล้าหาญ
ขณะที่ราชาผีหินคิดถึงมัน เขาก็คาดเดาเอาไว้
กองกำลังใหม่แห่งเป่ยฉีนี้นั้นมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องกับราชาแห่งเป่ยฉีองค์ล่าสุด มันอาจจะเป็นกองกำลังลับที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะทำความฝันของเขาให้สำเร็จ คือการครอบครองอันเดอร์เวิลด์
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ก็มีอีกความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวขอราชาผีหิน
ถ้าพลังนี้เป็นอาวุธลับของราชาแห่งเป่ยฉี เขาจะสามารถควบคุมมันได้ไหม หรือเขาใช้วิธีใดในการควบคุมพวกมัน?
เขาไม่เชื่อว่าราชาแห่งเป่ยฉีนั้นจะฝึกฝนกองกำลังที่อยู่เหนือการควบคุม มันจะต้องมีวิธีที่ทำให้อาวุธลับพวกนี้ไม่สามารถทรยศเขาได้