เมอร์ฟี่กับโพเมโล่น้อยลุกลนอย่างเห็นได้ชัดขณะที่เขาดูเด็กๆเผ่าหิมะน้ำแข็งโจมตีใส่กันอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าวัฒนธรรมดาของคนที่นี่จะเถื่อนหน่อยๆนะ” เมอร์ฟี่พูดด้วยความตะลึง
โพเมโล่น้อยพยักหน้าแบบลอยๆ เห็นด้วยกับคำพูดของเขา
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่พวกเขาพบกับเผ่าหิมะน้ำแข็ง พวกเขาก็ไม่คิดที่จะกลับไปมือเปล่า พวกเขาทนรอให้สังเวียนหมัดจบลง แล้วพวกเขาจะได้ถามเกี่ยวกับตระกูลต้องสาปและจะได้รู้ว่าพวกเขามีข้อมูลอะไรไหม
การต่อสู้นั้นยาวถึงครึ่งชั่วโมงพอดี ถ้าไม่ใช่เพราะยาฟื้นฟูของพวกเขา ทั้งสองคนก็คงจะแข็งตายไปแล้ว
หลังจากต่อสู้เสร็จ กลุ่มเด็กหนุ่มก็ปรากฎตัวต่อหน้าพวกเขาอีกครั้ง
“คนต่างถิ่น ข้าจะพาเจ้าไปหาท่านผู้อาวุโสน้ำแข็ง ตามพวกเรามา” เด็กตัวสูงพูดออกมา ท่าทางเหมือนเป็นผู้นำ
“ปั้ก!”
ทันใดนั้นเสียงเตะก็ดังขึ้น เด็กตัวสูงคนนั้นล้มลงไปกองอยู่บนพื้น
“ข้าคิดว่าเราควรจะพาพวกเขาไปพบผู้อาวุโสหิมะแทน…”
ก่อนคนที่โจมตีจะพูดจบ เขาก็ถูกจับกดลงไปบนพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะทันที เด็กชายคนอีกคนที่ปล่อยหมัดที่รุนแรงใส่เข้าไปที่หน้าและตะโกนออกมา…
“ผู้อาวุโสน้ำแข็ง! ผู้อาวุโสน้ำแข็ง!”
เด็กอีกคนที่อยู่ด้านหลังก็จับเข้าไปที่หัวของเด็กคนที่ต่อยและขยี้กะโหลก เขาจะโกน…
“ผู้อาวุโสหิมะ! ผู้อาวุโสหิมะ!”
ทั้งเมอร์ฟี่และโพเมโล่น้อย ทั้งคู่เหวอ พูดอะไรไม่ออก
อีกครั้ง การต่อสู้เสียงดังก็เกิดขึ้น
ภาพของพวกเขาที่ชกต่อยกันอย่างไม่จบสิ้นจากคำพูดที่เถียงกันไปมาทำให้เมอร์ฟี่กับโพเมโล่นั้นประหลาดใจมาก
แม้ว่าเด็กหนุ่มจากเผ่าหิมะน้ำแข็งนั้นจะไม่ได้ใช้ความสามารถแห่งธาตุ แต่ความแข็งแกร่งของหมัดของพวกเขาก็ทรงพลังจนน่ากลัว เสียงปะทะดังก้อนสะท้อนไปในอากาศในขณะที่เขาชกเข้าไปที่อีกฝ่ายด้วยกำลังที่เหมือนปิศาจ พวกเขาดูไม่เหมือนว่าเล่นกันเลย การต่อสู้มันดุดันมาก
การต่อสู้ดำเนินต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง เมื่อพวกเขารู้สึกว่าพอแล้ว พวกเขาก็หยุดการโจมตีกันและมาที่ด้านหน้าของเมอร์ฟี่และโพเมโล่อีกครั้ง
แต่เมอร์ฟี่ก็รีบแสดงความคิดเห็นก่อนที่พวกเขาจะอ้าปาก
“สหาย พวกเราจะไปเจอผู้อาวุโสน้ำแข็งก่อน จากนั้นเราจะไปพบกับผู้อาวุโสหิมะ ตกลงไหม?”
เมอร์ฟี่ชิ่งนำไปก่อน ไม่อย่างนั้น เด็กหนุ่มจากเผ่าหิมะน้ำแข็งจะต้องสู้กันอีกแน่นอน
“ตกลง” เด็กหนุ่มตอบ แต่ก็ดูผิดหวัง
พวกเขาเดินตามกลุ่มเด็กหนุ่มลึกเข้าไปในอาร์คติกอบีส
ด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์องศาที่ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเข้าสู่หุบเหวที่เย็นยะเยือก เมื่อพวกเขาเริ่มเห็นปราสาทหิมะน้ำแข็งลางๆที่อยู่ไม่ไกล พวกเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ
พวกเขาใช้น้ำยาฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาพลังชีวิตจากการเดินทางที่แสนอันตราย ไม่อย่างนั้นพลังชีวิตของพวกเขาจะต้องลดลงด้วยความเร็วและพวกเขาจะต้องตายในเวลาไม่เกินหนึ่งนาทีจากอากาศที่หนาวเย็น
เมื่อพวกเขามาถึงปราตูหน้าของปราสาทหิมะน้ำแข็ง ผู้นำก็ชูมือขึ้นและทำท่าทาง ทันใดนั้นประตูก็ค่อยๆจางหายไป ลมพัดเข้าใส่อย่างแรงเหมือนกับกระแสน้ำเชี่ยว จากนั้นด้านหน้าของปราสาทหิมะน้ำแข็งก็ถูกฉีกออกเหมือนกับภาพวาด ก่อนที่ภาพที่แท้จริงจะแสดงขึ้นมาหลังภาพลวงตา มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่บนปราการน้ำแข็งที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยก้อนน้ำแข็ง
พวกเขาทั้งสองตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏขึ้นมาให้พวกเขาได้เห็น พวกเขาตาโตและอ้าปากค้าง ปราสาทที่ดูอลังการนั้นเป็นแค่ภาพลวงตา ขณะที่หมู่บ้านเล็กๆนี้เป็นฐานที่แท้จริง มันเป็นภูมิประเทศที่มีแต่น้ำแข็งและไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆเลย จริงๆแล้วพวกเขาซ่อนตัวจากอะไร?
กลุ่มเด็กหนุ่มรีบพาพวกเขาเข้าไปในกระท่อม เมื่อพวกเขาไปถึง หัวหน้าก็ยกขาขึ้นมาเตะประตูอย่างแรงและตะโกน “ผู้อาวุโสน้ำแข็ง อยู่ไหม?”
“ฟุ่บ!”
สะเก็ดน้ำแข็งลอยขึ้นบนอากาศขณะที่ประตูน้ำแข็งแตกกระจายจากการเตะที่รุนแรงของเขา
ด้วยเสียงเอะอะ ชายแก่สองคนที่มีผมยาวสีขาวในบ้านก็หันไปจ้องที่ทางเข้า
“เอ๋? ผู้อาวุโสหิมะ ท่านก็อยู่นี่เหรอ ข้าตั้งใจว่าจะไปถีบประตูของบ้านท่านในการเยี่ยมเยียนทีหลัง” ผู้นำพูดออกมาอย่างจริงใจขณะที่ยืนเกาหัวด้วยความผิดหวัง
ชายแก่ผมขาวที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโสหิมะตอบแบบเรียบง่ายด้วยเสียงหัวเราะ ก่อนที่จะมองหน้ากันกับผู้อาวุโสน้ำแข็ง และถามออกมาว่า “ข้าควรจะลงโทษเขาไหม?”
“ได้!”
ทันใดนั้น ผู้อาวุโสหิมะก็ลอยขึ้นและลากผู้นำออกไป เขาโจมตีใส่ใบหน้าของเด็กหนุ่มทุกตารางนิ้วจนกระทั้งเขาคร่ำครวญและขอความเมตตา
หลังจากการทุบทีอย่างทารุณ เขาก็โยนเด็กหนุ่มคนนั้นออกไปนอกบ้าน เขาบาดเจ็บสาหัสและแทบจะเอาชีวิตไม่รอดขณะที่นอนราบไปกับพื้นที่เย็นเฉียบ
เมื่อเด็กคนอื่นๆเห็น พวกเขาก็เริ่มกลัวและก้าวถอยหลังออกไปทันที
“คนต่างถิ่น? พวกเจ้าเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?” ผู้อาวุโสน้ำแข็งจ้องไปที่เมอร์ฟี่และพาเมโล่น้อยด้วยสายตาที่ดุดัน
เนื่องจากพวกเขาได้เห็นความโหดร้ายของผู้อาวุโสน้ำแข็ง ทั้งสองคนรีบชี้ไปที่กลุ่มเด็กหนุ่มที่พาเขามา
“ข้าจะทุบตีพวกเจ้าจนตาย นี่พวกเจ้าไม่มีสมองกันรึไง!? พวกเจ้าพาคนต่างถิ่นเข้ามาทำไม?” ผู้อาวุโสน้ำแข็งโมโห เขายื่นมือออกมาเพื่อสร้างคทาน้ำแข็ง
เมื่อเด็กหนุ่มเห็นว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น พวกเขาก็หันหลังกลับและวิ่งหนีขณะที่ผู้อาวุโสน้ำแข็งไล่ตามหลังพวกเขา กวัดแกว่งคทาและด่าว่าไม่อย่างต่อเนื่อง
“ผู้อาวุโสน้ำแข็ง พวกเขาเป็นพวกพ้อง ไม่ใช่คนต่างถิ่น นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาบอกกับเรา” เด็กหนุ่มจากเผ่าหิมะน้ำแข็งตะโกนตอบขณะที่หลบการโจมตีของชายแก่
“เจ้าเชื่อทุกอย่างที่พวกนั้นพูด? ไอ้โง่ มองไม่ออกหรือไงว่าพวกเขาต่างจากพวกเรา?” ผู้อาวุโสน้ำแข็งตวัดคทารุนแรงขึ้น เอือมระอากับคำแก้ตัวของพวกเขา
ไม่นาน เด็กทุกคนก็นอนอยู่บนพื้น บาดเจ็บสาหัสจากการทุบทีอย่างทารุณของชายแก่ ชายแก่หยุดและหันกลับมาที่เมอร์ฟี่และโพเมโล่น้อย
ทั้งสองคนกลัวมากและทำได้แค่เดินถอยหลัง
“คนต่างถิ่น ที่นี่เป็นดินแดนต้องห้ามของเผ่าหิมะน้ำแข็ง แต่ในเมื่อพวกเจ้าถูกเด็กพวกนี้พามา ข้าจะปล่อยให้มันผ่านไป ข้าจะไม่ลงโทษพวกเจ้าในเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเจ้าจงรีบออกไป!”
ด้วยความรู้สึกกลัว เมอร์ฟี่กัดฟันพูดออกไป “ผู้อาวุโสน้ำแข็ง พวกเรามาเพื่อพบท่าน”
“ข้า? ทำไม?. ผู้อาวุโสน้ำแข็งประหลาดใจ
“จริงๆแล้วพวกเรากำลังตามหากลุ่มผู้คนจากตระกูลต้องสาปที่หนีมาที่อาร์กติกอบีสหลายปีที่แล้ว ท่านพอจะรู้ไหมว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน?”
“ตระกูลต้องสาป? ฮืมม ดูเหมือนข้าจะพอนึกออกอยู่” ผู้อาวุโสน้ำแข็งลูบเคราก่อนที่จะหลับตาลงและเข้าฌาน
“โอ้! ข้าจำได้แล้ว ข้าคิดว่าพวกเขาอยู่ที่นี่!” รอยยิ้มที่ดูพอใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของผู้อาวุโสน้ำแข็ง
เมอร์ฟี่กับโพเมโล่น้อยดูดีใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาเช่นกัน
“ในเมื่อเจ้าได้เข้ามาที่นี่ ข้าจะพาพวกเจ้าไปที่ที่หนึ่ง ตามข้ามา”
เมอร์ฟี่และโพเมโล่น้อยรู้สึกขอบคุณเมื่อพวกเขาพบว่าผู้อาวุโสน้ำแข็งนั้นมีเหตุผล แม้ว่าผู้คนที่นี่จะดูแข็งกร้าวและรุนแรง แต่พวกเขาก็ดูเป็นมิตร
พวกเขาตามผู้อาวุโสน้ำแข็งไปที่ด้านหลังของหมู่บ้าน
เมื่อพวกเขามาถึงหน้าผาที่สุดขอบของหมู่บ้าน ผู้อาวุโสหิมะก็ชี้ไปที่รูปปั้นน้ำแข็งที่อยู่ตรงขอบผา
“น่าจะเป็นพวกเขา”
เมอร์ฟี่และโพเมโล่น้อยเงยหน้าขึ้นไปมอง พวกเขารู้ว่ารูปปั้นน้ำแข็งแต่ละอันนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่ถูกขังเอาไว้ข้างใน เมื่อสิ่งประดิษฐ์ตรวจสอบรูปปั้นน้ำแข็งที่ผู้อาวุโสหิมะชี้อยู่นั้น ข้อมูลก็ปรากฏขึ้นมา:
[โจ้วเชิ่ง (ผู้อาวุโสตระกูลต้องสาป)]:
สาเหตุการตาย: บุกรุกพื้นที่ต้องห้ามของเผ่าหิมะน้ำแข็ง พวกเขาจึงถูกขังเอาไว้ที่ผาหิมะน้ำแข็งตลอดกาล
[โจ้วกาน (ผู้อาวุโสตระกูลต้องสาป)]:
สาเหตุการตาย: บุกรุกพื้นที่ต้องห้ามของเผ่าหิมะน้ำแข็ง พวกเขาจึงถูกขังเอาไว้ที่ผาหิมะน้ำแข็งตลอดกาล
[โจ้วจิน (ผู้อาวุโสตระกูลต้องสาป)]:
สาเหตุการตาย: บุกรุกพื้นที่ต้องห้ามของเผ่าหิมะน้ำแข็ง พวกเขาจึงถูกขังเอาไว้ที่ผาหิมะน้ำแข็งตลอดกาล
…
พวกเขาตัวแข็งทื่อกับความช็อกเพื่อได้เห็นสาเหตุการตายที่ปรากฏขึ้นมา พวกเขาคิดว่าเผ่าหิมะน้ำแข็งนั้นเป็นมิตร
อย่างไรก็ตาม พวกเขารู้สึกถึงความเศร้าใจเมื่อได้รู้ว่าทุกคนจากตระกูลต้องสาปนั้นได้ตายไปหมดแล้ว แล้วการสังเวยปัญญาล่ะ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปที่อาณาจักรนารากะ?
ความเศร้าและสิ้นหวังครอบงำทั้งสองคน พวกเขาเข่าอ่อน
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากด้านบน “ตาแก่ปิง ตาแก่สือ ใครอนุญาตให้เจ้าพาคนต่างถิ่นเข้ามาที่นี่?”
ผู้อาวุโสทั้งสองคนแสดงท่าทีหม่นหมองลงในทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงที่น่ากลัวนั้น
“บอส ฟังคำอธิบายของพวกเราก่อน นี่มันไม่เกี่ยวกับเรา!”
“ข้าไม่ฟัง ข้าไม่สน”
ร่างเงาสีขาวกระโดดจากจุดสูงสุดของหน้าผาและลงมาที่หน้าของพวกเขาทันที ในชั่วพริบตาร่างเงานั้นก็ดึงผู้อาวุโสทั้งสองไปฝ่ามือก่อนที่จะกับกะโหลกของพวกเขากระแทกลงกับพื้นน้ำแข็ง
“ถ้าอย่างนั้นมันเป็นความผิดของข้าที่พวกเจ้าให้คนต่างถิ่นเข้ามา ทำอะไรโง่ๆ และไม่สนใจกฎ? กฏที่ข้าตั้งขึ้นมาในฐานะหัวหน้าเผ่านั้นมันยากที่จะทำตามใช่ไหม?”
เมอร์ฟี่กับโพเมโล่น้อยอ้าปากเหวอขณะที่มองดูชายแก่ทั้งสองที่ดูเหมือนจะมีพลังที่แข็งแกร่ง ถูกบดขยี้อยู่เบื้องหน้าเขา
นั่นมันเป็นภาพที่โหดร้ายทารุณ!