หลังจากที่โจมตีใส่เมอร์ฟี่และพาเมโล่น้อยแล้ว อ้าวเจียนก็ไม่ปล่อยโอกาสให้พวกเขาได้เตรียมแผนรับมือ เขาเริ่มใช้วิชาดาบเพื่อที่จะโจมตีระยะไกล
นั่นก็เพราะเขารู้ดีว่าถ้าเขาปล่อยให้สองคนนั้นเข้ามาใกล้เขาได้อีกครั้ง มันเป็นไปได้สูงว่าเขาจะถูกโจมตีด้วยเทคนิคแฟมธ่อมของพวกเขาเพราะเขาไม่มีพลังชีวิตมากพอที่จะรับดาเมจได้อีก
ในเวลานี้ อ้าวเจียนรู้สึกได้ทันทีว่าภาพที่เขาเห็นนั้นมืดลงอย่างรวดเร็ว เขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง การได้ยิน กลิ่นและการมองเห็นถูกปิดกั้นลงในทันที
เงาทั้งสองเริ่มเข้าโจมตีในความมืดด้วยความรวดเร็ว
สองคนที่พุ่งเข้ามานั้นปรากฏตัวขึ้นทันที ในขณะที่ผู้ชมนั้นคิดว่าการต่อสู้กำลังจะจบลง เสียงของเหล็กกระทบกันก็ดังขึ้นมา เมอร์ฟี่และโพเมโล่น้อยที่อยู่ใกล้ๆเขาถูกปะทะออกมาอีกครั้ง
“เจ้าสัมผัสถึงพวกเราได้ยังไง!” เมอร์ฟี่พูดด้วยความตะลึงขณะที่มองไปที่อ้าวเจียนที่หลับตาสนิท
อ้าวเจียนไม่ตอบอะไรเนื่องจากการรับรู้ของเขานั้นถูกปิดกั้นอยู่ เขาไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น แต่มือทั้งสองข้างของเขาก็เคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลไปในอากาศ ดาบแห่งวิญญาณทั้งเก้าวางตำแหน่งให้เขาเป็นจุดศูนย์กลางและเคลื่อนไหวไปรอบๆเหมือนกับเป็นผู้คุ้มกัน
แทบไม่น่าเชื่อ ทั้งสองคนเคลื่อนไหวด้วยความเร็วพุ่งเข้าใส่อ้าวเจียนอีกครั้ง
“ติ๊ง! ติ๊ง!”
เสียงใสๆดังขึ้น ดาบวิญญาณสีขาวและดำนั้นลอยอยู่ที่ด้านซ้ายและขวา เขาป้องกันการโจมตีที่ฉับพลันได้อีกครั้ง
ผู้ชมที่อยู่นอกสนามโห่ร้องออกมาเมื่อได้เห็นฉากที่แปลกประหลาดนี้ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังที่อ้าวเจียนนั้นทำแบบนี้ได้นั้นมันอยู่เหนือความเข้าใจของพวกเขา
การต่อสู้ดำเนินต่อไป แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเจาะทะลวงกระบวนดาบแห่งการป้องกันได้ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามโจมตียังไง ทำให้พวกเขานั้นกระวนกระวายใจมาก
การที่ได้เจอกับเทคนิคการป้องกันที่เจาะทะลวงไม่ได้นั้น ทั้งสองคนหยุดการโจมตี และสถานะความมืดมิดก็ได้หมดลงในเวลาต่อมา
อ้าวเจียนค่อยๆลืมตาขึ้นและจ้องไปที่เมอร์ฟี่และโพเมโล่น้อย ประกายความตื่นเต้นปรากฏขึ้นในตาของเขา
“มันได้ผลตามที่คาด!”
“เจ้าทำมันได้ยังไง?” เมอร์ฟี่ประหลาดใจ
อ้าวเจียนยิ้มเมื่อได้ยิน
“หลังจากที่ได้ดูวิดิโอที่เจ้าโพสต์แล้ว ข้าก็ได้คิดค้นและฝึกฝนวิธีที่จะแก้ทางความสามารถนี้ อย่างที่เห็นมันแก้ทางได้อย่างสมบูรณ์ในขณะที่สัมผัสทั้งห้านั้นถูกปิดกั้น ข้ามีไอเดียและก็ได้ไปหาคนๆหนึ่ง เขาบอกกับข้าว่าหัวใจแห่งดาบสามารถแก้ทางได้ และนี่ก็เป็นผลลัพธ์จากการค้นคว้าของข้า เขตแดนของหัวใจแห่งดาบที่ไม่ต้องการสัมผัสทั้งห้าในการป้องกัน แต่ข้าเองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะได้ผลดีเช่นนี้!”
คนที่อ้าวเจียนไปพบในครั้งนี้ก็คือหวู่ฉิง นักดาบที่เขาอยากกะเอาชนะให้ได้ในชีวิตนี้
เดิมที หวู่ฉิงปฏิเสธการท้าทายในครั้งนี้
ในความคิดของเขา อ้าวเจียนนั้นเริ่มหลงไหลและถ้าเขายังหมกมุ่นอยู่กับมันต่อไป มันจะเป็นการทำร้ายตัวเขาเอง แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นที่เขาจะทำได้ต่อความก้าวร้าวของอ้าวเจียน เขาจึงยอมตกลงในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้หวู่ฉิงก็ต้องตกตะลึงในทักษาแห่งดาบที่อ้าวเจียนแสดงออกมา มันยอดเยี่ยมกว่าผู้ชำนาญดาบธรรมดาๆมาก
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือเขานั้นถูกอ้าวเจียนทะลวงการป้องกันด้วยวิชาดาบของอ้าวเจียน เขาคงจะถูกสังหารไปแล้วถ้าอ้าวเจียนไม่หยุดการโจมตี
แต่ถึงอย่างนั้น อ้าวเจียนก็เลือกที่จะปล่อยเขาไป เขาพูดว่าเขาได้ไล่ตามผู้ที่มีฝีมือสูงกว่าทันแล้ว และมันก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องสังหารหวู่ฉิง
หวู่ฉิงนั้นเต็มไปด้วยความสงสัยว่าเพราะเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอ้าวเจียนในช่วงเวลานั้น เขาไม่มีความโกรธหรือเกลียดใดๆหลงเหลืออยู่เลย ที่เขามีก็เพียงแต่ความมั่นใจและความมุ่งมั่นเท่านั้น
อ้าวเจียนนั้นคิดไว้ก่อนแล้วว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปนั้นเป็นใคร เขาจึงถามหวู่ฉิงถึงเรื่องนี้ว่าเราจะต่อสู้ได้อย่างไรหากสัมผัสทั้งห้าของเราถูกปิดกั้น?
แม้ว่ามันจะทำให้หวู่ฉิงต้องสับสน แต่เขาก็ได้มอบคำตอบให้กับอ้าวเจียน นั่นก็คือหัวใจแห่งดาบ
อ้าวเจียนได้รู้ว่าเขตแดนหัวใจแห่งดาบนั้นแบ่งเป็นการโจมตีและการป้องกันตามคำพูดของหวู่ฉิง ตอนนี้เขาได้เชี่ยวชาญในด้านการป้องกันแล้ว ดังนั้นขั้นต่อไป เขาจะต้องฝึกฝนการโจมตี!
สายลมแห่งความตื่นเต้นได้พัดเข้าใส่อ้าวเจียน ในเมื่อเขาสามารถฝึกฝนการป้องกันของเขตแดนหัวใจแห่งดาบได้ ถ้าอย่างนั้นการโจมตีก็สามารถทำได้เช่นกัน
ตราบใดที่เขาเข้าใจในการโจมตีของเขตแดนหัวใจแห่งดาบ ทุกๆอย่างที่ไม่ใช่เคนโด้ก็จะเปลี่ยนเป็นเป้าหมายของดาบวิญญาณ ข้าจะต้องลองพยายามต่อสู้กับมันเพื่อแก้ทางการปิดกั้นสัมผัส
“พวกเราไม่สามารถทะลวงการป้องกันของเจ้าได้” เมอร์ฟี่พูดออกมาขณะที่วางมีดของเขาลง
“ข้าก็ไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้เช่นกัน!” อ้าวเจียนได้สติกลับมาและก็โบกมือ ดาบวิญญาณทั้งเก้ากลับมาเรียงกันอยู่ด้านหลังเขาในทันที
“ถ้าอย่างนั้น การท้าทายในครั้งนี้ก็ล้มเหลว!” เขาพยักหน้า เมอร์ฟี่หันกลับไปและคว้ามือของโพเมโล่น้อยก่อนที่จะจากไปพร้อมกัน
“ข้าจะมาหาเจ้าอีก มาสู้กันใหม่คราวหน้า!” อ้าวเจียนพูดขึ้นทันที
“ไม่ต้องมา พวกเขาไม่ชอบการต่อสู้!” โพเมโล่น้อยหันกลับมาและทำหน้าตลกใส่อ้าวเจียน
อ้าวเจียนไม่ได้ตอบอะไรแต่เขารู้ดีว่าเขาจะต้องกลับมาท้าดวลพวกเขาอีกแน่นอน
มันเป็นจุดประสงค์ขั้นสูงสุดของเคนโด้ และคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังจะช่วยให้เขาขัดเกลาหัวใจแห่งดาบของเขาได้
เมื่อการต่อสู้จบลง ผู้เล่นด้านนอกต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขาไม่คิดว่ามันจะจบลงด้วยการเสมอ
ขณะเดียวกัน ในฟอรั่มก็ลุกโชน พวกเขาวิเคราะห์เทคนิคต่างๆในการต่อสู้ครั้งนี้อีกครั้ง ผู้เล่นระดับโปรหลายคนได้เปิดโพสต์การวิเคราะห์ขึ้นมาเพื่อที่จะให้ผู้เล่นอื่นๆได้ศึกษาการต่อสู้
“เมอร์ฟี่ เหรียญวิญญาณ 1000 เหรียญมันลอยไปแล้ว เศร้าจริงๆ!” โพเมโล่น้อยบ่นพึมพำ ดูท่าทางซึม
“เขาแข็งแกร่งมากจริงๆ แต่พวกเขาจะเอาชนะเขาได้แน่ในอนาคต…”
ก่อนที่เมอร์ฟี่จะพูดจบ ประกาศเกมก็ปรากฏขึ้นในทันที
[ประกาศ: ผู้เล่น ชี่หมิง ได้เพิ่มท่านเป็นเพื่อน]
เมอร์ฟี่คิดว่าผู้เล่นคนนี้เป็นคนที่อยากจะให้รางวัล เขาจึงตอบตกลงในทันที
เสียงดังขึ้นมาจากช่องแชทหลังจากนั้นเพียงไม่นาน
ชี่หมิง: “สวัสดี นายคือคู่แฝดแห่งเงาใช่ไหม?”
เมอร์ฟี่: “ใช่แล้ว นายอยากจะฆ่าใครล่ะ? เสนอราคามาเลย?”
ชี่หมิง: “ไม่ไม่ไม่ ฉันอยากจะถามถึงเรื่องสถานที่ที่นายได้รับสืบทอดมาน่ะ แน่นอน ฉันถามเฉยๆน่ะ ไม่เป็นไรนะถ้านายไม่อยากบอก”
เมอร์ฟี่: “ฉันเองก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บเป็นความลับ มันคืออาร์กติคอบีส อยู่ทางใต้ของเป่ยฉี ถ้าอยากไปที่นั่น จำไว้ด้วยว่าต้องซื้อโพชั่นไปเยอะๆนะ เพราะมันหนาวมาก อีกอย่าง ที่นั่นมีบอสใหญ่ที่อยู่ระดับจักรพรรดิภูตอยู่ด้วย ฉะนั้นอย่าไปวุ่นวายกับเขาล่ะ”
ชี่หมิง: “ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ!”
เมอร์ฟี่พยักหน้าก๋ที่จะปิดแชทลง
“ติ๊ง!”
หลังจากการพูดคุยจบลง ก็มีอีเมลปรากฏขึ้นด้านหน้าของเมอร์ฟี่
เมอร์ฟี่ตะลึงหลังจากที่ได้เปิดอีเมลนั้นดู มันมีเหรียญวิญญาณแนบมากับอีเมลจำนวน 288 เหรียญ พร้อมกับข้อความ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในเรื่องการสืบทอดนะ มันเป็นน้ำใจที่ยิ่งใหญ่มาก และเหรียญวิญญาณพวกนี้เป็นสิ่งตอบแทบแสดงความนับถือจากฉันนะ!