หลังจากเซิร์ฟเวอร์ยุโรปเข้าสู่ขั้นตอนการพร้อมเปิด ลู่หวู่ก็สร้างเค้าโครงใหม่ในฟอรัม
ผู้เล่นตกตะลึงเมื่อพวกเขาเข้าสู่ฟอรัมและสังเกตเห็นว่าสามารถเปลี่ยนเค้าโครงของฟอรัมได้ตอนนี้ โดยปุ่มเพิ่มจะเป็นคำ ‘ยุโรป’ ถูกเพิ่มไว้ด้านบนของหน้าเว็บ
ผู้เล่นจำนวนมากจากเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่รีบพากันเข้าไป
เครยอน_ชินจัง “เฮ้ ฉันเป็นคนแรกที่โพสต์บนเซิร์ฟเวอร์ยุโรป จากนี้ไปฉันจะเป็นผู้ปกครองที่นี่ (อิโมจิหัวเราะ)”
ซู่วหลี่_เดาะ_สตร๊องเกรท “ทุกคนดูที่นี่ นี่คือดินแดนที่เราจะบุกไปในอนาคต มาทำความรู้จักและความคุ้นเคยกับมันเร็ว (อิโมจิหัวเราะ)”
อินวิสิเบอร์_โลนไลเนส “ไม่รู้ว่าจะได้อยู่ในเป่ยฉีหรือปล่าว แต่ฉันรอไม่ไหวแล้ว แม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในเป่ยฉี ตราบใดที่มันอยู่ในโลกเดียวกัน เราต้องเข้าไปในที่แห่งนั้น (อิโมจิหัวเราะ)”
เปปป้า_บอร์ “ไปเลเวลกันเถอะและฆ่าพวกมันในขณะที่มันใหม่ เร็ว”
วอเตอร์เลม่อน_ทาโร่ “ฉันหวังว่ามันจะอยู่ในเป่ยฉีเพื่อที่ผู้เล่นระดับล่างเช่นฉันจะได้รับโอกาสแสดงทักษะของฉัน จากนั้นฉันก็ตะโกนออกมาอย่างมั่นใจ ‘ฉันต้องการต่อสู้กับพวกคุณสิบคนพร้อมกัน’ (อิโมจิมีความคาดหวัง)”
…
เป่ยลี่กำลังพัฒนาการตั้งค่าการแปลขณะที่ผู้เล่นพูดคุยเรื่องนี้ในฟอรัม
ท้ายที่สุดดินแดนแห่งชางสือและเป่ยฉีปัจจุบันแยกจากกันโดยแค่นอร์ทร็อคเท่านั้น เมื่อราชาผีหินพ่ายแพ้ ต้องมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสองโดเมนขนาดใหญ่อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นสำหรับซอฟต์แวร์การแปลแบบเรียลไทม์เนื่องจากอุปสรรคด้านภาษา
เป่ยลี่ไม่เพียงตั้งค่าคุณสมบัติการแปลแบบเรียลไทม์ในเกม แต่ในฟอรัมด้วยเช่นกัน
นี่คือเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อพวกเขาอยู่ในฟอรัมของยุโรป ผู้เล่นจากเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่จะสามารถเข้าใจได้ สำหรับผู้เล่นเซิร์ฟเวอร์ยุโรป พวกเขาจะอ่านภาษาของตนเองเมื่ออยู่ในฟอรัมท้องถิ่น
การโต้ตอบที่ไม่มีสิ่งกีดขวางทางภาษาจะช่วยเพิ่มการพัฒนาโดยรวมของผู้เล่น ดังนั้นลู่หวู่จึงพิถีพิถันในเรื่องนี้มาก
สำหรับประเด็นเรื่องความไม่ลงรอยกันระหว่างผู้เล่นของประเทศต่างๆ ลู่หวู่ก็ไม่เห็นว่ามีสิ่งใดผิดปกติ ท้ายที่สุดจะมีความขัดแย้งไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามที่มีคน การแข่งขันระหว่างผู้เล่นก็เป็นสิ่งกระตุ้นให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น
…
เมื่อเป่ยลี่ยุ่งกับเรื่องนี้ ชางสือเด็กจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ขยับเมาส์อย่างงุ่มง่ามและดูดซับความรู้สมัยใหม่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
“นายไม่เคยพยายามที่จะเข้าใจโลกของสิ่งมีชีวิตเมื่อนายวางแผนจะต่อต้านสวรรค์งั้นเหรอ?” ลู่หวู่อดไม่ได้ที่จะถามขณะที่เขามองไปที่ชางสือ
“ไม่ แม้ว่าเครื่องรางหยินจะอนุญาตให้คนเดินทางไปมาระหว่างโลกของสิ่งมีชีวิตกับอันเดิลเวิล์ด แต่มันไม่อาจใช้ได้อย่างอิสระ พวกกากเดนจากโลกอมตะจะสังเกตได้ว่าพวกเขาถูกเอาเปรียบ และพวกเขาจะใช้สนธิสัญญาสามโลกเป็นข้ออ้างที่จะรบกวนเจ้าในทุกวิถีทาง” ไฟแห่งความโกรธพุ่งเข้าหาใบหน้าของชางสือในขณะที่เขาอธิบาย
“ยังไงก็ตาม นายยังมีเครื่องรางหยินอยู่กับนายไหม?” เป่ยลี่ถามเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น มือของเธอขยับไปมากลางอากาศขณะที่เธอควบคุมสิ่งประดิษฐ์จากระยะไกล
“ไม่ แต่หากเจ้าต้องการมัน ข้าสามารถเรียกมันออกมาได้” ชางสือตอบทันที
“ฉันต้องการมันมาก”
“เอาล่ะ” ชางสือพยักหน้าและทำท่าทางมือในอากาศ จากนั้นชิ้นส่วนรูนสีดำก็ค่อยๆปรากฏขึ้นในขณะที่เขาคว้ามันไว้ในมือของเขา
เขามองไปที่เครื่องรางหยินในมือของเขาแล้วโยนมันไปที่เป่ยลี่โดยไม่ลังเลใดๆ
เป่ยลี่เอื้อมมือออกไปและรับมัน ก่อนที่จะกลับไปไม่ว่างอีกครั้ง
“นายยังมีเครื่องรางหยินอยู่กับนายได้ยังไงเมื่อนายได้ตายไปแล้ว?” ลู่หวู่ถามอย่างสงสัย
“ลอร์ดทุกอาณาจักรขนาดใหญ่จากทุกรุ่นจะได้รับเครื่องรางหยินเป็นของขวัญจากจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เครื่องรางหยินผูกพันกับวิญญาณของข้า ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถใช้มันได้ยกเว้นข้า อันนี้เป็นของข้าโดยเฉพาะ ดังนั้นโดยธรรมชาติ ข้าสามารถเรียกมันได้ทุกเมื่อที่ข้าต้องการ” การจ้องมองของชางสือไม่ได้ออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เลยแม้ในขณะที่เขาได้อธิบาย
“แล้วเธอล่ะ? ทำไมเธอต้องการเครื่องรางหยิน?” ลู่หวู่หันไปหาเป่ยลี่
“เจ้าโง่ เหตุผลที่สิ่งประดิษฐ์สามารถเข้าออกกับเป่ยฉีได้เพราะเครื่องรางหยินของนายได้หลอมรวมเข้ากับมัน อย่างไรก็ตามสถานที่เป้าหมายของเราอยู่ในชางสือ ดังนั้นเราต้องการเครื่องรางหยินของเขา แม้ว่าฉันจะสามารถเครื่องรางหยินใหม่ได้ แต่กระบวนการนั้นซับซ้อนเกินไปและฉันจะไม่สามารถทำได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ตอนนี้เรามีอันสมบูรณ์แบบอันหนึ่งแล้ว มันสามารถช่วยเราผ่านปัญหาจำนวนมากได้”
เมื่อได้ยินแล้ว ลู่หวู่พยักหน้าก่อนที่จะหันไปหาชางสืออีกครั้ง “ชางสือ พลังของนายแข็งแกร่งแค่ไหนตอนอยู่จุดสูงสุด?”
“ก็ไม่เลวนะถ้าให้ข้าเดา ข้าอยู่ในจุดสูงสุดของระดับจักรพรรดิผีกระมั้ง”
ลู่หวู่พูดไม่ออก
“นายเคยพบคนชื่อลู่หยานไหม?” ลู่หวู่เต็มไปด้วยความอยากรู้เมื่อเขานึกถึงบรรพบุรุษของเขา
“ลู่หยานเหรอ? ราชาแห่งเป่ยฉีใช่มั้ย?” ชางสือหันไปหาเขาทันที
“ใช่!”
“ข้าเคย เจ้าเด็กเวรนี้ เขาได้เข้าครอบครองเป่ยฉี เขาตาบอดด้วยความเย่อหยิ่ง เขาจู่ๆก็เข้ามาในดินแดนของข้าและท้าทายข้า โดยบอกว่าเขาต้องการปกครองอันเดิลเวิล์ด ในตอนจบ ข้าได้ทุบตีเขาและทำให้เขากลับไปด้วยความหดหู่”
ชางสือ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเขาได้นึกถึงอดีต
อย่างไรก็ตามในขณะที่ชางสือยังคงหัวเราะ เขาตระหนักว่าลู่หวู่มีการแสดงออกแปลกๆบนใบหน้า ทันใดนั้นลู่หวู่ก็กางมือของเขาออก
ชางสือไม่กล้าที่จะต่อต้านการโจมตีของลู่หวู่ แต่ทำได้เพียงก้มหัวต่ำลงไปกอดลูกกลมวิญญาณของเสี่ยนเคอด้วยความสับสน
หลังจากที่เขาล้างแค้นบรรพบุรุษของเขา ลู่หวู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขานั่งบนโต๊ะคอมพิวเตอร์และถามอีกครั้ง “แล้ว นายรู้จักราชาแห่งเป่ยฉีองค์แรกไหม?”
“ข้า…ข้าสามารถบอกได้ไหมว่าไม่รู้จักเขาได้ไหม?” ชางสือรู้สึกอ่อนเพลีย ทำไมเขาถึงถูกตีหลังจากตอบคำถาม? มีความยุติธรรมเหลืออยู่หรือไม่? ส่วนที่แย่ที่สุดคือเขามีพลังมากกว่าลู่หวู่อย่างชัดเจน แต่เขาไม่กล้าที่จะต่อต้านลู่หวู่
ชางสือรู้สึกสบายใจเมื่อเขามองเสี่ยนเคอในอ้อมแขนของเขา
“พูดมันออกมา!” ลู่หวู่จ้องมองไปที่ชางสือ
เขาเริ่มสงสัยมากขึ้นเกี่ยวกับราชาองค์แรกของเป่ยฉีในตอนนี้ แม้ว่าอดีตราชาแห่งเป่ยฉีได้หายไปนานแล้ว แต่ลู่หวู่ก็สามารถตรวจจับร่องรอยการดำรงอยู่ของเขาได้จากการทำต่างๆของผู้เล่นในเป่ยฉี
“เพื่อนเก่าคนนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ข้าสงสัยว่าเขาได้ไปถึงสถานะศักดิ์สิทธิ์แล้ว สิ่งที่เหลืออยู่สำหรับเขานั้นคือให้จักรรพดิใหญ่จุดไฟศักดิ์สิทธิ์ให้เขาและเพิ่มชื่อของเขาลงในรายชื่อพระเจ้าแห่งอันเดิลเวิล์ด”
“ทำไมถึงเป็นงั้นล่ะ? เขายังไม่ตายอีกเหรอ?” ลู่หวู่ถามด้วยความตกตะลึง
“ข้าไม่คิดว่าเขาจะตาย นอกเหนือจากเขาทำให้ตัวเองตาย ข้ารู้สึกว่าไม่มีใครในอันเดิลเวิล์ดที่สามารถควบคุมเขาได้!”
“เขามีพลังขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เขาไม่เพียงแต่ทรงพลัง เจ้ารู้ไหมว่าดินแดนแห่งเป่ยฉีนั้นน่ากลัวมากเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อน? สมาชิกของแต่ละตรกูลเป็นเหมือนพวกวิกลจริต ทุกตระกูลมีจักรพรรดิผีชั้นยอดในฐานะผู้บังคับบัญชาและพวกเขาทั้งหมดกำลังต่อสู้เพื่อเป็นราชาแห่งเป่ยฉี สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเผ่าไอซ์สโนว์ซึ่งเป็นทายาทของเทพแห่งเป่ยฉี ลองคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นสิ? ทุกตระกูลทั้งหมดล้มเหลวในการแสวงหาบัลลังก์และถูกระงับโดยเพื่อนที่ชื่อนอร์กซี เพื่อรักษาตระกูลของพวกเขา แม้แต่เหล่าตระกูลใหญ่ก็ยังจงรักภักดีต่อเขา เขาไม่น่าทึ่งงั้นเหรอ?”
“แล้วเกี่ยวกับเผ่าไอซ์สโนว์ล่ะ?” ลู่หวู่จู่ๆก็จำทั้งสองอาชีพที่เพิ่งปรากฏเมื่อเร็วๆนี้ ทั้งคู่ดูเหมือนว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าไอซ์สโนว์
“ตอนนี้หัวหน้าของเผ่าไอซ์สโนว์อยู่ในขั้นอาณาจักรจักรพรรดิผี และเขายังมีชีวิตอยู่ ทำไมเขาไม่ออกมาและต่อสู้เพื่อเป็นราชาแห่งเป่ยฉีล่ะ ตอนนี้ราชาแห่งเป่ยฉีองค์แรกหายไปไหน?”
“ข้าควรจะรู้ได้ยังไง? บางทีเขาอาจจะเหนื่อยและอยากซ่อนตัวจากโลกนี้หรือปล่าว?” ชางสือไม่รู้จะพูดยังไงดี
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ลู่หวู่ก็สัมผัสกับหนวดของเขาขณะที่เขาคิดลึกเข้าไปในความคิดของเขา
เผ่าไอซ์สโนว์ยังคงมีอยู่แต่อาศัยอยู่อย่างสันโดษ กองทัพผีลับอยู่ในอีวิ้วไนท์แมร์ซิตี้และตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งที่ถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้บนทุ่งหญ้าที่แห้งแล้งโดยผู้เล่น ดูเหมือนว่าทุกกลุ่มจะเป็นพวกตระกูลใหญ่โบราณของเป่ยฉี อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดอยู่ในความเงียบสงบตอนนี้ มีความลึกลับซ่อนเงื่อนใดในสิ่งนี้หรือปล่าว?
แล้วตระกูลอื่นๆที่แยกตัวออกไปอยู่ในโลกภายนอกล่ะ อยู่ในส่วนลึกของเป่ยฉีงั้นเหรอ?
ลู่หวู่แช่อยู่ในความคิด