ประกายแวววาวสีขาวกระพริบผ่านดวงตาที่มืดมิดของมู่ชีกวง ปากของเขาขยับเล็กน้อยและเสียงบ่นของเขาดังก้องอยู่ในหูของฮู่เฮ่อ
“เจ้าไม่ใช่คนตระกูลของขข้า เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
ฮู่เฮ่อสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่คาดคิดนี้เพราะเขาไม่เคยติดต่อกับตระกูลทะเลมู่เต๋อมาก่อน
คำถามของมู่ชีกวงทำให้เขาไม่รู้ว่าจะตอบอะไรไป ท้ายที่สุดเขาไม่สามารถพูดได้ว่าเขามาที่นี่โดยบังเอิญในขณะที่เขาพยายามขโมยศพคนตระกูลของเขา
“ทำไมโคมไฟผีพาเจ้ามาที่นี่? เจ้ามีความผูกพันอะไรกับคนตระกูลของข้า?” เสียงแหบแห้งดังขึ้นอีกครั้ง
“อะแฮ่ม…เรื่องมันยาว” ฮู่เฮ่อแสดงสีหน้าอึดอัดใจบนใบหน้าของเขาเมื่อเขาพบการจ้องอันเวิ้งว้างของมู่ชีกวง สมองของเขาปั่นป่วนในขณะที่เขาพยายามอย่างหนักที่จะหาข้อแก้ตัวที่คู่ควร
“เพียงแค่บอกวัตถุประสงค์ของเจ้าที่มาที่นี่” มู่ชีกวงส่ายหัวเบาๆ
“จุดประสงค์ของฉัน…หัวหน้ามู่ คุณรู้หรือไม่ว่าจักรวรรดิทะเลมู่เต๋อของคุณได้หายไปแล้ว?” ฮู่เฮ่อพูดหลังจากคิดไปครู่หนึ่ง
“มันพังทลายลงไปนานแล้ว จะมีอะไรที่ให้หายไปอีก?” โทนเสียงของมู่ชีกวงนั้นเรียบๆ
“ไม่ สิ่งที่ฉันหมายถึงคือ…คนตระกูลของท่านได้หายไปหมดแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ การแสดงออกที่เฉยเมยของมู่ชีกวงก็เริ่มเปลี่ยนเล็กน้อย
เขาอุทิศทั้งชีวิตเพื่อเห็นแก่ตระกูลของเขา แม้ว่าพวกเขาจะปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นคนนอกรีตและตั้งใจที่จะประหารเขา แต่พวกเขาก็ยังเป็นคนตระกูลของเขา ในสายตาของมู่ชีกวงแล้วพวกเขาผูกพันกันด้วยสายเลือด ความผูกพันเช่นนี้จะไม่มีทางเลือนหายไปและมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของเขา
ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินว่ากลุ่มคนรุ่นสุดท้ายของเขาหายไป มู่ชีกวงก็ไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไป
“บอกเหตุผลมา!”
ในครั้งนี้มีความโกรธในเสียงของมู่ชีกวงนั้นชัดเจน
ฮู่เฮ่อรีบพูดคำที่คิดได้ในขณะนี้ทันที “พวกเขาถูกทำลายโดราชาทะเล ผู้บัญชาการของกองทัพเรือราชาทะเล”
…
ในขณะนี้ในพระราชวังคริสตัล ราชาทะเลกำลังดื่มไวน์ของเขาจากถ้วยไวน์ทองคำขนาดยักษ์ ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้น
ชั่วขณะหนึ่ง ลางสังหรณ์ที่คลุมเครือได้ข้ามหัวใจของเขา
ส่วนใหญ่ของพวกเขาที่มาถึงระดับของเขาจะมีรูปแบบของลางสังหรณ์ แม้ว่าลางสังหรณ์เหล่านี้อาจไม่ถูกต้อง แต่พวกมันอยู่ๆจะไม่แสดงออกมาหากไม่มีเหตุสุดวิสัย สิ่งนี้ทำให้ราชาทะเลรู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อเขาไตร่ตรองถึงพลังที่ไม่รู้จักซึ่งกำลังเล็งเขาอยู่
…
“ราชาทะเลคือใคร? และทำไมเขาถึงทำลายคนตระกูลของข้า!?”
“เขาเป็นผู้บัญชาการของทัพเรือราชาทะเล เป็นเจ้าเหนือหัวของมหาสมุทรโมฆะ! เขาจำเป็นต้องมีเหตุผลเพื่อกำจัดคนตระกูลของท่านหรือไม่? เขาทำเพียงเพราะเขารู้สึกอยากทำ!” ฮู่เฮ่ออธิบายอย่างเร่งรีบ
มู่ชีกวงเงียบงันไป
“เจ้าถูกส่งมาโดยคนตระกูลของข้าเพื่อมาแจ้งเรื่องนี้หรือไม่?” มู่ชีกวงถาม
“ถูกต้อง!”
“ทำไมเขาไม่มาด้วยตัวเอง?”
ความสงสัยเกิดขึ้นผ่ายแววตาของมู่ชีกวง เขามีลางสังหรณ์ว่าฮู่เฮ่อไม่น่าเชื่อถือมากนัก อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นโคมไฟผีที่พาเขามาที่นี่ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อเขา
“เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและจากไปหลังจากที่เขาให้ข้าเข้าไปในโรงศพมู่เต๋อ” แสดงหน้าเศร้าโศก เขาพยายามที่จะบีบน้ำตาออกมาแต่มันก็ไม่ออกมาให้
“เอาล่ะ เจ้าเหนือหัวคนใหม่ของมหาสมุทรโมฆะใช่มั้ย? มันถึงเวลาที่ข้าจะออกไปดูแล้ว” มู่ชีกวงกล่าวในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
ในขณะเดียวกันรูปปั้นที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาก็เริ่มสั่นไหวด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมก้องกังวานจากเบื้องล่าง เงาสีเขียวน่าขนลุกจำนวนมากหมุนวนและขยายตัวขณะที่พวกมันพยายามปีนป่านขึ้นไปอย่างดุเดือด
“ฮื่ม” มู่ชีกวงกรนเสียง ทันใดนั้นรูปปั้นขนาดมหึมาก็ยกเท้าและกระแทกลงไปอย่างแรง
บูม!
คลื่นใต้น้ำเริ่มทะยานขึ้นและเสียงคร่ำครวญก็หยุดลงทันที เงาสีเขียวที่น่าขนลุกซึ่งโผล่ออกมานั้นถูกฉีกขาดด้วยพลังที่ครอบงำนี้
“มีอะไรอยู่ที่นั่นเหรอ?” ฮู่เฮ่อถามเมื่อเขาจ้องที่เท้าของรูปปั้น
เขาสามารถเห็นหลุมดำที่หมุนวนอย่างชัดเจนตอนนี้เมื่อรูปปั้นขนาดมหึมายกเท้าขึ้น เขาเห็นหนวดโยกไปมานับไม่ถ้วนอยู่ข้างใน
“ตระกูลความตาย พวกปรสิตทะเลลึกไร้อารมณ์” มู่ชีกวงตอบด้วยเสียงแผ่วเบา
“ดังนั้นท่านกำลังปราบปรามพวกมันอยู่เหรอ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าท่านปล่อยพวกมันออกไป” ฮู่เฮ่อไม่สามารถซ่อนความอยากรู้ของเขาได้
“ปล่อยพวกมันงั้นเหรอ?” เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ความโกรธแค้นก็กระพริบผ่านสายตาของมู่ชีกวง
ผู้บุกรุกเหล่านี้ – ตระกูลความตาย แท้จริงแล้วเป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของจักรวรรดิทะเลมู่เต๋อ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศทรี่เจริญรุ่งเรือง ความเกลียดชังของการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทำให้เขาบ้า ทำให้เขาโกรธจนต้องจมดิ่งลงไปในก้นบึ้งและตัดสินใจที่จะพินาศไปด้วยกันกับพวกมัน
อย่างไรก็ตาม มู่ชีกวงตระหนักว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะล้างเผ่าพันธุ์ตระกูลความตายหลังจากผ่านไปนับทศวรรษของการนองเลือดที่ไม่มีที่สิ้นสุดในก้นบึ้ง วิธีเดียวคือการปราบปรามและผนึกพวกมัน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามู่ชีกวงจะไม่ยอมประนีประนอม อย่างไรก็ตามเขายังเลือกที่จะเสียสละร่างกายของเขาในที่สุดเพื่อปราบปรามก้นบึ้งใต้มหาสมุทร ด้วยสิ่งนี้เขาตั้งใจจะฝังตระกูลความตายลึกลงไปในก้นบึ้งตลอดกสลและจะไม่ยอมให้มันออกมา
นี่คือการแก้แค้นของเขาต่อตระกูลความตายของก้นบึ้ง
ดังนั้นมันจึงทำให้มู่ชีกวงรู้สึกโกรธเมื่อฮู่เฮ่อพูดเป็นนัยๆว่าปล่อยพวกมันไป
“มีอะไรที่เจ้าอยากจะพูดอีกหรือไม่?”
“อ๊า ไม่มีอีกแล้ว”
“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว”
เมื่อเขาจบประโยค ลำแสงสีดำสองลำแสงก็ถูกยิงออกมาจากดวงตาของเขา มันโดนร่างกายของฮู่เฮ่อจนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆทันทีและกลายเป็นหมอกมืด
เขามีความรู้สึกว่าฮู่เฮ่อซ่อนอะไรบางอย่าง แม้ว่าฮู่เฮ่อจะเป็นผู้มีพระคุณต่อตระกูลของเขา มันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับมู่ชีกวงมากนักเนื่องจากเขาไม่ใช่คนในตระกูลของเขา เขาไม่เคยมีเมตตาต่อคนที่ไม่ได้อยู่ในตระกูลของเขา
ทันใดนั้นมู่ชีกวงก็ยื่นมือออกไปจับที่จุดฮู่เฮ่อเสียชีวิต
ฮืมม! มู่ชีกวง สับสนเล็กน้อยแล้วทำการจับอีกครั้ง…และอีกครั้ง…
วิญญาณของเขาหายไปไหน?
ตอนแรกเขาวางแผนที่จะสกัดวิญญาณของฮู่เฮ่อและตรวจสอบความจริงของคำพูดของเขา เขาไม่เคยคาดหวังว่าวิญญาณของฮู่เฮ่อจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ฉากนี้ทำให้เขากังวล ในฐานะผู้ครอบครองพลังแห่งความตาย เขาสามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณของฮู่เฮ่อเมื่อไม่นานมานี้ในขณะที่เขายืนอยู่ต่อหน้าเขา ทันใดนั้นวิญญาณของเขาก็หายไปทันที นี่เป็นเรื่องที่เกินความเข้าใจของเขาเล็กน้อย
หลังจากช่วงเวลาแห่งความเงียบงัน มู่ชีกวงก็กระทืบเท้าไปที่พื้นเบาๆ ทันใดนั้นรูปปั้นขนาดมหึมาก็เริ่มเปล่งประกายพร้อมกับสิ่งสกปรกที่ลอกออกจากมันราวกับว่ารูปปั้นกำลังมีชีวิตอยู่
“จิตวิญญาณมู่เต๋อ ข้าจะทิ้งที่นี่ไว้ในมือของเจ้าตอนนี้ ข้าจะออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น!”
หวืออ!
คลื่นขนาดใหญ่แผ่กระจายไปทั่วทะเลโดยรอบ เหมือนกับว่ามีการตอบสนองต่อคำขอของมู่ชีกวง
หลังจากให้คำแนะนำแก่เขา มู่ชีกวงก็แปรสภาพเป็นลำแสงสีดำเมื่อเขาพุ่งไปที่ผิวน้ำ
ในเวลาเดียวกันบนชายฝั่งหลิวหลี่ หลิ่วไช่ผู้ซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับปลาย่างกับเพื่อนๆของเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าแขนขวาของเขาสั่นไหวอย่างไม่ตั้งใจ
“มีอะไรผิดปกติ หัวหน้า?” สมาชิกกิลด์ถามด้วยความอยากรู้
“ไม่มีอะไร มันแค่อาการสั่นควบคุมไม่ได้” หลิ่วไช่ก็งงเหมือนกัน
“บางทีคุณอาจจะใช้มันมากเกินไป…เพลาๆบ้าง” ซันฉีผู้เป็นสุนัขที่นั่งอยู่ใกล้ๆแสดงความคิดเห็นภายใต้จิตสำนึก
“หนีไปไกลๆเลยไป!”
ที่จุดสูงสุดของหน้าผาแห่งความสิ้นหวัง โครงกระดูกสีดำที่อยู่ถัดจากเจดีย์ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างฉับพลันเช่นกัน ในขณะเดียวกันชายชราผมขาวก็ปรากฏตัวขึ้นและทำให้โครงกระดูกสีดำนั้นหยุดสั่นด้วยการเตะแรงๆ มันหยุดสั่นทันที
“มู่ชีกวงผู้โหดร้ายกลับมาแล้ว!” ชายชราผมสีขาวกล่าวอย่างเฉยๆขณะที่เขาจ้องมองไปที่มหาสมุทรโมฆะที่อยู่ห่างไกล
“ใครแข็งแกร่งกว่ากัน เจ้าเด็กนั่นและเจ้า?” ดวงตาสีแดงเข้มคู่หนึ่งโผล่ขึ้นมากลางอากาศ มันจ้องมองอย่างเย้ยหยันที่ชายชราผมขาวขณะที่พูด
“เขาอาจเทียบได้กับข้าเมื่อเขาอยู่ในสถานะสมบูรณ์แบบ ต่าตอนนี้ข้าสามารถเอาชนะเขาได้โดยไม่ต้องใช้มือของข้า!” ชายชราผมขาวจ้องที่ดวงตาสีแดงเข้มคู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตอบ
“เจ้าเด็กน้อย เจ้ามันโอ้อวด” เทพปีศาจหัวเราะ
“ใช่แล้ว ข้าไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงไม่เคยร้องขอการอภัยโทษจากจักรพรรดิใหญ่ ด้วยความสามารถของเจ้า ชื่อของเจ้าจะปรากฏในรายชื่อพระเจ้าอันเดิลเวิล์ดเมื่อเจ้าได้ผ่านการทดสอบ จากนั้นเจ้าจะกลายเป็นพระเจ้าที่ได้รับการยอมรับจากอันเดิลเวิล์ดและเข้ายึดครองดินแดนเป็นของตัวเจ้าได้ นี้มันไม่ดีเหรอ?” เทพปีศาจจู่ๆก็ถามขึ้น
“ขอการอภัยโทษ? นั่นมันดูน่าเบื่อ จริงๆแล้วมันมีหนทางอื่นที่จะเป็นพระเจ้า!” ชายชราผมขาวส่ายหัว
เทพปีศาจดูเหมือนจะตกใจเมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนี้ ดวงตาคู่สีแดงเข้มของเขาหรี่ลงอย่างรวดเร็ว “เจ้ามันบ้าแน่ๆ”
ชายชราผมขาวเผยรอยยิ้มนิดหน่อยให้กับคำพูดของเทพปีศาจ ผมของเขาแกว่งไปแกว่งมาท่ามกลางสายลมในขณะที่เขาบ่นและจ้องมองไปที่ท้องฟ้าอันห่างไกล “สิ่งที่น่าสนใจก็คือความท้าทายเท่านั้น มิฉะนั้นข้าก็จะแพ้อีกครั้ง”
เสื้อคลุมยาวของเขากระพือท่ามกลางสายลม เผยให้เห็นเครื่องรางโบราณแขวนอยู่รอบเข็มขัดของเขา
…
ย้อนกลับไปในพระราชวังคริสตัล ราชาทะเลยังคงไตร่ตรองถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีซึ่งเขารู้สึกก่อนหน้านี้ในระหว่างมื้ออาหารของเขา ทันใดนั้นการแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดขณะที่เนื้อเคี้ยวครึ่งหนึ่งตกลงมาจากปากของเขา
“บ้าเอ้ย! ไอ้บ้าไหนมันทำแบบนี้!?”