ทางเหนือของมหาสมุทรวอยด์ ความมืดมิดแผ่ขยายจากด้านล่างขึ้นไปบนอากาศ
ในตอนนั้นเองที่ลำแสงสีน้ำเงินพุ่งจากทิศใต้และปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของความมืดนั้น
“มู่ชีกวง คือท่านจริงๆ! ท่านยังมีชีวิตอยู่!” ราชาแห่งทะเลผงะถอยหลังเมื่อได้เห็นรูปร่างที่คุ้นเคยที่อยู่ตรงหน้าเขา
เมื่อหันไปมองรอบๆ มู่ชีกวงก็ประหลาดใจเช่นกันที่ได้เห็นราชาแห่งทะเล
“เจ้ายังไม่ตายอีกหรือ?”
สายตาที่จ้องเขม็งไปที่มู่ชีกวง ราชาแห่งทะเลได้แต่คิดในใจ ลึกๆแล้วเขายังบ่นพึมพำ พระเจ้า..เขายังมีชีวิตอยู่! แล้วยังไงล่ะทีนี้? เขาจะแย่งชิงพลังแห่งท้องทะเลจากข้าอีกอย่างนั้นหรือ?
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าดีใจเหลือเกินที่เจ้ายังมีวิตอยู่!” ทันใดนั้น มู่ชีกวงก็พุ่งเข้าไปกอดราชาแห่งทะเล
ราชาแห่งทะเลพูดไม่ออก
“ข้าคิดว่าตระกูลทั้งหมดจะล่มสลายไปพร้อมทุกคนเสียแล้ว ข้าดีใจมากที่เห็นเจ้ายังมีชีวิตอยู่และยังดูสดใสดี!”
มองไปที่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของมู่ชีกวงราชาแห่งทะเลหมดคำพูด
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ชายคนนี้ยังเป็นชายแก่โง่ๆคนเดิม
“นี่ท่านหนีออกมาจากหุบเหวใต้มหาสมุทรอย่างนั้นหรือ?” ราชาแห่งทะเลถามด้วยความไม่แน่ใจ
“หนี? ทำไมข้าต้องหนีด้วย? ข้าได้เฝ้าปกป้องทางเข้าคูแห่งความตายในหุบเหวมาตลอด เพราะว่าข้าต้องแน่ใจว่าตระกูลแห่งความตายยังไม่ได้เห็นดวงตะวันอีกครั้ง!” ขณะที่มู่ชีกวงพูดถึงตระกูลแห่งความตาย เขาก็แสดงให้เห็นถึงความเจ็บแค้นในสายตา
ราชแห่งทะเลหมดคำพูดอีกครั้ง
ในตอนแรก เขาคิดว่ามู่ชีกวงตายไปแล้วในหุบเหวใต้มหาสมุทร เขาไม่คิดว่าคนๆนี้นั้นกำลังปราบปรามตระกูลแห่งความตายอยู่ที่ทางเข้าหุบเหวมานับแสนปี เขารู้สึกผิดหวังเมื่อคิดว่ามู่ชีกวงนั้นทรงพลังแค่ไหน
ราชาแห่งทะเลพูดอย่างเที่ยงตรง “แล้วท่านออกมาทำไม? ถ้าพวกมันคิดจะหนีอีกล่ะ? ข้าคิดว่าท่านน่าจะดูแลสถานที่นั้นและขังพวกมันไว้ข้างล่างนั้นอย่างน้อยก็ล้านปี”
มู่ชีกวงยิ้มด้วยความอ่อนโยน “ไม่หล่ะ ข้ามีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำ!”
อะไรบนโลกนี้มันจะสำคัญไปกว่านั้น? เจ้าก็แค่กลับไปไม่ได้หรือยังไง? ราชาแห่งทะเลบ่นเงียบๆ
“ข้าได้ยินว่ามีบางคนรังแกพรรคพวกของพวกเรา ข้าจึงมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น” สีหน้าของมู่ชีกวงดูเคร่งขรึม
“ใคร? มันเป็นใคร? ข้าคิดว่าพรรคพวกของท่านตายไปหมดแล้ว” ราชาแห่งทะเลสับสน
มู่ชีกวงดูโกรธแค้นมากขณะที่พูด “มันถูกเรียกว่าราชาแห่งทะเล ข้าได้ยินว่ามันปกครองมหาสมุทรวอยด์มาเป็นเวลานาน แต่ในเมื่อมันกล้ามารังแกพรรคพวกของข้า ข้าจะให้มันชดใช้ด้วยชีวิต!”
ราชาแห่งทะเลพูดไม่ออกอีกครั้ง
เขารู้สึกสยดสยองขณะที่ฟังคำสาปนั้น ใครทำให้เขาต้องเป็นแพะและเผยแพร่ข่าวลือพวกนี้ไปที่หุบเหวใต้มหาสมุทร?
“เจ้ารู้จักมันไหม? พาข้าไปหามัน ข้าจะได้ตัดหัวมันทิ้งซะ มหาสมุทรวอยด์แห่งนี้ เดิมทีก็เป็นของตระกูลมู่เต๋อ หลังจากข้าสังหารมัน ข้าจะมอบพลังแห่งทะเลให้กับเจ้าเพื่อฟื้นฟูอาณาจักรมู่เต๋อขึ้นมาอีกครั้ง”
ราชาแห่งทะเลลิ้นพันกัน
“อะแฮ่ม…พี่มู่ ข่าวนั้นมันเป็นเพียงข่าวลือ ท่านเชื่อพวกมันไม่ได้!”
“มันจะเป็นข่าวลือได้ยังไง? สิ่งมีชีวิตตั้งใจไปที่หุบเหวใต้มหาสมุทรเพื่อส่งข่าวให้กับข้า และแม้ว่าราชาแห่งทะเลมันจะไม่ได้รังแกตระกูลของข้าจริงๆ มันก็ต้องตายเพราะมหาสมุทรวอยด์แห่งนี้มันเป็นของอาณาจักรมู่เต๋อ พวกเราต้องไปปล่อยให้มันตกอยู่ในมือของคนนอก!”
น่าอาย ราชาแห่งทะเลลังเลที่จะบอกเรื่องจริงต่อหน้าเขาเพราะเขาก็คือคนที่ถูกเรียกว่าราชาแห่งทะเล ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนไปหมด
“มีอะไรหรือ? ราชาแห่งทะเลนี่มันเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งมากงั้นรึ?” เมื่อได้เห็นสีหน้าที่ดูแปลกๆของเขา มู่ชีกวงจึงถาม
เขาตบไหล่ราชาแห่งทะเลเหมือนกับพี่น้องและกล่าว “อย่ากไปกลัว! ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน ตราบใดที่ข้าหาร่างกายของข้าครบ มันก็ไม่ใช่คู่มือของข้าหรอก!”
“พี่มู่ ข้ามีเรื่องต้องบอกท่านก่อน สัญญากับข้าว่าท่านจะใจเย็นและไม่ทุบตีข้า!” ราชาแห่งทะเลคิดไตร่ตรองและพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิด
ในตอนนี้มู่ชีกวงกลับมาแล้ว เขารู้ว่าเขาไม่มีทางปกปิดความจริงเรื่องนี้เอาไว้ได้ตลอดไป
มู่ชีกวงยิ้มพร้อมกับตอบว่า “งั้นก็บอกข้ามา ทำไมข้าต้องทำร้ายเจ้าด้วย? เจ้าก็เป็นคนของข้า ข้าจะสนับสนุนเจ้าเสมอไม่ว่าเจ้าจะไปทำอะไรมา!”
“ข้าคือราชาแห่งทะเล!”
“อะไรนะ?”
“ข้าคือราชาแห่งทะเล ข่าวที่ท่านได้ยินมามันหลอกลวง ข้าไม่เคยฆ่าพวกพ้องของตัวเอง อีกอย่าง พวกพ้องของเราก็ได้เปลี่ยนไปเป็นซอบบี้ภูตหมดแล้ว และพวกมันก็กลัวท่านจนหนีไป ที่เหลือหนีไปจากมหาสมุทรวอยด์นานแล้ว จึงไม่มีพวกเราเหลืออยู่เลย!”
สีหน้าของมู่ชีกวงดูตรึงเครียดเมื่อได้ยิน
“เจ้าหมายความว่า คนของเราตายหมดแล้วใช่ไหม?”
“ใช่!” ราชาแห่งทะเลฝืนตัวเองพูดออกมา
คำตอบของราชาแห่งทะเลทำให้มู่ชีกวงสิ้นหวัง เขากอดราชาแห่งทะเลอีกครั้งด้วยน้ำตา “งั้นนี่ก็หมายความว่าเจ้าเป็นพรรคพวกคนเดียวที่เหลืออยู่ของข้า ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก…”
ราชาแห่งทะเลอายๆและพยายามผลักมู่ชีกวงออกไป แต่เขาก็รู้ว่าเขาไม่สามารถทำให้มู่ชีกวงขยับได้แม้แต่นิดเดียว
มู่ชีกวงคร่ำครวญอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะปาดน้ำตาและพูดว่า “ถ้างั้นมันก็หมายความว่าไอ้หมอนั่นมันไปหุบเหวใต้มหาสมุทรเพื่อพยายามทำให้ข้ามาสังหารเจ้า? ช่างเป็นแผนการที่ล้ำนัก! มันอยากจะล้างเผ่าพันธุ์ของข้าถึงขนาดให้ข้าสังหารพรรคพวกคนสุดท้ายของข้าเอง! ยังโชคดีที่ข้าได้สังหารมันไปแล้ว! มันสมควรตาย!”
“เจ้าจะต้องมีศัตรูที่ฉกาจอยู่รอบๆสินะ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่วางแผนมาสังหารเจ้าหรอก? อย่าห่วงเลย ข้าจะช่วยให้กำจัดศัตรูของเจ้าเอง!” มู่ชีกวงจับที่ไหล่ของราชาแห่งทะเลและพูดออกมาด้วยความโมโห
หลากหลายอารมณ์ทะลักเข้ามาในความรู้สึกของราชาแห่งทะเลขณะที่เขาจ้องไปที่มู่ชีกวง
คนๆนี้คือคงที่ริเริ่มขโมยพลังแห่งมู่เต๋อไป แต่มู่ชีกวงก็ไม่ได้มีความอยากได้พลังพวกนั้น เนื่องจากเป้าหมายอันดับหนึ่งในใจเขานั้นมีเพียงประโยชน์ของคนในตระกูลตลอดมา
แต่คำพูดของมู่ชีกวงนั้นได้กระตุ้นความคิดที่จะทำลายศัตรูทั้งหมดของเขาและขยายอำนาจการปกครองไปทั่วทั้งมหาสมุทร
“ใช่ พวกมันอยู่ที่ชายหาดหลิวลี่ ใต้คำสั่งของราชาแห่งภูตตงกั่ว ข้าคาดว่าพวกมันน่าจะเป็นคนที่วางแผนชั่วร้ายนี้ ก่อนหน้านี้พวกมันก็ส่งเรือรบมาปล้นทรัพยากรของข้า!”
“ได้เลย ข้าจะช่วยเจ้า!”
ราชาแห่งทะเลรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ตอบกลับไปว่า “ขอบคุณมาก พี่ชาย”
ในตอนนั้นมู่ชีกวงดูจริงจังมาก “ข้าจะไม่อยู่สักพักขณะที่ไปจัดการกับปัญหา ข้าจะกลับมาหาเจ้าทีหลัง!”
ก่อนที่ราชาแห่งทะเลจะตอบ เขาก็เห็นมู่ชีกวงขยับตัวและหายไปในอากาศในชั่วพริบตา
ในตอนนี้ ราชาแห่งทะเลรู้สึกกระวนกนะวายใจมากเนื่องจากเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าการกลับมาของมู่ชีกวงนั้นจะเป็นผลดีต่อเขาหรือไม่ แต่ถึงยังไง เขาก็รู้สึกเหมือนโดนกดขี่ต่อการปรากฏตัวของบุคคลที่ทีงพลังขนาดนี้
…
ขณะเดียวกัน พื้นที่ทางใต้ของมหาสมุทรวอยด์ เรือภูตส่วนตัวกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า นั่งอยู่บนเตียงกับเบ็ดตรงปลาในมือ หลิวไช่มองออกไปบนทะเล เขาตีแขนขวาของตัวเองที่สั่นเป็นระยะในความผิดหวังและตราบาปที่อยู่ในใจ
ทันใดนั้น ร่างมืดๆก็ปรากฏขึ้นที่ด้านบนของเรือภูตและค่อยๆลอยลงมาบนเรือช้าๆ
“พรรคพวก? ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้… แต่ทำไมเจ้าถึงมีพลังของข้าในตัวของเข้า?” มู่ชีกวงถามด้วยความสงสัยขณะที่เขาจ้องไปที่หลิวไช่
หลิวไช่ตะโกนออกมา “แกเป็นใคร?”
“ข้าคือมู่ชีกวง!”
“โอ้ไม่นะ! จริงเหรอ?”
ด้วยความเร่งรีบ หลิวไช่หันไปและในขณะเดียวกันนั้น มู่ชีกวงก็สังเกตเห็นแขนขวาของเขา มันมีความคิดถึงอยู่ในดวงตาของเขา
“เจ้าได้รับการยอมรับจากแขนขวาของข้าและตอนนี้เจ้าสามารถเป็นคนในตระกูลข้าได้!” สายตาแห่งความอ่อนโยนปรากฎในดวงตาของเขาขณะที่จ้องไปที่หลิวไช่
“ไม่ ไม่ ข้าไม่อยากเป็น ขอถามหน่อยนะ ท่านสูญเสียความทรงจำเหรอ? มันคืออะไรนะ?” หลิวไช่ถามออกมาขณะที่คิดถึงภารกิจของเขา
แทนที่จะตอบคำถาม มู่ชีกวงพยักหน้าอีกครั้ง สายตาของเขายังจ้องอยู่ที่หลิวไช่ “เจ้านั้นมีพรสวรรค์และมีหัวใจของนักรบ ไม่สงสัยเลยที่แขนขวาของข้าจะเลือกเจ้า เจ้านั้นมีความสามารถอย่างแท้จริง!”
“ท่านจะเอามันไปเหรอ?” เขาจับแขนขวาของเขาทันทีพร้อมกับตั้งท่าป้องกัน
“ไม่หรอก เจ้าเก็บมันไว้เถิด” มู่ชีกวงส่ายหัว
หลิวไช่ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ สายตาที่มู่ชีกวงมองมาด้วยความโศกเศร้านั้นทำให้เขากลัวแทบตาย เขากังวลว่ามู่ชีกวงอาจจะเอาแขนขวาของเขากลับไป
“เออ ใช่! เจ้าอยากเป็นลูกชายข้าไหม?” มู่ชีกวงถามด้วยรอยยิ้ม
“อะไรนะ? ลูกชายท่าน!?” หลิวไช่ตกตะลึง