ในขณะนั้น ฮู่เฮ่อซึ่งกำลังจะล้างชื่อของเขา ได้กลับกลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของสาธารณชนอีกครั้ง
ฮุ่เฮ่อหมดหวังอย่างมากโดยเขาไม่สามารถคิดจะพูดอะไรดีๆได้เลยที่จะแก้ตัวให้ตัวเอง สิ่งที่เขาทำได้คือมองไปรอบๆอย่างน่าเวทนา
ผู้เล่นไม่ได้ให้โอกาสเขาครั้งที่สองในรอบนี้ พวกเขาดำเนินการเปิดใช้งานโหมดศัตรูของพวกเขาและล้อมรอบเขา
“พี่น้องที่รักของฉัน นี่เป็นเวลาที่เราจะรวมตัวกันและต่อสู้กับผู้บุกรุก พวกคุณไม่สามารถฆ่าฉันได้” ฮู่เฮ่อร้องไห้ด้วยใบหน้าทุกข์ระทม
“ฉันเกรงว่าเราจะยังมีความไม่แน่นอนถ้าแกยังอยู่ แกเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทุกคน!”
“ฉันจะไม่สบายใจหากไม่ได้ฆ่าแก ดังนั้นแกต้องตาย!”
“ไปลงนรกซะ ผู้เล่นที่ชอบสร้างปัญหา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะเป็นศัตรูตลอดชีวิต”
…
ท่ามกลางเสียงตะโกนของผู้เล่นข้ามไปมา คลื่นแห่งความสิ้นหวังได้พัดผ่านฮู่เฮ่อ หลังจากถูกเฉือนด้วยดาบหลายดาบ เขาก็เปลี่ยนเป็นควันดำและออกจากเกมไป
ย้อนกลับไปในโลกภายนอก
เครื่องเล่นเกมของฮู่เฮ่อเปิดช้าๆ แต่เขาไม่ได้ออกไป เขายังคงนอนอยู่ในเครื่องเล่นเกมโดยร้องไห้อย่างเงียบๆ
มันราวกับว่าโชคชะตากำลังเล่นเกมกับเขา ขณะที่เขากำลังจะเคลียร์ชื่อเสียงของเขา เขาถูกแทงอย่างไร้ความปราณีที่หลังแล้วเขาก็ค่อยๆหันไปราวกับหุ่นเชิดนิ้ว
มันเป็นเหมือนคำสาปให้ถูกแทงที่หลังซึ่งจะปรากฏอยู่ข้างหลังเขาได้ทุกเวลา มันเป็นความสิ้นหวังอย่างเต็มที่!
อนาคตของฉันมีเพียงความมืดมิดหรือไม่?
เขากลิ้งตัวเองเป็นลูกบอลและสะอื้น
…
เป่ยฉี ที่ชายแดนของคฤหาสน์แห่งความตาย
การต่อสู้เปลี่ยนข้างอีกครั้งเนื่องจากการปรากฏตัวของมู่ชีกวง
ผลประโยชน์การเกิดใหม่ของผู้เล่นถือว่าเริ่มเสียเปรียบโดบกองทัพอันเดดที่พวกมันมี ปัจจุบันกลุ่มของผู้เล่นยังไม่สามารถเอาชนะด้านพลังของกองทัพเรือราชาทะเล ดังนั้นการมาถึงของทหารซอมบี้ทำให้การต่อสู้ลำบากยิ่งขึ้นสำหรับพวกเขา
เมื่อเห็นการกระทำของมู่ชีกวง ราชาทะเลก็ส่งเสียงหัวเราะเพราะเขารู้ว่าไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลของการต่อสู้ครั้งนี้อีกต่อไป กองทัพเรือราชาทะเลจะได้รับชัยชนะ!
จากสิ่งที่ราชาทะเลทรงจำได้ มู่ชีกวงครั้งหนึ่งเคยต่อสู้กับตระกูลความตายทั้งหมดด้วยตัวเอง เขาถือว่ามีความแข็งแกร่งระดับกองทัพและนี่เองที่ทำให้ราชาทะเลมั่นใจอย่างยิ่ง
“เหล่าทหาร ฆ่าพวกมัน จัดการเป่ยฉีซะ” ราชาทะเลซึ่งในตอนแรกได้มีคำสั่งให้ล่าถอยได้มีการสั่งให้ทหารกลับไปต่อสู้อีกครั้ง
เมื่อเห็นอย่างนี้ หัวใจของราชาผีหินและราชาไฮดร้าเต้นอย่างหนักบนหน้าอกของพวกเขา พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะต่อสู้กับกองทัพเรือราชาทะเลในการต่อสู้ครั้งนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตามในเวลานี้ อาณาจักรจักรรพรรดิผีชั้นยอดก็ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่คาดคิด
สิ่งนี้ทำให้จิตวิญญาณของพวกเขาสูงขึ้นซึ่งนำให้พวกเขาไปต่อสู้
นี่เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถเอาชนะอาณาจักรจักรรพรรดิผีชั้นยอดได้ พวกเขาถูกกำหนดให้แพ้การต่อสู้ทันทีที่มู่ชีกวงมาถึง
เมื่อเขาดูที่กองกำลังผสมของเป่ยฉีที่ต่อสู้จนตัวตายกับกองทัพเรือราชาทะเลและซอมบี้ ราชาผีหินก็ยิ้มด้วยความเศร้าโศก
ประวัติศาสตร์เป็นการพิสูจน์ที่ดีที่สุด ไม่มีใครอยู่ด้านบนได้ตลอดไป สักวันข้าจะได้พบกับจุดจบของข้าเช่นกัน ข้าไม่คิดเลยว่าวันนั้นจะมาถึงในไม่ช้า
“เพื่อนเก้า ต่อสู้ให้มันถึงที่สุดกันเถอะ! แม้ว่าเราจะตาย เราจะตายในการต่อสู้!” ราชาไฮดร้าที่อ่อนแอกล่าวขณะที่เขาหันไปมองราชาผีหิน
“นี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเรา! มาทำให้มันยอดเยี่ยม!” ราชาผีหินตะโกนขึ้นไปบนฟ้าเพื่อตอบกลับและเส้นเลือดที่อยู่รอบตัวเขาเต้นอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อราชาผีที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองคนคิดว่าไม่มีการหวนกลับจากการต่อสู้ เพลงสงครามโบราณดังขึ้นมาจากที่ไกล
“ทัม! ทัม! ทัม!”
มันเป็นการผสมผสานของเสียงฝีเท้าหนัก โดยดึงเสียงจังหวะออกมา และเสียงที่เป็นจังหวะของอาวุธที่กระแทกกับโล่
กองทัพสีเหลืองดินเดินช้าๆจากทางทิศตะวันตก
“ควรทำยังไงดีกับใครที่ทำให้ความภาคภูมิใจของท่านราชามั่วหมอง?” หลี่ชานผู้ซึ่งกำลังเดินอยู่ข้างหน้าตะโกนสุดปอด
“ฆ่า!” นักรบแห่งตรกูลเอิร์ทเบรกกิ้งตะโกนอย่างพร้อมเพรียง
“แล้วคนที่จะบุกเข้ายึดดินแดนเป่ยฉีของเราล่ะ?”
“ฆ่า!”
“ศัตรูยืนอยู่ตรงหน้าเรา ทำตามคำบัญชาของฝ่าบาทและไล่ผู้บุกรุกออกไป!”
“ใช่ๆๆๆๆๆ” นักรบทุกคนจากตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งตะโกนด้วยความตื่นเต้น
“ไปเลยลูกๆของข้า พิสูจน์ความภักดีของเจ้าต่าหน้าฝ่าบาท”
หลังจากหลี่ชานกล่าวสิ่งนี้ นักรบของตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งก็เริ่มวิ่งไป พวกเขาเร่งความเร็วจนก่อให้เกิดเหมือนพายุทรายสีเหลือง พวกเขาพุ่งเข้าใส่สนามรบ!
“ตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งโบราณ” นัยน์ตาของมู่ชีกวงหรี่ลง
จากที่ห่างไกล ราชาทะเล ราชาผีหิน และคนอื่นๆต่างก็ประหลาดใจ
กลุ่มนี้ที่ไม่เคยปรากฏตัวต่อโลกมาก่อนได้ปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลานี้
…
สามชั่วโมงที่แล้ว ที่ฐานของตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้ง
ซันฉีสุนัขที่เพิ่งวิ่งกลับจากหน้าผาแห่งความสิ้นหวัง ได้มอบเป่ยฉีรอยัลดีครีที่หมดพลังไปแล้วซึ่งเขาได้รับจากการหลอกชายชราผมขาวไปให้กู่หยู
นี่คือเหตุผลที่กู่หยูขอให้เขาไปเยี่ยมชมหน้าผา
เมื่อเขาเห็นว่าผู้เล่นเริ่มเสียเปรียบจากการดูไลค์สด กู่หยูรู้ว่าแม้ว่าเขาจะแทรกแซง เขาจะไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะนำความแข็งแกร่งของตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งไปช่วย
สำหรับตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้ง ราชาแห่งเป่ยฉีไม่เคยทิ้งพวกเขา แม้ว่ากู่หยูและซันฉีรู้ว่าตราสัญลักษณ์นี้หมดพลังไปแล้ว แต่ก็ยังพิสูจน์ได้ว่าสามารถหลอกล่อตระกูลเอิร์มเบรกกิ้งได้
เมื่อกู่หยูเอาตราสัญลักษณ์ออกมา แม้แต่หลี่ชานที่เป็นอาณาจักรผีชั้นยอดก็คุกเข่าลงต่อหน้ามัน
กู่หยูได้ขอยืมอำนาจสูงสุดของเป่ยฉีรอยัลดีครี เขากล่าวว่าภายใต้คำสั่งของราชาแห่งเป่ยฉี ให้หลี่ชานนำตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งเข้าร่วมในการต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดนเป่ยฉี
เป่ยฉีรอยัลดีครีเป็นตัวแทนของราชาแห่งเป่ยฉี ดังนั้นหลี่ชานจึงไม่สงสัยกู่หยู เขาเชื่อฟังคำสั่งทันทีและรีบเร่งจัดตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งของเขาเพื่อไปเข้าร่วมศึก
…
ตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งโบราณ แม้แต่ชื่อของพวกเขาก็อาจทำให้เกิดความหวาดกลัวในชนชั้นสูงได้ ความแข็งแกร่งที่พวกเขาแสดงแม้แต่สั่นสะเทือนไปถึงกระดูกสันหลังของราชาทะเล
ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยฝุ่นสีเหลืองในขณะที่ยักษ์หินโผล่ขึ้นมาทีละตัวในสนามรบ พวกมันแต่ละตัวมีอำนาจการต่อสู้ที่เกือบจะเทียบเท่ากับระดับนายพลผี นอกจากนี้ยังมีคนในตระกูลนี้มีอำนาจการต่อสู้ที่น่ากลัว นอกจากนี้คนในตระกูลนี้แปดคนยังมีอำนาจการต่อสู้อย่างน่ากลัวระดับราชาผี
เมื่อกองทัพโบราณจำนวนมากปรากฏตัวในสนามรบ กระแสสงครามก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ไม่ว่ากองทัพอันเดดจะยืดหยุ่นได้เพียงใด พวกมันจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆเมื่อไปสู้กับผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามัน
กู่หยูเผยรอยยิ้มเมื่อเขาเห็นฉากอยู่เบื้องหน้าเขา ซันฉีกระโดดด้วยความตื่นเต้นข้างๆเขา
ในท้องฟ้า การแสดงออกของหมู่ชีกวงมืดลง เขากัดฟันแน่นและเปลี่ยนเป็นแสงสีดำโดยลงมาจากท้องฟ้า เขาต้องการที่จะพุ่งชนตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้ง แต่ก่อนที่เขาจะแตะพื้นได้ เขาถูกบล็อกโดยใครบางคน
“บูม!”
เงาสองเงาหล่นไปข้างหลังในแต่ละด้านเวลาเดียวกัน!
หลังจากที่ทรงตัวได้แล้ว มู่ชีกวงจ้องมองที่หลี่ชานอย่างเยือกเย็น
“ไปให้พ้นซะ เจ้าไม่ใช่ศัตรูของข้า!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคิดว่าตัวเองสูงไป เจ้าเป็นเพียงคนในตระกูลจากประเทศทะเลมู่เต๋อ เจ้ากล้าดียังไงถึงบุกดินแดนแห่งเป่ยฉี! เจ้าลืมไปแล้วเหรอว่าราชาของเจ้านั้นแพ้ราชาแห่งเป่ยฉียังไง?” หลี่ชานมองไปที่มู่ชีกวงด้วยท่าทางเย้ยหยัน
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของมู่ชีกวงก็เยือกเย็นลง เขาเปลี่ยนร่างเป็นแสงสีดำอีกครั้งและเข้าโจมตีหลี่ชาน
“เอิร์ท” เมื่อหลี่ชานตะโกนอย่างดุเดือด ดินใต้เท้าของเขาก็เริ่มแตกและพลังงานโคลนสีเหลืองก็ถูกดึงขึ้นมาจากดินอย่างต่อเนื่อง
บูม!
ดินของหลี่ชานชนกับมู่ชีกวงทันที ผู้เล่นทุกคนและกองทัพเรือราชาทะเลรอบตัวพวกเขาถูกโยนออกไปและฉีกเป็นฝุ่น
“เป็นไปไม่ได้! เจ้ามีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร!?” หลังจากต่อสู้ซึ่งกันและกัน มู่ชีกวงหน้าเปลี่ยนสี ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เพราะความแข็งแกร่งของหลี่ชานนั้นพอๆกันกับเขา จากมุมมองของเขา สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้เนื่องจากตัวเขาเองเป็นอาณาจักรจักรพรรดิผีชั้นยอด
“แกไม่เคยได้ยิงงั้นเหรอ? ในเป่ยฉีสมัยโบราณ คู่แข่งของราชาแห่งเป่ยฉีทุกคนมีความแข็งแกร่งของอาณาจักรจักรพรรดิผีชั้นยอด และข้าก็เป็นหนึ่งในนั้น!” หลี่ชานค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆหลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนัก เขาจ้องมองที่มู่ชีกวงด้วยรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขา
“ทุกคนในพวกเจ้าคืออาณาจักรจักรพรรดิผีชั้นยอดงั้นเหรอ?” มู่ชีกวงรู้สึกหวาดกลัว เขาคิดว่าเขาได้ยินผิด
“เนื่องจากฝ่าบาทสั่งให้ข้าต่อสู้ ผนึกจะถูกทำลาย!” หลี่ชานใช้แขนที่จับค้อนของเขายกขึ้นแล้วทุบค้อนกับพื้นในขณะที่เขาพูด
รอยแตกนั้นเหมือนใยแมงมุมกระจายไปทั่วดินในขณะที่พลังงานโคลนสีเหลืองจำนวนมากไหลท่วมร่างกายของหลี่ชาน
แคร๊ก!
เสียงกังวาลดังขึ้นเมื่อหลี่ชานยื่นแขนของเขาออกมาด้วบใบหน้าที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ “โอ้ ข้าจะลืมพลังความแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร!”
“ข้าจะขอใช้คำพูดของเจ้าพูดกลับไปแทน เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!”
ใบหน้าของมู่ชีกวงเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินสิ่งนี้ มือของเขาจับไปทื่พื้นและยิงเส้นพลังงานสีดำนับไม่ถ้วนไปในทิศทางของหลี่ชาน
แต่ละเส้นเหล่านี้มีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งของความตาย แม้ว่าดินจะสัมผัสกับพวกมัน หลุมดำก็จะก่อตัวขึ้นจากการกัดกร่อนพวกมัน
ในไม่ช้าความตายก็พุ่งไปรอบล้อมหลี่ชาน โดยกำจัดเขาไว้ให้อยู่กับที่
พลังงานที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเริ่มซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของหลี่ชาน
อย่างไรก็ตามหลี่ชานไม่ขยับสักนิ้ว เขาดำเนินการโดยยกเท้าขวาของเขาและกระทืบเท้าลงอย่างหนัก ทันใดนั้นเขาก็เหยียดแขนออก โดยหักเส้นพลังแห่งความตาย
หลังจากนั้นก็จ้องมองไปที่มู่ชีกวง หลี่ชานกระทืบเท้าลงพื้นอีกครั้ง ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและพื้นดินโยกไปมา
“เจ้าใช้โอกาสไปหนึ่งครั้งแล้ว เจ้ายังเหลืออีกสอง ปลดปล่อยเทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้ามาซะ!”
คำพูดที่ยั่วยุของหลี่ชานทำให้มู่ชีกวงโกรธเคืองอย่างแท้จริง บนหน้าผากของเขา รัศมีแห่งความตายก่อตัวเป็นอักษรรูนถูกสร้างขึ้น จากนั้นรัศมีนี้ก็ขยายอย่างดุร้ายพุ่งไปที่หลี่ชาน และในที่สุดก็หยุดลงก่อนที่จะลอยขึ้นเหนือศีรษะของเขา
บูม!
เสาพลังงานสีดำล้อมรอบด้วยสายฟ้าผ่าสีดำโดยโจมตีอย่างต่อเนื่องไปที่หลี่ชานจากด้านบน
พลังงานแห่งความตายที่แผ่ออกมาจากรัศมีสีดำนี้ทำให้ผู้เล่นและสิ่งมีชีวิตอื่นที่สัมผัสมันนั้นจะสลายตัวเป็นฝุ่นในไม่กี่วินาที
ภายใต้ผลกระทบของพลังงานดังกล่าว ความกังวลเริ่มปรากฏบนใบหน้าของผู้เล่น
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยพบตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้ง พวกเขายังเป็นสหายของพวกเขา เพราะพวกเขามีส่วนร่วมในการต่อสู้ โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาหวังว่าพวกเขาจะได้รับชัยชนะ
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาทีจากการถูกจู่โจมด้วยรังสีแห่งความตาย รัศมีก็เริ่มหดตัวลงและค่อยๆบินกลับไปที่หน้าผากของมู่ชีกวง
เมื่อควันหายไป ผู้คนจะสังเกตเห็นว่ามีหลุมที่ลึกอย่างมากในพื้นดิน หลี่ชานไม่มีที่ไหนที่จะพบได้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาตกลงไปในหลุมหรือกลายเป็นฝุ่น
ขณะที่ฝูงชนยังคงสร้างทฤษฎีจำนวนมาก เงาหนึ่งลอยออกมาจากหลุมและร่อนลงด้านข้าง
ในขณะที่เขาปัดฝุ่นเศษเล็กเศษน้อยที่ปกคลุมเขาออกไป หลี่ชานก็เงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
“ไม่เลวในครั้งนี้ แต่ถ้าเจ้าต้องการที่จะสร้างความเสียหายให้ข้า ลองหนักขึ้นเล็กน้อย!”
เจ้าสัตว์ประหลาดดินนี้คือใคร?
มันไม่ใช่เพียงมู่ชีกวงที่ยืนงงงวย แต่ราชาทะเล ราชาผีหิน และคนอื่นๆก็ตกตะลึงเช่นกัน
ทุกคนรวมถึงราชาทะเลคิดว่าเขาจะทนได้ไม่นานกับรัศมีแห่งความตาย อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่หัวหน้าตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งจะรับการโจมตีทั้งหมดแล้ว เขาก็ยังไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว สิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจ
“แกทำได้ยังไง?” มู่ชีกวงถามอย่างเยือกเย็น
“ตระกูลเอิร์ทเบรกกิ้งนั้นดีที่สุดในการป้องกัน หากแกไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แกอาจต้องถามบรรพบุรุษของแกจากประเทศทะเลมู่เต๋อ แล้วบางทีน่ะ พวกเขาออาจบอกแกว่า…ไม่ควรมายุ่งกับข้า!”
หลังจากเขาพูดประโยคนี้ไป หลี่ชานเหยียบพื้นอีกครั้งอย่างดุเดือด พื้นดินสั่นไหวอย่างน่ากลัวและกองทัพทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันล้มลงกับพื้น
“ข้ารู้แล้ว ข้ารู้ว่าเขาเป็นใครแล้ว…เขาคือหิน! เขาเป็นชายที่ได้รับขนานนามว่า ‘หิน’” ราชาผีหินร้องตะโกนออกมา
“นายหมายความว่ายังไง นายไม่ใช่หินหรือไง?” ราชาไฮดร้าหันมามองเขาอย่างงุนงง
“นั่นเป็นเพราะดินแดนของข้าอยู่บนโขดหิน ดังนั้นข้าจึงถูกเรียกว่าราชาผีหิน ข้าเคยอ่านประวัติของนอร์ทร็อคในจารึกที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของนอร์ทร็อค ที่มาของชื่อนี้มีความสัมพันธ์กับกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดที่ยึดที่มั่นในภาคเหนือ นี่เป็นเพราะราชาที่แข็งแกร่งที่สุดของกองกำลังนั้นได้รับชื่อ ‘หินอมตะ’ ในโลกภายนอก บางทีคนนั้นอาจเป็นเขา!”
ราวกับว่าหลี่ชานได้ยินทุกสิ่งที่ราชาผีหินพูด เขาก็หันมาหาเขาและยิ้มให้
“เด็กน้อย เจ้าพูดถูก นอร์ทร็อคถูกตั้งชื่อตามข้า”
เมื่อเห็นดวงตาที่ประหลาดใจของฝูงชน หลี่ชานนมองไปที่มู่ชีกวงอีกครั้ง
“หากเจ้าลงมืออีกครั้ง เจ้าจะไม่เหลือโอกาสอีกต่อไป…โอกาสสุดท้าย แสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้าทำได้ดีที่สุดแค่ไหน”
เมื่อมองไปที่การแสดงออกที่ถึงเครียดบนใบหน้าของมู่ชีกวง หลี่ชานก็ค่อยๆโอบแขนของเขาขึ้นเหนือศีรษะของเขา เขาอยู่ในท่าป้องกัน
เช่นเดียวกับที่ทุกคนกลั้นหายใจเพื่อดูว่าการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของมู่ชีกวงสามารถสร้างความเสียหายให้กับหลี่ชานได้หรือไม่ ก็มีเงาก็ปรากฏขึ้นด้านหลังหลี่ชาน ด้วยการตบเบาๆบนใบหน้าของเขา หลี่ชานก็ล้มลงไปกับพื้น
หลี่ชานผงะ เขาสะบัดหัวกลับ เพื่อดูว่าตบจะมาอีกไหม
พับ! พับ! พับ!
“แข็งแรงที่สุด! แข็งแกร่งจริงๆ! มาดูสิฆ่าจะฆ่าคนที่แข็งแกร่งอย่างเจ้าด้วยตัวเองดู!”
“ฝ่าบาท ทำไมท่านถึงได้ตีข้า ได้โปรดหยุดเถอะ” หลี่ชานกลิ้งตัวลงบนพื้นพร้อมกับคลุมศีรษะ
“เจ้ายังไม่รู้ว่าเจ้าผิดที่ไหนงั้นเหรอ? หากข้าไม่สอนบทเรียนที่ดีในวันนี้ ข้าจะเสียใจไปตลอดชีวิต!” ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าใด ชายชราผมขาวก็ยิ่งโกรธอย่างดุเดือด เขาม้วนแขนเสื้อขึ้นและเริ่มชกและเตะหลี่ชานบนพื้น
ฉากเบื้องหน้าสายตาของทุกคนจะทำให้พวกเขาตกตะลึง กองทัพทั้งสองลืมแม้กระทั่งว่าพวกเขามีการต่อสู้กันอยู่ พวกเขาจ้องมองที่หลี่ชาน ผู้ซึ่งมีความงดงามและโอ้อวดเมื่อไม่นานมานี้ แต่ตอนนี้ก็กำลังหมอบอยู่เหมือนเด็กที่ถูกตี