มหาสมุทรวอยด์ทางเหนือ
รัศมีสีดำพุ่งมาด้วยความเร็วสูงจากไกลๆก่อนที่จะดำดิ่งลงสู่น้ำ
การบุกรุกเป่ยฉีนั้นพรากทุกอย่างไปจากราชาทะเล เขารู้ว่าเขาไม่สามารถรักษาตำแหน่งด้วยพลังของเขาเองได้อีกต่อไป
ความแค้นมหาศาลทำให้ราชาทะเลบ้าคลั่ง เขาจึงมีความคิดบ้าๆ มันเป็นวิธีเดียวที่เขาจะได้ล้างแค้น
รัศมีแห่งความตายยังคงดิ่งลึกลงไปใต้น้ำ 5,000 ไมล์… 10,000 ไมล์ 20,000 ไมล์…
ทันใดนั้นรูปปั้นขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าเขา
เมื่อได้เห็นการมาของรัศมีแห่งความตาย รูปปั้นขนาดใหญ่ก็หันมาอย่างช้าๆ มองไปที่ราชาทะเล
คลืนนน!
คลื่นที่รุนแรงและมือขนาดใหญ่จับราชาทะเลเอาไว้ทันที
“ผู้พิทักษ์ ข้าคือมู่ไฮ่แห่งอาณาจักรมู่เต๋อ!”
รูปปั้นปล่อยตัวเขาและค่อยๆลดมือลงช้าๆ จากนั้นมันก็ปล่อยให้เขาเข้าไป
หลังจากเข้ามาถึงจิตวิญญาณมู่เต๋อ ราชาทะเลก็ออกมาจากรัศมี เขากรีดแขนเพื่อหยดเลือดลงบนจิตวิญญาณมู่เต๋อ มันถูกดูดซับไปในรูปปั้นอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปสักพัก เสียงของจิตวิญญาณมู่เต๋อก็ดังขึ้นในหัวของราชาทะเล
“สมาชิกแห่งตระกูลมู่เต๋อ บอกธุระของเจ้ามา!”
“ข้าต้องการปลดปล่อยตระกูลแห่งความตายและให้พวกมันรุกรานมหาสมุทรวอยด์!”
“ไม่ได้ การผนึกสถานที่นี้เป็นคำสั่งของราชาของตระกูล มู่ชีกวง ข้าปฏิเสธคำขอของเจ้า!” เสียงของจิตวิญญาณมู่เต๋อดังก้องอยู่ในหัวของเขา
“มู่ชีกวงตายแล้ว วิธีเดียวที่ข้าจะล้างแค้นให้การตายของเขาได้ก็คือการปลดปล่อยตระกูลแห่งความตาย ข้าเป็นผู้เดียวที่เหลืออยู่ในอาณาจักรมู่เต๋อนี้ ข้าคือราชาของเจ้าแล้ว!” ราชาแห่งทะเลคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง
‘ข้าไม่เชื่อเจ้า!” จิตวิญญาณมู่เต๋อตะลึงจนตัวร่างกายของเขาสั่น
สีหน้าของราชาทะเลตรึงเครียด เขารีบถ่ายทอดคำสั่งเสียของมู่ชีกวงให้กับจิตวิญญาณมู่เต๋อทันที
ผ่านไปพักหนึ่ง จิตวิญญาณมู่เต๋อก็พูดขึ้นว่า “เขาหวังว่าเจ้าจะไม่แก้แค้นแต่เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายในตระกูล”
“ข้ายอมตายดีกว่ามีชีวิตอยู่อย่างอัปยศ ข้าตัดสินใจแล้ว!” ราชาทะเลพูดด้วยความจริงจัง
“ราชาองค์สุดท้ายแห่งอาณาจักรมู่เต๋อ ข้าสั่งเจ้า!”
จิตวิญญาณมู่เต๋อไม่ได้พูดอะไร เขาถูกสร้างขึ้นโดยตระกูลมู่เต๋อ เขาจึงต้องทำตามคำสั่งของราชาของตระกูล ในเมื่อราชาทะเลเป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ราชาแห่งทะเลก็คือราชาองค์สุดท้ายของเขา
รูปปั้นยกขาขวาขึ้น รูปแบบหกเหลี่ยมปรากฏขึ้นมา มันมีเสียงอึกทึกเล็ดลอดออกมาราวกับว่าเป็นเสียงภูตผีกำลังร้องโหยหวน
หนวดยื่นเข้าไปในผนึกและเริ่มโค้งงอ
“เจ้าต้องการให้ข้าเปิดผนึกไหม?”
“เดี๋ยวก่อน!” ราชาแห่งทะเลพูดขึ้นมาขณะที่หันไปมองที่ผนึก
ทันใดนั้น หนวดสีดำก็ห่อหุ้มรอบตัวราชาแห่งทะเล
ตุ้บ!
จิตวิญญาณแห่งทะเลกระทืบเท้าลงไป หนวดทั้งหมดที่เป็นภาพลวงตาขาดวิ่นด้วยพลังที่มองไม่เห็น
เมื่อเท้าของราชาแห่งทะเลสัมผัสกับผนึก เสียงมากมายก็ดังขึ้นในหัวของเขา
เสียงเย้ยหยัน, เสียงกรีดร้องที่แหบแห้ง, เสียงร้องไห้…
“มู่ชีกวง… ตาย…ตาย…ตาย, มู่ชีกวง…”
ราชาแห่งทะเลคำรามออกมา ขับไล่เสียงพวกนั้นออกไปจากหัวของเขา จากนั้นเขาก็มองที่ผนึกหกเหลี่ยมด้านล่างและพูดว่า “พวกเจ้าอยากจะออกมาไหม? ผู้คุมแห่งความตาย!”
เมื่อเสียงของราชาทะเลสิ้นสุดลง หนวดทั้งหมดที่ยืดออกมาก็หายไปทันที หน้ากะโหลกค่อยๆก่อตัวขึ้นรอบๆผนึก
“มู่ชีกวง…ตาย!”
“ข้าไม่ใช่มู่ชีกวง ข้ากำลังถามว่าพวกเจ้าอยากออกมาหรือไม่ ถ้าไม่ ข้าคิดว่ามู่ชีกวงคงจะขังพวกเจ้าเอาไว้ที่นี่ไปตลอดกาล!”
เมื่อพูดคุยกับปิศาจในหุบเหวแห่งความตายนี้ ราชาทะเลนั้นไม่ได้บอกว่ามู่ชีกวงนั้นตายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้ตระกูลแห่งความตายนั้นบ้าคลั่งและโจมตีผนึก
หากไม่มีมู่ชีกวง จิตวิญญาณมู่เต๋อก็ไม่สามารถปราบปรามความบ้าคลั่งของตระกูลแห่งความตายได้เมื่อผนึกมันพังทลายลง ราชาแห่งทะเลเองก็รู้ดี
“เจ้าเป็นใคร… เจ้าปล่อยพวกข้าออกไปได้หรือ?” เบื้องล่างของผนึก เสียงเหล่านั้นเปลี่ยนจากเสียงร้องไห้กลายเป็นโกรธแค้น จากนั้นก็โอดครวญ
“ข้าปล่อยเจ้าไปได้ แต่เจ้าจะตอบแทนอะไรข้า?”
“ข้ามอบความตายให้เจ้าได้… ปล่อยให้เจ้าตาย… ให้เจ้าได้เจอกับความมืดมิด…” เสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากด้านล่าง ทำให้ราชาทะเลหน้าซีด
“ดูเหมือนพวกเจ้าไม่อยากจะออกไปจากที่นี่!” ราชาแห่งทะเลตะโกน
“เจ้าต้องการอะไร… ดูเหมือนว่าเจ้าต้องการพลังแห่งความตาย… ข้าสัมผัสมันได้!”
“ใช่แล้ว มอบพลังแห่งความตายให้กับข้า ให้ข้านำกองทัพแห่งความตายของพวกเจ้า! ข้าจะพาพวกเจ้าไปสังหารและกลืนกินทุกชีวิต!”
“มันเป็นเงื่อนไขที่ดี… ข้าชอบจริงๆ… แต่เจ้ากล้าหาณพอจะทำมันหรือ?”
เมื่อผู้คุมแห่งความตายพูดจบ ขวดยาที่ปกคลุมไปด้วยออร่าแห่งความตายก็ค่อยๆปรากฏขึ้นบนผนึก
“เจ้ากล้าไหมล่ะ? ฮี่ฮี่ฮี่… เจ้าอาจจะตายได้นะหากดื่มมันเข้าไป!”
ราชาทะเลมองไปที่ขวดยาและยื่นมือออกไปคว้ามัน
ออร่าแห่งความตายที่ปกคลุมแขนและมือของเขากลายเป็นสีดำในทันที พลังแห่งความตายซึบซับเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง ทำลายการทำงานของร่างกายเขา
“ข้ามันมอบพลังที่ข้าต้องการได้ ข้าจะปลดปล่อยพวกเจ้าออกมา!” หลังจากพูดเสร็จ ราชาทะเลก็กลืนน้ำยาโดยไม่ลังเล
“อ้า!”
ทันใดนั้น ออร่าแห่งความตายก็แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนมู่ชีกวง สายน้ำสีดำไหลเข้าออกจากร่างกายของเขา เขาเริ่มร้องโอดครวญด้วยความทรมาน
“ฮ่าฮ่าฮ่า… ยอมรับความตายของเจ้า… มีความสุขกับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเจ้าซะ…” เสียงที่ดังมาจากด้านล่างเริ่มหัวเราะเหมือนคนบ้าเมื่อมันเห็นราชาทะเลร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
…
หลังจากการต่อสู้ เหล่าผู้เล่นก็ได้รู้ถึงความอ่อนแอของตัวเอง
เมื่อเจอกับพลังที่เหมือนกับหายนะ แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนมากและเกิดใหม่ได้ มันก็เทียบไม่ได้กับกองกำลังที่แข็งแกร่งจริงๆ
แต่การต่อสู้นี้ก็มอบรางวัลให้กับผู้เล่นอย่างงาม
พวกเขาได้ค่าประสบการณ์จำนวนมากพร้อมกับเหรียญวิญญาณจากการสังหารหมู่
หลังจากการต่อสู้ เหล่าผู้เล่นได้เสียเหรียญวิญญาณไปจำนวนมากเพื่ออัพเกรดความสามารถ เปลี่ยนเครื่องประดับ และซ่อมเรือรบของพวกเขา อีกครั้ง ความแข็งแกร่งของเหล่าผู้เล่นนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ขณะเดียวกัน คนที่ได้มากที่สุดก็คือลู่หวู่ เขาแทบหยุดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเหรียญวิญญาณเพิ่มมากขึ้นเกิน 500,000 เหรียญ
แม้แต่อันตรายที่ซ่อนอยู่ในเป่ยฉี เขาก็ลืมมันไป
หลังจากที่ได้รู้ว่าชายแก่ผมขาวนั้นเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา เขาก็ไม่ต้องกังวลอะไร สิ่งที่รบกวนเขามากที่สุดก็คือจริงๆแล้วเขาเป็นผู้หญิง
หลังจากการต่อสู้ ลู่หวู่ใช้เหรียญวิญญาณและพลังงานหยินเพื่อซ่อมแซมชายแดนของคฤหาสน์แห่งความตาย
ที่นี่คือสถานที่ที่ผู้เล่นจะต้องผ่านเพื่อไปชายหาดหลิวลี่ แต่ตอนนี้บริเวณนี้นั้นถูกทำลายจากการต่อสู้ระหว่างหลี่ซานกับมู่ชีกวง ผู้เล่นอาจจะตกลงไปในหลุมขณะเดินทางได้
การใช้จ่ายตรงนี้ไม่ได้มากมาย เขาจ่ายได้โดยไม่ลังเล!
ชณะเดียวกัน มีภารกิจสำคัญที่รอให้ลู่หวู่มาจัดการอยู่อีก
เมื่อเขาจัดการเรื่องเล็กน้อยเสร็จแล้ว เขาก็กลับไปที่คฤหาสน์แห่งความตายและเดินไปที่ร้านค้าของตงกั่ว
…
ตอนนี้ ในร้านของตงกั่ว
ตงกั่ว, เสี่ยวเทียน, ราชาภูตหินที่อยู่ในรูปร่างพืช และราชาไฮดร้าที่อยู่ในร่างงูน้อย มองหน้ากันและกันโดยไม่มีใครพูดอะไร
“ตงกั่ว ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะอ่อนแอขนาดนี้!” ราชาภูตหินพูดขึ้นมา ทำให้ความเงียบหายไป
“เจ้าดูคุ้นๆในร่างนี้นะ!” ตงกั่วไม่ได้ตอบเขา เขามองไปที่รูปร่างของราชาภูตหินและคิดไตร่ตรอง
“แค่ก…” ราชาภูตหินกระแอมออกมา หน้าตาดูอึดอัด
ตอนที่เขาแอบเข้ามาในคฤหาสน์แห่งความตาย เขาคิดว่าตงกั่วนั้นเป็นราชาแห่งภูตระดับสูงที่น่ากลัว ทำให้บรรยากาศแปลกๆปกคลุมอยู่ในตอนนี้
“ว่าแต่ ตงกั่ว ในเมื่อพวกเราตัดสินใจน้อมรับเขาแล้ว ทำไมเขาถึงไม่มาพบพวกเรา?” ราชาไฮดร้าถามด้วยความสงสัย
“อดทนหน่อย เขาเป็นพวกที่จะปรากฏตัวขึ้นตอนไหนก็ได้ ตราบใดที่พวกเรารอ มันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เจ้าต้องเตรียมใจเอาไว้หน่อยนะ การน้อมรับต่อเขานั้นมันไม่ง่ายเหมือนพูดหรอก” ตงกั่วเตือนพวกเขา
“เราต้องทำสัญญาแห่งวิญญาณเพื่อแสดงถึงความภักดี? เมื่อองค์ราชาอยู่ที่นี่ พวกเขาก็ต้องทำมันอยู่แล้ว เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจงรักภักดีของเรา เพื่อป้องกันการทรยศ ข้าว่ามันก็เป็นเรื่องปกตินะ” ราชาภูตหินกล่าว
“งั้นเจ้าก็ไร้เดียงสาเกินไป! หลังจากที่เจ้าได้ขึ้นเรือไวเบนเนี่ยมของโจรสลัดแล้ว พวกเขาจะเชื่อมประตูขังเจ้าเอาไว้ เจ้าจะไปไหนไม่ได้จนตาย” เสี่ยวเทียนกล่าวขึ้นมาเงียบๆ
แม้ว่าเขาจะบอกแบบนั้น แต่เสี่ยวเทียนก็ยังไม่มั่นใจว่าไวเบรเนี่ยมมันคืออะไร มันเป็นสิ่งที่สุดยอดจากที่พวกผู้เล่นพูดกัน
เมื่อได้ยิน ราชาภูตหินและราชาไฮดร้าก็ตะลึง
ทันใดนั้น ร่างเงาก็ปรากฏขึ้นในบ้าน ร่างมืดๆของเขาปกคลุมด้วยหมอก ทำให้ร่างกายของเขามองเห็นได้ยาก
“ราชาภูตหินและราชาไฮดร้า ข้าอยู่นี่!”
เมื่อได้เห็นว่ามีคนอยู่ที่นี่ พวกเขาก็ตกใจขนลุก หลังจากที่คิดกันอยู่สักพัก พวกเขาก็หันหน้าไปหาลู่หวู่ คำนับและตะโกนออกมา “น้อมรับราชาแห่งเป่ยฉี!”
“จริงๆแล้ว การที่พวกเจ้ายอมมอบความซื่อสัตย์ต่อข้านั้นทำให้ข้าต้องเสียทรัพยากรจำนวนมาก แต่ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อข้าสามารถขยับขยายดินแดนได้!” ขณะที่เขาพูด ลู่หวู่ก็คิดไปด้วย และคำพูดจากการยอมมอบความจงรักภักดีจากสิ่งประดิษฐ์ก็ถูกส่งตรงเข้าไปในหัวของพวกเขา
“อ่านมันซะ หลังจากนี้พวกเราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน!” ลู่หวู่พูดด้วยรอยยิ้ม
“ท่านราชา ทำไมคำพูดจากคำสัญญาแห่งวิญญาณมันแตกต่างไปจากเดิม?” ราชาภูตหินและราชาไฮดร้าสับสนขณะที่เขาอ่านมัน
“ไม่ต้องถามมาก อ่านมันซะ พวกเจ้ากลัวอะไร? พวกเจ้าไม่เห็นหรือไงว่าข้าก็อ่านมันเหมือนกัน!” ตงกั่วตะคอกใส่พวกเขา แต่ลึกๆแล้วเขานั้นดีใจมาก
เขาได้ดึงอีกสองชีวิตลงมาอยู่กับเขา ทำให้เขามีความสุขมาก
หลังจากที่มองหน้ากัน พวกเขาก็อ่านคำพวกนั้นที่ปรากฏขึ้นในหัวของเขา
ขณะเดียวกัน สิ่งประดิษฐ์ก็สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของพวกเขาและดูดมันเข้าไปหลังจากที่พวกเขาอ่านมันจบ
เป่ยลี่ที่รออยู่ในสิ่งประดิษฐ์อยู่แล้วได้สวมหน้ากากและเสื้อคลุมสีขาว เธอได้เริ่มขั้นตอนการล้างสมอง
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ราชาภูตหินและราชาไฮดร้าก็ถูกส่งออกมาจากสิ่งประดิษฐ์ หน้าตาของพวกเขาดูว่างเปล่า
“มันคืออะไร!? นี่คืออาวุธลับที่ลู่หวู่สร้างเอาไว้ตอนนั้นเหรอ?” พวกเขาทั้งสองคนดูหวาดกลัวหลังจากที่ได้สติกลับมา
โดยเฉพาะในช่องของสิ่งประดิษฐ์ตอนที่พวกเขาได้เห็นเป่ยลี่ที่ลึกลับที่ได้ติดตามราชาคนก่อนของเป่ยฉี มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับพวกเขา
“ข้อมูลมันอยู่ในหัวของพวกเจ้าแล้ว” ลู่หวู่พูดขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อพวกเขาได้ยิน พวกเขาก็เข้าไปในความคิดของตัวเองทันที
ข้อมูลมากมายหลายบรรทัดเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์และผู้เล่นได้ปรากฏขึ้นมา ทำให้ทั้งสองคนช็อค
“เห็นไหม ข้าบอกแล้ว ว่าพวกเจ้าออกไปจากเรือไวเบรเนี่ยมของโจรสลัดลำนี้ไม่ได้หรอก แม้จะตายก็ไม่ได้!” เสี่ยวเทียนหัวเราะออกมา
“ท่านราชา ข้าอยากจะรู้ถึงแผนการของท่าน!” ราชาภูตหินถามด้วยสีหน้าที่ใสซื่อ
“เพื่อสร้างกองกำลังที่สามารถต่อกรได้กับทุกกองทัพ…. รวมถึงโลกอมตะด้วย!”
แม้ว่าลู่หวู่จะพูดด้วยเสียงเรียบง่าย แต่มันก็ทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก เมื่อพวกเขารู้ว่ากองกำลังของโลกอมตะนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน
“อย่ากลัวไปเลย ข้าทำได้ด้วยความช่วยเหลือของสิ่งประดิษฐ์!”
จากจุดนี้ ทั้งสองคนรู้ดีหลังจากที่ได้เข้าใจถึงฟังก์ชันของสิ่งประดิษฐ์
“ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าทำไมอาวุธลับ…ไม่สิ ผู้เล่นเหล่านี้ถึงได้น่ารำคาญต่อดินแดนนอร์ทร็อคของข้านัก มันเป็นวิธีของพวกเขาที่จะแข็งแกร่งขึ้น!”
ราชาไฮดร้าพยักหน้าเช่นกัน
“แข็งแกร่งขึ้นจากการขโมย ฮะ? หลังจากถูกจัดการโดยสิ่งประดิษฐ์ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่จำกัด มันเป็นวิธีที่ดีที่สุด!”
“ท่านราชา ข้ารู้วิธีทำโพชั่น ข้าควรจัดการเรื่องนี้ให้กับเหล่าผู้เล่นและพัฒนาเข้าไปในคลาสไหม?”
อย่างที่เสี่ยวเทียนพูด ในเมื่อพวกเขาได้ลงเรือลำเดียวกันและตัดสินใจติดตามลู่หวู่แล้ว เขาก็ได้ให้คำแนะนำเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเหล่าผู้เล่น
“กลับไปเป็นราชาแห่งภูตต่อไป ความแข็งแกร่งของผู้เล่นยังพัฒนาได้อีกมากมาย และข้าเองก็ได้เตรียมบทต่อไปเอาไว้แล้ว เรื่องการรุกรานของผู้เล่น ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา เมื่อมันถึงเวลาข้าจะประกาศเรื่องของพวกเจ้าเอง!”
ราชาภูตหินและราชาไฮดร้าทำหน้าประหลาดๆหลังจากฟังเรื่องนี้
พวกเขาคิดว่าหลังจากได้เข้าร่วมกับทีมนี้ พวกเขาจะได้พักเสียที แต่มันกลับกลายเป็นว่าพวกเขาจะต้องรับใช้ผู้เล่นและช่วยให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น
“รับทราบ!”
ในที่สุดทั้งสองคนก็คำนับและตกลง
เมื่อได้เห็นพวกเขาตกลง ลู่หวู่ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“เมื่อถึงเวลา จงส่งผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเจ้ามาที่นี่ ข้าจะจัดการกับพวกเขาเช่นกัน ผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวก้องนั้นสามารถมาช่วยให้ผู้เล่นเติบโตได้”
สีหน้าแห่งความยินดีปรากฏออกมา เนื่องจากพวกเขากำลังกังวลในเรื่องนี้เช่นกัน ในเมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขาได้ติดตามเขามานาน ถ้าพวกเข้าช่วยในการเติบโตของผู้เล่นได้มันก็จะเป็นเรื่องที่ดี
“ข้าน้อมรับ!” พวกเขาคำนับอีกครั้ง
“ดีมาก!” หลังจากพูดเสร็จ ลู่หวู่ก็หายตัวไป
หลังจากลู่หวู่จากไปแล้ว ทั้งสี่คนก็อยู่ในความเงียบอีกครั้ง
“อย่าบ่น เมื่อผู้เล่นแข็งแกร่งขึ้น พวกเจ้าจะได้ประโยชน์จากพวกเขาเช่นกัน ในเมื่อพวกเขาทั้งหมดเป็นกองทัพเดียวกันแล้ว อย่าเครียดมากนักเรื่องผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไม่จำเป็น ในเมื่อพวกเจ้ายังร่วมมือกันได้ไม่ดี ก็อย่าเพิ่งไปกังวล!” เมื่อเห็นลู่หวู่ออกไป ตงกั่วก็พูดขึ้นมา
“เอ้อ ใช่แล้ว ตอนนี้เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งประดิษฐ์มันสามารถแยกพลังวิญญาณและเปลี่ยนไปเป็นเหรียญวิญญาณได้ด้วย นี่เป็นสกุลเงินที่พวกเราใช้กัน ทั้ง NPC ทั้งผู้เล่น ร้านค้าก็เช่นกัน พวกเราใช้ได้นะ จริงๆพวกเราก็ได้ประโยชน์จากมันมากมายเลยแหละ…” ขณะที่พูด สายตาของตงกั่วก็ดูมีเลศนัย จากนั้นเขาก็เดินไปข้างราชาภูตหินและดึงแขนเขาขึ้นมาพันคอ
“พี่น้อง ในเมื่อเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ข้า…กำลังขาดเงินทุนและข้าจำเป็นต้องทรัพยากร ข้ารู้ว่าที่นอร์ทร็อคนั้นเต็มไปด้วยวัตถุดิบวิญญาณ งั้นเจ้าก็ตัดต้นไม้มาสักหน่อยแล้วเอามาขายในร้านค้า จากนั้นก็เอาเงินของเจ้ามาให้ข้ายืมใช้หน่อย?”
สีหน้าของราชาภูตหินเปลี่ยนไปเมื่อได้ยิน
“ข้าไม่มีเหรียญวิญญาณ แล้วเจ้ายังจะยืมข้าอีก? ไม่มีทาง!”
“เฮ้ย เจ้ามันใจร้ายเกินไปแล้ว ในเมื่อเจ้าได้ฟังก์ชันเหรียญวิญญาณแล้ว ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะต้องแอบตัดต้นไม้เพื่อตัวเองบ้างนั่นแหละ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือไง? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้ายอมให้ข้ายืมเหรียญวิญญาณ? ข้าทำงานเหมือนกระทิงทั้งวันเพื่อที่จะได้เหรียญวิญญาณแค่ไม่กี่ร้อยเหรียญต่อวัน เจ้าไม่สงสารข้าเลยหรือยังไง?” ตงกั่วบ่นด้วยความโมโห
มองดูขวดไวน์เกลื่อนกลาดบนพื้น ราชาภูตหินและราชาไฮดร้ามองหน้ากันก่อนที่จะวิ่งหนีไป
ตอนนี้ พวกเขาไม่คิดถึงการตัดต้นไม้เพื่อที่จะเอาไปขาย สำหรับพวกเขา เหรียญวิญญาณนั้นเป็นไอเทมศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยให้พวกเขาบ่มพลังขึ้นไปสู่ระดับราชาแห่งภูตระดับกลางได้
ทันใดนั้นพวกเขาก็คิดว่าการได้ขึ้นเรือไวเบรเนี่ยมของโจรสลัดลำนี้มันเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ