ตอนที่ 232 : กองกําลังที่ทําให้มุมมองโลกของ พวกเขาเปลี่ยน
เผชิญกับภัยคุกคามของเฮอขุย ลั่งเทียรู้สึกราวกับว่าลมหายใจของเขาติดอยู่ในหน้าอกของเขา
เขาได้ทําทุกอย่างที่เขาพอใจในมหาสมุทรคุณหลงมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าที่จะด่าว่าและรัวสาปแช่งบรรพบุรุษของเขาตรงหน้าเขาเขารับสิ่งนี้ไม่ได้
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเลือกการต่อสู้ได้ในขณะนี้ เนื่องจากกําลังทหารของเขาอ่อนแอกว่าราชาทะเล ดังนั้นเขาสามารถดูผู้เล่นด้วยใบหน้าไม่พอใจในขณะที่หัวใจของเขาถูกเผาด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็หันหัวของเขาและมองไปที่ราชาทะเล
“ท่านราชาทะเล นี่มันคืออะไร? ท่านปกป้องพวกเขายังงั้นเหรอ?”
ผู้เล่นเสียอารมณ์อีกครั้งก่อนที่ราชาทะเลจะพูดขึ้น
“แกคิดว่าแกกําลังขู่ใครหะ ไอ้แม่เยส? ราชาทะเล อย่าไปกลัว เราจะช่วยคุณทําลายเขาหลังจากที่คุณสถาปนาประเทศของคุณแล้ว!”
“คุณหมายถึงอะไรโดยการปกป้อง!? มาเลยมา ออกไปคุยกันข้างนอกหน่อยสิ!”
“ไอ้โง่ที่ไร้ประโยชน์ แกรู้ไหมว่ามันยากเพียงใดสําหรับราชาทะเล? แกไม่มีความเห็นอกเห็นใจและแกคิดจะทําเรื่องยุ่งยาก แกสมควรที่จะตาย ฉันไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว มาเลยมา ออกมาข้างนอกนี้มา!”
จากมุมมองของผู้เล่น ราชาทะเลเป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่พวกเขาคาดหวังมานาน ดังนั้นการไปต่อต้านราชาทะเลก็หมายความว่าจะต้องสู้กับพวกเขาเช่นกัน นั่นคือ
เหตุผลที่พวกเขาทั้งหมดโกรธและพร้อมที่จะพลิกโต๊ะเพื่อเริ่มการต่อสู้
กองกําลังอื่นที่ยืนอยู่รอบๆกําลังไตร่ตรอง ขณะที่ดูฉากเกิดขึ้น
พวกเขาคิดว่าราชาทะเลได้สร้างพันธมิตรกับกองกําลังทรงพลังและกองกําลังที่เคยทําลายล้างเขามาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงประเมินราชาทะเลขึ้นไปอีกระดับ
อย่างไรก็ตามราชาทะเลยังคงงุนงงอยู่ในขณะนี้
เขาสงสัยว่ามีความผิดปกติกับความทรงจําของเขาหรือไม่ เขาจําได้ว่าพวกเขาเป็นศัตรูและเขาก็กําจัดสมาชิกกลุ่มของพวกเขามาก่อน เกิดอะไรขึ้นตอนนี้
มีบางอย่างผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาของพวกเขา พวกเขามองข้าเหมือนการปลอบโยนยังงั้นเหรอ?
ราชาทะเลได้ไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง
“ดี! เนื่องจากพวกเจ้าต้องการที่จะเลือกการต่อสู้ มาเลย” ลั่งเทียรู้สึกโกรธโดยหยิบค้อนขึ้นมาและเดินไปที่ชายฝั่ง
แน่นอนว่าผู้เล่นไม่ได้กลัวอะไรเลย พวกเขาทั้งหมดวางของขวัญลงและตามเขาไปที่ชายฝั่ง
พวกเขาต้องการให้ความรู้กับลั่งเทียเพื่อให้เขาเข้าใจว่าการสูญเสียเป็นอย่างไร
ไม่มีกองกําลังใดที่คาดว่าพิธีจัดตั้งประเทศจะเปลี่ยนเป็นสถานการณ์ปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามพวกเขาอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นว่าสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายเหล่านี้มีความกล้ามาจากไหนที่จะกระตุ้นเกาะลั่งหยา
ดังนั้นพวกเขาจึงติดตามพวกเขาไปที่ชายฝั่งเพื่อเป็นสักขีพยานในความสามารถของพวกเขา
“ท่านราชาทะเล เราควรจะส่งทหารไปช่วยพวกเขาไหม?” จากการสังเกตสถานการณ์ ชาชุยรีบถามราชาทะเล
“ช่วยพวกมันอย่างงั้นเหรอ? ข้าอยากจะช่วยเกาะลั่งหยามากกว่า” ราชาทะเลพูดในขณะที่ทุบโต๊ะอย่างดุเดือด
ชาชุย เฮอชุยและเทียนคุยต่างก็รู้สึกงงงัน
สําหรับลอร์ดที่ยืนอยู่ข้างๆพวกเขาก็ประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน
ราชาทะเลเป็นคนเลือดเย็นหรือปล่าว? เพื่อนของเขาออกไปเพื่อเขา แต่เขาก็คิดจะช่วยศัตรู มันช่างน่าผิดหวัง
“ตามข้ามา ออกไปดูกันเถอะ!” ราชาทะเลตัดสินใจที่จะตรวจสอบพวกมันหลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขากระโดดขึ้นไปในอากาศและราชาอื่นๆก็ติดตามเขามาติดๆด้านหลัง
ในเวลาเดียวกันใกล้กับชายฝั่งของเกาะ
ลั่งเทียและคนของเขามาถึงชายฝั่งก่อน ตามมาด้วยเสียงร้องจอแจของมอนสเตอร์ทะเลนับไม่ถ้วนที่โผล่ออกมาจากทะเลและเริ่มคลานขึ้นฝั่ง
จากนั้นผู้เล่นมาถึง
“ไอ้โง่ ฉันจะให้แกเลือกที่จะต่อสู้บนบกหรือในทะเล!” หลิ่วไช่พูด
ในขณะที่เขาถูกดุอีกครั้ง ลั่งเทียกําลังจะสูญเสียความอดทน เขาหายใจเข้าลึกๆ
“นี่คือดินแดนของราชาทะเล เราจะสู้กันบนทะเล!”
จากนั้นเขาโบกมือทันที ทหารลั่งหยาข้างหลังเขาก็ขี่มอนสเตอร์ทะเลและไปที่ทะเลกันเป็นแถวๆ
ลั่งหยาจ้องมองอย่างดุเดือดไปที่ผู้เล่น
อย่างไรก็ตามเขาตกตะลึงทันที
เหล่าผู้เล่นต่างไปขึ้นกองเรือรบและพวกมันมีจํานวนมาก
ตอนแรกเขาคิดว่าเรือรบเป็นของกองกําลังทั้งหมดที่เข้าร่วมพิธี เขาไม่ได้คาดหวังว่าเรือรบทั้งหมดมาจากคนแปลกหน้าเหล่านี้
ลั่งหยารู้สึกหนักใจทันทีขณะที่เขาสามารถรับรู้สถานการณ์นี้ยังห่างไกลจากที่คาดไว้
กองกําลังที่มีกองเรือรบจํานวนมากเช่นนี้จะไม่อ่อนแออย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมพิธีสถาปนาแห่งชาติเท่านั้น ดังนั้นเรือรบเหล่านี้จึงเป็นเพียงส่วนเล็กๆของกองกําลังนี้แน่ๆ
ลั่งเทียตกใจกับการสันนิษฐานของเขาเอง อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางเลือกให้เขาหนีแล้ว ด้วยกองกําลังมากมายที่เฝ้ามอ งอยู่ ชื่อเสียงวของเกาะลั่งหยาจะถูกทําลายถ้าเขาไม่ต่อสู้ ดังนั้นเขาสามารถกัดฟันและทนรับมัน
อย่างไรก็ตามเขาวางแผนที่จะต่อสู้ในทะเลไว้
เขาชัดเจนเกี่ยวกับพลังของเรือรบเงา กองทัพเรือรบจํานวนมากจะชนะอย่างขาดลอยอย่างนี้นอนหากพวกเขาเริ่มสงครามทางทะเล ดังนั้นเขาจึงหันหัวของเขาเพื่อจ้องมองผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาและมอนสเตอร์ทะเลที่คลานขึ้นมาบนฝั่งอีกครั้ง
กองกําลังด้านหลังก็ตกตะลึงเมื่อพวกเขาเห็นกองเรือรบของผู้เล่น
พวกเขาทราบว่าจะต้องใช้เงินจํานวนมากเพื่อสร้างเรือรบ เงากองเรือรบของผู้เล่นทําให้พวกเขาตกใจ
ในขณะนี้การประเมินของพวกเขาที่มีต่อราชาทะเลเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
ราชาทะเลมาถึงที่เกิดเหตุ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังเมื่อเขาเห็นเรือรบ
เขาจะไม่คุ้นเคยกับเรือรบเหล่านี้ได้อย่างไร? มันไม่มีใครนอกจากพวกเสื่อมทรามที่ขับเรือรบและปล้นเครื่องประดับและวัสดุจิตวิญญาณของเขา
“เดี๋ยวก่อน มีปัญหากับมอนสเตอร์ทะเลของข้า ดังนั้นเราเลือกที่จะต่อสู้บนบกดีกว่า!” ลั่งเทียตะโกนใส่ผู้เล่นหลังจากขึ้นฝั่ง
ผู้เล่นชูนิ้วกลางใส่พวกลั่งเที่ยอย่างพร้อมเพรียงเมื่อได้ยินคําพูดของเขา
“ขยะจะยังคงเป็นขยะอยู่เสมอ..แกมันถูกข่มง่ายเกินไป ช่างอ่อนแอเหลือเกิน!”
“ด้วยพฤติกรรมของแก! แกไม่สมควรที่จะถือรองเท้าของราชาทะเล อย่าไปสร้างความเดือดร้อนอีก ถ้าแกกล้าอีกน่ะ!”
“แกมันน่าอับอาย ความกล้าของแกหายไปไหน?”
“มันน่าอายที่จะต่อสู้กับแก แกเป็นบอสตัวแรกที่เราต้องต่อสู้อย่างง่ายๆด้วย น่าอายจริงๆ”
ใบหน้าของลั่งเทียซีดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของผู้เล่น
อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าเขาจะแพ้อย่างแน่นอนถ้าพวกเขา เริ่มการต่อสู้ในทะเล ดังนั้นเขาสามารถขยี้ฟันของเขาและไม่สนใจมัน
“หยุดพูด! แกกล้าที่จะต่อสู้หรือไม่?
ผู้เล่นหัวเราะคําพูดของเขา
ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาจะไม่ทําในโลกนี้ แม้ว่าเทพอยู่ที่นี่และพูดกับพวกเขาในลักษณะที่หยาบคาย พวกเขาจะยังคงต่อสู้กับเขาแม้ว่าพวกเขาจะแน่ใจว่าพวกเขาจะแพ้
ดังนั้นผู้เล่นกระโดดลงมาจากเรือรบ และรวมตัวกันที่ชายฝั่ง
“ราชาทะเล มันควรจะไม่เป็นไรใช่มั้ยถ้าเราทําให้ที่นี่ยุ่งเหยิง? โปรดอย่าโกรธพวกเราน่ะ” หลิ่วไช่กล่าวกับราชาทะเลด้วยรอยยิ้มก่อนจะเริ่มการต่อสู้
อย่างไรก็ตามราชาทะเลก็ซื้อย่างเย็นชาราวกับว่าเขากําลังบอกว่ายินยอม
“มาเลย มา มันเกือบถึงเวลาแล้ว มาต่อสู้กันเถอะ! เราไม่สมควรถูกเรียกว่าเป็นภัยพิบัติหากเราไม่ตีหัวแกในวันนี้!”
“ฆ่าพวกมัน!” ลั่งเทียที่ถูกเยาะเย้ยอีกครั้งได้คํารามเสียงดังและกองทัพลั่งหยายืนอยู่ข้างหลังเขาพุ่งไปข้างหน้าทันที
“จัดการมันให้จบๆซะ” ผู้เล่นพุ่งไปข้างหน้าตามการพูดของหลิวไช่
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ผู้ชมโดยรอบมุ่งเน้นไปที่การดูว่าฝ่ายไหนจะชนะ
อย่างไรก็ตามไม่นานก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งเข้าสู่ภาวะช็อก
ทักษะของผู้เล่นนยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่คาดไว้
แม้ว่ากองทัพลั่งหยานั้นมีจํานวนน้อยมาก แต่ทักษะการต่อสู้ของพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าผู้เล่น
“ท่านราชา สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เราควรส่งความช่วยเหลือไปช่วย” เมื่อชาชุยเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็พูดกับราชาทะเลอย่างรวดเร็ว
“กองทัพจากเกาะลั่งหยาจะแพ้พวกมัน!” ราชาทะเลกล่าวอย่างเย็นชาในขณะที่มองดูกองกําลังทั้งสองในการต่อสู้
มันคุ้นเคยกับกลยุทธ์การต่อสู้ของกองกําลังนี้
คนเลวเหล่านี้ไม่กลัวที่จะทิ้งชีวิตของพวกเขา กองทัพลั่งหยาอาจมีอาการทางจิตหากพวกเขาเลือกที่จะต่อสู้กับพวกมัน
อีกครั้งที่เฮอชุยและคนอื่นๆรู้สึกผิดหวังที่ราชาทะเลปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ พวกเขารู้สึกว่าราชาทะเลนั้นเลือดเย็นเกินไป
บนชายฝั่ง
ลั่งเทียมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากด้านของเขาดูเหมือนจะเหนือกว่า
เขาเตรียมจิตใจของเขาในการสูญเสียและจะกลับโดยไม่เหลืออะไร อย่างไรก็ตามเพื่อความประหลาดใจของเขา สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อ่อนแอในการต่อสู้ภาคพื้น เขารู้สึกโชคดีที่เลือกที่จะต่อสู้บนบก
ความเชื่อมั่นของลั่งเทียเพิ่มขึ้นอย่างมาก เขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะยอมแพ้ในไม่ช้า ภายใต้การโจมตีของกองทัพลั่งหยา
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปและลั่งเทียต่อสู้มากขึ้น เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาตระหนักว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่กลัวที่จะเสียสละชีวิตของพวกเขา
พวกมันยังคงมุ่งหน้าต่อสู้ตรงๆ โดยปราศจากการสนใจในการป้องกัน พวกมันยังโจมตีเรื่อยๆในลักษณะที่ว่าพวกมันจะฟันจนกว่าพวกมันจะตาย
นอกจากนี้ทักษะของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็มีลักษณะแปลกประหลาดเช่นกัน พวกมันมีกลยุทธ์ทุกประเภทเช่นการรักษา การควบคุม การลอบสังหารและการโจมตีแบบซึ่งหน้า
สิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดคือเมื่อใดก็ตามที่สหายของพวกเขาพ่ายแพ้ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะไม่สนใจแม้แต่น้อย แต่พวกมันจะยังคงพุ่งไปข้างหน้าเหมือนปีศาจที่บ้าคลั่ง
ในการต่อสู้ครั้งนี้ ยิ่งกองทัพลั่งหยาต่อสู้ไปนานเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อยมากขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ยังคงมีพลังงานเหลือเยอะมาก
กองกําลังทั้งหมดในที่เกิดเหตุประหลาดใจกับจิตวิญญาณอันบ้าคลั่งของคนเหล่านี้
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นเพียงข้อพิพาทเล็กน้อยที่เกิดจากความรู้สึกส่วนตัว พวกเขาคิดว่ามันจะเทียบเท่ากับการสาธิตศิลปะการต่อสู้และเป็นเพียงการต่อสู้แบบทางการเท่านั้น พวกเขาคาดหวังว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยอมแพ้ในที่สุด อย่างไรก็ตามนี้ไม่ใช่กรณีเช่นนั้น
เมื่อมองดูการต่อสู้ของผู้เล่น พวกเขาสรุปได้อย่างรวดเร็วว่านี่ไม่ใช่การสาธิตศิลปะการต่อสู้ จริงๆแล้วพวกเขาวางชีวิตของพวกเขาไว้ในการต่อสู้
ยิ่งพวกเขาต่อสู้มากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งอ่อนล้าและเริ่มกลัว ในตอนนี้ลั่งเทียต้องการที่จะดุ “พวกแกไม่เห็นคุณค่าชีวิตของพวกแกเลยหรือไงนะ?”
ผู้เล่นไม่กลัวที่จะเสียสละชีวิตจริงๆ สําหรับพวกเขาความตายเป็นเพียงการรอสามชั่วโมง สิ่งที่พวกเขาต้องการทํามากที่สุดในตอนนี้คือการเอาชนะลั่งเทียอย่างเด็ดขาดจนกระทั่งใบหน้าของเขาถูกทําลาย
เมื่อการต่อสู้มาถึงสามชั่วโมง ลั่งเทียตระหนักว่ากองทัพ ลั่งหยาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาอ่อนแอลงอย่างมาก
ความตายของสหายของพวกเขาทําให้พวกเขามีภาระทางจิตใจจนมากเกินไป
ลั่งเทียรู้ว่าการต่อสู้ไม่สามารถดําเนินต่อไปได้อีก
ปัจจุบันสภาพจิตใจระหว่างทั้งสองฝ่ายอยู่ในแนวตรงกันข้าม กองทัพลั่งหยาจะถูกสังหารอย่างสมบูรณ์ หากการสู้รบยังดําเนินต่อไป
เขาตะโกนอย่างรวดเร็ว “เรายอมแพ้! ยอมแพ้!”
อย่างไรก็ตามผู้เล่นจะเห็นด้วยกับการยอมแพ้ของลั่งเทียได้อย่างไรใช่มั้ย?
นี่เป็นเพราะพวกเขาตระหนักว่ากองทัพลั่งหยาได้ให้คะแนนประสบการณ์และเหรียญวิญญาณจํานวนมากให้กับพวกเขา พวกเขาจะได้รับสิ่งเหล่านี้จากที่ใดถ้าพวกเขาหยุดการต่อสู้ตอนนี้ใช่มั้ย?
ดังนั้นผู้เล่นจึงเลือกที่จะเพิกเฉยต่อการยอมแพ้และโจมตีต่อไป
ขวัญกําลังใจของกองทัพลั่งหยาลดลงเมื่อได้ยินเสียงตะโกนยอมแพ้ของลั่งหยา ผู้เล่นเริ่มคลื่นการโจมตีลูกใหม่ไปแต่กองทัพลั่งหยาไม่สามารถปลดปล่อยความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาได้อีกต่อไป
พวกเขามีอาการจิตใจแตกสลาย
“หยุด! เรายอมแพ้! ดังนั้นไม่ควรมีความขุ่นเคืองใดๆระหว่างเราอีกต่อไป!” เมื่อลั่งเทียเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตะโกนอีกครั้งในความพยายามที่จะหยุดผู้เล่นจากการโจมตี:
“ฉันต้องการฆ่าอีกสักสามตัวก่อนจะเลเวลอัพ แกบอกว่าต้องการยอมแพ้งั้นเหรอ? ปฏิเสธเว้ย ปฏิเสธ
“ฉันปฏิเสธที่จะยอมรับการยอมจํานนของแก ต่อสู้ต่อไป! บ้าเอ้ย ฉันยังไม่ได้รับเหรียญวิญญาณเพียงพอเลย!”
“แกหมายถึงอะไรโดยการขอให้เราหยุดในช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของเรา? ฉันปฏิเสธ!”
“เหี้ย แกไม่มีสิทธิ์หยุดเราได้ แกคิดว่าแกเป็นใคร? มา มอบฉันดีๆมา!”
“ฉันไม่ฟัง! ฉันไม่ฟัง!”
ปฏิเสธที่จะคืนดี ผู้เล่นยกอาวุธและพุ่งเข้าหากองทัพลั่งหยาในขณะที่ตะโกนเสียงคํารามเสียงดัง
กองกําลังที่กําลังเกตการณ์อยู่มีเหงื่อเย็นหยดลงมาที่หน้าผาก
ปัจจุบันพวกเขาติดป้ายผู้เล่นว่าอันตรายอย่างยิ่ง
สหายหลายคนของพวกเขาเสียชีวิต แต่พวกเขายังคงตะโกนบ้าอะไรก็ไม่รู้
สําหรับพวกเขา มันไม่ใช่การต่อสู้ มันเป็นงานรื่นเริงสําหรับกลุ่มของโรคจิต!
แม้แต่กองกําลังบางส่วนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นทหารผ่านศึกต่อสู้ในภูมิภาคมหาสมุทรคุณหลงก็มีความปรารถนาที่จะปกปิดใบหน้าของพวกเขาหลังจากได้เห็นความบ้าคลั่งของผู้เล่น
พวกเขาเปรียบเทียบกับผู้เล่น ผู้เล่นควรถูกตั้งชื่อว่าทหารผ่านศึกต่อสู้แทน ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่สนใจชีวิตของสหายในระหว่างการต่อสู้ พวกเขาไม่สนใจชีวิตของพวกเขาเช่นกัน พวกเขาบ้าไปแล้วจริงๆ
การแสดงของผู้เล่นอาจกล่าวได้ว่าทําให้มีการเปลี่ยนแปลงมุมมองของแขกในที่เกิดเหตุอย่างสิ้นเชิง