The Boss Behind The Game – ตอนที่ 245 : เราคือเครื่องจักรสังหารและพวก เราไม่กลัวตาย (พาร์ท 3)

ตอนที่ 245 : เราคือเครื่องจักรสังหารและพวก เราไม่กลัวตาย (พาร์ท 3)
 
ปราชาแห่งภูตเฟินสุยช็อคเมื่อเจอกับคําถาม
 
“ใต้เท้า ข้าได้ตรวจสอบตําแหน่งของผนึกไปบ้างแล้ว และข้าก็พบว่าผนึกทั้งหมดถูกทําลาย หายนะพวกนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน!”
 
หยวนซูโกรธมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น
 
เขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนที่คิดจะรั้งเขาเอาไว้แม้ ว่าเขาเพิ่งจะถูกปล่อยออกมาจากคุกไม่นาน
 
คนแรกที่เข้ามาในหัวของหยวนซูก็คือตัวของชางสือเอง ผู้ที่กําราบเขาและแย่งบันลังก็ไป
 
ภายหลังหยวนซูนั้นไม่เห็นด้วยกับความคิดของตัวเองเนื่องจากมันเกินจากความเป็นจริงมากเกินไป
 
เขารู้ดีว่าชางสือนั้นตายไปนานแล้วและดวงวิญญาณของ เขาก็ได้ก้าวข้ามสะพานแห่งความหลงลืมไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับมาในตอนนี้
 
เนื่องจากชางสือนั้นได้ต่อต้านสวรรค์ เทพแห่งสวรรค์ไม่มีทางที่จะปล่อยเขาไปง่ายๆแม้ว่าเขาจะตายไปแล้วก็ตาม
 
แต่หยวนซูก็คิดถึงใครไม่ออกที่จะมาขัดขวางเขานอกจากชางสือ
 
เวลาผ่านมานับแสนปีและศัตรูทั้งหมดของเขาก็ได้จากไปหมดแล้ว แม้แต่ภัยที่ใหญ่ที่สุดก็จากไปแล้วเช่นกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยังหลงเหลือศัตรูอยู่ในเวลานี้
 
หยวนซูเองยังมั่นใจว่าบัลลังก์จะต้องตกไปเป็นของเขา หลังจากที่ได้ทําความเข้าใจกับสถานการณ์ของดินแดนชางสื่อในปัจจุบันนี้แล้ว
 
“ใต้เท้า ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ข้าได้พบว่าความคิดปิศาจของเทพปีศาจที่ชั่วร้ายได้กําเนิดขึ้นแล้ว!” เฟินสุย ราชาแห่งภูตพูดขึ้นมาอีกครั้ง
 
“ว่ายังไงนะ?” สีหน้าของหยวนซูตึงเครียดเมื่อได้ยิน
 
เทพปีศาจชั่วร้ายเคยติดอยู่ใน 100 อันดับสูงสุดแห่งรายชื่อเทพของอันเดอร์เวิลด์และพลังของเขายังเหนือว่าระดับเทพโบราณ เขายังเป็นผู้ก่อตั้งดินแดนอันกว้างใหญ่นี้อีกด้วย ดังนั้น หยวนซูจึงมีสีหน้าที่ย่ำแย่เมื่อเขารู้ว่าความคิดปิศาจได้ถือกําเนิดขึ้น
 
“ตอนนี้เขากําลังทําอะไรอยู่?”
 
“เขากําลังรวบรวมกําลังพลและขยายกองทัพ เป้าหมายของเขามันชัดเจน!” เฟินสุยตอบด้วยความเศร้า
 
“มันเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวความคิดของปิศาจ มันกล้าดียังไงจึงคิดที่จะมาแย่งชิงบัลลังก์กับข้า? ช่างกล้าทําอะไรที่เกินความสามารถของตัวเองจริงๆ!” หยวนซูพูดออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง
 
“แต่ ใต้เท้า ความคิดปิศาจนี้ถูกทิ้งไว้โดยเทพปีศาจชั่วร้ายก่อนที่เขาจะเข้าสู่การเป็นเทพ อย่างน้อยมันก็น่าจะอยู่ในระดับจักรพรรดิภูต ยิ่งกว่านั้น มันยังเรียกได้ว่าเป็นอัน เดดไม่อย่างนั้นราชาองค์แรกก็คงฆ่ามันไปแล้วแทนที่จะผนึกมันเอาไว้แทน ข้าเกรงว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากในการต่อกรกับมัน!”
 
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะผนึกมันกลับไปอีกครั้ง มันกล้าดียังไง จะมาสู้กับข้า? มันจะต้องเสียใจ!”
 
แสงสว่างที่เย็นชาส่องออกมาจากดวงตาของหยวนซู จากนั้นเขาก็ตรงไปที่ปราสาทใหม่ที่กําลังก่อสร้างอยู่
 
เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็มองเขาด้วยสายตาที่เป็นกังวล
 
ที่พวกเขาปรารถนาที่จะรับใช้หยวนซูนั้น ไม่ใช่เพียงเพราะว่าพวกเขากลัวพลังที่ยิ่งใหญ่ แต่พวกเขายังเห็นหยวนซู เป็นเสาหลักในการสนับสนุนและอยากจะพัฒนาตัวเองภายใต้การนําทัพของเขาอีกด้วย
 
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็เหมือนจะอยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกเขา แผนการเข้ายึดดินแดนแห่งชางสือของพวกเขาต้องพบเจอกับปัญหามากมายที่คาดไม่ถึง
 
พวกเขารู้สึกหลงทางเนื่องจากพวกเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าจะต้องทําอย่างไรต่อไปภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
 
ถ้าหากว่าราชาที่ชั่วร้ายมีความสามารถในการสร้างกองทัพขึ้นมาจริงๆ พวกเขาก็จะต้องเข้าสู่สงครามเช่นกันเพราะว่า พวกเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
 
พวกเขานั้นไม่ได้กังวลกับสงคราม แต่เป็นเพราะพวกเขาอาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไรถ้าหากยอมก้มหัวให้กับหยวนซู การเอาผู้ใต้บังคับบัญชาและชีวิตของตัวเองเข้าไปต่อสู้เพื่อหยวนซูเพื่อบัลลังก์นั้นดูไม่คุ้มค่ากับพวกเขา
 
ไม่ว่ายังไง สงครามก็จะนําความตายมาให้พวกเขา!
 
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นตระกูลที่ใหญ่โต การที่จะต้องถูกทําลายในสงครามขนาดใหญ่นี้ก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
 
ดินแดนชางสือ แถบมังกรลับแล
 
รูปปั้นพระพุทธรูปเข้าโจมตีจากระยะไกลและพุ่งเข้าใส่หมู่บ้านมังกรลับแลอย่างรวดเร็ว
 
เมื่อได้เห็นรูปปั้น เหล้าผู้เล่นก็เริ่มตะโกนและบอกกล่าว กันในช่องแชทเพราะพวกเขาคิดว่ามหายนะเพิ่มขึ้นมาอีกที่นี่
 
รูปปั้นนั้นพุ่งตรงลงมาที่กลางหมู่บ้านด้วยแรงระเบิด ทําให้เกิดเศษดินและฝุ่นคลุ้งไปทั่ว
 
ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าผู้เล่น แสงแฟลชก็พุ่งผ่านรูปปั้นหินไปและค่อยๆกลางรูปร่างเป็นสิ่งมีชีวิต
 
“บอกข้ามาว่าหัวหน้าของเจ้าเป็นใคร!” รูปปั้นหินพูดขึ้นทันที เสียงของมันดูทรงเกียรติ
 
เหล่าผู้เล่นไม่ชอบใจกับเสียงที่ดูหยิ่งผยองของรูปปั้น พวกเขาพร้อมที่จะคุยกับรูปปั้นด้วยความรุนแรงก่อนที่จะมีผู้เล่นบางคนที่ได้ดูคําอธิบายพูดขึ้นมาในช่องแชท
 
“หยุดก่อน อย่าทําอย่างนั้น! เขาคือราชาแห่งความชั่วร้าย!”
 
“ช้าก่อน พี่น้อง เขาเป็นพวกเรา พวกเดียวกับเรา!”
 
“เขาจะมาเป็นคุณพ่อที่แสนหวานในอนาคตของพวกเรา บอสที่พวกเราต้องพึ่งพาเขา อย่าไปทําอะไรโง่ๆนะ!”
 
“บ้าเอ้ย ไอ้คนที่ถือดาบอยู่นะกลับมานี่เลย เขาเป็นบอสในอนาคตของเรา ทําให้มันดีๆหน่อย!”
 
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนผ่านเข้ามาในช่องแชท ผู้เล่นที่เตรียมตัวจะเข้าโจมตีก็หยุดทันที่หน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในทันทีขณะที่มองไปที่ราชาที่ชั่วร้ายด้วย สายตาที่ไม่รู้ถึงจุดประสงค์
 
ราชาที่ชั่วร้ายตะลึงเมื่อได้เห็น
 
เขาไปมาหลายที่เพื่อการรวบรวมกําลังพล การที่ได้เจอกันในครั้งแรกกับกองกําลังอื่นๆนั้นเริ่มต้นด้วยการต่อสู้ เพราะไม่มีใครที่จะยอมก้มหัวให้กับเขา
 
เขาคิดว่าที่นี่ก็จะเป็นเช่นเดียวกันและเหล่าผู้เล่นก็ทําท่าที เช่นนั้น แล้วทําไมพวกเขาจึงหยุดกลางคัน?
 
หลี่ซิง เจสัน และผู้เล่นคนอื่นๆรีบตรงมาที่นี่ในทันทีเมื่อ พวกเขาทราบข่าว พวกเขาวิ่งฝ่าฝูงชนขึ้นมาด้านหน้าของราชาที่ชั่วร้าย
 
“ข้าคือผู้นํา!” หลี่ซึ่งเป็นคนแรกที่ตะโกนออกไป
 
หลังจากที่ได้รับคําแนะนําของหยินเสี่ยวชมา ผู้เล่นจากเซิฟเวอร์ยุโรปก็ตัดสินใจกันว่าพวกเขาจะต้องมีผู้นําเพื่อที่จะเข้าร่วมกับกองกําลังของราชาที่ชั่วร้าย
 
กิลด์ซีโร่นั้นเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเซิฟเวอร์ยุโรปโดย ไม่มีข้อกังขาใดๆ ดังนั้นการที่ให้หัวหน้ากิลด์ หลี่ซิง นั้นขึ้น เป็นผู้นําของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่ผู้เล่นต่างคาดหวัง
 
เมื่อมองไปที่ผู้นําของพวกเขา ดวงตาของราชาชั่วร้ายก็ปรากฏแสงสีแดงขึ้น
 
“ดีมาก ตอนนี้เจ้ามีตัวเลือกอยู่ 2 ทาง! สาบาน ความภักดีต่อข้า หรือตาย!” แรงกดดันก็ได้แผ่ออกมาจากราชาชั่วร้ายขณะที่เขาพูด
 
ในจังหวะที่เขากําลังจะสร้างแรงกดดันให้กับผู้เล่นรอบๆ หลี่ซิงก็ตอบทันที “พวกเราเผ่าผู้เล่น เลือกที่จะสาบาน ความภักดี!”
 
แรงกดดันที่เข้มข้นจากราชาชั่วร้ายหายไปทันที
 
ท่าทีของผู้เล่นนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้แม้แต่ น้อยเขาไม่ค่อยชินกับการกระทําเช่นนี้
 
เขาเองก็กําลังตรึงกําลังเพื่อยึดพื้นที่ แต่ขั้นตอนในการยอมแพ้นี้มันเรียบง่ายเกินไปจนเราทําเขาเริ่มสับสน
 
“ พวกเจ้าจงเรียกข้าว่าราชาชั่วร้าย พวกเจ้าทุกคนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้านับแต่นี้ไป เป้าหมายของข้าก็คือการเป็นราชาองค์ใหม่ของดินแดนชางสือ!” ราชาชั่วร้ายพูดขึ้น อีกครั้งหลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง
 
ตอนแรกเขาคิดว่าผู้เล่นจะต้องช็อคหรือต่อต้านจุดประสงค์ที่บ้าคลั่งของเขา
 
อย่างไรก็ตาม การกําจัดเผ่าหรือตระกูลที่ขวางทางการขึ้น คลองบัลลังก์นั้นเป็นเรื่องที่หลบเลี่ยงไม่ได้เพราะมันจะต้องมีสงครามขนาดใหญ่
 
หลี่ซึ่งพยักหน้าและพูดว่า “เผ่าของเราจะทําตามประ สงค์ของราชาชั่วร้ายอย่างเต็มที่เพื่อที่ท่านจะได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์!”
 
“พวกเจ้าไม่กลัวหรือ?” ราชาชั่วร้ายขมวดคิ้ว
 
“ไม่… พวกเขา เผ่าผู้เล่นไม่กลัวต่อความตายและพวก เราเป็นเครื่องจักรแห่งสงคราม มันจะเป็นเกียรติอันสูงสุดของพวกเราที่จะได้ตายในสนามรบ!”
 
ราชาชั่วร้ายเงียบไปเมื่อหลี่ซิงตอบ
 
หลังจากที่คุยกับหลี่ซิงแล้ว ความคิดแรกของราชาชั่วร้าย คือเผ่านี้ต้องอ่อนแอและมีพลังการต่อสู้ที่ต่ำ
 
แต่กองกําลังที่เขาได้เจอมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดนั้นดูแข็งกร้าวและพวกเขาไม่ได้เต็มใจที่จะรับใช้เขา เขาไม่สามารถทําให้พวกเขายอมจํานนต่อเขาโดยที่ไม่ต้องใช้พลังที่ยิ่งใหญ่ของ เขาได้
 
สําหรับราชาชั่วร้ายนั้น ความตรงไปตรงมาของหลี่ซิงนั้น ทําให้เขาคิดได้ว่าพวกเขานั้นเป็นพวกที่อ่อนแอ
 
แต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่หลี่ซิงบอกว่าพวกเขานั้นเป็นเหมือนกับเครื่องจักรสงครามโดยที่ไม่กลัวต่อความตายและการที่ได้ ตายในสนามรบนั้นเป็นเกียรติความประทับใจของราชาชั่วร้ายนั้นกลับแย่ลงกว่าเดิม
 
แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอ แต่ข้าจะมอบสิ่งที่พวกเขาอวดเบ่งว่าเก่งนักหนาให้ นี่เป็นความประทับใจแรกของราชาชั่วร้ายที่มีต่อเหล่าผู้เล่น
 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset