ตอนที่ 5 : ประสบการณ์
“ฉันจำเป็นต้องทำ! แม้ว่าร่างกายของเขาในอันเดอร์เวิลด์จะถูกสร้างขึ้นจากพลังงานหยิน แต่เมื่อวิญญาณของเขากลับเข้าสู่ร่างกายที่แท้จริงแล้ว มันจะเกิดผลข้างเคียงต่อสภาพจิตใจ ซึ่งมันจะบรรเทาลงหลังจากพักฟื้นประมาณสองชั่วโมง”
คำตอบของเป่ยลี่ทำให้ลู่หวู่ถึงกับพูดอะไรไม่ออก แล้วเขาก็ยิ้มพร้อมกับลูบหัวเป่ยลี่ “เธอคือของขวัญที่ดีที่สุดที่บรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ให้ฉัน!”
เป่ยลี่หน้าหน้าแดงกล่ำ เธอถอยหลังออกมาแบบอายๆ
“เอ้อ.. ใช่ เลเวลของผู้เล่นจะลดลงไหมถ้าร่างกายของพวกเขาที่ทำจากพลังงานหยินสลายไป?”
ลู่หวู่คิดถึงปัญหาหลักๆ มันคงจะน่าเศร้าสำหรับเหล่าผู้เล่นที่จะต้องสูญเสียทุกๆอย่างที่หามาอย่างยากลำบากเพื่อเลื่อนระดับเลเวล ในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุ
“ไม่ใช่อย่างนั้น พลังงานวิญญาณจะกู้มันคืนกลับมา ฉันได้เปลี่ยนการตั้งค่าของสิ่งประดิษฐ์เพื่อที่ว่าเมื่อผู้เล่นตาย พลังงานวิญญาณในตัวของพวกเขาจะไม่ถูกลบไป มันจะถูกบันทึกไว้ในเซิฟเวอร์ของแบทเทิลออนไลน์และเมื่อผู้เล่นเกิดใหม่ พวกเขาจะถูกส่งไปที่ร่างใหม่โดยอัตโนมัติ”
ลู่หวู่ก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งสำคัญเหล่านี้จะหลุดรอดไปจากความคิดของเป่ยลี่เช่นกัน เขาอุ้มเป่ยลี่ขึ้นมาอย่างตื่นเต้นและหอมเธอฟอดใหญ่ “ฮ่าฮ่า เธอที่มันสุดยอด!”
เป่ยลี่งุนงงจากการหอมนั้น และดูเหมือนว่าเธอแทบจะเป็นลมได้ในทุกวินาที เมื่อลู่หวู่เห็นแบบนั้น เขาก็ขำออกมาดังลั่นอีกครั้ง
ในขณะนั้น สิ่งประดิษฐ์ก็ยังคงส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่อง:
ดูจากข้อความ มีผู้เล่นมากกว่าสิบคนที่ได้ลงทะเบียนเข้าสู่เซิฟเวอร์ ลู่หวู่ค่อนข้างประหลาดใจ
ด้วยการชักชวนของหวังต้าหมาง เพื่อนร่วมทีมของเขาก็สวมใส่อุปกรณ์และเลือกไปที่ไอค่อนของเกมแบทเทิลออนไลน์ พวกเขานั้นเตรียมตัวมาเต็มที่เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเพื่อนเขานั้นคิดผิดแล้ว
สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือ พวกเขาได้พบเจอกับความตกตะลึงเช่นเดียวกับหวังต้าหมางเมื่อตอนที่เขาเข้าเกมมาครั้งแรก
ความสมจริงของกราฟฟิคทำให้พวกเขาถึงกับตะลึงในความเงียบ หลังจากที่พวกเขาได้เลือกคลาสที่พวกเขาชอบแล้ว พวกเขาก็ได้รับภารกิจเดียวกันกับที่หวังต้าหมางได้รับมา
เสียงอุทานดังออกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อพวกเขาจ้องดูไปที่เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บนร่างกายของพวกเขาและภาพบรรยากาศรอบๆตัว พวกเขาพูดอะไรไม่ออก
“สุดดด เกมนี้มันสุดยอดจริงๆ บริษัทอะไรกันนะที่ทำได้ขนาดนี้? วงการอุตสาหกรรมเกมจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้!”
“มันเจ๋งสุดๆ แต่ฉันรู้สึกว่า 10,000 เหรียญทองของฉันค่อยๆไกลออกไป! ฉันรู้สึกอยากออกเกมนิดหน่อย แต่ฉันเปลี่ยนใจละ”
หลังจากการปรึกษาหาเรื่องกันครั้งใหญ่ พวกเขาก็รีบเตรียมตัวเพื่อที่จะไปสำรวจเกมนี้
ในใจของหวังต้าหมางเต็มไปด้วยความคับข้องใจเมื่อเขาคิดถึงเวลาที่เหลืออีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งในการเกิดใหม่ เขารู้สึกเหมือนอยากจะตะบันหน้าผู้สร้างกฎๆนี้
ในขณะเดียวกันนั้นอีกสิบกว่าคนที่เหลือก็มีความสุขกับการมีอยู่ของสองดวงวิญญาณเพนจรในเกม
เฉนซีหยูพูดขึ้นว่า “พรรคพวก เอาสองดวงนี้ให้ฉันเถอะ ฉันได้ฆ่าไปแล้วแปดตัว ให้ฉันทำภารกิจให้สำเร็จเพราะมันจะช่วยให้ความแข็งแกร่งของทีมเราเพิ่มขึ้น”
หวังเช่าพูดว่า “ ถอยไปเลย ฉันมีสามแล้ว นายรู้วิธีเล่นตามกฎไหม? หรือนายอยากโดนลงโทษแทนกันแน่?”
ซูฉีตัดบทว่า “ในเมื่อฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวในทีมนี้ สหายที่รักทั้งหลายปล่อยมันให้ฉันได้ไหม?”
คนอื่นๆไม่ได้สนใจการอ้อนวอนของเธอ ในเมื่อพวกเขาแต่ละคนนั้นก็ต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ตัวเอง พวกเขาคงไม่ได้หลงไหลกับคำพูดจากสาวสวยง่ายๆ
ทั้งทีมเริ่มทะเลาะกันเองเพื่อวิญญาณพเนจรทั้งสองดวง
แต่ในท้ายที่สุด คนที่ได้ไปก็คือเฉินซีหยู ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทีม เส้นดำๆสองเส้นรวมตัวกันจากวิญญาณพเนจรวิ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา
แถบค่าประสบการณ์พุ่งขึ้นมา
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้เลเวลอัพ ได้รับความแข็งแกร่ง 2 หน่วย]
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณทำภารกิจเสร็จสิ้น ได้รับ 5 เหรียญวิญญาณ]
จากการตั้งค่าของเป่ยลี่ เมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นได้กำจัดสิ่งมีชีวิตลง พลังวิญญาณภายในสิ่งมีชีวิตนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน
60% ของมันจะเพิ่มเป็นค่าประสบการณ์ของผู้เล่น 10% จะถูกเก็บไว้ในช่องเก็บของๆผู้เล่น เป็นเหรียญวิญญาณ และอีก 30%ที่เหลือจะถูกเก็บจากสิ่งประดิษฐ์กลายเป็นรายได้ส่วนตัวของลู่หวู่
ในเวลาครึ่งชั่วโมง ผู้เล่นได้กำจัดวิญญาณพเนจรไปสามสิบตัวถ้วน วิญญาณพเนจรแต่ละตัวจะให้เหรียญวิญญาณ 3 เหรียญแก่ผู้เล่น ในขณะที่อีก 27 เหรียญที่เหลือจะเข้าไปที่ลู่หวู่ แต่ในจำนวนเหรียญที่เหลืออยู่นั้น 5 เหรียญได้กลายเป็นรางวัลของเฉินซีหยู
ลู่หวู่เต็มใจลงทุนกับคนพวกนี้โดยไม่เสียใจ เพราะว่าพวกผู้เล่นที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จำนวนการฆ่าก็เพิ่มขึ้นตามโดยธรรมชาติ ดังนั้นรายได้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นตาม
“สุดยอด ฉันรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้น!” เฉินซีหยูจ้องไปที่ร่างกายที่น่าเกรงขามของเขา เพราะมันช่างยากเย็นกว่าเขาจะได้รับมันมา
“หมายความว่ายังไงเหรอ? ไม่ใช่ว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพี่ที่จะแข็งแกร่งขึ้นหลังจากเลเวลสูงขึ้นหรอกเหรอ?” ซูฉีกล่าว
เฉินซีหยูเงียบไปสักพัก “เกมนี้มันน่ากลัวจริงๆ ในเกมอื่นๆ เมื่อเลเวลสูงขึ้น คุณสมบัติของพวกนายก็จะเพิ่มขึ้น แต่จะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย กลับกัน นายจะพบว่ามีเพียงพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่เมื่อนายเลเวลสูงขึ้นในเกมนี้ นายจะรู้สึกว่าร่างกายมันแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ นี่มันเหลือเชื่อ!”
ซูหลี “เป็นไปไม่ได้หรอก นั่นมันเรื่องโกหก นายจะบอกว่าพวกเราสามารถรู้สึกถึงพลังจริงๆในเกมนี้เหรอ?”
เฉินซีหยูพยักหน้า “ฉันรู้สึกว่ามันเป็นไปได้ พลังที่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะครอบครองในชีวิตจริง สามารถทำได้ในเกม นี่มันเหลือเชื่อสุดๆ”
หวังช่าวไม่สามารถหยุดตัวเองให้พูดได้ “เดี๋ยวเราค่อยว่ากัน คนต่อไปที่จะเลเวลอัพคือฉันเอง”
“ไปให้พ้นเลย!” ทุกคนตะโกนออกมาด้วยความพร้อมเพรียงกัน