พระอาทิตย์ค่อยเคลื่อนตัวขึ้นมาจากขอบฟ้า สาดแสงย้อมภูเขาชาชีโตที่ปกติแล้วจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปีให้กลายเป็นสีแดง
กู่หยู(อินวิสิเบอร์_โลนลิเนส) กางแขนยืดอกกว้างต้อนรับอรุณที่น่าอัศจรรย์ของธรรมชาติในโลกที่แสนเงียบสงบใบนี้ แก้มของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงจากอากาศที่หนาวเย็น เขาดื่มด่ำกับธรรมชาติในช่วงเวลานี้ แม้ว่ามันจะเข้าใจได้ยาก แต่ทั้งหมดมันก็แสดงออกผ่านสายตาของเขา
กู่หยูยืนอยู่บนยอดผาที่สูงที่สุดและมองลงมา หมอกสีแดงเลือดเคลื่อนตัวเหมือนกับคลื่นในทะเล ภูเขารอบๆมองดูเหมือนมังกรหิมะ ลมที่หนาวเย็นพัดแรงกระทบกันจนมีเสียงคล้ายกับเสียงคำรามของมังกรที่โกรธเกรี้ยว
เมื่อเขามองไปที่สมาชิกทีมที่อยู่ด้านหลัง สีหน้าของกู่หยู่แสดงออกถึงความไร้พลัง
มันเป็นคำสั่งจากพ่อของเขาให้ปีนเขาไปที่จุดสูงสุดของภูเขาชาชีโต เขาไม่มีทางเลือกนอกจากน้อมรับคำสั่งและผ่านมาจนถึงที่นี่
ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะขังตัวเองอยู่ที่บ้านเล่นแบทเทิลออนไลน์ ในขณะเดียวกันนั้นเขาก็สามารถเก็บรวบรวมเหรียญวิญญาณเพื่อเพิ่มระดับเลเวลให้กับตัวละครของเขา นั่นทำให้เขามีความสุขมากขึ้นไปอีก
พ่อของเขาเป็นผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์นับไม่ถ้วน
สืบเนื่องจากพ่อของเขา เขาเคยเป็นนักกีฬาผาดโผนธรรมดาคนหนึ่ง ปีหนึ่ง เขาได้มาที่ภูเขาชาชีโตกับทีมของเขาเพื่อทำภารกิจท้าทายด้วยการร่อนลมที่ใส่ชุดติดปีก(บินเหมือนกระรอกบิน) ซึ่งมีสปอนเซอร์จากบริษัทเครื่องดื่มนม
เมื่อพ่อของเขาปีนขึ้นไปถึงยอดเขา เขาได้พบกับชายลึกลับคนหนึ่ง เขาเป็นผู้ชี้นำและอวยพรให้ผู้ชายคนนี้ได้ประสบความสำเร็จในวันนี้
ผู้ที่เชื่อว่าพระเจ้านั้นไม่มีจริงอย่างกู่หยูจึงไม่ได้จริงจังกับคำเล่าที่พ่อของเขาได้เล่าให้เขาฟัง เขาคิดกับมันเหมือนเป็นแค่เรื่องแต่งในนิยาย
โดยทั่วไปแล้วเขาไม่เชื่อในเรื่องการมีตัวตนของผู้วิเศษหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งของพ่อได้ เขาจึงได้มาอยู่ที่นี่ แบกคำขอของพ่อด้วยความเชื่อฟัง
พ่อของกู่หยูได้จ่ายเงินของเขาเพื่อจ้างทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อดูแลและช่วยเหลือเขาในการผจญภัยไปสู่ยอดเขา ในชณะเดียวกัน เขาเองก็ได้รับหยกชิ้นหนึ่งมาจากพ่อของเขา เขาจะต้องนำหยกนั้นออกมาแสดงเมื่อเขาถึงที่ยอดเขาเพื่อนที่จะได้พบกับชายลึกลับคนนั้น
ความตื่นเต้นของกู่หยูเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาเข้าใกล้ยอดเขา
เขารู้อยู่แล้วว่าทำไมพ่อของเขาถึงชอบกีฬาผาดโผน มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับความสำเร็จในการพิชิตธรรมชาติ
เมื่อเขาก้าวขึ้นไปที่ยอดเขาและมองลงมา เขาได้เห็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและเมฆ เขาได้ร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นเต้น
ในตอนนั้น กู่หยู่ได้สังเกตเห็นหยกในกระเป๋าเสื้อของเขาเรืองแสงออกมา ที่กระท่อมไม้บนยอดเขา มีชายคนหนึ่งแต่งตัวมอมแมมนั่งไขว่ห้างลืมตาขึ้นช้าๆ
“นี่มันสุดยอด! ฮี่ฮี่ มีคนเคยบอกว่าภูเขาที่ผาแห่งความสิ้นหวังนั้นสูงกว่าที่นี่อีก ฉันจะต้องพิชิตมัน!” กู่หยูบ่นพึมพำคนเดียวด้วยความตื่นเต้น
เขาเพียงมาที่นี่เพื่อเป็นอนุสรณ์เท่านั้น
เมื่อมองไปที่สมาชิกทีมของเขากำลังตั้งแคมป์เพื่อค้างแรมที่นี่ กู่หยูหยิบเครื่องสูบออกซิเจนออกมาและหายใจเข้าลึก หลังจากที่ได้แจ้งกับสมาชิกทีมว่าเขานั้นจะไปสำรวจพื้นที่ที่ลึกเข้าไปในภูเขา เขาก็ได้เดินไปในทางนั้น
เขาไม่เชื่อว่าจะมีคนที่อยู่บนนี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ด้วยอากาศที่เบาบางและลมที่แรง ความคิดที่อยู่ในหัวของเขาคือพ่อของเขาจะต้องถูกใครบางคนหลอกหรือเห็นภาพลวงตาอย่างแน่นอน…
เมื่อกู่หยูเดินไปรอบๆเสาหินและกำลังจะเดินต่อไปข้างหน้า เขาประหลาดใจที่ได้พบกับชายหัวล้านที่ยืนยิ้มอยู่ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าบางๆ มองมาที่เขาจากระยะไม่ไกล
กู่หยูยืนนิ่งด้วยความเงียบ
มันมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ที่นี่จริงๆเหรอ? กู่หยูประหลาดใจด้วยความไม่เชื่อ
“คุณอยู่ที่นี่เอง!”
ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอายุไล่เลี่ยกับเขาปรากฏขึ้นมา แต่กู่หยูก็สามารถรู้สึกได้ว่ามีความผันผวนของช่วงเวลาชีวิตออกมาจากเขา มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ
“แล้ว…ท่านคืออาจารย์ที่พ่อของผมเคยพูดถึงเหรอ?” กู่หยูถามด้วยความสงสัย
“รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ถูกเรียกว่าอาจารย์ แต่ถ้าพ่อของเจ้าคือกู่หยวนแล้ว ข้าก็คือคนที่เจ้ากำลังตามหาอยู่”
“ใช่ ใช่ ใช่ พ่อของผมชื่อกู่หยวน เขาอยากให้ผมมาตามหาคุณ” กู่หยูตอบอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มหัวล้านพยักหน้า “ช่วยมากับข้าหน่อย”
ในเวลานั้น กู่หยูเชื่อเล็กน้อย คนๆหนึ่งจะต้องเก่งขนาดไหนเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในสถานที่แบบนี้
เขาตามชายคนนั้นไปไกลกว่าร้อยเมตรและกระท่อมไม้ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของกู่หยู ชายคนนั้นเปิดประตูด้วยรอยยิ้ม ส่งสัญลักษณ์เชิญให้เขาเขาไปข้างใน
กู่หยูมองการเคลื่อนไหวของเขาและก้าวท้าวเข้าไป
ด้านในมันดูธรรมดาและหยาบกร้าน มีเตียงไม้และเก้าอี้ไม้อีกสองตัว แต่ไม่มีผ้าห่มหรืออาหารใดๆนอกจากพืชสีขาว กู่หยูประหลาดใจ เขาสับสันด้วยความอยากรู้ว่าชายคนนั้นเอาชีวิตรอดในสถานที่ที่มีสภาพอากาศแบบนี้ได้ยังไง
เมื่อได้เห็นชายคนนั้นนั่งลงข้างๆเตียง เขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่อยู่ถัดออกมา
“ย้อนกลับไปในวันที่พ่อของเจ้าช่วยชีวิตข้าเอาไว้ เขาขัดขวางการบ่มเพาะพลังของข้าในตอนที่ข้ากำลังจะสูญเสียตัวของตัวเองและถูกครอบงำจากพวกปิศาจ ข้าบอกเขาไปว่าข้าจะตอบแทนให้เขาสองคำขอ อย่างแรกได้เติมเต็มไปแล้ว และตอนนี้กรุณาบอกข้าเกี่ยวกับคำขอที่สองเถิด” ชี่หมิงพูดพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆบนใบหน้าของเขา
กู่หยูรู้สึกว่างเปล่าไปชั่วขณะและพูดออกมาว่า “เอ่อ… พ่อของผมพูดตลอดว่าผมนั้นมันไร้ประโยชน์ที่ผมรู้จักแต่การเล่นเกม เขาหวังให้ท่านอาจารย์ได้แสดงให้ผมเห็นถึงเส้นทางและช่วยนำทางให้ผม เพื่อดูว่าผมจะสามารถกลับตัวจากความผิดพลาดได้ไหม…”
กู่หยูรู้สึกละอายใจในขณะที่พยายามพูดออกมา แม้ว่าเขาจะไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไร พ่อของเขากลับไม่พอใจต่อกู่หยูที่ทำให้เขาผิดหวัง พ่อของเขาคิดว่าตระกูลกู่นั้นจะต้องล่มสลายไปในวันหนึ่งถ้ากู่หยูได้รับสืบทอดธุรกิจของตระกูล
กู่หยูไม่เห็นด้วยกับพ่อของเขาในเรื่องนี้ เขายังคงเล่นเกมต่อไปเหมือนเคยและออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่ เขาเชื่อมาเสมอว่าเงินทองที่เขามีอยู่จากครอบครัวของเขานั้นจะมีให้ไม่จำกัด แล้วทำไมเขาจะต้องทำตัวให้เหนื่อยด้วย? คนๆหนึ่งควรจะมีความสุขให้มากที่สุดในขณะที่ยังมีเวลา
ชี่หมิงพยักหน้าหลังจากที่ได้ยินคำที่กู่หยูพูดมา เขาคิดอยู่พักหนึ่งและพยักหน้าอีกครั้ง “ทั้งเจ้าและพ่อของเจ้าต่างก็มีนิสัยที่แตกต่างกัน อย่างที่พ่อของเจ้าได้พูดเอาไว้ ถ้าเจ้าจะรับสืบทอดกิจการของตระกูล เจ้าจะต้องสูญเสียทุกอย่าง”
กู่หยูรู้สึกยุ่งเหยิงอยู่ชั่วขณะ แต่เขาก็ต้องถามออกมา “คุณมีวิธีไหนบ้างไหมที่จะจัดการกับมัน ท่านอาจารย์?”
ชี่หมิงพยักหน้า “ข้าสามารถสวดให้กับเจ้าด้วยศาสตร์แห่งภูติแห่งโชคลาภทั้งห้า เพื่อเพิ่มโชคลาภให้กับเจ้า ภายใต้การคุ้มกันของภูติทั้งห้า โชคลาภของเจ้าจะต้องรุ่งเรือง ไม่ว่าเจ้าจะไร้ความสามารถขนาดไหนก็ตาม เจ้าจะสามารถรักษาธุรกิจของตระกูลเอาไว้ได้”
กู่หยูอึ้งและพูดไม่ออก เขาได้รับการรับประกันจากท่านอาจารย์ อีกทั้งยังไม่คิดว่าเขาจะไร้ประโยชน์ขนาดนั้น
ในเรื่องของการใช้เงิน รายการที่มากที่สุดที่เขาใช้ล่าสุดคือการรวบรวมเหรียญวิญญาณในเกมเท่านั้น ไม่ยังไม่เคยทำอะไรล้ำเส้น คนอื่นจะมาเปรียบเทียบเขากับขยะได้ยังไง?
ชี่หมิงจ้องไปที่กู่หยูด้วยรอยยิ้ม “เอาหล่ะ มาเริ่มกันเถอะ หลังจากนี้จะไม่มีสิ่งติดค้างเพราะคำสัญญาของข้าได้เติมเต็มแล้ว มันเป็นพรกับข้าอย่างที่สุด”
เมื่อเขาพูดจบ ชี่หมิงก็ยืดแขนของเขาออกมาและชี้ไปที่พื้น กู่หยูตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏต่อจากนั้น
กระแสน้ำวนมืดปรากฏขึ้นช้าๆจากพื้นดิน ลมหนาวพัดออกมาจากข้างใน กู่หยูทำได้แค่นั่งตัวสั่น
ความหนาวเย็นเสียบแทงเข้าไปถึงกระดูก มันแทบจะทนไม่ไหวแม้ว่าเขานั้นจะสวมชุดป้องกันความเย็นหนาๆก็ตาม
สิ่งที่ได้เห็นมันน่าช็อคที่จะเชื่อสำหรับคนที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้แบบกู่หยู
“ภูตแห่งโชคลาภทั้งห้า!” ชี่หมิงกัดนิ้วของเขา เลือดจากนิ้วถูกดูดกลืนเข้าไปในกระแสน้ำวน
“ผู้สำเร็จแห่งนิกายภูตแห่งโชคลาภ ชี่หมิงขอยืมพลังของเหล่าภูตและวิญญาณ!”
หน้าของชี่หมิงซีดเซียวเนื่องจากเลือดที่ไหลออกจากร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง เขาจ้องมองไปที่กระแสน้ำวนอย่างแน่วแน่
ที่ด้านข้าง กู่หยูยังคงช็อคเนื่องจากโลกที่เขารู้จักมันกลับตารปัดในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม สายตาของกู่หยูก็ขยายกว้างขึ้นทันทีที่เขาเห็นร่างเงาโปร่งแสงลอยช้าๆอยู่ในกระแสน้ำวนมืดๆนั้น “อาจารย์ คุณเล่นแบทเทิลออนไลน์ด้วยหรือเปล่า?”