เมื่อข่าวของการต่อสู้ที่ใหญ่โตได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเกม ไลฟ์สตรีมก็ยิ่งมีคนเข้ามาดูมากขึ้นเรื่อยๆ ในจุดนี้การออกอากาศได้รวมผู้ชมจำนวน 4.5 ล้านคนเอาไว้ด้วยกัน นั่นหมายความว่าผู้เล่นทั้งหมดในเกมกำลังดูอยู่นั่นเอง
ในคอมเม้นเต็มไปด้วยคอมเม้นที่เม้นถึงความน่าสะพรึงกลัว เพราะทุกคนก็ต้องช็อคกับสเกลขนาดใหญ่ของการต่อสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน
นอกจากผู้เล่นแล้ว แม้แต่พวกหัวกะทิในดินแดนแห่งเป่ยฉีก็ยังตกใจจากการปรากฏตัวของเทพปิศาจ
ภายในเขตภาพลวงตา ก้อนน้ำแข็งสูงใหญ่ชี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มันส่งเสียงออกมาพึมพำ “ข้าสัมผัสได้ถึงออร่าของเทพปิศาจ เขาหลุดออกมาแล้วหรือ?”
ภายในเมืองแห่งฝันร้าย ทหารหยินจำนวน 3000 นายที่กำลังหลับลึกอยู่ในวังก็ลืมตาตื่นขึ้นมา แสงสว่างสีเขียวน่าขนลุกส่องออกมาจากดวงตา
ที่พื้นที่แห่งสรวงสวรรค์ ราชางูที่กำลังกลืนกินหมู่ป่าอยู่นั้นก็เริ่มตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
ในมหาสมุทรวอยด์ ลึกลงไปสามหมื่นเมตรใต้ท้องทะเล เถาหวู่ที่หลับใหลได้ลืมตาขึ้นมา จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมาและสร้างกระแสน้ำออกมาจากปากของเขา มันเห็นได้ชัดว่าเขานั้นกำลังตื่นเต้นอยู่
ที่ทุ่งหญ้าบาเรน…
ในเหวนรกแห่งขั้วโลกเหนือ…
ที่เมืองหินในแดนเหนือ…
…
ทีละคน พวกผู้นำเหล่านี้ตกใจกับออร่าของเทพปิศาจ พวกเขาทั้งหมดมุ่งหน้าไปที่พื้นที่สุสาน
บนผาแห่งความสิ้นหวัง ชายแก่ผมขาวผลักประตูเปิดออกไป เขาหันหน้าไปทางสุสานด้วยสายตาที่ค่อยๆชัดเจนขึ้น
“ข้าหวังจริงๆว่าหลังจากที่เจ้าได้ชำระแค้นสำเร็จแล้ว เจ้าจะยอมปลดปล่อยความโกรธแค้นและความรู้สึกด้านลบในใจและกลายเป็นทายาทแห่งเทพ เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะสามารถเติบเต็มคำสั่งเสียในการปลดปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระ!”
เทพปิศาจและไฮเดริกามิกำลังเผชิญหน้ากันในสนามรบ จากการต่อสู้ที่เข้มข้น ทั้งสองทำให้พื้นที่รอบๆนั้นราบเป็นหน้ากลองจากผลของการโจมตี สเกลการทำลายล้างบนสนามรบของพวกเขาทำให้ผู้เล่นต่างต้องอ้าปากค้าง
มือทั้งแปดของเทพปิศาจถือขวานสีเลือดอยู่ทุกมือ ขณะที่งูซอมบี้อยู่ที่ด้านหลังของไฮเดริกามินั้นหัวขาดไปแล้ว
การที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังเด็ดเดี่ยวนั้น ไฮเดริกามินั้นเริ่มเสียขวัญมากขึ้นเรื่อยๆ เขายื่นมือออกไปและวาดผนึกศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าเขา วงแหวนโลหิตปรากฏขึ้นมาบนอากาศด้านหลัง และแผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็วจนปกคลุมร่างกายของเขาอย่างมิดชิดในชั่วพริบตา
“ปล่อยให้ท้องฟ้าและผืนดินเต็มไปด้วยเลือด!”
เมื่อได้ยินไฮเดริกามะร้องคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว วงแหวนโลหิตนั้นลอยสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าและขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วขณะเดียวมันก็ขยายปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
เสาโลหิตปรากฏขึ้นจำนวนมากเป็นรูปขบวน จากนั้นมันก็เล็งตัวเองไปที่เทพปิศาจและพุ่งตรงใส่เขา
“ย่า!”
เทพปิศาจยกแขนทั้งแปดขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงร้องขึ้นไปบนฟ้า เขาเริ่มกวัดแกว่งแขนของเขาไปรอบๆ ต้านทานการยิงโจมตีที่พยายามจะเจาะเข้าผิวหนังของเขา
ด้วยจำนวนของเสาโลหิตที่เพิ่มขึ้น ตาของเทพปิศาจเริ่มเบลอ ปัดป้องการโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
“มหาผนึกปิศาจสีแดง!”
เมื่อเสาโลหิตนั้นมีจำนวนมากเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้ เทพปิศาจก็ยกขาขวาของเขาขึ้นและกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง
เขาค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากหน้าผากและเปลวเพลิงก็เริ่มก่อตัวขึ้นในตาของเขา เปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงแห่งนรก
จากนั้น พลังงานสีม่วงที่ห้อมล้อมอยู่ที่ส่วนปลายของเขา
“วูฟ… วูฟ…”
เสียงของพลังงานที่รวมตัวกันเริ่มแผดเสียงดังก้องไปทั่วสนามรบ ลูกบอลพลังงานสีม่วงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันมีขนาดใหญ่เต็มที่ ในจังหวะนั้น เทพปิศาจก็หยุดการแกว่งแขนไปมาและเล็งเขาไปที่วงแหวนโลหิตบนท้องฟ้า
“ย่า!”
เสาสีม่วงพุ่งทะลุผ่านท้องฟ้าและปะทะเข้ากับวงแหวนโลหิต
ในเวลานั้น ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยแสงเบลอสีขาว พลังงานที่ล้นออกมาได้แผ่ไปทั่วทั้งสนามรบ
“เจ้าอย่าได้คิด เทพปิศาจ!”
ไฮเดริกามิเงยหน้าขึ้นท้องฟ้า กระแสของพลังแห่งสายเลือดชีแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ลอยขึ้นไปที่วงแหวนโลหิตเพื่อทำให้ต้นกำเนิดพลังงานนั้นมั่นคง
ในตอนนี้ สายตาของเทพปิศาจถูกปิดบังไปด้วยชั้นของพลังงานสีม่วง เขาอ้าปากออกเล็กน้อยในขณะที่พลังงานสีม่วงเริ่มหลอมรวมขึ้นอีกครั้ง
“ย่า!”
ลำแสงอีกระลอกหนึ่งถูกปล่อยออกมาจากปากของเทพปิศาจ มันพุ่งทะลุผ่านท้องฟ้ามาบรรจบกับพลังงานระลอกแรก ในทันใดนั้น การผสมผสานระหว่างเสาพลังงานทั้งสองก็ก่อกำเกิดเนิดพลังทำลายล้างที่รุนแรงอย่างคาดไม่ถึง
แครก!
วงแหวนโลหิตบนท้องฟ้าเริ่มแตกออก ด้วยรอยร้าวที่กระจายไปเหมือนกับใยแมงมุม
ชิ้นส่วนสีเลือดเริ่มร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าเปลี่ยนให้มันเป็นเหมือนเม็ดฝนที่ตกลงมาเป็นสีแดง วงแหวนโลหิตของไฮเดริกามิได้แตกสลายลงอย่างสมบูรณ์
“มันจบแล้ว!” เทพปิศาจคำรามในขณะที่กำลังเงยหน้าขึ้นมามองที่ไฮเดริกามิผู้ที่กำลังเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ภัยพิบัติมหาปิศาจ!”
เมื่อคำสุดท้ายของเทพปิศาจได้สิ้นสุดลง กลุ่มควันสีม่วงก็ลอยขึ้นมาจากผาแห่งความสิ้นหวังและหลอมรวมเข้ากับร่างของเขา
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
แผ่นดินเริ่มไหวเมื่อผิวกายของเทพปิศาจเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีม่วง เกล็ดที่สลักด้วยสัญลักษณ์ลึกลับปรากฎขึ้นมาทั่วทั้งร่างกาย ขณะที่ขนาดตัวและความสูงก็เริ่มขยายขึ้นจนเห็นได้ชัด เพียงเสี้ยววินาที เขาได้ก้าวข้ามแม้แต่ทวยเทพแห่งอันเดอร์เวิลด์และเปลี่ยนไปเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาที่แม้แต่ภูเขาขนาดใหญ่ยังต้องหวาดกลัว
ไฮเดริกามิช็อคอย่างมากเมื่อได้เห็นภาพนี้ มันไม่เคยคิดว่าก่อนว่าเทพปิศาจจะครอบครองพลังที่น่ากลัวขนาดนี้แม้ว่าจะมีความคิดของปิศาจแค่เพียงน้อยนิด แม้ว่ามันจะใช้พลังทั้งหมดที่มี มันก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย
ในคอมเม้น :
“โอ้มายก็อด…”
“พลังพวกนั้นมันโคตรน่ากลัวจนฉันแทบจะขาดใจตายเลย…”
“พวกเราไม่ควรไปวุ่นวายกับกิลด์มิธอีกในอนาคต หัวหน้าของพวกเขากลายเป็นปิศาจที่ชั่วร้าย!”
“(แก้มแดง) มันโคตรสุดยอด! ดูการต่อสู้นี้มันทำให้เลือดฉันร้อนไปหมดและเกือบจะทำให้ฉันบ้าตาย ไม่ต้องถามเลยว่าทำไม มันน่าตื่นเต้นเกินไป!”
“โอเค ฉันตัดสินใจแล้ว! ฉันอยากจะมีพลังแบบนี้บ้าง ถ้าปีเดียวมันไม่พอ ก็ต้องเป็นสองปี ถ้ามันยังไม่เพียงพออีก ฉันก็จะใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อฝึกฝนให้ได้พลังแห่งทวยเทพนี้มา!”
“ฉันเห็นด้วยกับคนข้างบนนะ ความฝันใหม่ของฉันคือกลายเป็นพระเจ้า!”
“การต่อสู้กำลังจะจบลงแล้ว แต่ดูเหมือนไฮเดริกามิมันจะพ่ายแพ้ ฉันคิดว่าแพคเสริมของเทพปิศาจน่าจะมาเร็วๆนี้แหละ พวกเราช่วยกันคิดวิธีเอาตัวรอดจากพวกนี้กันเถอะ…”
“อย่ากังวลไปเลย ฉันมีแผนการที่สมบูรณ์แบบอยู่! พวกเราลองหลอกล่อเทพปิศาจนี้ไปที่ฐานที่มั่นของเถาหวู่ดู แล้วดูพวกเขาสู้กัน!”
“คนข้างบนมันติ๊งต๊อง เขาต้องไม่ปกติแน่ๆ การประเมินความฉลาดเสร็จสิ้น!”
“คนที่แนะนำให้เทพปิศาจกับเถาหวู่ต่อสู้กันน่ะ ไหนลองบอกวิธีที่จะล่อพวกเขาให้ไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นให้หน่อยสิ(อิโมจิหัวเราะ)”
…
มองไปที่เทพปิศาจที่ได้ผสานร่างใหม่ ดวงตาของไฮเดริกามิเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาได้รู้ซึ้งแล้วว่าเขานั้นไม่สามารถเอาชนะได้แม้แต่ร่างแยกของเทพปิศาจ
ทวยเทพก็ยังคงเป็นเทพอยู่อย่างนั้น แม้ว่าพวกเขาจะถูกผนึกเอาไว้ เทพปิศาจนั้นยังไม่ได้อยู่ในขั้นที่มีพลังสูงสุด แต่สถานะปัจจุบันนี้ก็ไม่มีเรื่องที่จะมองข้ามไปได้
มือของไททั่นขนาดใหญ่เริ่มร่วงลงมา ทำให้เกิดแรงดันลมมหาศาลกดลงมาที่ไฮเดริกามิ ไฮเดริกามิเงยหน้าขึ้นเพื่อร้องคำรามด้วยความหม่นหมองเหมือนกับเขาว่ารู้ดีว่าชีวิตเขาจะต้องจบลงที่นี่