หลังจากการอัพเดทการเลื่อนขั้นอาชีพนักเวท ราคาวัสดุในบ้านประมูลเริ่มมีราคาสูงขึ้น
ในเวลาเดียวกันก็มี NPC ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยในการเลื่อนขั้นอาชีพนักเวท โดยมีสมยานามว่า อาจารย์สลาย
เงื่อนไขสำหรับการผ่านไปเป็นวอร์ล็อคห้าธาตุนั้นมีความพิเศษอย่างมาก ผู้เล่นจะต้องค้นหาวัสดุทั้งห้าธาตุและนำพวกมันไปให้อาจารย์สลายเพื่อทำการย่อยสลาย เพื่อแลกกับคะแนนห้าธาตุที่จำเป็นสำหรับการเลื่อนขั้นอาชีพ
ตราบใดที่ไอเท็มนั้นสอดคล้องกับธาตุ ผู้เล่นสามารถได้รับคะแนนห้าธาตุจากการย่อยสลาย
ยกตัวอย่างเช่นโดยการนำไม้ธรรมดาหรือหญ้าหนึ่งกำมือมาให้อาจารย์สลาย ไอเท็มเหล่านี้สามารถย่อยสลายเป็นคะแนนได้แต่ก็ได้น้อยมาก ผู้เล่นต้องสะสมให้ครบ 10000 คะแนนธาตุไม้เพื่อจะให้เป็นไปตามกำหนดของภารกิจสำหรับธาตุไม้
ธาตุอื่นๆก็ต้องให้ได้คะแนนเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม วัสดุเช่น ดิน ท่อนไม้ หรือแร่ต่างๆสามารถให้คะแนนธาตุได้ไม่กี่คะแนนเท่านั้น มันอาจใช้เวลานานมากที่จะสะสมคะแนนตามจำนวนเป้าหมายหากต้องพึ่งเพียงวัสดุที่ได้คะแนนน้อยนิดเหล่านี้เพื่อนเลื่อนขั้นอาชีพ
วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงสำคัญต่อการเลื่อนขั้นอาชีพ แต่ยังสำคัญสำหรับขั้นสุดท้ายก่อนการเลื่อนขั้นเป็นวอร์ล็อคห้าธาตุ วัสดุที่มีธาตุแตกต่างกันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเป็นพื้นฐานในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายเพื่อให้ร่างกายสามารถควบคุมห้าธาตุได้ดีขึ้น
ดังนั้นราคาของวัสดุจิตวิญญาณที่ให้คะแนนธาตุจำนวนมากจึงมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เนื่องจากความยากลำบากในการเลื่อนขั้นอาชีพ ลู่หวู่จึงตัดสินใจลดระดับความยากลำบากของข้อกำหนดสำหรับการเลื่อนขั้นอาชีพ ตราบใดที่ผู้เล่นสามารถสะสมคะแนนได้เพียงพอสำหรับหนึ่งธาตุ พวกเขาสามารถเปิดใช้งานกระบวนการเลื่อนขั้นอาชีพได้เลย
แน่นอนหลังจากการเลื่อนขั้นอาชีพ พวกเขาสามารถเปลี่ยนรูปแบบตามคะแนนแต่ละธาตุที่พวกเขาสะสมถึง
เกมนี้มีส่วนแบ่งที่ยุติธรรมของผู้เล่นที่ร่ำรวย วัสดุในบ้านประมูลถูกขายหมดไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ ผู้เล่นหลายคนได้ก่อร่างกายใหม่ที่มีสถานะธาตุของวอร์ล็อคห้าธาตุ พวกเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและการดึงดูดเมื่อพวกเขาเดินบนถนน
ในขณะเดียวกัน มันก็ก่อให้เกิดโอกาสในการพัฒนาในเขตมหาสมุทร
……
มหาสมุทรโมฆะ
ท้องฟ้ามืดครึ้มปกคลุมเหนือลมหอนมหาสมุทร เรือรบสีดำแล่นตรงไปข้างหน้าปะทะกับคลื่น
บนลำตัวของเรือรบ มีภาพสัตว์ประหลาดที่มีหนึ่งเขาถูกวาดด้วยสีธรรมชาติ เมื่อมองใกล้ๆ สัตว์ประหลาดก็ดูคล้ายกับเทพปีศาจ
บนเรือมีคนประมาณสิบคน พวกเขาสวมชุดสีแดงและเสื้อคลุมสีขาวเหมือนกันซึ่งตรงเสื้อคลุมจะมีภาพที่ดูน่ากลัวออกโทนมืดของเทพปีศาจ
มันเป็นครั้งแรกที่เรือรบเทพปีศาจออกเดินทางตั้งแต่สร้างขึ้นมา สมาชิกสิบคนของกิลด์ได้รู้จักกันและกันในฟอรัม หลังจากที่พวกเขาค้นพบความสนใจที่คล้ายกัน พวกเขาเลยเริ่มสร้างกิลด์
สำหรับภาพประกอบที่ใช้โดยกิลด์ พวกเขาจ่ายมันให้ออกแบบพิเศษและวาดลงบนเรือรบ พวกเขาถูกตราตรึงโดยอำนาจของเทพปีศาจหลังจากได้ดูวีดีโอการต่อสู้ของเทพปีศาจ ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มบูชาเขาและใช้เขาเป็นสัญลักษณ์ของกิลด์พวกเขา
ถึงกระนั้นในเวลานี้พวกเขาก็กลิ้งไปมารอบๆโดยพยายามยึดแน่นกับบางสิ่งของเรือ ผิวของพวกเขาซีดเหมือนกระดาษ และไม่สามารถพูดอะไรได้ รูปลักษณ์ของพวกเขามีแต่ความสิ้นหวัง
“หัวหน้า…อ้วกกก!”
คนที่เพิ่งพูดเป็นชายอ้วน ก่อนที่เขาจะสามารถพูดอะไรได้ เขาก็อ้วกแตก
“เจ้าอ้วน คุณควรจับมันให้แน่น นี่คือการแล่นเรือครั้งแรกของกิลด์เทพปีศาจ เราจะต้องหล่อเข้าไว้…อ้วกก!”
ในฐานะที่เป็นผู้นำที่น่าเคารพนับถือของกิลด์ อันเชิงก็อดไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมาทันทีที่เขาอ้าปาก
เมื่อเขาเริ่มอ้วก ไม่มีใครสามารถยึดมั่นได้อีกต่อไป ทุกคนบนเรือก็เริ่มอ้วกเช่นกัน
ใครๆก็สามารถบอกได้ว่าบนเรือลำนี้มีแต่เด็กๆ แม้ว่าพวกเขาจะมีอุปกรณ์คุณภาพดีที่สุดมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยมีประสบการณืกับคลื่นสูงตระหง่านและลมที่พัดผ่านทะเล หลังจากแล่นเรือไปไม่กี่ชั่วโมง พวกเขาก็ถึงขีดจำกัดความอดทนของพวกเขาแล้ว
“หัวหน้าท มองไปตรงนั้น มันมีเกาะ!” เจ้าอ้วนที่อยู่กลางเรือรีบชี้เมื่อเขาเห็นเกาะอยู่ไม่ไกล เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในทันที
เมื่อเห็นอย่างนั้น อันเชิงจึงลากร่างของเขาไปที่ขอบเรือและดูที่เกาะที่อยู่ใกล้ๆ
“มุ่งเข้าฝั่ง! มุ่งเข้าฝั่ง!”
อันเชิงในที่สุดก็ฟื้นพลังงานและเร่งความเร็วของเรือรบ เขาเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่และเริ่มนำเรือรบไปยังเกาะ
เมื่อลูกเรือของเรือรบเทพปีศาจได้รับคำสั่ง พวกเขาทั้งหมดก็ส่งเสียงเชียร์และเริ่มทำงาน เรือรบเปลี่ยนทิศทางอย่างช้าๆและถูกพาไปที่เกาะ
เมื่อเห็นว่าสามารถขึ้นฝั่งได้ สมาชิกของกิลด์ก็หลั่งน้ำตาแห่งความสุข มันเป็นการเดินทางที่คดเคี้ยวบนทะเลอย่างแท้จริง
ขณะที่เรือรบเข้าใกล้เกาะ สมาชิกลูกเรือบางคนก็รีบลงบันไดเรือไปแล้ว สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือนอนลงบนหาดทราย ด้วยความรู้สึกที่ได้หลบหนีจากประสบการณ์ใกล้ตายในหัวใจของพวกเขา
“หัวหน้า การอัพเกรดเรือครั้งต่อไปเราจะต้องอัพเกรดความเสถียรภาพ เราไม่ควรไปสนใจรูปลักษณ์ ฉันนี้เกือบทนไม่ไหวแล้ว” เจ้าอ้วนยังคงเจ็บปวดจากเหตุการณ์
สมาชิกคนอื่นๆของกิลด์ยังพยักหน้าเห็นด้วย มันเห็นได้ชัดว่าการเดินทางครั้งนี้ทำให้พวกเขามีความประทับใจที่ย่ำแย่
หลังจากพักซักครู่ พวกเขาบางคนลุกขึ้นยืนและเริ่มสังเกตสภาพแวดล้อม
ในขณะนั้น เจ้าเจ็ดชี้นิ้วไปสถานที่ไม่ห่างไกล เขาพูดอย่างตื่นเต้น “ดูนั่นสิ มีหมู่บ้านที่มีผู้คนอยู่ด้วย!”
สายตาของพวกเขาจ้องตามนิ้วและพวกเขาเห็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆที่เต็มไปด้วยบ้านไม้
บ้านทุกหลังในหมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้มีปลาแห้งแขวนอยู่ที่ประตูบ้าน ในขณะนั้นมีคนแปลกๆที่มีอาวุธคล้ายส้อมและแท่งไม้เริ่มเดินออกจากหมู่บ้านชาวประมง
พวกมันคล้ายกับมนุษย์ แต่ก็แตกต่างกันมาก
ใบหน้าของพวกเขามีโทนสีเขียวพร้อมกับมีเหงือกปลาที่ด้านข้างของใบหน้า พวกมันแต่ละคนเหมือนถูกสร้างมาอย่างดีเพื่อต่อสู้โดยมีเอวหนาและไหล่กว้าง พวกมันเหมือนชายชาตรีและปล่อยออร่าที่น่ากลัวออกมา
เมื่อพวกมันเห็นอันเชิงและคนอื่นๆที่จ้องมาที่พวกมัน เผ่ากิลฟิชก็ยกอาวุธของพวกมันและเริ่มตะโกนราวกับว่าพวกมันกำลังพยายามทำให้พวกเขากลัว
เมื่อเห็นอย่างนี้ อันเชิงและคนอื่นๆก็เริ่มเอาอาวุธออกมาเช่นกัน น่าขันยิ่งนัก พวกเขาไม่กลัวการต่อสู้
การกระทำของพวกเขาก็ทำให้เผ่ากิลฟิชโกรธ ทันใดนั้นกลุ่มคนดุร้ายก็ออกมาจากหมู่บ้านและพุ่งเข้าหาพวกเขา
“เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้” อันเชิงตะโกนสุดเสียง และสมาชิกของเขาก็พร้อมแล้ว
จากนั้นพวกเขาตกตะลึง จากป่าริมชายหาด ผู้คนหลายร้อยจากผ่ากิลฟิชออกมา โดยถือโล่ทรงกลมที่เอาไว้ปกป้องตัวเองด้วย
“โอ้เหี้ย วิ่ง!”
เมื่อพวกเขาเห็นจำนวนผู้คนจากเผ่ากิลฟิช ความปรารถนาดั้งเดิมของพวกเขาในการต่อสู้จนถึงเลือดหยดสุดท้ายก็ดับลงทันที พวกเขาวิ่งไปอีกทิศทางด้วยกำลังทั้งหมดเพื่อไปยังอีกฝั่งชองชายทะเล
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาประเมินเผ่ากิลฟิชต่ำเกินไป ด้วยความแข็งแกร่งและความฟิตของพวกมัน พวกมันได้ตามทันและล้อมรอบพวกเขาในเวลาเพียงสิบนาที
สงครามเริ่มขึ้นทันที สิ่งเดียวที่อันเชิงและคนอื่นๆไม่ได้คาดคิดก็คือผู้คนจากเผ่ากิลฟิชนั้นยังเป็นนักสู้ฝีมือดี พวกเขาเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์และอาวุธที่ยอดเยี่ยม แต่พวกเขาก็ยังคงพ่ายแพ้ถูกตีจนสลบโดยท่อนไม้
น่าแปลกที่เผ่ากิลฟิชไม่ได้ฆ่าพวกเขา แทนที่พวกเขาถูกผูกมัดไว้แล้วถูกนำกลับไปยังหมู่บ้านชาวประมง
……
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงดาว ความมืดปกคลุมทั่วทุกซอกทุกมุมของหมู่บ้านในยามค่ำคืน หมู่บ้านชาวประมงมีแสงไฟเพียงพอด้วยคบไฟ ผู้คนต่างร้องเพลงและเต้นไปรอบกองไฟ เสียงหัวเราะและความสุขเต็มอากาศ
อันเชิงและคนอื่นๆถูกผูกมัดไว้ที่ใจกลางหมู่บ้านชางประมง และมันเป็นการยากที่พวกเขาจะผสมผสานกับความสุข โดยเฉาะพวกเขารู้ว่าพวกเขากำลังจะถูกกิน
พวกเขาไม่สามารถออกเกมได้เพราะพวกเขายังอยู่ในสถานะการต่อสู้ พวกเขาไม่เคยรู้สึกอึดอัดขนาดนี้มาก่อน