เมื่อเห็นหม้อขนาดใหญ่ หัวใจของอันเชิงและคนอื่นๆอยู่ในความเศร้าโศกสุดจะพรรณา
พวกเขาไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ว่าพวกเขาจะต้องถูกทรมานอีกครั้งและรู้สึกเสียใจที่ไม่ถูกฆ่าตายในการต่อสู้
“เพื่อน พวกมันพยายามทำอะไร?” ผู้เล่นที่ถูกจ้างมาถามด้วยความอยากรู้
ข้างอันเชิง เป็นชายอ้วนหัวล้านที่มีใบหน้าถูกทุบอย่างรุนแรงและเลือดไหลออกจากจมูกของเขา จากนั้นชวนอ้วนก็หันไปมองผู้เล่นที่ถูกว่าจ้าง
“คุณเห็นหม้อเหล่านั้นไหม? มันจะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น คุณต้องเตรียมพร้อมดีๆ!”
คนที่ถูกจ้างนั้นพูดไม่ออก
“ทำไมมีเอเลี่ยนมากมาย?” หนึ่งในสมาชิกของกิลด์ เจ้าเจ็ด อดไม่ได้ที่จะต้องถาม
“มันจะเป็นการสิ้นเปลืองหากพวกเขากินอาหารไม่หมด ดังนั้นพวกเขาจึงเชิญญาติพี่น้องจากข้างบ้านมากินด้วย!” ชายอ้วนถอนหายใจอย่างหนัก
ทุกคนเอ๋อแดก
เช่นเดียวกับที่ทุกคนรู้สึกกังวล ชายชราของเผ่ากิลฟิชเดินออกมาจากฝูงชน
เขามาถึงผู้เล่นและตรวจสอบพวกเขาอย่างระมัดระวัง บางครั้งเขาก็บีบหน้าผู้เล่นราวกับว่าเขากำลังเลือกเนื้อหมู
ผู้เล่นรู้สึกไม่พอใจ ผู้เล่นคนหนึ่งกระทั่งพยายามถ่มน้ำลายไปใส่ชายชรา
จากนั้นชายนักรบคนนี้ก็ถูกลากออกไปโดยชายกำยำสามคนของเผ่ากิลฟิช เขาถูกทุบตีอย่างทารุณจนใบหน้าเขากลายเป็นบวมเป่ง
เมื่อทุกคนเห็นอย่างนี้ พวกเขาตัวสั่นไปจนถูกกระดูกสันหลัง พวกเขาณู้สึกกับชายที่ดูแข็งแรงคนนี้ที่กำลังจะตายบนพื้น ในเวลาเดียวกันพวกเขาโชคดีที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างหุนหันพลันแล่น
การลงโทษใครบางคนเป็นการเตือนผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คราวนี้ไม่มีผู้เล่นคนไหนกล้าสู้กลับ ใบหน้าของพวกเขาถูกปกคลุมด้วยความโกรธเมื่อชายชราของเผ่ากิลฟิชบีบหน้าของพวกเขาจนเจ็บ
หลังจากการตรวจสอบ ชายชราของเผ่ากิลฟิชไปที่ใจกลางหมู่บ้านและคุกเข่าลง เขายังพูดพึมพำโดยที่พวกผู้เล่นไม่เข้าใจว่าพูดอะไร
เมื่อเห็นอย่างนี้ทุกคนจากเผ่ากิลฟิชก็คุกเข่าลงพร้อมกับหันหน้าไปทางท้องฟ้าราวกับว่าพวกเขากำลังทำการสักการะ
“พวกโง่เหล่านี้กำลังทำอะไร?” เจ้าเจ็ดถามอย่างสงสัยอีกครั้ง
“จากประสบการณ์การเล่นเกมหลายปีของฉัน พวกเขาควรจะขอบคุณพรเจ้าสำหรับอาหารที่ส่งให้พวกเขา” ชายอ้วนที่ด้านหลังพูดออกมา เมื่อได้ยินสิ่งนี้ทุกคนก็ไม่สามารถสงบได้
“อูร่า” ชายชราดูเหมือนว่าจะเสร็จสิ้นการสวดแล้ว เขาตะโกนที่ท้องฟ้าและฝูงชนก็ส่งเสียงเชียร์ จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็แยกย้ายและเริ่มเตรียมหม้อและจุดไฟ
ผู้เล่นทั้งหมดไร้คำพูด
หลังจากที่พวกเขาได้ผ่านขั้นตอนการล้าง การกินผงสีเขียวและการถูกเครื่องปรุงโรยใส่ ใบหน้าของผู้เล่นที่ถูกว่าจ้างแสดงสีหน้าเหมือนถูกหลอก พวกเขาไม่รับการบอกกล่าวว่าเมื่อแพ้พวกเขาจะถูกกิน นี่มันมากเกินไป นี่มันโหดเกินไป
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับชะตากรรมของพวกเขาจากการถูกกิน
พวกเขาไม่มีอำนาจและไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากสบถ
ในขณะนั้นพวกเขาทั้งหมดสาบานว่าจะแก้แค้น
จำนวนคนที่ต้องการแก้แค้นเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
เมื่อมองไปที่ผู้เล่นที่ถูกว่าจ้างกัดฟันแน่น อันเชิงและผู้เล่นคนอื่นๆรู้สึกเหมือนถูกปลอบโยนอย่างอธิบายไม่ได้ การแบ่งปันความเจ็บปวดสามารถลดความทุกข์ทรมานได้อย่างแน่นอน
ตอนนี้คนอ้วนดูสงบแล้ว เขาชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนการทำอาหารของเผ่ากิลฟิช ครั้งนี้เขาไม่ได้ต่อต้านขณะที่เขาเรียนรู้บทเรียนของเขา เขายังกัดกินส่วนผสมเมื่อเผ่ากิลฟิชใส่ลงไปในหม้อ
หลังจากเคี้ยวและกลืนมัน คนอ้วนก็เบิกตากว้าง
“โอ้พรเจ้า นี่มันอร่อยมาก”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผู้เล่นหลายคนที่อยู่ในหม้อพยายามกัดกินส่วนผสมเล็กน้อยเพื่อลิ้มรสมัน พวกเขาแสดงสีหน้าแปลกๆหลังจากได้ชิมมัน
“อร่อย!”
“มันรสชาติดี นี่คืออะไร?”
“ผลไม้สีแดงอร่อยมาก!”
เมื่อดูผู้เล่นเหล่านี้ที่ไม่สนใจอะไรแล้ว อันเชิงรู้สึกปวดขมัม ทำไมพวกเขาถึงได้กินมัน? พวกเขาไม่รู้สึกละอายใจหรือไง?
“โอ้ มันอร่อยมาก” เจ้าเจ็ดอยู่ข้างอันเชิงได้เคี้ยวผลไม้ซึ่งมีขนาดเท่ากับลิ้นจี่และพูดออกมาเสียงดัง
อันเชิงไม่ต้องการพูดขณะที่เขารู้สึกละอายใจ ความโกรธและความตั้งใจที่จะแก้แค้นของพวกเขาหายไปไหน?
ฉันจะไม่ยอมทำเหมือนพวกเขา
อุณหภูมิของน้ำก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเห็นพวกเขากินอย่างมีความสุข อันเชิงก็กัดใบไม้ที่ลอยอยู่บนน้ำและเคี้ยวมันอย่างเบื่อๆ
“บ้าเอ้ย มันอร่อยมากจริงๆ!”
เจ้าเจ็ดพูดไม่ออก
เมื่อเห็นสายตาดูถูกของเจ้าเจ็ด อันเชิงก็ยังกินต่อไป เนื่องจากเผ่ากิลฟิชสามารถกินพวกเขาได้ แล้วพวกเขาก็สามารถกินส่วนผสมของพวกเขาได้
“ไอ้โง่ อย่าโขมยผลของตูสิว่ะ” เจ้าเจ็ดโกรธแค้นเมื่อเขาเห็นอันเชิงอ้าปากและกัดกินผลไม้ที่เขากำลังกินอยู่
หลังจากผู้เล่นกินและดื่มเสร็จ พวกเขาก็นอนยืดตัวสบายในหม้อ โดยรอการมาถึงของจุดจบ
“พี่น้อง ฉันมีข้อเสนอแนะ เราแค่แกล้งไม่รู้อะไรและไม่บอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในวันนี้” เมื่อมองดูกลุ่มผู้เล่น อันเชิงเรอขณะที่เขาพูด
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนดูเหมือนจะลำบากใจ พวกเขาพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของอันเชิง เนื่องจากสถานการณ์ที่พวกเขาพบในวันนี้น่าอับอาย
อันเชิงกำลังเตรียมที่จะหลอกผู้คนมากขึ้นสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไปในใจของเขา เขาเชื่อว่าด้วยกำลังคนมากขึ้นพวกเขาสามารถเอาชนะเผ่ากิลฟิชได้
อุณหภูมิของน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและผู้เล่นเริ่มเสียเลือด
กลุ่มของผู้เล่นหายไปอีกครั้ง
ขณะที่ผู้เล่นตาย ร่างของพวกเขาเปลี่ยนเป็นหมอกสีดำและถูกดึงออกจากเกมโดยสิ่งประดิษฐ์อีกครั้ง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เผ่ากิลฟิชที่ตื่นเต้นตอนแรกจ้องไปที่หม้อว่างเปล่า พวกเขาสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตพวกเขา
หลังจากที่พวกเขาเสียชีวิต อันเชิงและคนอื่นๆก็กลายเป็นยุ่ง พวกเขากำลังเตรียมที่จะนำกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งไปแก้แค้น
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เขามีความคิดและโพสต์ลงในฟอรัม :
“ฉันพบลูกชายทะเล มีลูกชายทะเลจำนวนมากบนเกาะนี้”
เขาส่งภาพหน้าจอที่แสดงพิกัดบนแผนที่ไว้ในโพสต์
เดิมโพสต์ประเภทนี้จะถูกละเว้น หลังจากที่ทุกข่าวลือมักจะปรากฏในฟอรั่ม อย่างไรก็ตามโพสต์ถูกผลักอย่างลึกลับไปด้านบน
เซเว่น_เซเว่น “เป็นเกาะนี้แหละ ฉันได้เห็นลูกชายทะเลบนเกาะนี้แล้ว”
แอม_นอท_แอท_ออล์ “ฉันเหมือนกัน! ฉันไม่ได้คาดหวังว่าผู้เล่นคนอื่นจะเห็นมันด้วย คุณไม่รู้วิธีเก็บเป็นความลับหรือไง? ฉันกำลังคิดจะกลับไปหลังจากที่ฉันได้แข็งแกร่งขึ้น”
บลัด-สเต็น_โวล์ด “น่าเสียดาย ฉันคิดว่าฉันเป็นคนเดียวที่รู้เกี่ยวกับความลับนี้ แต่คุณทำให้มันเป็นที่รับรู้ ฉันเกลียดคนโพสต์นี้จริงๆ”
เครยอน_ชินจัง “อะไรนะ! ลูกชายทะเล? โอ้พรเจ้า ไปดูกันถอะ!”
เปปป้า_บอร์ “มันเป็นของฉัน มันเป็นของฉัน ฉันจะออกเดินตอนนี้ ลูกชายทะเลต้องเป็นของฉัน!”
ดังนั้นผู้เล่นที่ถูกล่อลวงจำนวนมากเริ่มเดินทางไปยังเกาะเผ่ากิลฟิช
โศกนาฏกรรมของพวกเขาถูกกินอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะเงียบและดันโพสต์ของอันเชิงไว้ด้านบน
คลื่นลูกใหม่ของผู้เล่นที่ถูกหลอกก็ออกเดินทาง