The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1103 – สายฟ้าขนวิหค

  แต่ถึงอย่างไรหากวิบัติสวรรค์มาถึง เขาก็ต้องปะทะกับมัน ไม่ว่าจะมันจะทรงพลังสักเพียงใดก็ตาม!
‘จงเลี่ยงการใช้สมบัติแต่ใช้ร่างกายของเจ้า’
ซือหยูนึกถึงคำแนะนำของเทพปีศาจเขาถอนหายใจเข้าลึก เท้าจมลงสู่ดิน เขาเตรียมพร้อมรับการมาของสายฟ้าขนวิหค
ขนนกดำสนิทสาดลงมาราวกับเกล็ดหิมะมันสัมผัสเข้ากับไหล่ของซือหยู
ซือหยูรู้สึกว่าร่างกายแหลกเป็นพันชิ้นในทันทีทันใดวิญญาณของเขาแตกสลาย!
สตรีในชุดขาวถอนหายใจเงียบๆ เมื่อมองดูจากระยะไกล
“สายฟ้าขนวิหคที่แม้แต่เซียนขั้นสุดยอดยังหวาดกลัวคงมากเกินไปสำหรับภูติระดับเก้า”   นางบินร่อนเร่เรื่อยไปในหมู่เมฆาขณะถอนหายใจ
แต่ทันทีที่นางโผบินนางก็หยุดกลางคันด้วยความตกใจ
“นี่มันการชุบชีวิต!”
ณตำหนักโลหิต ท่ามกลางเศษเลือดเนื้อ มีฝ่ามือซ้ายที่มีมังกรหยกส่องแสงอันบริสุทธิ์พร้อมกับพลังแห่งชีวิตออกมา
ไม่นานหลังจากนั้นร่างกายที่แตกสลายของซือหยูได้เข้ามารวมตัวกันอีกครั้ง ดวงวิญญาณที่แหลกสลายเองก็เช่นกัน
พริบตาเดียวซือหยูฟื้นคืนชีพกลับมาอย่างสมบูรณ์ ไม่มีบาดแผลใดหลงเหลืออยู่เลย
แต่ซือหยูมิได้ใจเย็นอย่างที่ควรจะเป็น
มันน่ากลัวเกินไป!พลังสายฟ้านั้นเหนือเกินกว่าที่ประสาทของเขาจะรับไหว
แค่การสัมผัสเดียวก็ทำให้เขาแตกสลายเป็นเถ้าถ่านถ้าเขาไม่เตรียมรับมือมาก่อนและไม่มีหัตถ์เทพมังกร เขาคงจะตายไปแล้ว!
ซือหยูอดคิดไม่ได้ว่าหยุนหยาซือกับเทพปีศาจเพียงพูดเพื่อปลอบโยนเขา
ทั้งสองพูดว่ามันคงจะไม่เป็นปัญหาสำหรับซือหยูในการรับวิบัติแรก
แต่สายฟ้าที่เพิ่งมาเมื่อครู่…
เหงื่อเย็นผุดทั่วกายซือหยูนี่ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ เลย!
เขาตายไปแล้วหนึ่งหน!
และเขาใช้หัตถ์เทพมังกรได้เพียงวันละครั้ง
เขาไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้เป็นครั้งที่สอง!
ซือหยูรู้สึกเลวร้ายเขารู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก
แต่ก่อนที่เขาจะได้คิดไปไกลกว่านี้เสียงสายฟ้าลั่นคำรามฟ้าครั้งที่สองก็ดังขึ้นอีก!
สายฟ้าขนวิหคค่อยๆ สาดลงมา  ซือหยูใบหน้าเคร่งเครียดสุดขั้วเขายกมือที่ถือตราสายฟ้าห้าธาตุเหนือศีรษะ
ตราสายฟ้านี้คือต้นแบบสมบัติภูติที่มีพลังดูดซับสายฟ้าของวิบัติสวรรค์มันคือสิ่งที่แก้ทางได้ชะงัด
เมื่อเห็นสายฟ้าขนวิหคก่อตัวซือหยูยกตราสายฟ้าห้าธาตุขึ้นทันที
จากตราสายฟ้าจิตวิญญาณสายฟ้าหลากสีร้องคำรามพร้อมพุ่งออกไปด้านหน้า
แต่ก่อนที่มันจะได้เข้าใกล้สายฟ้าขนวิหคมันกลับถูกอากาศที่มีสายฟ้าขนวิหคปะปนกำจัดไปเสียก่อน
จิตวิญญาณสายฟ้ากลายเป็นเถ้าถ่านและกลุ่มควันก่อนที่จะได้แสดงพลัง
สายฟ้าขนวิหคไม่ได้ลดพลังลงจากแรงปะทะมันยังคงสาดลงมาหาตราสายฟ้าห้าธาตุ
ต้นแบบสมบัติภูติได้สัมผัสกับสายฟ้าขนวิหคลำแสงห้าสายเปล่งออกล้อมรอบสายฟ้าขนวิหคเอาไว้  ซือหยูโล่งใจเล็กน้อยแต่เขาก็ได้โล่งใจเพียงวินาทีเดียวเท่านั้น
ตราสายฟ้าห้าธาตุระเบิดและแตกสลายเป็นเศษเสี้ยวสี่ชิ้นใต้เท้าของซือหยู
สายฟ้าขนวิหคอ่อนพลังลงเพียงเล็กน้อย!
“นี่มัน…ข้ากำลังจะตาย!”
ซือหยูตกตะลึงจนหาคำอธิบายไม่ได้เขาคิดถึงตอนที่เทพปีศาจบอกให้เขาใช้ร่างกายแทนสมบัติในการรับวิบัติและพร้อมจะกระอักเลือดออกมาด้วยความแค้น
แม้สมบัติจากวัตถุดิบระดับภูติยังแตกเป็นชิ้นๆ แล้วเขาจะทำอะไรได้อีกเล่า?
หยุนหยาซือกับเทพปีศาจพูดถึงวิบัติที่เขาต้องเจอถูกต้องแล้วหรือ?ทั้งสองไม่ได้พูดผิดเรื่องกันอยู่หรือ?
ในตอนนั้นเสียงสุนัขเห่าอย่างน่ากลัวในหัวของซือยหู มันทำให้เขาอ้าปากค้าง
“บัดซบ!ทำไมเจ้าถึงเจอกับวิบัติเทพกัน์!เจ้าทำอะไรลงไป?”
วิบัติ…วิบัติเทพหรือ?ซือหยูรู้สึกราวได้อยู่ท่ามกลางวิกฤติใหญ่หลวง
“เป็นไปไม่ได้!ข้าสัมผัสว่าเจ้าจะเจอวิบัติสามสิบเก้าที่มีแค่มนุษย์จะได้เจอ ทำไมมันถึงเป็นวิบัติของลูกหลานเทพเจ้ากัน?! นี่มันวิบัติเทพ! จักรพรรดิเทพอย่างข้ายังกลัวมันเลย!”
วิบัติที่ลูกหลานเทพเจ้าต้องเจอนั้นเป็นที่รู้จักกันในนามวิบัติเทพวิบัติสามสิบเก้านี้จะเกิดขึ้นเมื่อคนจะได้กลายเป็นเทพเท่านั้น มันคือวิบัติเทพที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในหมู่วิบัติเทพด้วยกัน
กลับกันวิบัติที่ยอดฝีมือที่ไม่ใช่เทพจะต้องเจอนั้นเรียกว่าวิบัตมนุษย์ ในบรรดาวิบัติมนุษย์ก็เป็นวิบัติสามสิบเก้าเช่นกันที่อันตรายที่สุด แต่แม้จะใช้คำเดียวกัน ความหมายของมันก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวิบัติสามสิบเก้าชองลูกหลานเทพเจ้า!
วิบัติของเทพเจ้านั้นคือของจริงส่วนวิบัติมนุษย์มักจะถูกเรียกติดตลกว่าเป็นวิบัติเก๊  ถ้าหากเป็นวิบัติเก๊ของมนุษย์วิบัติสวรรค์แห่งโชคชะตาจะไม่เป็นปัญหาสำหรับซือหยูแม้แต่น้อย ฟังจากคำพูดของหยุนหยาซือและเทพปีศาจ
แต่หลังจากที่เขาได้หลอมรวมกับโลหิตเทพมังกรโลหิตเทพที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดทำให้เขาถูกนับเป็นลูกหลานเทพเจ้า!!
ดังนั้นวิบัติเก๊ของเขาจึงได้กลายเป็นวิบัติของจริง!
ซือหยูถูกโลหิตเทพมังกรหลอก!
เมื่อรู้เหตุผลที่ต้องเจอวิบัติของจริงซือหยูสะอึกจนพูดไม่ออก
เขาเคยคิดว่าโลหิตเทพมังกรจะนำพาโชคมาให้เขา!ใครจะไปคิดเล่าว่ามันจะนำพาความตายมาให้!
วิบัติที่น่ากลัวที่สุดในหมู่วิบัติเทพได้ตกลงสู่ซือหยู
ซือหยูกัดฟันเขาเหลือเพียงแค่ตัวเองให้พึ่งพิงในเวลานี้!   ซือหยูยกมือขึ้นยื่นลูกแก้วสีเงินแปดลูกจากไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์พวกมันก่อเป็นค่ายกลคลื่นดาวตกทันทีและปกคลุมสายฟ้าขนวิหคเอาไว้ ด้วยหวังจะทำให้มันสลายไป
ถึงอย่างนั้นเพียงแค่มันได้เข้าใกล้ สายฟ้าขนวิหคก็ปล่อยสายฟ้าออกมาแปดสาย!
ลูกแก้วสีเงินทั้งแปดจากไผ่เทวะที่ทรงพลังที่สุดในจิวโจวได้กลายเป็นผงสีเงิน
สายฟ้าขนวิหคอ่อนแอลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
“แย่แล้วปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้! ข้าต้องหนี! ข้าไม่เอาแล้ว เจ้าไม่มีโอกาสรอดชีวิตเลย!”
เทพปีศาจหน้าซีดด้วยความกลัวเมื่อสัมผัสอันตราย
“หุบปากซะ!”
ซือหยูตะโกนเขาเรียกมุกบาดาลออกมาต้านมันด้วยพลังทั้งหมดที่มี  มุกบาดาลที่มีน้ำหนักมหาศาลปะทะกับสายฟ้าขนวิหค
ตู้ม!ตู้ม!
เสียงสายฟ้าคำรามลั่นโลกภูเขาและแม่น้ำในระยะล้านลี้สั่นสะเทือน
มุกบาดาลเข้าห้ำหั่นกับสายฟ้าขนวิหค!
แต่หลังจากปะทะกันซือหยูก็กระอักเลือดออกมา เขาตัวแข็งทื่อ
เสียงแตกดังขึ้นในกลางอากาศรอยแตกทะลวงผ่านมุกบาดาลไป
ไม่นานหลังจากนั้นมุกบาดาลถูกผ่าเป็นสองท่อน!
มุกบาดาลถูกทำลายไปแล้ว!!
ซือหยูไม่มีเวลาให้คร่ำครวญเขารีบมองสายฟ้าขนวิหค เขาเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นว่ายังมีขนวิหคเหลืออีกครึ่ง!!
นี่คือวิบัติโชคชะตาที่มนุษย์สามารถมีชีวิตรอดไปได้หรือ?   แต่เมื่อวิกฤติอยู่ตรงหน้าซือหยูจะลังเลได้อย่างไร?
เขาไม่พูดอะไรเขาเรียกใบไม้สีทองออกมา สีของมันหม่นหมองลงไปแล้ว มันคือใบไม้ที่เคยดูดซับพลังเซียนหนึ่งในสิบของราชาเขตกลางมาก่อน
ซือหยูขว้างมันออกมาทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว
ใบไม้สีทองปะทะกับสายฟ้าขนวิหคใบไม้ทองคำกลายเป็นเถ้าถ่าน พลังเซียนภายในระเบิดปะทะกับสายฟ้าขนวิหค
การปะทะเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งลมหายใจพลังเซียนสลายไปหมดสิ้น สายฟ้าขนวิหคอ่อนแอลงไปอีกหนึ่งในสี่ส่วน!
ฟึ่บ!
ไม่นานซือหยูโยนใบไม้สีทองเต็มใบออกมาอีก นี่คือใบไม้ทองคำใบสุดท้ายที่เทพไม้ให้ซือหยูมา
ใบไม้สีทองสามารถสังหารใครก็ได้ที่มีพลังต่ำกว่าเซียนมันมีพลังมหาศาล
ใบไม้สีทองร่อนไปยังสายฟ้าขนวิหคสายฟ้าขนวิหคลดขนาดลงด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า พลังของมันถูกใบไม้เทพดูดซับเอาไว้
มันเกิดขึ้นสามลมหายใจเต็มก่อนที่ใบไม้ทองคำจะแตกสลายมันมิอาจทนพลังของสายฟ้าทมิฬได้อีกแล้ว
ถึงเวลานี้สายฟ้าถูกลดพลังลงไปมาก มันเหลือพลังเองหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นพลังที่เหลือของมันก็มากพอที่จะคร่าชีวิตซือหยู
เมื่อสายฟ้ากำลังจะถึงตัวซือหยูหวาดกลัวอย่างรุนแรง เขาเรียกสมบัติทั้งหมดที่ติดตัวอยู่ออกมา บางชิ้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยใช้มาก่อน แต่เขาก็ขว้างมันออกไป
เขาพลิกฝ่ามือสร้างกระบี่พลังชีวิตเขาจับมันด้วยมือทั้งสอง แต่ก่อนที่มันจะสัมผัสสายฟ้า มันก็โดนเสี้ยวสายฟ้าทำลายจนกลายเป็นผุยผงไปเสียก่อน!
ซือหยูไม่ลังเลเขาใช้เข็มแทงวิญญาณแทงส่วนในของสายฟ้าขนวิหคเพื่อให้มันเข้าหาเขาช้าลงไปหนึ่งลมหายใจ
สายฟ้าขนวิหคเหลือพลังไม่ถึงหนึ่งในยี่สิบแล้ว!
แต่สมบัติระดับสูงทั้งหมดที่ซือหยูมีได้เสียหายเหลือเพียงกระบี่ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์และคุกเทวะห้าธาตุที่เขาไม่เต็มใจจะเสีย
ในเวลาวิกฤติซือหยูเรียกแหวนมิติวงหนึ่งออกมา มันคือแหวนของฉีหมิงที่มีสมบัติมากมาย แม้ซือหยูจะใช้พวกมันไม่ได้ แค่วัตถุดิบอย่างเดียวก็สามารถลดพลังของขนวิหคไปได้พอสมควร
เมื่อเขาดูข้างในแหวนเขาพบว่ามีวัตถุดิบสมบัติภูติเกินกว่าห้าสิบชุดและมีสมบัติกึ่งภูติอีกสามชิ้น! และยังมีอีกชิ้นที่ไม่แตกต่างจากสมบัติภูติระดับต่ำเท่าใดนัก  เขาไม่เคยสนใจพวกมันมาก่อนแต่เวลานี้ พวกมันคือสิ่งที่จะช่วยชีวิตเขาได้!
เขาจะลังเลได้นานกว่านี้หรือ?เขากว้างชิ้นส่วนสมบัติภูติทั้งหมดออกมาพร้อมกัน เขาใช้วัตถุดิบของพวกมันรับพลังของสายฟ้า
ซึ่งไม่ต้องสงสัยเศษวัตถุดิบสมบัติภูติทั้งหมดได้กลายเป็นผุยผง!
แต่ในแรงกระแทกของสมบัติห้าสิบชิ้นสายฟ้าขนวิหคถูกดูดซับพลังไปอีกมาก เหลือพลังเพียงแค่หนึ่งในห้าสิบส่วนเท่านั้น!
หลังจากนั้นซือหยูขว้างสมบัติกึ่งภูติทั้งสามชิ้นออกไปเช่นกัน สายฟ้าลดพลังลงเหลือหนึ่งในร้อย!
ซือหยูดีใจมากเมื่อเขาขว้างสมบัติภูติชิ้นสุดท้ายออกไป!
เปรี๊ยะ!
สายฟ้าสลายซากสมบัติภูติแตกกระจายทั่วพื้น
ถึงอย่างนั้นก่อนที่ซือหยูจะได้ดีใจในชัยชนะ เสียงที่ทำให้กระดูกสันหลังเขาเยือกเย็นก็ดังขึ้นอีก!
สายฟ้าดำสนิทสายหนึ่งได้แล่นผ่านเศษสมบัติภูติเข้ามาแล่นผ่านซือหยูมันตกลงไปที่ไหล่ของเขาอย่างแผ่วเบาราวกับเส้นผม
ในเวลานี้ซือหยูได้ยินเสียงหัวใจที่หยุดเต้น เขาตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง
แค่สายฟ้าเสี้ยวเล็กเท่าเส้นผมก็ทำให้ซือหยูได้พบกับความตายอีกครั้ง!
และในครั้งนี้เขามิอาจฟื้นคืนชีพได้!
ในสภาพย่ำแย่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของซือหยูตื่นขึ้นมา เขาตะโกน
“หยุดเวลา!”
บนท้องฟ้าเนตรสีม่วงแผ่ขยายแสนลี้ปรากฏขึ้นมา
ใต้แสงสีม่วงทุกหนแห่งถูกแช่แข็งอยู่ในกาลเวลา
แม้แต่ฝุ่นผงที่ลอยอยู่บนกลางอากาศก็หยุดนิ่ง  เช่นเดียวกับสายฟ้าที่อยู่ห่างจากซือหยูไม่ถึงหนึ่งมิลลิเมตร!!
มันเกือบจะได้แตะปลายไหล่ของซือหยูมันกำลังจะระเบิดพลังใส่เขา
ซือหยูเหงื่อแตกพลั่กเขาเบี่ยงไหล่หลบอย่างระวังพร้อมพลิกฝ่ามือเรียกกล่องหยกออกมา กล่องหยกใบนี้มีพลังชีวิตของจ้าวเทวะระดับห้าถึงห้าร้อยคนผนึกเอาไว้!
ก่อนหน้านี้เขาคิดจะใช้มันเปิดผลึกเทพ แต่เขาก็ไม่มีโอกาส
ในเวลานี้เขาไม่กล้าจะลังเลอีกต่อไป เขารวมพลังห้าร้อยพลังเข้าด้วยกัน
พลังที่แข็งแกร่งเท่าอสูรเนรมิตรระเบิดออกมา
ด้วยแรงระเบิดของพลังมหาศาลเสี้ยวสายฟ้าสุดท้ายต้องปะทะกับมันสิบลมหายใจเต็ม เสี้ยวสายฟ้าสุดท้ายได้หายไปเมื่อพลังหยดสุดท้ายสายไปพอดี ไม่เหลือพลังในกล่องหยกและสายฟ้าหลงเหลืออยู่เลย  ซือหยูร่างกายเปียกชุ่มหน้าผากมีแต่หยาดเหงื่อเม็ดโตเท่าถั่ว
เขาใช้สมับติทั้งหมดเพื่อปะทะกับสายฟ้าขนวิหค!
วิบัติสามสิบเก้าน่ากลัวเกินไป!
“ฮู่ว….”
ซือหยูขาอ่อนปวกเปียกเขาล้มลงไปกองกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้าที่ถาโถมเข้ามา แต่เมื่อได้เงยหน้ามอง เขาก็ตัวแข็งทื่อ
สายฟ้าขนวิหคอีกสายกำลังตกลงมาจากฟ้า!
และมันมีขนาดที่ใหญ่กว่าขนวิหคเดิมเป็นสิบเท่า!
The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset