The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1111 – ตราหลวง

  ซือหยูส่ายหน้าเบาๆ

   ก็มิใช่ว่าข้าจะทำอะไรไม่ได้!แดนบูรพาอยู่ไกลจากเขตกลางไม่กี่ร้อยล้านลี้ ข้าต้องเดินทางหลายปีกว่าจะไปถึงที่นั่น! ข้าต้องไปโดยใช้จุดเคลื่อนย้ายเทวะเท่านั้น และถ้าหากว่ามันยังไม่พอ ข้าก็ต้องใช้จุดเคลื่อนย้ายขั้นสุดยอดหลายครั้งในคราเดียวเพื่อที่จะไปแดนบูรพาก่อนที่วิบัติจะมาถึง 

  เทพปีศาจถอนหายใจ

   แต่ทางนี้มันผ่านไปไม่ได้ทางที่ดีทีสุดคือฝ่าเข้าไป 

   เข้าคิดมาแล้วเจ้าสบายใจได้ ช่วยข้าจัดการสายใยมังกรไปก็พอ 

  ซือหยูกล่าวเงียบๆ

  เทพปีศาจแปลกใจ

   เจ้ามีทางออกหรือ? 

  ซือหยูพยักหน้าเบาๆ  เขามองหาโรงเตี๊ยมเพื่อพักก่อนที่ฟ้าจะสว่างตอนนั้นแสงได้แล่นผ่านร่องประตูเข้ามา

  ซือหยูหายใจเข้าลึกเขาเรียกแผนที่ออกมาคลี่ออก เขายิ้มอย่างพอใจ

  ในความมืดมิดยามค่ำคืนเมืองเขตกลางเต็มไปด้วยแสงสว่าง

  ซือหยูกลายเป็นเงามืดแฝงตัวไปกับความมืดอย่างไร้เสียงและร่องรอย

  มีบ้านหลังหนึ่งในซอยแคบ

  เขายืนอยู่หน้าบ้านและกำมือเคาะประตูประตูเปิดออกเผยให้เป็นเด็กสาวงดงามที่มองรอบ ๆ ผ่านดวงตาสีดำ นางพูดเสียงแหลม

   ท่านผู้เฒ่ามาตามหาใครหรือ? 

  ซือหยูหยิบสร้อยหยกม่วงออกมาให้นางมันมีสองตัวอักษรสลักเอาไว้

  ดวงตาของสาวน้อยสดใสขึ้น

   โปรดเข้ามาก่อน 

  ซือหยูก้าวเข้าไปและพบว่าไม่มีสิ่งอื่นใดที่นี่แต่ภายในนั้นถูกตกแต่งหรูหราราวกับวัง

  มียอดฝีมือมากมายที่อายุแตกต่างกันนั่งอยู่พวกเขาพูดคุยกันเบา ๆ ซือหยูเดินเบา ๆ ใบหน้าเขาหวาดระแวง

   โปรดรอก่อนมันจะเริ่มเมื่อถึงเวลา 

  ซือหยูพยัหน้าเขาหามุมเงียบและนั่งอยู่ตามลำพัง

   ฮ่าๆๆๆเขตกลางช่างอุกอาจนัก จุดเคลื่อนย้ายเวลาถูกปิดผนึก มันไม่ให้เวลายอดฝีมือแดนอื่นเตรียมตัวเลย ตอนนี้ ถ้าพวกเจ้าจะกลับ พวกเจ้าก็ต้องหาทางพิเศษ! 

   มีความคิดข้าเขตกลางเองก็มีความผิด หลังจากที่คนแข็งแกร่งจากทั้งจิวโจวมาที่เขตกลาง พวกมันก็ปิดจุดเคลื่อนย้ายสุดยอดกับเทวะไป ดินแดนมีดสวรรค์สมคบกับเผ่าผีโดยมีเงาราชาเขตกลางอยู่เบื้องหลัง! 

   เจ้ายังไม่เข้าใจอีกรึ?ทำไมจ้าวดินแดนถึงปิดบังเรื่องราวมาได้เป็นร้อยปี? ในเขตอื่น ราชาเขตรู้อยู่แก่ใจ แต่เขาไม่กลัวว่าจะเป็นปัญหาเพราะฐานะราชาเขตกลาง 

   ถูกต้องใครกันในจิวโจวจะไม่รู้ว่าราชาเขตกลางร่วมมือกับเผ่าผี? แต่จิวโจวสูญเสียครั้งใหญ่เพราะหลินหลาง ไม่เหมาะที่เราจะไปต่อสู้กับราชาเขตกลางตอนนี้ ราชาเขตที่เหลือได้แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เท่านั้น 

   อย่างน้อยราชาเขตกลางก็เป็นศิษย์ท่านเฉินอี้เจิงข้าไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะทรยศจิวโจว! 

  ท่ามกลางบทสนทนาเหล่านั้นเสียงหัวเราะชอบใจดังมาจากนอกประตู

   ขออภัยที่ทำให้พวกเจ้าต้องรอ 

  ปราชญ์วัยกลางคนผลักประตูเข้ามา

  ทุกคนระวังตัวในทันที

   ทุกท่านข้าคือเหวินยี่ชิง ผู้ดูแลจากผาบั่นภูติ 

  ปราชญ์วัยกลางคนมีใบหน้าสะอาดสะอ้านยิ้มแย้มเขานำเครื่องประดับหยกออกมาจากเอว มันสลักคำว่า ‘ผาบั่นภูติ’ เอาไว้  และมันเป็นสีเขียว!

   ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะแสดงตราประจำตัวของตัวเองออกมานี่เป็นเรื่องวใหญ่ ข้าไม่คิดว่าพวกเจ้าจะทำพลาด 

  ทุกคนเรียกตราประจำตัวออกมาอย่างเงียบเชียบส่วนใหญ่มีสีฟ้า มีอีกคนที่มีสีเขียว นอกจากนั้นเป็นสีม่วง

  สีของตราผาบั่นภูติแสดงถึงระดับของเจ้าของ

  สีม่วงคือระดับต่ำสุดตามด้วยสีฟ้า และเหนือจากนั้นจะเป็นสีเขียว

  ชายวัยกลางคนหยุดมองเจ้าของตราสีหยกเล็กน้อยตามด้วยตราสีม่วง เขาแปลกใจเล็ก ๆ

  สำหรับตราสีหยกเขาแปลกใจด้วยความตกตะลึง แต่ตราสีม่วงนั้นเขาแปลกใจเพราะความสงสัย

  หลายคนมองไปยังเจ้าของตราสีหยกนางเป็นสตรีวัยกลางคนที่ดูอ่อนน้อม นางดูเฉลียวฉลาด

  สำหรับคนในผาบั่นภูติการจะเพิ่มระดับมาเป็นเขียวจากม่วงนั้นต้องใช้การลงทุนอย่างมหาศาล!

  แก้วที่ซือหยูใช้ไปนั้นไม่ต่ำกว่าร้อยล้านดวงและเขาก็ยังไม่ได้เป็นสมาชิกสีฟ้าด้วยซ้ำ!

  ในการเป็นสมาชิกสีเขียวเขาต้องใช้แก้วอย่างน้อยพันล้านดวง

  นางมีฐานะร่ำรวยขนาดนั้นเชียวหรือ?

  จากนั้นพวกเขาก็เหลือบมองซือหยูด้วยหางตาราวกับคนไม่สำคัญ

   ดีมากทุกคนมาที่นี่เพื่อที่จะเคลื่อนย้าย 

  ชายวัยกลางคนดูใจกว้าง

  เขาพูดถูกเส้นทางที่ซือหยูต้องใช้คือการเดินทางโดยความช่วยเหลือของผาบั่นภูติ

  จุดเคลื่อนย้ายถูกปิดไปแล้วซือหยูมิใช่คนเดียวที่ต้องการใช้วิธีนี้

  พวกเขาพยายามอย่างมากเพื่อที่จะหาจุดรวมกำลังใต้ดินของผาบั่นภูติในเขตกลาง

  ซือหยูได้ส่งข้อความผ่านทางเมืองเทียนหยาและเขาได้รับคำตอบในครึ่งวันถัดมาว่าจะต้องมารวมตัวที่นี่

  เช่นเดียวกับซือหยูพวกเขาทุกคนได้ติดต่อจากเหวินยี่ชิงที่ประจำการอยู่เขตกลาง

   ฮ่าๆๆๆดูท่าพวกเจ้าจะไม่มีปัญหานะ 

  เหวินยี่ชิงยิ้ม

   ข้าขอพูดตามตรงกับพวกเจ้าในการใช้จุดเคลื่อนย้ายเทวะ เจ้าจะต้องจ่ายให้ไหว 

   ฮื่ม! 

  กลุ่มคนที่แข็งแกร่งนั้นไม่สนใจในสิ่งที่เหวินยี่ชิงพูดพวกเขาพากันถอนหายใจแรง

   เจ้าจะไม่มากไปหน่อยรึ?อย่างน้อยก็แสดงหลักฐานให้ข้าเชื่อบ้างว่าเจ้าพูดจริง แล้วเจ้าจะมีสิทธิ์เสนอราคา 

  สตรีชรายิ้มอย่างเย็นชา

  เหวินยี่ชิงมิได้ไม่พอใจ   ฮ่าฮ่า!ข้าหลอกเจ้าไม่ได้เลยสินะ? แต่ก็เอาเถอะ ทุกท่านคงรู้กันดีอยู่แล้ว ข้าเองก็ไม่อยากจะถูกผาบั่นภูติตามล่าหรอก 

  นางพูดขึ้นมาอีกครั้ง

   ไม่ว่าจะตอนนั้นหรือตอนไหนในเวลาที่แผ่นดินปั่นป่วนเช่นนี้ แม้ผาบั่นภูติจะเต็มไปด้วยกำลัง แต่ถ้าเจ้าหลอกเรา ผาบั่นภูติก็อาจจะตามล่าเจ้าไม่ได้ ข้าจึงต้องระแวงบ้าง 

  เหวินยี่ชิงโมโหแต่ก็ถอนหายใจ

   ย่อมได้ถ้าเจ้าสงสัย ข้าจะแสดงให้เจ้าดู ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องฟังข้าบ้าง 

  หลังพูดจบเหวินยี่ชิงนำเหรียญสีทองที่มีกลิ่นพิเศษที่มิอาจลบล้างได้ออกมา

   ฎีการาชาเขตกลางรึ? 

  ใบหน้าไม่แยแสของนางเลือนหายไปนี่คือสิ่งที่นางยอมรับได้

  ซือหยูตาลุกวาวเช่นกันราชาเขตกลางมอบอำนาจฎีกาให้กับเขาเพื่อให้เขาแหกกฎบางอย่างได้  อย่างเช่น..เขาสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องสนใจการปิดจุดเคลื่อนย้ายหรือก็คือ…การมีสิทธิพิเศษ

   อำนาจฎีกาหลวงสิ่งนี้จะใช้ผ่านการปิดจุดเคลื่อนย้ายได้สินะ? 

  นางพูดด้วยความสงสัย

  เหวินยี่ชิงพูดด้ววยรอยยิ้ม

   ข้าลองด้วยตัวเองแล้วมันไม่มีขีดจำกัด! ถ้าผู้ใดได้เห็นสิ่งนี้ มันจะไม่ขวางทางเจ้า! 

  ทุกคนตกใจ

  จากนั้นจึงมีเสียงเบาๆ ดังขึ้น

   ข้ามีอีกคำถามและข้าก็ไม่รู้ว่าควรจะถามหรือไม่ 

   โปรดพูดสิ่งที่อยู่ในใจเจ้ามาเถอะ 

  เหวินยี่เชิงมิได้ขยะแขยงซือหยูเพราะเขาเป็นสมาชิกสีม่วงกลับกันแล้ว เขาแสดงความนับถือซือหยูเป็นพิเศษ ดวงตาของเขาเปล่งประกายแสดงความสนใจ

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset