The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1226 – เริ่มสงครามครั้งใหญ่

  เทพพ่อค้าไม่คิดเลยว่าซือหยูจะคิดถึงคนที่เป็นเหยื่อด้วยความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นในใจเทพพ่อค้า เขาไม่ได้เห็นคนมีหลักการชัดเจนเช่นนี้มานานมากแล้ว

  เทพเจิ้งสายตาอ่อนลงแทนที่ด้วยความรักนางยอมรับนับถือในตัวซือหยูแต่ก็คิดที่จะรักษาระยะห่างจากเขาอยู่ตลอดเวลา เขาเป็นคนที่เจ้าอุบายเกินไป

  เมื่อได้ฟังคำพูดของซือหยูนางประทับใจในฐานะของสตรี

   ฟ้าดินเห็นแจ้งดีชั่วย่อมได้รับผลกรรม ข้าไม่เคยคิดอภัยให้พวกมัน ข้าต้องการใช้โลหิตของพวกมันล้างบาปในอดีตของพวกมันเอง! ข้าอยากให้พวกมันหายไป แม้แต่เทพแห่งความตาย! พวกมันต้องได้รับผลกรรมของตัวเอง! 

  แม้แต่เทพแห่งความตาย…  หลักการซือหยูชัดเจนเขาไม่มีความคิดอื่นนอกจากกำจัดโลกเสี้ยววิญญาณให้หมดสิ้น

  โลกเสี้ยววิญญาณเป็นภัยมานานนมมันกลายเป็นสถานที่แห่งบาป ยากที่พวกเขาจะเปลี่ยนเทพในโลกเสี้ยววิญญาณโดยการรับเข้าเป็นพวกกับพันธมิตรบูรพา

  โลกเสี้ยววิญญาณจะเข้าร่วมได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ความรู้สึกไม่ปลอดภัยในความภักดีจะคงอยู่ไปตลอดกาล เทพกาลกิณีหักหลังพันธมิตรซ้ำแล้วซ้ำเล่า โลหิตสาดกระจายทั่วพันธมิตรทุกครั้งไป

  แทนที่จะให้เทพพวกนี้เข้าร่วมพันธมิตรคงจะดีกว่าถ้ากำจัดทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาในอนาคตล่วงหน้า

   แต่เทพโจรสลัดทุ่มเทกับพวกเราด้วยความจริงใจหากเราฆ่าเขา พันธมิตรบูรพาจะเป็นฝ่ายผิด จะเสียหน้าต่อทุกสิ่งในธารดารา 

  เทพพ่อค้ากล่าว  ซือหยูกล่าว

   นี่จึงเป็นเหตุที่ไม่ควรชักชวนเทพคนอื่นเข้าร่วมพวกเราหากเราให้พวกมันเข้าร่วมพันธมิตรและสังหารพวกมัน พวกเราจะเสียข้ออ้างเดียวของเราไป! 

   เช่นนั้นเทพโจรสลัดก็เป็นข้อยกเว้นหรือ? 

  ซือหยูพูดด้วยความเย็นชา

   แน่นอนว่าไม่นอกเสียจากเขาจะไม่หักหลังพวกเราจนเรื่องทุกอย่างจบลง แต่จากที่ข้าจับตาดู เทพโจรสลัดเป็นชายที่จะไม่เคลื่อนไหวหากไร้ผลกำไรรออยู่ข้างหน้า ชายผู้นี้ล่องลอยตามสายลม ไร้จุดยืนในสิ่งใด ข้าไม่เคลื่อนไหวมาหนึ่งเดือนเต็ม มันคงจะร้อนรนอยู่มากแล้วใช่ไหม? 

  เทพพ่อค้ากับเทพเจิ้งมองหน้ากันและแอบตกใจในความเฉลียวฉลาดเหนือมนุษย์ของซือหยูพวกเขายิ้มออกมาพร้อมกัน

   ไม่ใช่แค่กับเทพโจรสลัดเทพฝ่ายพวกเราเองก็กลัวแทบตาย ถ้าเจ้าไม่ออกไปตอนนี้ก็คงยุ่งกันไปหมด แต่เจ้าพูดถูก เทพโจรสลัดไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเลย มันมีความหมายแน่นอน 

  ซือหยูพูด

   รอให้มันก่อกบฏแล้วค่อยจัดการมัน! 

   ตอนนี้เราต้องทำอะไรล่ะ? 

  เทพพ่อค้ากับเทพเจิ้งกลับมามั่นใจในตัวซือหยูอีกครั้ง

  ซือหยูพูดเบาๆ

   นิ่งเฉยเสียอย่าเพิ่งเคลื่อนไหว! 

  ซือหยูพูดต่อเมื่อทั้งสองไม่ถามอะไรเพิ่ม

   เทพทั้งหกในธารดารารวมตัวกันแล้วในที่เดียวแต่พวกมันไม่เคยก่อปัญหา จะต้องเป็นเพราะความกลัว…และน่าจะเป็นความกลัวต่อหน้าไม้สังหารเทพ! หากไม่มีเรื่องผิดพลาด มันจะเริ่มลงมือตอนที่มันได้เห็นหน้าไม้นั่นแหละ! ถึงตอนนั้นจะเป็นจังหวะที่เราลงมือ! 

  เมื่อได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากซือหยูเทพทั้งสองรู้สึกสบายใจและกล่าวลา

  ก่อนเทพพ่อค้าจะไปเขาหันมาพูดกับซือหยู

   ซือหยูเจ้าบ่มเพาะวิชาอะไรอยู่รึ? 

  เอ๋?ซือหยูเลิกคิ้ว เขาลังเลแต่ตอบไปตามจริง

   มันเป็นวิชาเผ่าอสูรข้าใช้พลังโลหิตอสูรได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง 

  ถ้าหากเป็นคนอื่นเขาคงจะถูกเทพทั้งสองจับตัวไปทรมานไตร่สวนแล้ว

  เขามีโลหิตของเทพอสูรและบ่มเพาะวิชาอสูรมิใช่ว่าเขาเป็นเผ่าอสูรรึ? อย่างน้อยเขาก็ควรจะถูกสอบสวนไปมากกว่านี้

  แต่นี่คือซือหยูเทพทั้งสองมองหน้ากันและพูด

   อย่าบ่มเพาะมันต่อหน้าคนอื่นก็แล้วกัน 

  ทั้งสองไม่คิดจะถามอะไรเพิ่ม

  ซือหยูได้รับความเชื่อใจจากทั้งสองมาแล้ว

  …

  ณห้องลับอีกแห่ง

  อาต้ากับอาเอ้อรออย่างอดทนด้านนอก

   ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง? 

  เสียงของเทพโจรสลัดดังออกมาจากห้องลับ

  อาต้ากับอาเอ้อที่ติดตามเทพโจรสลัดอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดรู้สึกได้ว่าเขาร้อนใจในน้ำเสียง

   ทัพของโลกหกใบรวมตัวกันแล้ว! 

   ข้าถามเรื่องเทพในพันธมิตรบูรพาพวกเขาเคลื่อนไหวอะไรบ้าง? 

  เทพโจรสลัดถามเสียงของเขาดูร้อนรนยิ่งขึ้นไปอีก

  เรื่องดำเนินมาแตกต่างจากที่เทพโจรสลัดคาดคิดถ้าหากเทพแห่งความตายไม่เชื่อใจเขา เขาก็คงจะกลับไปเข้าร่วมกับเทพฝ่ายโลกเสี้ยววิญญาณแล้วเมื่อซือหยูไม่ลงมืออะไรเลยในครึ่งเดือนแรกที่ผ่านมา

  ตอนนี้มีเพียงความศรัทธาในเทพแห่งความตายที่ยังทำให้เขาพอมีความสงบในใจอยู่บ้าง

  หากเทพแห่งความตายเปลี่ยนใจและขอให้เขาเปลี่ยนข้างเขาจะไม่ติดตามเทพพันธมิตรบูรพาและต่อสู้ร่วมกับโลกเสี้ยววิญญาณ

   เทพลั่วประจำการที่เรือรบเขาพร้อมที่จะจู่โจมแล้ว แต่เทพคนอื่นยังคงไร้ความเคลื่อนไหว 

  เทพโจรสลัดกำหมัดเขาทั้งโมโหและร้อนใจ เขาขมวดคิ้ว

   ซือหยู!เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่? 

   ส่งคำสั่งไปจับตาดูเทพลั่วให้ดี! ทำลายเรือพวกมันทันทีที่จำเป็น! ไม่สิ ทำลายเรือรบทุกลำในท่าและอย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้!    อะไรนะ!อาต้ากับอาเอ้อผงะ ดีแล้วหรือที่จะทำลายความสัมพันธ์กับพันธมิตรบูรพา?

   ขอรับ! 

  แต่ทั้งสองไม่กล้าลังเลทั้งสองถอนหายใจด้วยความโล่งอกเสียด้วยซ้ำ เพราะถ้าหากพวกเขาเข้าร่วมพันธมิตรบูรพาจริง ๆ พวกเขาก็กลัวว่าเทพในพันธมิตรจะมาตามคิดบัญชีกับพวกเขาในภายหลัง

  …

  บรรยากาศของสงครามหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ ทุกสิ่งมีชีวิตสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างกำลังจะปะทุ

  ที่ชายแดนเทพหมาป่าและเทพอื่นทั้งหกรวมทั้งเทพตำรายืนรออยู่

  หากเริ่มสงครามพวกเขาจะเป็นกำลังหลักในสงครามครั้งนี้ แน่นอนว่านอกจากพวกเขาก็จะมีเครื่องจักรสังหารอีกด้วย

  ตอนนี้พวกเขากำลังรอโอกาสดีที่จะลงมือ  และความช่วยเหลือของอาซันจะทำให้พวกเขาได้ลงมือ!

  …

  ณตำหนักเทพโจรสลัดในโลกเสี้ยววิญญาณ เกิดความตึงเครียดขึ้นในหลายเรื่อง เหล่าเทพในพันธมิตรบูรพาเองก็สัมผัสได้

  พวกเขายังรู้สึกได้อีกว่าวิกฤติกำลังจะมาเทพโลกเสี้ยววิญญาณดูเหมือนกำลังรอโอกาสที่จะจู่โจม

   เทพพ่อค้าโปรดสั่งพวกเราเถอะ ต่อให้ไม่มีเทพโจรสลัดพวกเราก็มีกันเก้าคน กับอีกฝั่ง รวมเทพตำราไปก็มีเพียงเจ็ด เราจะต้องเป็นผู้ชนะในสงครามนี้! 

   ใช่แล้วเราจะนั่งรออยู่ไม่ได้ เหตุการณ์จะรุนแรงยิ่งกว่านี้! คนของเทพโจรสลัดเริ่มจับตาดูเทพลั่วที่ท่าเรือแล้ว เขาไม่เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบอีกต่อไป เทพโจรสลัดจะตัดขาดจากพวกเราและแทงเราจากข้างหลัง! 

  เทพพ่อค้านั้นใจเย็น   พวกเจ้าโปรดใจเย็นลงก่อนอย่าได้ผลีผลาม พวกเราสองคนถามแผนของซือหยูมาแล้ว พวกเรารู้แล้ว 

  แผนอะไรกัน?เหล่าเทพถามในใจโดยที่ไม่รู้ตัว แม้พวกเขาจะกังขาในความภักดีของซือหยู พวกเขาก็ยังตั้งตารอดูว่าซือหยูวางแผนอะไรเอาไว้

   จงหยุดและอย่าเคลื่อนไหว! 

  เมื่อเทพพ่อค้าลั่นวาจาพวกเขาตกใจเมื่อได้ฟัง ตามด้วยโมโห

   เทพพ่อค้าท่านแน่ใจนะว่ารู้สถานการณ์ข้างนอกนั่น? วันนี้เรื่องร้ายแรงเพียงใดแล้ว? ท่านแน่ใจนะว่าเทพโจรสลัดจะยังภักดีกับพวกเรา? 

  เทพอารมณ์ร้อนระเบิดอารมณ์ออกมา

  เทพพ่อค้าพยักหน้า

   ซือหยูรู้ทุกอย่างพวกเรารออยู่เฉย ๆ และอย่าเคลื่อนไหว! 

  อะไรนะ!เหล่าเทพทนไม่ไหวอีกต่อไปพวกเขาโกรธมาก

   เทพพ่อค้าเรื่องเป็นเช่นนี้ และท่านยังหวังกับเด็กคนนั้นอีกเรอะ? 

   ขะ…ข้าโกรธมันจริงๆ! มันคิดจะปล่อยให้พวกเราตายกันหมดที่นี่รึ? 

   เทพพ่อค้าเทพเจิ้ง โปรดอภัยที่พวกเรามิอาจหยุดรอเถอะ เรารอทำตามแผนไม่ได้จริง ๆ! 

  เทพหลายคนลุกขึ้นด้วยความโทสะ

   พวกเราจะแก้ปัญหาในโลกเสี้ยววิญญาณด้วยทางของพวกเราเองและข้าขอให้ท่านสองคนไปบอกซือหยูว่าไม่ต้องห่วงอีกแล้ว เทพไร้ค่าอย่างพวกเราจะจัดการเอง!

  พวกเขาโกรธเกรี้ยวและพวกเขากำลังจะออกไปจากห้อง

  แต่ในตอนนั้นเองเทพโจรสลัดได้ปรากฏตัวด้วยใบหน้าอัปลักษณ์

  เขาเหลือบมองทุกคนในห้องเขาพูดเสียงสั่น   ทุกท่านเกิดเรื่องใหญ่แล้ว หน้าไม้สังหารเทพทั้งเก้าคันหายไปแล้ว! 

  อะไรนะ?เหล่าเทพที่เตรียมจะไปสนามรบตกตะลึง

   ทำไมเจ้าไม่รู้ล่ะ?หน้าไม้สังหารเทพอยู่กับเจ้าไม่ใช่รึ? 

   เทพโจรสลัดพูดให้้ชัด! พวกมันหายไปได้ยังไง! 

  หากหน้าไม้สังหารเทพที่สังหารเทพได้อย่างง่ายดายหายไป…พวกมันจะถูกขโมยไปจริงๆ หรือเป็นเทพโจรสลัดที่ซ่อนมันเอาไว้เพื่อที่ตัวเองจะได้หักหลังพันธมิตรบูรพาได้กันแน่?

  มีเพียงเทพพ่อค้าและเทพเจิ้งที่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น

  ซือหยูพูดถูกอีกแล้ว!

  หน้าไม้สังหารเทพหายไป!

  สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!

   อาซันคนของข้าที่ข้าเชื่อใจได้รับผิดชอบการปกป้องหน้าไม้สังหารเทพ! แต่เมื่อครู่ข้าสัมผัสได้ว่าเขาออกจากโลกใบนี้ไป ข้ารู้สึกแปลกเลยไปตามหาหน้าไม้สังหารเทพ แต่พวกมันก็หายไปแล้ว! 

  เทพพันธมิตรหลายคนรักษาระยะห่างจากเทพโจรสลัดพวกเขาไม่อยากจะเชื่อคำโกหกจากเทพโจรสลัด

   เจ้าแน่ใจจริงๆ นะว่าหน้าไม้สังหารเทพถูกขโมยไป? 

   ใช่แล้วพวกมันถูกขโมยไป! 

  เสียงชัดเจนที่หายไปนานดังขึ้นตอบคำถามของเหล่าเทพ

  ซือหยู!

  พวกเขาหันมองไปยังห้องลับประตูเปิดออกช้า ๆ ซือหยูก้าวออกมา

  เหล่าเทพพันธมิตรโกรธเกี้ยว

   ฮื่ม!ในที่สุดเจ้าก็ออกมา! ท่านซือหยู! 

   ฮื่ม!เจ้าบอกว่าหน้าไม้สังหารเทพถูกขโมยไปจริง เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?    หนึ่งในเทพจากพันธมิตรพูดอย่างเยือกเย็น

  ซือหยูยิ้มที่มุมปาก

   เทพบนโลกเสี้ยววิญญาณจะแสดงหลักฐานกับท่านเอง!ข้าคิดว่าพวกมันใกล้แล้วล่ะ 

  เมื่อซือหยุพูดจบสีหน้าของเทพคนอื่นก็เปลี่ยนไปทันที พวกเขาสัมผัสได้ถึงเทพเจ็ดคน ทั้งเจ็ดมาที่ชายแดนของโลกเทพโจรสลัดแล้ว!

   สงครามเริ่มแล้ว! 

  เทพฝ่ายพันธมิตรสีหน้าหม่นหมองพวกเขาต่างจ้องมองซือหยูด้วยความแค้นที่รั้งโอกาสจู่โจมของพวกเขา พวกเขาต้องรีบไปที่ชายแดน

  เทพโจรสลัดกัดฟันกระทืบเท้ารีบออกไปดู

  เทพพ่อค้าและเทพเจิ้งต่างมองซือหยูด้วยความตื่นเต้น

  ซือหยูพยักหน้าเบาๆ   ไปกันเถอะ!สงครามนี้ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่พวกมันคิด! 

  เทพเจิ้งและเทพพ่อค้าสัมผัสถึงความเยือกเย็นในน้ำเสียงซือหยูได้อย่างชัดเจน

  เหล่าเทพบนโลกเสี้ยววิญญาณไม่ได้เข้าใจอะไรเลยการต่อสู้นี้มิใช่หาผู้แพ้หรือผู้ชนะ แต่เป็นการต่อสู้ที่จะทำลายล้างโลกเสี้ยววิญญาณ

  พวกเขาไปที่ชายแดนในทันทีเทพศัตรูทั้งเจ็ดเรียงแถวเป็นหนึ่ง แต่ละคนมีแสงเปล่งประกายจากร่าง

  หนึ่งในนั้นคือเทพตำรา

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset