The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1279 – ยักษ์ขึ้นฝั่ง

  ซือหยูคิดในใจจักรพรรดิอสูรถูกบงการอยู่งั้นรึ? พฤติกรรมประหลาดของจักรพรรดิอสูรในหลายร้อยปีที่ผ่านมานั้นบอกได้ว่ากำลังเกิดปัญหาในแดนอสูร

  อย่างเช่นการที่มเหสีหยุนเซี่ยกล้าฆ่าบุตรทั้งเก้าของจักรพรรดิอสูรนางไม่กลัวหรือว่าจักรพรรดิอสูรจะโกรธแค้นเมื่อตื่นขึ้นมา? ข่าวลืออาจจะมีมูลอยู่ก็ได้

  เขาถามอีกครั้งในเรื่องศาลอสูร

   เทพจากศาลอสูรล้วนเป็นขุนพลจะแบ่งเป็นสามระดับตามพลัง ก็คือสวรรค์ ธรณี และอสูร! 

  ซือหยูตาเป็นประกาย

   ระดับขุนผลเจ้านั่นคืออะไร?เจ้าคนที่มาจับข้าคราวที่แล้วน่ะ? 

   นายท่านมันเป็นระดับสวรรค์! 

   แล้วเมฆาอสูรล่ะ?     ธรณี! 

  ส่วนที่เหลือคือระดับอสูรที่ต่ำที่สุด

   นอกเหนือจากนี้ยังมีแม่ทัพศาลอสูรที่เป็นผู้นำขุนพลทั้งหมดในศาลอสูร 

  แม่ทัพรึ?ซือหยูตาเป็นประกาย

   มันคือใคร?มันแข็งแกร่งแค่ไหน? 

   แม่ทัพคืออดีตศิษย์ของจักรพรรดิอสูรเทพอสูรหกวิถี! พลังของมัน…ไม่มีใครเทียบได้อีกแล้วนอกจากจักรพรรดิอสูร 

  ซือหยูเบิกตากว้าง

   แม้แต่องค์ชายหนึ่งก็มิอาจเป็นศัตรูที่คู่ควรรึ? 

   ไม่ได้แน่นอน!ในระหว่างที่จักรพรรดิอสูรปิดประตูฝึกตน เทพอสูรหกวิถีรับผิดชอบการชี้แนะองค์ชายหนึ่ง เทพอสูรหกวิถีคืออาจารย์ขององค์ชายหนึ่ง! 

  ซือหยูตกตะลึง

  ในบรรดารัชทายาททั้งหมดซือหยูเห็นเพียงพลังขององค์หญิงหกที่เป็นอันดับสองเท่านั้น นางมีพลังที่เทียบเท่ากับฑากิณี แล้วองค์ชายหนึ่งจะแข็งแกร่งเพียงใดกัน?

  และแม่ทัพศาลอสูร…ยังเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งโดยแท้จริง

  พลังของเขา…เทียบได้กับเทพแห่งความตายรึ?

  ซือหยูหนักใจดูเหมือนจะไม่ง่ายแล้วที่เหล่ารัชทายาทจะทำการยึดอำนาจได้สำเร็จ

   แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?สิ่งสุดท้ายที่ข้าขอให้เจ้าทำน่ะ? 

  ซือหยูกล่าว

  เหล่าว่าที่เทพที่มารายงานหยิบลูกปัดสีดำออกมาเป็นจำนวนมากมันดูธรรมดา แต่หากมองดูใกล้ ๆ แต่ละลูกก็คือโลกหนึ่งใบ

   เราทำภารกิจสำเร็จและแลกเปลี่ยนทรัพยากรทั้งหมดตามที่นายท่านสั่งพวกเราหาอสูรที่ยินดีชำระล้างโลกเหล่านี้ให้พวกเราอย่างลับ ๆ    ซือหยูตาเป็นประกายเขานำลูกปัดแต่ละเม็ดมาดู

  มันคือลูกปัดวิเศษเก้าเม็ดซึ่งเป็นโลกเก้าใบ

   ส่งให้เทพอสูรเนตรม่วงที่อยู่นอกเมืองหลวงบอกให้เลือกซ่อนตัวในลูกปัดหนึ่งเม็ด และนำเม็ดนั้นกลับมาให้ข้า 

  หากเป็นเทพเทพอสูรเนตรม่วงมิอาจไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ถ้าหากเขาอยู่ในเมืองหลวง เขาจะถูกเจอตัวทันที แต่มันจะไม่เป็นไรถ้าหากเขาซ่อนตัวในโลกใบอื่น

  เพื่อที่จะได้มาซึ่งโลกขนาดพกพาเหล่านี้ซือหยูต้องเสียทรัพยากรในแดนจิงหยูไปถึงสามส่วน มิเช่นนั้นจะไม่มีอสูรในกล้าสร้างโลกให้กับเขา

  เทพอสูรเนตรม่วงเตรียมการล่วงหน้ามาหกเดือนเขาซ่อนตัวทายาทไว้ที่เมืองหลวงแล้ว

   ข้าเจอเขาแล้วข้าควรพามาที่นี่หรือไม่?    ซือหยูคิดไม่นานก่อนจะส่ายหน้า

   ไม่มีเวลาบอกเขาว่าอย่าออกไปที่ไหนตามใจอยาก 

   ได้เลย! 

  เมือ่รอทุกคนจากไปแล้วซือหยูถอนหายใจและนับเวลา อีกไม่นานจะถึงเวลาก่อกบฏของเหล่ารัชทายาท

   ความวุ่นวายครั้งนี้จะเป็นโอกาสเดียวที่ทำให้ข้าออกจากแดนอสูรข้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว! 

  เขาถูกแดนอสูรหมายหัวถ้าหากเขาหนีไม่ทันเวลาจะไม่มีโอกาสให้หนีอีกต่อไปแล้ว

  ซือหยูมองท้องนภา

   ยังเหลืออีกยี่สิบวันก่อนจะก่อกบฏไม่สิ อีกแค่สิบวันเท่านั้น! 

  …

  ทะเลขม…

  ท้องนภาสีครามสายลมพัดปลิว  เหล่าสัตว์อสูรวิ่งไล่กันรอบชายหาดอย่างสนุกสนาน

  แต่ในตอนนั้นเองก็มีสัตว์อสูรสองตัวที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติมันรีบวิ่งเข้าป่าหายลับไป

  ฝูงนกในป่าตกตะลึงพวกมันโถมบินไปทางแผ่นดินใหญ่

  ลึกในพงหญ้าเหล่าแมลงแตกตื่น ราวกับเรื่องร้ายแรงกำลังจะเกิดขึ้น

  ฟลุบ…

  ในทะเลขมที่ดำสนิทและสงบเงียบใกล้ชายฝั่ง ฟองน้ำขนาดเท่าหัวมนุษย์โผล่ขึ้นมา

  จากนั้นทะเลขมก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง

  แต่ที่ชายฝั่งที่ฟองน้ำผุดขึ้นมานั้นมีฟองน้ำแบบเดิมออกมาอีก

  จำนวนเพิ่มเป็นสองสาม และสุดท้ายก็มีฟองน้ำนับล้านที่ฝั่ง

  ดูเหมือนว่าทะเลขมกำลังจะระเหยมียักษ์เดินอยู่ใต้ทะเล  โฮก…

  เสียงคำรามดังก้องโลกอสูรมาจากลึกในทะเลขมมันซัดทะเลขมนับแสนลี้ ชะล้างทุกอย่างที่ชายฝั่ง

  ต้นไม้ใบหญ้าในระยะล้านลี้ไม่เหลือสิ่งใดโลกอสูรที่มั่งคงกำลังผุกร่อนอย่างมหาศาล วารีในธารดาราภายนอกหลั่งไหลเข้ามาด้วยความเร็วสูง

  กลุ่มสัตว์อสูรหิวโหยถูกพัดเข้ามายังแดนอสูรพร้อมกับธารดารา

  ในสัตว์อสูรเหล่านั้นมีอยู่หนึ่งตัวที่มีพลังระดับเทพ!

  แต่เมื่อขาหน้าของมันย่างกรายเข้ามายังโลกอสูรสัตว์อสูรระดับเทพก็หยุดเท้าทันที ดวงตาดุร้ายของมันจ้องทะเลขมที่กำลังเดือดด้วยความลังเล

  มันก้าวขาข้างเดียวเข้ามายังโลกอสูรและเมื่อคิดได้ มันก็ชักเท้ากลับช้า ๆ

  มันรู้ว่ามีสิ่งที่อันตรายมากอยู่ที่นี่จึงเลือกถอยกลับ

  น่าเสียดายที่ความลังเลของมันคือสิ่งที่ทำให้มันหมดลมหายใจ

  โซ่ดำราวน้ำหมึกพุ่งออกมาจากทะเลวารีในธารดาราเดือดพล่านเพราะน้ำทะเลขมที่กระเซ็นขึ้นไป

  สัตว์อสูรในธารดาราถูกพิษของมันและไม่มีตัวใดที่รอดชีวิต!

  โซ่นี้มีพลังมหาศาลไม่ว่าสัตว์อสูรระดับเทพจะพยายามเท่าใด มันก็ถูกโซ่รัดเอาไว้

   โฮก! 

  สัตว์อสูรระดับเทพกระวนกระวายมันลากโซ่กลับพยายามหนี

  แต่แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งเพียงใดโซ่ก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย

  โซ่ที่มีน้ำทะเลขมเคลือบอยู่ทำให้มันร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด

  พลังมหาศาลส่งมาจากอีกฟากของโซ่ลากตัวสัตว์อสูรไปยังโลกอสูร จมลงสู่ทะเล  ทันทีที่มันจมทะเลน้ำทะเลขมก็แหวกออก ยักษ์ขนาดเท่าเขาห้านิ้วปรากฏตัวจากใต้ทะเลลึก

  มือยักษ์บีบอย่างแรงไปที่สัตว์อสูรสูงหลายหมื่นศอกในฝ่ามือ!

  โฮก…

  จากนั้นน้ำในทะเลขมก็ลดระดับลงเพราะยักษ์ที่อยู่ใต้ทะเลลุกขึ้นยืน!

  มนุษย์ขนาดยักษ์สูงล้านศอกนี้ใหญ่จนอยู่เหนือเมฆ

  สัตว์อสูรเทพนั้นขนาดไม่ถึงหนึ่งในร้อยส่วนของยักษ์ขนาดเท่ากับครึ่งดัชนีเท่านั้น

  ยักษ์ทะเลขมปรากฏตัวแล้ว!

  มันอ้าปากบีบสัตว์อสูรเทพในมืออย่างไร้ปรานีและเคี้ยวกลืนลงไป

  เสียงกรีดร้องดังออกมาจากปากยักษ์เสียงนั้นค่อย ๆ เบาลงตามเสี้ยวเคี้ยวที่หายไป

  ยักษ์ทะเลขมก้าวขึ้นมาสู่ผืนธรณีแดนอสูร  แผ่นดินแบ่งแยกโลกอสูรสั่นสะเทือน

  มันเดินไปยังจุดที่ซือหยูเจอกับสามข้ารับใช้ของมเหสีหยุนเซี่ยและดมกลิ่ยด้วยจมูกอันใหญ่โต

  มันเห็นโลหิตเทพหนึ่งหยดด้วย

  โลกหิตนั้นคือโลหิตของราชวงศ์

  มันคือโลหิตขององค์หญิงเก้า

  ซึ่งเป็นโลหิตที่ซือหยูจงใจทิ้งเอาไว้

  ยักษ์ทะเลขมดูดกลืนโลหิตนั้นด้วยความโลภใบหน้ามันแสดงความตื่นเต้น มันเงยหน้ามองไปข้างหน้า เมื่อก้าวไปอีกไม่กี่ก้าว มันก็พบโลหิตอีกหยด

  มันตื่นเต้นมากมันเดินต่อไป ในทุกหนึ่งล้านลี้จะมีโลหิตเทพหนึ่งหยดอยู่เสมอ

  มันเดินไปตามเส้นทางของโลหิตนั้น

  และมันกำลังมุ่งหน้าตรงไปที่เมืองหลวง!

  …

  ไม่ว่ามันจะไปที่ใดที่นั่นล้วนโกลาหลและมีแต่ความตาย

  ข่าวส่งไปถึงเมืองหลวงในเวลาแค่สิบวัน

  เหล่ารัชทายาทศาลอสูร และมเหสีหยุนเซี่ยต่างตกตะลึง

   หึหึสวรรค์เข้าข้างข้า ยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไปแค่ครึ่งปี! 

  องค์หญิงหกแปลกใจกับข่าวที่ได้รับ

  เทพตำราสีหน้าไร้อารมณ์

   เจ้ากำลังเตรียมตัวอยู่สินะ… 

   ฮ่าๆๆๆใช่แล้ว การยึดอำนาจจะเกิดขึ้นก่อนเวลา! 

  สายตาองค์หญิงหกเย็นชา!

   เรื่องนี้…เราไม่ได้หารือกับรัชทายาทที่เหลือเลยถ้าหากพวกมันเปลี่ยนใจ เจ้าจะไม่เป็นอันตรายหรือ? 

  สายตาเทพตำราดูกังวลเขาแนะนำองค์หญิงหกอย่างใจเย็น

  องค์หญิงหกหันไปมองเทพตำราด้วยรอยยิ้ม

   มันต้องมีคนเปลี่ยนใจชั่วคราวเท่านั้นการยึดอำนาจจึงจะเสร็จสมบูรณ์! มิเช่นนั้นถ้าหากมีใครไปบอกคนอื่นล่วงหน้า เราจะถูกเปิดโปงตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มแผน ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว มันจะไม่เป็นเรื่องตลกงั้นหรือ? 

  เทพตำราพูดเบาๆ

   เจ้าคิดว่าข้าจะหักหลังเจ้ารึ? 

   ใช่แล้วข้าสงสัย! อสูรขนนก ไม่สิ ซือหยูบอกว่าเจ้ามันเชื่อใจไม่ได้เลย ใครก็ตามที่เชื่อเจ้าล้วนตายหมดแล้ว 

  องค์หญิงหกพูดเบาๆ

  เทพตำรากล่าว

   เจ้าทำตามลมปากมันเท่านั้นรึ? 

   แล้วเจ้าจะว่าอย่างไร?เจ้าคืออันตรายที่มองไม่เห็น ข้าต้องกำจัดเจ้าให้พ้นทางก่อน! 

  องค์หญิงหกตะโกนและจู่โจมในทันที

  เทพตำราชักสีหน้าเขาตะโกน   ทุกคนจงออกมา! 

  ฟึ่บ!

  เทพที่แข็งแกร่งห้าคนปรากฏตัวล้อมสี่มุมปิดล้อมทางหนีขององค์หญิงหกเอาไว้

  เทพทั้งห้าคือเจ้าเมืองแดนจิงเสวียนและองค์หญิงหกก็แอบทำให้เทพเหล่านี้เชื่อใจนางและตามนางภารกิจก่อกบฏ

   พวกเจ้ากล้าหักหลังข้างั้นเรอะ? 

  องค์หญิงหกแววตาเย็นชา

  เทพทั้งห้าไม่พูดอะไรแต่ดูใจเย็นเป็นอย่างมาก

  เทพตำราซ่อนตัวหลังเทพทั้งห้าด้วยความสบายใจเขาพูดเบา ๆ

   เจ้าหักหลังโลกอสูรเทพเหล่านี้คือเทพแห่งโลกอสูร แน่นอนว่าจะต้องฆ่าทรราชย์เพื่อแผ่นดิน! 

  องค์หญิงหกพูดเบาๆ

   โอ้!คุณธรรมนำสงคราม…ใช่มันเพื่อทำลายตระกูลข้ารึ? หรือว่าเพราะเจ้าจะให้ผลประโยชน์มากกว่ากันแน่? 

  เทพตำรายิ้มบาง

   สมกับเป็นองค์หญิงที่เทียบได้กับองค์ชายหนึ่งหลักแหลมจริง ๆ! ใช่แล้ว ข้าทำตามคำสั่งมเหสีหยุนเซี่ย เมื่อใดก็ตามที่เจ้าก่อกบฏ เจ้าจะถูกสังหารทันที! เจ้าเมืองทั้งห้าอยู่ภายใต้คำสั่งข้า ถ้าหากได้หัวเจ้ากลับไป พวกมันก็จะได้รางวัลใหญ่จากมเหสีหยุนเซี่ย ใหญ่กว่าที่มันจะได้จากการเสี่ยงก่อกบฏโลกอสูรกับเจ้า 

  องค์หญิงหกกล่าวด้วยความชิงชัง

   พวกเจ้ากลายเป็นฝั่งเดียวกับมเหสีหยุนเซี่ยรึ?ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? 

   ก็ตอนที่เจ้าไปประชุมกับเหล่ารัชทายาทคนอื่นที่เมืองชมทะเลยังไงล่ะ 

  เทพตำราอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบเขาไม่ลังเลที่จะบอกความจริงกับองค์หญิงหก เขาคิดว่านางไม่มีทางหนีอีกแล้ว เขายิ้มบาง ๆ   เจ้าคนสกุลซือพูดถูกใครก็ตามที่เชื่อข้ามักจะจบไม่สวย 

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset