The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1291 – กงซุนหวูซื่อ

ตอนที่ 1291 – กงซุนหวูซื่อ

  ซือหยูมองชายแก่แขนหัก

  ชายแก่แขนหักหวาดกลัวในใจริมฝีปากแห้งกำลังสั่นเครือ

   ใต้เท้า…ท่านอสูรถ้าหากนางยังไม่พอ บนเรือยังมีคนอยู่อีกมากมาย ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ… 

  คนบนเรือทั้งหวาดกลัวและโกรธแค้น

   ไม่จำเป็นข้าต้องการแค่ชีวิตเจ้า 

  ซือหยูกล่าวอย่างเย็นชา

  ฟึ่บ!

  ซือหยูไม่ต้องทำอะไรแต่เทพเจ้าเมืองอสูรเป็นผู้ดีดนิ้ว ชายแก่กลายเป็นฝุ่นผง

   แล้วคนที่เหลือล่ะ?ต้องฆ่าพวกมันด้วยหรือไม่? 

  ซือหยูมองหน้าคนที่กำลังตื่นตระหนกและส่ายหน้าเบาๆ   ไม่ต้องข้ามีเรื่องต้องถามพวกมัน 

  บนเรือรบซือหยูอุ้มเด็กสาวในอ้อมแขนและถาม

   ทำไมนางถึงอยู่บนเรือแล้วพวกเจ้าคือใครกัน? 

  ดูจากที่เห็นคนบนเรือมีความดุร้ายหยาบกร้าน

  และเด็กสาวในอ้อมแขนของซือหยูก็คือ…กงซุนหวูซื่อ!

  นางมายังพันธมิตรฐูรพากับเรือสินค้านางมาอยู่ในพันธมิตรประจิมและอยู่กับคนท่าทางน่ากลัวพวกนี้ได้ยังไง?

  ถ้าหากเขาไม่เห็นกับตาก็คงไม่เชื่อเด็กสาวที่เขาเห็นคือกงซุนหวูซื่อจริง ๆ

  นางอยู่ที่นี่แต่ทำไมเขาไม่เห็นจ้าวผาบั่นภูติเล่า?

  เหล่าลูกเรือตัวสั่นเมื่อมองตาซือหยู

   พวกข้าคือนักโทษประหารของพันธมิตรประจิมนางเองก็เป็นนักโทษประหาร พวกเราต้องมาทำภารกิจสืบแดนอสูรในระยะล้านลี้ มีเพียงการทำภารกิจนี้สำเร็จเท่านั้นที่เราจะมีชีวิตรอดกลับไป มิเช่นนั้นผนึกในตัวจะฆ่าพวกเรา 

  โทษประหารรึ?ซือหยูขมวดคิ้ว ทำไมกงซุนหวูซื่อถึงกลายเป็นนักโทษประหารล่ะ?

   องค์หญิงหกเจ้าคลายผนึกของนางได้ไหม? 

  องค์หญิงหกเหลือบมองนางและเหล่าโทษประหารที่เหลือนางขมวดคิ้ว

   แปลกนักนางพิเศษงั้นรึ? นางเป็นนักโทษประหารเหมือนคนอื่น แต่ผนึกของคนบนเรือควบคุมโดยว่าที่เทพ มีแค่นางมีควบคุมโดยเทพ 

   คลายไม่ได้สินะ? 

  ซือหยูถามอีกครั้ง

  องค์หญิงหกส่ายหน้า

   ผนึกนี้พิเศษมากมันมีโลหิตเทพหลายคนเอาไว้ เราต้องเอาโลหิตของอีกฝ่ายออกมาแล้วคลายผนึกทีหลัง ถ้าหากฝืนใช้กำลังภายนอก มันจะทำให้ผนึกทำงาน นางจะตาย 

  ซือหยูคิดอย่างหนักเมื่อมองใบหน้าหวาดกลัวไร้สติของกงซุนหวูซื่อ

  ทำไมนางถึงลงเอยที่พันธมิตรประจิม?เทพคนใดที่วางผนึกใส่นาง?

   ไปพันธมิตรประจิมแล้วพูดเรื่องนี้กันทีหลัง 

  ซือหยูแววตาเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด

   แล้วพวกเราจะทำยังไงกับพวกนั้น? 

  องค์หญิงหกเหลือบมองคนบนเรือด้วยแววตาอันตราย

  ซือหยูเหลือบมอง

   ปล่อยพวกมันไป 

  กลุ่มนักโทษประหารเหล่านี้ทำเรื่องชั่วร้ายมาก่อนเพียงเห็นชายแก่แขนหักเขาก็ดูออก ใยเขาจะต้องช่วยคนเหล่านี้เล่า?

  และที่นี่ยังใกล้แดนอสูรการเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่จะเป็นดึงความสนใจจากเหล่าอสูรได้ง่าย พวกเขาจะหนีไม่ได้ในที่สุด

  องค์หญิงหกพูดอย่างเศร้าสร้อย

   นายท่านใจดีเกินไปแล้ว 

  ถ้าเป็นนางนางขอสังหารทั้งหมดด้วยตัวเองจะดีกว่า

  ฟึ่บ!

  เทพเก้าคนมุ่งหน้าไปทางพันธมิตรประจิม

  โลกอสูร…

  ที่ชายฝั่งทะเลขมเหล่าเทพมองทะเลที่เกิดวายุกระหน่ำสายฟ้าคำรามด้วยความกลัว พวกเขากลัวว่ายักษ์ทะเลขมจะกินพวกเขาทั้งหมดแทน

   เขาบาดเจ็บ!บาดเจ็บสาหัสเสียด้วย! 

  มเหสีหยุนเซี่ยกรีดร้อง

  เสียงกรีดร้องนางดังทะลวงดวงวิญญาณผ่านมาถึงธารดารา  พวกเขาเองก็สัมผัสได้

  ใครจะไปคิดว่ายักษ์ทะเลขมจะบาดเจ็บเพราะพลังตอนนั้น!

   มีผู้ไร้เทียมทานซ่อนตัวอยู่ในธารดารารึ? 

  เทพอสูรหกวิถีกล่าว

  มเหสีหยุนเซี่ยส่ายหน้า

   ไม่มีใครบอกได้ธารดาราคือส่วนหนึ่งของแดนเทพโบราณในอดีต เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเทพโบราณหลงเหลืออยู่ 

  แดนเทพโบราณ…อสูรทุกตนตกตะลึง

   ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใครเขาก็ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายจักรพรรดิอสูรรุ่นแรก จะต้องมีบางอย่างฉุดรั้งเอาไว้ มิเช่นนั้นคงไม่หยุดง่ายดายเช่นนี้ คนผู้นั้นจะยังไม่มีภัยในระยะเวลาสั้น ๆ! 

  มเหสีหยุนเซี่ยกล่าวด้วยจิตสังหารชัดเจน

   แต่องค์ชายหนึ่งองค์หญิงสอง กับองค์หญิงหกหนีไปได้ พวกมันคืออวตาลของจักรพรรดิอสูร เมื่อก่อนจักรพรรดิอสูรมณะก็หนีไปได้ ตอนนี้ยังมีอีกสามอวตาลที่ตามรอยเท้านั้นไป มันไม่ดีกับจักรพรรดิอสูรแน่ 

   พวกเจ้าต้องไปเอาตัวพวกมันกลับมาถ้าพวกเจ้าเอาตัวมันกลับมาไม่ได้ อย่างน้อยก็เอาเลือดเนื้อของพวกมันกลับมา 

  เทพอสูรหกวิถียืนขึ้น

   ขอข้านำคนของข้าไปจับพวกมันเถอะ 

  แม่ทัพศาลอสูรจะลงมอืด้วยตัวเองงั้นรึ?ทุกคนตกใจ เป็นหกปีมาแล้วที่เทพอสูรหกวิถีไม่เคยขอทำภารกิจ เขาไม่เคยก้าวออกจากโลกอสูรแม้สักครั้ง

  มเหสีหยุนเซี่ยส่ายหน้า

   เจ้าน่ะรึ?ไม่ได้ แดนอสูรกำลังปั่นป่วนครั้งใหญ่ จิตใจผู้คนไม่มั่นคง เจ้าต้องเป็นคนรับมือ เจ้าจะไปไหนไม่ได้ 

   ไม่!ข้าต้องไป! เพื่อจักรพรรดิ และตัวข้าเอง!     เพื่อเจ้ารึ? 

   ข้าสัมผัสคำสาปได้ที่อสูรขนนก 

  เทพอสูรหกวิถีกล่าวด้วยความชิงชัง

   มันคือร่องรอยของลูกชายข้า 

  มเหสีหยุนเซี่ยตัวแข็งทื่อ

   เด็กเลือดผสมที่เจ้าส่งไปโลกจิวโจวเพื่อยึดครองที่นั่นน่ะรึ? 

  เรื่องเทพอสูรหกวิถีมีลูกกับมนุษย์นั้นไม่ใช่ความลับที่นางไม่รู้

  จักรพรรดิอสูรโกรธมากเมื่อรู้เรื่องนี้โกรธจนอยากที่จะฆ่าเด็กเลือดผสมคนนั้น

  สุดท้ายเทพอสูรหกวิถีจึงแอบส่งลูกของตนไปที่โลกเสี้ยววิญญาณเพื่อเติบโตสุดท้ายก็ถูกส่งไปยังโลกที่เสื่อมถอย เพื่อที่จะได้กลืนกินทั้งโลกและกลายเป็นเทพ

  โชคไม่ดีที่ความตายของบุตรชายมาถึงเมื่อหลายปีก่อน

  เขาไม่คิดว่าฆาตกรจะอยู่ใกล้ตัวเช่นนี้!    มันน่าจะใช้วิธีบางอย่างเพื่อปิดบังคำสาปแต่หากอยู่ใกล้ก็ย่อมปิดบังข้าไม่ได้ มันคือฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของข้า! 

  มเหสีหยุนเซี่ยขมวดคิ้วเบาๆ นางรู้ว่าเด็กเลือดผสมคนนั้นมีความหมายต่อเทพอสูรหกวิถีมากเพียงใด

  แต่ในแดนอสูรวันนี้เทพอสูรหกวิถีคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากจักรพรรดิอสูรรุ่นแรก

  มเหสีหยุนเซี่ยก้มหน้าคิด

   ก็ได้!ข้าให้เจ้าไป แต่เจ้าพาเทพไปช่วยได้แค่คนเดียว 

  กำลังศาลอสูรที่เหลือต้องประจำการในโลกอสูรเพื่อขจัดความปั่นป่วนวุ่นวาย

   ขอรับ 

  เทพอสูรหกวิถีตกลง

   เทพตำราเจ้าคุ้นเคยกับธารดารา เจ้าจะเป็นคนนำทาง! 

   ไค่หลินเจ้าไปคอยรับใช้เทพอสูรหกวิถี! 

   ขุนพลกระดูกขาวเจ้านำเทพหน้าใหม่จากศาลอสูรไปช่วยด้วย 

   ขอรับ! 

   สุดท้ายพวกเจ้าต้องจับซือหยูกลับมา หรือไม่ก็เอาร่างของมันกลับมาให้ได้ เข้าใจไหม? 

   พวกข้าเข้าใจแล้ว! 

   ไปได้! 

  นางมองเทพทั้งสิบเอ็ดที่จะออกเดินทางและกลับไปยังซากตำหนัก

   ซือหยู!เจ้าทำลายทุกอย่างตั้งแต่มาที่โลกอสูร! 

  มเหสีหยุนเซี่ยเกลียดชังซือหยูเป็นอย่างยิ่ง

  หากไร้ซือหยูทัพกบฎรัชทายาทจะถูกบดขยี้ก่อนที่จะมีโอกาสได้ลงมือ แต่ซือหยูกลับวางแผนก่อกบฎล่วงหน้าที่ไม่มีใครคาดคิด  แม้ทัพกบฎจะพ่ายแพ้แต่หัวใจของเหล่าเจ้าเมืองที่ยังคงอยู่ก็ระส่ำระสาย

  ข่าวเรื่องซือหยูและสามรัชทายาทพร้อมกับเทพอสูรหกคนหนีออกจากโลกอสูรได้สำเร็จมิอาจปิดบังจากคนหมู่มากได้เลย

  เพราะปัญหาที่เกิดจากยักษ์ทะเลขมนั้นยิ่งใหญ่จนปิดบังจากเหล่าเทพไม่ได้

  จากข้อมูลที่นางได้รับรายงานมาเจ้าเมืองเทพอสูรหลายคนเสียใจในการตัดสินใจของตน โดยเฉพาะเหล่าเทพที่ไม่ได้ตัดสินใจเข้าร่วมฝ่ายเดียวกับซือหยู

  เจ้าเมืองหลายคนจึงแอบเคลื่อนไหวโดยการส่งสายลับไปหาเบาะแสใกล้ทะเลขมเพื่อหาทางหนีที่สองจากโลกอสูร

  ในเรื่องนี้มเหสีหยุนเซี่ยต้องจัดการ

  การกบฎไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนักปัญหาก็คือคนที่คิดทรยศแต่ไม่แสดงตัวออกมามากนัก ยากที่จะบอกว่าคนพวกนั้นจะลงมือเมื่อใด

  ด้วยเหตุนี้มเหสีหยุนเซี่ยต้องลงแรงอย่างมากในการหยิบยื่นผลประโยชน์ เพื่อที่จะทำให้โลกอสูรมั่นคง

  ในขณะเดียวกันกำลังของศาลอสูรที่ส่งออกไปนอกแดนอสูรยังถูกเรียกกลับมาจัดการปัญหาภายในแดนอสูรอีกด้วย

   นี่มันบ้าอะไรกัน!จักรพรรดิอสูรเสียอาหารไป เวลาที่จะกลายเป็นมัธยเทพช้าลงไปอย่างน้อยสิบปี! 

  มเหสีหยุนเซี่ยโกรธแค้นเบี้ยตัวน้อยอย่างซือหยูกำลังฉุดรั้งแผนการอันทะเยอทะยานของจักรพรรดิอสูรที่ทำมาหลายพันปี

  เขาทำให้การเป็นมัธยเทพของจักรพรรดิอสูรช้าลง!

  เทพปีศาจเคยบอกว่าความป่าเถื่อนบนธารดาราเกิดมาจากมัธยเทพ

  มันคือการรวบรวมทรัพยากรในธารดารา

  เหล่าอสูรจากศาลอสูรจะกลืนกินทุกสิ่งและกลับมาให้จักรพรรดิอสูรกลืนกินตนเองมันคือการรวบรวมทรัพยากรในทางอ้อม

  สุดท้ายประกอบกับวิชาอวตาล จักรพรรดิอสูรจะยังพอมีโอกาสได้ทะลวงพลัง

   ซือหยู!จงสวดอ้อนวอนว่าจะหนีเทพอสูรหกวิถีให้พ้นซะเถอะ! 

  เทพอสูรหกวิถีให้ความสำคัญกับลูกตจัวเองมาก

  …

  บางแห่งในธารดาราณ โลกว่างเปล่าใบหนึ่งที่ถูกอสูรกลืนกิน

  ร่างโปร่งใสของหยุนหยาซืออ่อนแอมาก

  พลังที่ใช้หยุดจักรพรรดิอสูรกินพลังของเขาไปมหาศาลดวงวิญญาณของหยุนหยาซือเสียหายอย่างหนักอีกครั้ง

   จักรพรรดิอสูรเติบโตถึงขั้นนี้แล้วรึ? 

  หยุนหยาซือรำพึง

   ดูจากขนาดมันจะออกมาในอีกสิบปี ถึงตอนนั้น ทั้งธารดาราจะกลายเป็นอาหารในการถือกำเนิดของมัน 

   ธารดาราอันตรายมากหากส่วนนี้ของแดนเทพโบราณถูกทำลาย ข้าก็ไม่รู้จะบอกพวกที่อยู่นอกธารดารายังไง… 

  ….

  ธารดารากว้างใหญ่ไกลโพ้น

  กลุ่มพลังอสูรถาโถมไปยังพันธมิตรประจิม

  ซือหยูนั่งบ่มเพาะพลังอยู่ในกลุ่มพลังนั้นกงซุนหวูซื่อนอนพิงขาของเขา

  พอออกเดินทางได้ไม่นานกงซุนหวูซื่อก็ตื่นขึ้น

  เมื่อนางลืมตานางได้พบกับภาพอสูรผมสีเงิน

   อ๊าาา!!! 

  นางกรีดร้องและปล่อยหมัดอมชมพูออกมา

   อย่ากินข้านะ!ข้าไม่ได้อาบน้ำมาสามปีแล้ว ข้าไม่ได้เปลี่ยนถุงเท้ามาสิบปี ข้าตัวเหม็น เหม็นมากเลย!! 

  นางไม่กล้ามองอสูรข้างหน้าตรงๆ และหลับตาแน่น

  ซือหยูหัวเราะ

   ข้าไม่ถือหรอกข้าก็แค่โยนเจ้าลงในน้ำเดือดและล้างเจ้าให้สะอาด แล้วค่อยกินเจ้า เนื้อเจ้าคงนุ่มอร่อยเชียวล่ะ ข้าไม่ได้กินของดีอย่างนี้มานานแล้ว! 

   ข้าจะมัดเจ้าปรุงเจ้าช้า ๆ ใกล้เปลวเพลิง อาบเจ้าด้วยเครื่องเทศจากโลกอสูร เจ้าจะได้เป็นอาหารชั้นยอดในธารดารา! 

  กงซุนหวูซื่อตั้งใจฟังด้วยหัวใจเต้นแรงนางหน้าซีด นางพยายามดิ้นหนี แต่นางก็ถูกซือหยูจับตัวอย่างง่ายดาย

   นี่เจ้าอยากโดนอบจนทนไม่ไหวใช่ไหม? 

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset