The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1293 – มาอย่างสันติ

ตอนที่ 1293 – มาอย่างสันติ

   หวูซื่อข้าจะพาเจ้ากลับพันธมิตรประจิม… 

  ซือหยูกล่าว

  กงซุนหวูซื่อส่ายหน้าอย่างแรง

   ข้าไม่อยากไป!ถ้าอยู่กับข้า พี่ซือหยูจะนับเป็นพวกเดียวกับข้าและท่านพ่อ ข้าไม่อยากให้พี่ซือหยูมาเกี่ยวข้องด้วย พี่ซือหยูกลับพันธมิตรบูรพาจะดีกว่า 

   แล้วเจ้าล่ะ? 

  ซือหยูถามกลับ

  นางยิ้ม

   ขะข้าไม่เป็นไร ข้าเป็นอิสระแล้ว ข้าจะซ่อนตัวในพันธมิตรประจิม จะไม่มีใครหาข้าเจอ! 

   เจ้าจะเอาชีวิตรอดได้จริงรึ? 

   ทำไมกันล่ะ?ใครจะมารังแกข้า?    กงซุนหวูซื่อเหวี่ยงหมัด

   ไปได้แล้วทิ้งข้าไว้และไม่ต้องคิดถึงข้าอีก 

  ซือหยูจับแขนนาง

   หากข้าไม่ห่วงใยเจ้าแล้วใครจะช่วยแก้ปัญหาของเจ้าเล่า? 

  กงซุนหวูซื่อตัวแข็งทื่อนางตกใจ

   พี่ซือหยู…รู้ได้ยังไง? 

  ซือหยูมองนางที่แสร้งทำเป็นสบายใจและไม่อยากรบกวนเขาซือหยูรู้สึกว่าเขาต้องรับผิดชอบ

  แม้นางจะร้ายนางก็เป็นเด็กดี

   ข้าจะทิ้งเจ้าได้ยังไงกัน?ใครวางผนึกกับเจ้า? ข้าจะไปหามัน 

  ซือหยูกล่าว

  กงซุนหวูซื่อหลั่งน้ำตาสีหน้านางบ่งบอกความขอบคุณ นางเช็ดน้ำตาสะอื้น

   อย่าเลยข้ารับรู้ความตั้งใจของพี่ซือหยูแล้ว แต่ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วล่ะ คนที่วางผนึกใส่ข้าไม่ใช่คนที่พี่ซือหยูจะจัดการได้ 

  นางประทับใจมากพอแล้วในวาระสุดท้ายของชีวิต นางมีโอกาสได้เจอซือหยูและรับรู้ความห่วงใยของเขาอีกครั้ง

  นางยืนกราน

   ถ้าเจ้าไม่ให้ข้าลองเจ้าจะรู้ได้ยังไงว่าข้าจัดการมันไม่ได้? 

  ซือหยูหัวเราะ

   เจ้าควรจะรู้ว่าข้าเป็นตัวแทนเทพในพันธมิตรบูรพาบางทีพันธมิตรประจิมอาจจะญาติดีกับเราก็ได้ไม่ใช่รึ? 

  กงซุนหวูซื่อตาลุกวาวจริงด้วย นางลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง?

  นางลังเลก่อนจะพูด

   มันคือหนึ่งในสิบตระกูลปราบอสูรเจ้าตระกูลกงซุน เทพตระกูลกงซุน 

   ไปหามันกันเถอะ    ซือหยูพูดอย่างเรียบเฉย

  กงซุนหวูซื่อรีบห้าม

   อย่าบุ่มบ่ามนะใช้สมองคิดแผนก่อน มิเช่นนั้นอาจจะโดนโทษประหารกลับมาก็ได้ 

   เอาเถอะข้าจะเจรจากับมันเอง 

   เจรจารึ? 

  กงซุนหวูซื่อขมวดคิ้วและเศร้าใจที่ให้ซือหยูช่วยนางในทันทีนางกระวนกระวาย

   มันก็ต้องเจรจาล่ะนะ 

  ซือหยูยิ้ม

   บอกเรื่องราวในอดีตของเจ้ามาให้ข้าทำไมเทพต้องวางผนึกใส่เจ้าด้วยตัวเองด้วย 

  กงซุนหวูซื่อก้มหน้าเล่าเรื่องความบาดหมางระหว่างพ่อของนางกับตระกูลกงซุน

  ในทีแรกจ้าวผาบั่นภูติเป็นเพียงคนธรรมดาในตระกูล ในด้านพลังนั้น เขาห่างไกลจากเทพเป็นปีแสง

  จ้าวผาบั่นภูตินอบน้อมและมีพลังจำกัดแต่ด้วยความวิริยะ สุดท้ายเขาจึงประสบความสำเร็จได้

  ในงานชุมนุมพันธมิตรครั้งหนึ่งจ้าวผาบั่นภูติได้เจอกับบุตรสาวลำดับที่แปดแห่งผู้นำพันธมิตร

  นางเป็นลูกสาวผู้นำสูงสุดเป็นลูกหลายเทพ ขณะที่เขามาจากตระกูลสาขา

  ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันมากนักแต่ได้มาพบอีกครั้งในการเดินทาง

  กลุ่มทัพอสูรนำโดยเทพศาลอสูรบุกรุกเข้ามาลูกสาวลำดับแปดนำหน่วยปราบอสูรต้านการรุกราน สุดท้ายนางได้บาดเจ็บสาหัส

  บังเอิญที่นางถูกจ้าวผาบั่นภูติช่วยเอาไว้และซ่อนตัวในพื้นที่ที่เผ่าอสูรยึดครองอยู่หลายปี

  ในเวลาหลายปีนั้นทั้งสองได้สนิทสนมและรักกัน จ้าวผาบั่นภูติช่างดูแลเอาใจใส่ ความอบอุ่นและความรักที่มีได้พิชิตใจของลูกสาวลำดับแปดสำเร็จ  หลังอสูรถอยทัพกลับไปนางจึงได้ขอร้องผู้นำพันธมิตรซึ่งเป็นพ่อให้อนุญาตนางแต่งงานกับจ้าวผาบั่นภูติแห่งตระกูลกงซุน

  ในเวลานั้นพันธมิตรสูญเสียอย่างหนัก ตระกูลเองก็เสียนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดไป ตำแหน่งของผู้นำพันธมิตรเองก็ไม่มั่นคงเช่นกัน

  ดังนั้นพวกเขาจึงยอมรับการแต่งงานกับตระกูลกงซุนเพื่อที่จะได้รับการสนับสนุน

  ทีแรกมันเป็นงานวิวาห์สำหรับคู่รักอันงดงาม แต่สุดท้ายก็ได้เกิดเหตุการณ์พลิกผัน

  เมื่อเกิดการหมั้นหมายกงซุนชาง ผู้สืบทอดอันดับหนึ่งแห่งตระกูลกงซุนเกิดความริษยา

  เขาต้องการครอบครองบุตรสาวอันดับแปดอันเป็นที่ร่ำลือในความงามความริษยายิ่งมากขึ้นไปอีกเมื่อคู่แข่งทางใจคือจ้าวผาบั่นภูติที่อ่อนแอกว่า!

  เขาบอกเทพกงซุนผู้เป็นพ่อให้กำจัดจ้าวผาบั่นภูติเพื่อที่เขาจะได้แต่งงานแทน

  ซึ่งอันที่จริงเทพกงซุนก็ไม่ได้พอใจกับการแต่งงานนี้เช่นกันเมื่อกำลังเจรจาเรื่องการแต่งงาน เทพกงซุนได้หารือกับผู้นำพันธมิตรโดยตรง

  บอกได้เลยว่าผู้นำพันธมิตรย่อมเต็มใจเลือกกงซุนชางมากกว่าจ้าวผาบั่นภูติเพราะกงซุนชางคือทายาทอันดับหนึ่ง การแต่งงานกับทายาทอันดับหนึ่งย่อมทำให้สัมพันธ์สองตระกูลแน่นแฟ้นกว่า

  เมื่อทั้งสองตกลงปลงใจทั้งสองจึงได้ปฏิเสธการแต่งงานของจ้าวผาบั่นภูติและนำกงซุนชางมาแทนที่

  ไม่ว่าบุตรสาวอันดับแปดจะอ้อนวอนอย่างไรผู้นำพันธมิตรก็ไม่แยแส

  จ้าวผาบั่นภูติคุกเข่าอ้อนวอนให้เทพเห็นใจแต่กลับได้คำตำหนิอันเย็นชากลับมาเทพทั้งสองขอให้เขาเห็นแก่ส่วนรวมที่สำคัญกว่า  สุดท้ายทั้งสองจึงได้พากันหนีจากพันธมิตรประจิมทั้งคู่หนีตามกันไปจนถึงพันธมิตรบูรพา

  ผู้นำพันธมิตรประจิมและเทพกงซุนโกรธจนต้องส่งคนไปตามล่า

  กว่าจะจับทั้งสองคนได้ก็ผ่านไปสามปีแล้วทั้งสองซ่อนตัวในหลายตำแหน่งตลอดสามปี และในเวลานั้นเอง ทั้งสองก็ได้แต่งงานกันและให้กำเนิดกงซุนหวูซื่อขึ้นมา

  หลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ภรรยาจ้าวผาบาดเจ็บหนัก จ้าวผาเสียพลังไปเกือบครึ่ง แม้แต่กงซุนหวูซื่อยังถูกตราหน้าเป็นคนชั่ว พันธมิตรตัดสินว่าจะต้องฆ่าทุกคน

  ภรรยาจ้าวผาใช้สมุนไพรอมตะเพื่อรักษาชีวิตกงซุนหวูซื่ออันบริสุทธิ์เอาไว้พลังอยู่ได้ถึงสิบปีและพลังจะหมดลงเมื่อนางอายุสิบปี

  นี่คือที่มาของสภาพร่างกายกงซุนหวูซื่อเวลาถอยหลังสิบปีเป็นเพียงคำโกหกอันโอบอ้อมของจ้าวผาเพราะมิอาจบอกความจริงกับนางได้  เพื่อที่จะปกป้องสามีและบุตรสาวภรรยาจ้าวผาได้เผาแหล่งพลังเทพของตนและส่งทั้งสองข้ามพันธมิตรไปสู่โลกจิวโจว

  ด้วยม่านพลังของจิวโจวคนที่ไล่ล่าจึงมิอาจหาเจอ จับตัวได้เพียงภรรยาจ้าวผา

  ในวันนี้ภรรยาจ้าวผายังคงถูกจองจำ

  งานวิวาห์ที่จะทำให้สองตระกูลแน่นแฟ้นได้พังทลายลงเพราะการหนีตามของทั้งคู่เทพกงซุนจึงได้อาฆาตจ้าวผาที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจส่วนรวมของตระกูล

  และตอนนี้ยังมีเหตุให้จ้าวผาบั่นภูติต้องตายกงซุนหวูซื่อที่ถูกตราหน้ายังลอยนวล เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้ตระกูลกงซุนอยากกำจัดนาง

  หลังฟังจบซือหยูเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

   ช่างเป็นส่วนรวมอันยิ่งใหญ่นัก!เพราะส่วนรวมเลยคิดทิ้งลูกสาวตัวเองให้คนอื่นรึ? แล้วเทพกงซุนยังมีเหตุผลแก่ส่วนรวมที่ปิดบังการช่วยเหลือลูกชายอีก    ซือหยูยังไม่ทันได้พบเทพกงซุนแต่เขาก็รู้สึกขยะแขยงเสียแล้ว

  กงซุนหวูซื่อลูบมือซือหยูด้วยมือเล็กๆ และกระซิบ

   พี่ซือหยูอย่าหงุดหงิดตอนที่เจรจาก็แล้วกัน ข้ากลัวว่าพี่ซือหยูจะคิดมากเกินไป 

   สบายใจได้ข้าจะเจรจาแทนส่วนของเจ้า 

  ซือหยูตอบ

  หนึ่งเดือนต่อมาที่พันธมิตรประจิม…

  แสงสว่างกระจ่างใสพันธมิตรประจิมกว้างใหญ่กว่าพันธมิตรบูรพาอย่างมาก มีเทพมากมายไม่ต่ำกว่าร้อยคนในพันธมิตร

  เทพในพันธมิตรประจิมล้วนอยู่ในบริเวณพันธมิตรไม่มีเทพคนใดเดินทางไกล

  ยิ่งไปกว่านั้นทั้งพันธมิตรยังมีความตึงเครียดของการต่อสู้ มันมองเห็นได้ตั้งแต่เทพเบื้องบนจนถึงคนธรรมดา

  เทียบกับพันธมิตรบูรพาอันสงบสุขแล้วพันธมิตรประจิมนับว่าสุดขั้ว

  ซือหยูอดคิดถึงฑากิณีไม่ได้

   ผู้นำต่างกันย่อมสร้างสภาพแวดล้อมได้ต่างกัน 

  ฑากิณีมักจะใจดีต่อศัตรูและดูแลพันธมิตรอย่างหละหลวม

  แต่ถ้าหากพันธมิตรบูรพาต้องมาต่อสู้กับอสูรอย่างที่พันธมิตรประจิมทำพันธมิตรบูรพาจะมีนักรบแข็งแกร่งเกิดขึ้นอีกมาก หากสงครามสุดท้ายมาถึงเมื่อใด สถานการณ์ย่อมเลวร้าย

  น่าเสียดายนักเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ปี ทั้งพันธมิตรบูรพาต้องถูกเปลี่ยนแปลงเดี๋ยวนี้

  ก่อนจะเข้าสู่พันธมิตรประจิมซือหยูให้เทพสิบคนที่มากับเขาเข้าโลกในลูกปัดที่ข้อมือ แต่ละลูกปัดเก็บคนได้หนึ่งคน

  ถ้าเขาไม่ให้เทพเหล่านั้นอยู่ในลูกปัดเทพอสูรทั้งสิบจะทำให้ทั้งพันธมิตรประจิมแตกตื่นแน่นอน  ซือหยูพากงซุนหวูซื่อเข้าสู่พันธมิตร

  เทียบกับพันธมิตรบูรพาที่มีเทพประจำการในโลกแต่ละใบแล้วพันธมิตรประจิมมีสิ่งที่แตกต่าง โลกทุกใบนั้นแนบแน่นราวกับแผ่นดินใหญ่

  เทพที่สร้างโลกขึ้นมาเองก็สูญเสียอำนาจในการปกครองโลกที่เป็นของตัวเองศูนย์รวมอำนาจทั้งหมดตกไปอยู่กับพันธมิตร

  ผู้นำพันธมิตรคือผู้นำสูงสุดตามด้วยผู้นำตระกูลปราบอสูรทั้งสิบที่มีแม่ทัพใหญ่สิบคนปกป้องแผ่นดินใหญ่

  เมื่อผู้นำสูงสุดออกคำสั่งเขาจะนำเทพทั้งสิบคนที่มีกำลังว่าที่เทพ เซียน และอสูรเนรมิตรในมือมาด้วย

  เมื่อมีคำสั่งของผู้นำพันธมิตรประจิมย่อมทำงานได้ดั่งเครื่องกล

  อำนาจของตระกูลปราบอสูรนั้นไม่น้อยเช่นกัน

  ทุกตระกูลมีทัพใหญ่ที่มากพอจะส่งผลกระทบต่อพันธมิตรประจิมดังนั้นแต่ละตระกูลจึงมีความสำคัญต่อพันธมิตร

  แม้แต่ผู้นำสูงสุดยังไม่กล้าดูหมิ่นตระกูลใดตามใจชอบ

  ตระกูลกงซุนเป็นตระกูลอันดับสิบซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายถึงอย่างนั้นก็ไม่มีกล้าปรามาสตระกูลปราบอสูร

  สิบตระกูลนี้รวมตัวกันอยู่ในเมืองพันธมิตรเพื่อให้ง่ายต่อการทำตามคำสั่งผู้นำทำให้เมืองพันธมิตรเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในพันธมิตรประจิม

  ในวันนี้แขกสองคนได้ถูกต้อนรับเข้าสู่พันธมิตร

  หนึ่งคือเด็กสาวที่ปลอมตัวเข้ามาแต่มิอาจปิดบังร่างกายบอบบางได้

  ส่วนอีกคนคือชายผมสีเงินหล่อเหลา

  เมื่อทั้งสองมาถึงประตูตำหนักกงซุนกงซุนหวูซื่อลังเลเล็กน้อย นางขบริมฝีปากและดึงชายเสื้อซือหยู   ลืมมันไปเถอะ 

  นางกล่าว

  เมื่อเวลาสำคัญมาถึงยิ่งนางคิดเท่าใดก็ยิ่งดูอันตรายมากเท่านั้น

  หากนางต้องตายนางตายคนเดียวเสียดีกว่า ใยต้องให้ซือหยูมาเกี่ยวข้องด้วยเล่า?

   พวกเรามาถึงแล้วจะล้มเลิกเพื่ออะไรกัน? 

  ซือหยูเดินไปสู่ทางเข้าหลัก

  กงซุนหวูซื่อไม่มีทางเลือกและรีบเดินตามนางลดจนแผ่วเบา

   ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามบุ่มบ่ามเด็ดขาดอดทนเข้าไว้ อย่าทำให้พวกมันไม่พอใจนะ! 

  ซือหยูตอบ

   เจ้าบอกข้าเป็นสิบรอบแล้วพูดซ้ำไปซ้ำมาไม่เบื่อบ้างรึ? 

   ก็ข้า…ข้าเป็นห่วงพี่ซือหยู    กงซุนหวูซื่อยังคงเป็นห่วงเขา

  ซือหยูยิ้มปลอบ

   วางใจเถอะวันนี้ข้ามาเพื่อเจรจาเท่านั้น 

   ต้องใจเย็นนะ 

   ก็ได้ไปอย่างสันติ 

  ซือหยูพยักหน้าเดินไปยังทางเข้าหลักเขายืดอกตะโกนเสียงดัง

   เทพกงซุนกงซุนชาง รีบออกมารับแขกพวกเจ้าได้แล้ว! 

  เสียงดังลั่นสั่นเมืองพันธมิตรไปเกินครึ่งเมือง

  ตลาดกว้างใหญ่หลายแห่งหยุดนิ่งราวกับติดอยู่ในมิติเวลาทุกอย่างเงียบกริบ

  พวกเขาอาศัยมานานนมแต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินคนเรียกตระกูลปราบอสูรให้ออกมารับแขก

  กงซุนหวูซื่อตกตะลึงจนอ้าปากค้างนี่น่ะรึการมาอย่างสันติที่ซือหยูสัญญากับนาง?

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset