The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 761-762

DND.761 – พี่สาวล้างแค้น
  หยวนหวังปี่ดีใจและตกใจในเวลาเดียวกัน…ล้างแค้นตระกูลหยวนรึ?
  หยวนหวังปี่ส่ายหน้าและคิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่ตระกูลหยวนทำ
  “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตระกูลหยวนแต่เป็นน้องสาวข้าสมคบคิดกับคนนอกเพื่อจะบงการตระกูลหยวน แม้แต่พ่อข้าก็โดนนางหลอก! ครั้งนี้โทษตระกูลหยวนไม่ได้!”
  นางรีบพูดเพราะกลัวว่าชางก่วนหยุนซื่อจะระเบิดความโกรธใส่ทั้งตระกูลหยวนชางก่วนหยุนซื่อตอบหลังจากได้ฟังเรื่อนราว
  “ไปเจอน้องสาวเจ้ากับคนนอกที่รังแกเจ้ากัน”
  หยวนหวังปี่ดีใจเพราะชางก่วนหยุนซื่อมิได้มีเพียงสถานะสูงส่ง แต่เขาเป็นยอดฝีมือทรงอำนาจที่เป็นภูติระดับเจ็ด นางคิดหาคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาในทั้งเมืองนี้ไม่ได้เลย!
  แม้ซือหยูเซี่ยนจะดูเหมือนจ้าวเทวะแต่นางก็รู้ดีว่าชางก่วนหยุนซื่อก็มิอาจดูแคลน และนางยังมั่นใจด้วยว่าเขาจะต้องมีสมบัติวิเศษที่ทรงพลัง มิเช่นนั้นตระกูลชางก่วนคงจะไม่ยอมให้เขาเดินทางมาคนเดียวถึงเทือกเขาคราม
  นางแทบคลั่งเมื่อสาบานในใจ…ซือหยูเซี่ยนหยวนหยิงหยิง วันของเจ้าจบลงแค่นี้แหละ!
  ที่ตำหนักตระกูลหยวน
  ซือหยูกับหยวนหยิงหยิงถูกส่งมาที่โถงกลางมันถูกจัดแต่งหลากสีสันทั้งยังเต็มไปด้วยโคม ทั้งตำหนักประโคมไปด้วยเสียงผู้คน บรรยากาศน่ายินดีปกคลุมทั้งตำหนัก
  ความยินดีปรีดาปรากฏบนสีหน้าคนในตระกูลคนที่พบเห็นอาจจะคิดได้ว่านี่คืองานฉลองวิวาห์อันสนุกสนาน
  “มานี่สิหยิงหยิง”
  เจ้าตระกูลหยวนมองตำหนักหยวนด้วยความเบาใจ
  เพราะภัยร้ายที่สุดของตระกูลหยวนอย่างพันธมิตรปรุงยาได้ล่มสลายในข้ามคืนขณะที่บุตรสาวล้ำค่าหยิงหยิงของเขาได้กลายเป็นเด็กสาวทรงพรสวรรค์ในประวัติศาสตร์วงศ์ตระกูล ทั้งไม่นานนางจะได้เข้าสู่ตำหนักชิงวิญญาณ นางกำลังจะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก!
  อีกประการก็คือการปรากฏตัวของนักปรุงยาชั้นกลางของตระกูลเมื่อหลายวันก่อนหากนับรวมนักปรุงยาชั้นต้นของพันธมิตรไปด้วย กำลังผลิตโอสถของตระกูลหยวนก็นับว่าเพิ่มขึ้นอย่างยิ่งยวด พวกเขากำลังจะปกครองได้ทั้งเทือกเขาคราม!
  “ท่านพ่องานฉลองใหญ่เช่นนี้จำเป็นจริงๆรึ?”
  หยวนหยิงหยิงถามนางกำลังพูดถึงงานเฉลิมฉลองที่ตระกูลกำลังเตรียมการ
  เจ้าตระกูลหยวนหัวเราะ
  “ตระกูลของเราเพิ่งได้เคราะห์ดีถึงสามคราเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! เหตุใดต้องจัดงานเล็กๆเล่า?”
  “หยิงหยิงเจ้าคือสตรีและดวงดาราแห่งค่ำคืนนี้ เจ้าควรไปพักเสีย เจ้าต้องเจิดจรัสในค่ำคืนนี้!”
  เจ้าตระกูลหยวนหัวเราะและกลับไปดูแลจัดงานเลี้ยง
  ซือหยูมองดูตระกูลหยวนและพบว่าเป็นเวลาที่เขาควรออกเดินทางเขาจะรอให้คนมาร่วมงานมากกว่านี้ จนกว่าเขาจะได้เดินทางโดยที่ไม่มีใครสังเกต
  ตอนนี้ตระกูลหยวนได้ปกครองเทือกเขาครามโดยสมบูรณ์เส้นทางของหยวนหยิงหยิงคงจะราบลื่น เรื่องเดียวที่ซือหยูไม่พอใจก็คือการที่นางจะต้องไปที่ตำหนักชิงวิญญาณ เพราะซือหยูรู้ว่าเขาจะต้องไปล้างแค้นเจ้าตำหนักชิงวิญญาณที่ทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย
  ในตอนนั้นก็มีคนวิ่งเข้ามาท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นเสียงตะโกนดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั้งตำหนักหยวน
  “คนตระกูลหยวนจงฟังคำสั่งข้าพาซือหยูเซี่ยนกับหยวนหยิงหยิงออกมาซะ!”
  เสียงตะโกนแสบแก้วหูทำให้คนตระกูลหยวนไม่พอใจซึ่งควรจะเป็นเช่นนั้น
  อวดดีนัก!ตระกูลหยวนในตอนนี้มีอำนาจถึงขีดสุด และตระกูลก็กำลังจะจัดงานเลี้ยง!
  การมาของคนผู้นั้นช่างหยาบคาย…ใครกันกล้าบังอาจตะโกนเช่นนี้?เขาไม่แสดงความเคารพต่อตระกูลเราเลย!
  ปั่วจินตะโกนตอบ
  “ทหารจับมัน!”
  เหล่ายอดฝีมือพุ่งออกไปตามคำสั่ง
  “เดี๋ยว!อย่าเพิ่งทำอะไร! เขาแข็งแกร่ง!”
  เจ้าตระกูลหยวนยื่นมือหยุดเหล่าทหาร
  ซือหยูยืนขึ้นช้าๆมองออกไปด้านนอกเขาขมวดคิ้วเบาๆ
  “มียอดฝีมือมาที่นี่จริงๆสินะพลังนี้มิใช่ภูติธรรมดา สัมผัสข้าบอกว่าเขาเป็นภูติชั้นสูง”
  หยวนหยิงหยิงตกใจนางถามยืนยัน
  “ปู่จะบอกว่า…ภูติชั้นสูงมาที่นี่รึ?”
  นางพยายามจะคิดว่านางไปดูหมิ่นภูติชั้นสูงตอนไหน…หรือว่าเมื่องานชุมนุมเทือกเขาคราม?
  “เอาเถอะ…เดี๋ยวเราก็รู้ตอนที่ได้เจอเขาหากเขาประกาศเรียกเสียเองแล้ว คงจะหยาบคายหากไม่ไปเจอมิใช่รึ?”
  เป็นการดียิ่งนักหากศัตรูจะมาปรากฏตัวตอนนี้เพราะเขาจะได้กวาดล้างเสียทีเดียวก่อนจะออกจากเทือกเขาคราม!
  เมื่อเห็นซือหยูกับหยวนหยิงหยิงเดินออกมาคนตระกูลหยวนก็หยุดการตกแต่งตำหนักชั่วคราวและออกจากตำหนักตามทั้งสอง แต่เมื่อออกมาถึงข้างนอกก็ตกตะลึง
  พวกเขาเห็นชายหนุ่มสวมชุดขาวยืนอยู่หน้าประตูตระกูลและยังมีหยวนหวังปี่ยืนอยู่ข้างๆเขา!
  “หวังปี่เป็นอะไรของเจ้า? เจ้าพาคนอื่นมาที่ตระกูลหยวนทำไม? เจ้าจะก่อเรื่องเรอะ?”
  ปั่วจินขมวดคิ้ว
  หยวนหวังปี่ยิ้ม
  “ผู้เฒ่าปั่วข้ามาด้วยเหตุส่วนตัว ข้าอยากจะคุยกับซือหยูเซี่ยนและน้องสาวข้า ข้าไม่ได้มาก่อเรื่องอันใด”
  เจ้าตระกูลหยวนมองบุตรสาวและจับจ้องไปยังชายหนุ่ม
  “เจ้าเป็นใคร?”
  ชายหนุ่มอายุไม่ควรจะเกินยี่สิบปีแต่เขาก็เป็นภูติระดับเจ็ดแล้ว พรสวรรค์ของเขาน่าตกตะลึงยิ่งกว่าเจ้าตระกูลหยวน
  “ข้าชางก่วนหยุนซื่ออีกไม่นานอาจจะต้องเรียกท่านว่าพ่อตา…”
  ชางก่วนหยุนซื่อตอบ
  ปั่วจินตากระตุก
  “ชางก่วนหยุนซื่อรึ?เจ้ามาจากตระกูลชางก่วนแห่งทะเลสาบเมฆขาวสินะ? เดี๋ยวก่อน…ทำไมเจ้าจะต้องเรียกท่านเจ้าตระกูลของเราว่าพ่อตาล่ะ?”
  คนตระกูลหยวนตกใจกับฐานะของเขาเพราะตระกูลชางก่วนเป็นตระกูลใหญ่ที่เทือบได้กับสิบแปดสำนักรวมกัน พวกเขาปกครองเทือกเขาเก้าแห่ง ภูเขาใหญ่อีกเจ็ดลูก ดินแดนพรสวรรค์หกแห่ง และหมู่บ้านอีกห้าหมู่บ้าน!
  ชางก่วนหยุนซื่อยิ้มเบาๆมองเจ้าตระกูลหยวน
  “ท่านยังไม่ได้บอกเรื่องการหมั้นของข้ากับหยวนหวังปี่ให้คนอื่นๆรู้อีกรึ?”
  คนตระกูลหยวนอ้าปากค้างเมื่อได้ฟังคำสั่งเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นมาทันควัน…
  “อะไรนะ?ตระกูลชางก่วนหมั้นหมายกับตระกูลหยวนของเรารึ?”
  “เป็นไปไม่ได้!ตระกูลหยวนเล็กๆของเราจะมีทางติดต่อตระกูลชางก่วนได้ยังไง?”
  เสียงอันยินดีตื่นเต้น และตกใจดังท่ามกลางหมู่คน เพราะถือเป็นเกียรติอย่างมากที่พวกเขาจะได้ผูกสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่ หากเป็นเช่นนี้ก็เหลือแค่ไม่กี่สำนักในดินแดนพรสวรรค์ทั้งสิบแปดที่จะกล้าแตะต้องพวกเขา ไม่ต้องพูดถึงสำนักในเทือกเขาครามเลย!
  เรื่องนี้น่าตื่นตายิ่งกว่าการที่นายหญิงสองได้เป็นศิษย์นอกของตำหนักชิงวิญญาณ!หยวนหวังปี่พอใจอย่างมากเมื่อเห็นสีหน้าของเหล่าคนในตระกูล นางเปิดเผยความจริงนี้เพื่อที่จะทำให้ทุกคนกลับมาสนใจนางอีกครั้ง เรื่องที่น้องสาวนางได้เป็นศิษย์ตำหนักชิงวิญญาณถือว่าเล็กน้อยไปเลยหากจะเทียบกับการหมั้นหมายของนาง
  ปั่วจินหัวเราะ
  “หวังปี่ข้ารู้ว่าชีวิตเจ้าจะต้องพบสิ่งที่ดี ยินดีด้วย!”
  คนอื่นในตระกูลแสดงความยินดีกับนางเช่นกันขณะที่สายตาแสดงถึงความริษยา พวกเขานับถือนางยิ่งกว่าแต่ก่อน
  เพราะคงจะเป็นเกียรติยิ่งหากได้เป็นภรรยาของนายน้อยตระกูลชางก่วน!แม้เแต่เจ้าตระกูลหยวนก็อาจจะต่ำต้อยกว่านางแล้ว
  ทุกคนตกใจเมื่อตระหนักว่านางได้กลายเป็นผู้มีอิทธิพลที่จะมีนามก้องดินแดนพรสววรรค์ทั้งสิบแปดไปหลายร้อยปีสิ่งที่ดีที่สุดก็คือนางเป็นคนของตระกูลพวกเขา นั่นทำให้พวกเขาภูมิใจอย่างมาก
  แต่ชางก่วนหยุนซื่อได้พูดขึ้นมาก่อนที่เหล่าผู้คนจะดีใจเกินไป
  “ขอบคุณพวกท่านที่ยินดีกับเราแต่ข้าจะต้องสะสางเรื่องหนึ่งเสียก่อน หวังปี่ถูกหยวนหยิงหยิงกับซือหยูเซี่ยนรังแก เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับศักดิ์ศรีตระกูลชางก่วน ข้ามิอาจมองข้ามได้”
  เขาพูดต่อไปอีก
  “เจ้าสองคนออกมาได้แล้วมาหารือกับข้า”
  หลังพูดจบสีหน้าของชางก่วนหยุนซื่อได้เยือกเย็นขึ้น แท้จริงแล้ว บรรยากาศโดยรอบได้เยือกเย็นขึ้น
  ชางก่วนหยุนซื่อเด็ดเดี่ยวเช่นนี้คนในตระกูลรู้ว่าคงมิอาจขัดขวางให้เขาไม่ได้สิ่งที่ต้องการ แต่พวกเขารู้ว่าถ้าหากส่งหยวนหยิงหยิงให้ นางก็จะผิดหวัง ต่อให้นางประสบความสำเร็จในอนาคต นางก็จะไม่สนใจพวกเขา!
  แต่ถ้าหากปฏิเสธนั่นก็จะเป็นการดูหมิ่นหยวนหวังปี่ผู้ที่กำลังจะเป็นภรรยาในอนาคตของนายน้อยตระกูลชางก่วน ด้วยฐานะใหม่นี้เอง นางจะทำให้ตระกูลหยวนยุ่งยากได้ไม่ยาก โดยเฉพาะกับเจ้าตระกูล เพราะถ้าหากนางใจร้าย นางก็อาจจะทำลายทั้งตระกูลไปพร้อมกัน!
  ถ้าเทียบผลที่ตามมาทั้งสองแล้วการยอมหยวนหวังปี่ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า คนส่วนมากจึงเงียบลงและหันมองไปทางอื่นโดยไม่ต่อต้าน
  หยวนหยิงหยิงกำหมัดมองพี่สาวแต่มิใช่เพราะความเศร้า นางเพิ่งจะคิด…ใยนางชิงชังข้ามากมายเช่นนี้? เพราะนางไม่เคยตั้งใจที่จะทำร้ายพี่สาวเลยสักครั้ง
  หลังจากที่ทั้งตระกูลหยวนเงียบลงชายร่างสูงได้ก้าวออกมาข้างหน้า เขาคือเจ้าตระกูลหยวน
  เขามองคนรอบๆ
  “นายน้อยชางก่วนที่นี่คือตระกูลข้า มิใช่ตระกูลเจ้า หากคิดว่าจะเข้ามายุ่งเรื่องตระกูลเพียงเพราะการหมั้นหมาย เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ต้องการการหมั้นหมายนี้”
  คำพูดของเขาเป็นดั่งค้อนทุบแก้วหูทุกคนที่ได้ยินทุกคนรู้ว่าเขาจริงจังถึงที่สุด เพราะถ้าหากตระกูลฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายถอนหมั้น มันก็จะถือว่าการหมั้นเป็นโมฆะแน่นอน
  หยวนหวังปี่ตกใจมาก
  “ท่านพ่อทำแบบนี้กับข้าได้ยังไง?นี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตข้านะ! แล…”
  เจ้าตระกูลหยวนตะโกนแทรกด้วยความโกรธเกรี้ยว
  “หุบปาก!”
  หยวนหวังปี่เงียบเมื่อได้ยินเสียงตะโกนนางไม่เคยเห็นผู้เป็นพ่อโกรธขนาดนี้
  “ไม่คิดเลยว่าลูกข้าหวังปี่จะสมคบคนนอกมาถึงหน้าประตูของเราเพื่อรังแกน้องสาวเพราะนางเป็นบุตรสาวที่ดี คนที่ตระกูลเลี้ยงดูมาอย่างยอดเยี่ยม!”
  ใบหน้าเจ้าตระกูลเต็มไปด้วยความผิดหวังเขามองผู้คนรอบๆและหันไปมองหยวนหวังปี่
  เจ้าตระกูลหยวนพูดกับหยวนหยิงหยิง
  “เจ้ามาคุยกับข้าและน้องสาวเจ้าก่อนน้องเจ้าไปทำอะไรให้เจ้านักหนา? อะไรทำให้เจ้าชิงชังนางนัก? พูดมา!”
  ความหวาดกลัวเอ่อล้นในใจหยวนหวังปี่เมื่อเจอกับพ่อที่โกรธเกรี้ยวนางเริ่มคิดหาเหตุที่นางทำแบบนี้กับหยิงหยิงอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตาม นางพบว่าตัวเองมิอาจหาเหตุผลได้สักข้อเดียว!
  หยวนหยิงหยิงไม่เคยทำร้ายนางสักครั้งหยิงหยิงมักจะใจดีกับนาง แต่ตัวนางกลับรังเกียจน้องสาวอยู่ตลอด นางอิจฉาที่หยิงหยิงเริ่มประสบความสำเร็จและเสียใจที่หยิงหยิงเหนือกว่านาง เหล่านี้คือเหตุแท้จริงที่นางชิงชังน้องสาว
  แต่นางมิอาจพูดทั้งหมดต่อท่านพ่อเจ้าตระกูลหยวนถามอีกเมื่อเห็นลูกสาวลังเล
  “เป็นอะไรของเจ้า?ใครตัดลิ้นเจ้าไปเรอะ?”
  เจ้าตระกูลหยวนโน้มตัวมองตานาง
  “เป็นเพราะเจ้าริษยานางใช่หรือไม่?เจ้าทนไม่ได้ที่น้องเจ้าดีกว่าเจ้าใช่หรือไม่?”
  เขาส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง
  “เจ้าก็แค่ริษยาความสำเร็จของนาง!เป็นความผิดของผู้เฒ่าในตระกูลที่เอาอกเอาใจเจ้าเกินไป ลงท้ายเจ้าต้องกลายเป็นคนเช่นนี้!”
  เจ้าตระกูลหยวนกล่าวคำพูดอันคมกริบ
  “ข้าให้เวลาเจ้าสามลมหายใจจะยอมรับผิด หรือจะไสหัวออกจากตระกูลหยวน! ถ้าเลือกอย่างหลัง เจ้าก็ไม่ต้องกลับมาตระกูลหยวนตลอดไป!”
  หยวนหวังปี่สั่นไปทั้งตัวนี่มิใช่ผลลัพธ์ที่นางต้องการ! นางแค่อยากจะระบายความโกรธและชิงฐานะเดิมในตระกูลกลับมาเท่านั้น! นางไม่คิดเลยว่าพ่อจะทำเช่นนี้ เขาถึงกับขู่ไล่นางออกจากตระกูลหยวนตลอดไป!
  “หนึ่ง…สอง…”
  เจ้าตระกูลหยวนเริ่มนับ
  หยวนหวังปี่ลังเลในแววตา…ข้าจะทำยังไง?ข้าจะออกจากตระกูลหยวนไปแต่งงานกับชางก่วนดีไหม? แต่ข้าไม่เป็นตระกูลหยวนอีกแล้ว ข้าจะไม่มีคุณสมบัติแต่งงานกับตระกูลชางก่วนในฐานะคนตระกูลหยวน…
  เมื่อเจ้าตระกูลหยวนกำลังจะนับครั้งสุดท้ายหยวนหยิงหยิงได้ก้าวออกมาที่ด้านหน้าเจ้าตระกูล
  “ให้ข้าจัดการเองเถอะท่านพ่อนี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับท่านพี่ ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง”
  เจ้าตระกูลหยวนเงียบไปก่อนจะหลับตาเขาพูดช้าๆ
  “ข้าให้เวลาเจ้าห้านาทีเท่านั้น”
  เขาถอนหายใจเมื่อมองหยวนหยิงหยิงเขาทึ่งที่นางยังคงมีจิตใจดีมากพอจนทนเห็นพี่สาวถูกขับออกจากตระกูลไม่ได้
  แต่ในสายตาหยวนหวังปี่ความใจดีของน้องสาวนางดูเหมือนความสงสารที่ให้กับผู้อ่อนแอ
  “ข้าไม่ต้องการความย่วงใจที่ไม่จริงใจของเจ้า”
  ชางก่วนหยุนซื่อมองหยวนหยิงหยิงและถาม
  “คนนี้สินะ?หวังปี่ เจ้าอยากให้ข้าทำยังไง? ความปรารถนาเจ้าคือคำสั่งข้า ไม่ว่าพูดสิ่งใด ข้าก็จะทำ! ถ้าใครกล้าขวาง คนผู้นั้นก็ถือเป็นศัตรูของตระกูลชางก่วน!”
  หยวนหวังปี่ยิ่งมั่นใจเมื่อมีคนสนับสนุนนางมองน้องสาวด้วยรอยยิ้มไม่จริงใจ
  “เจ้าไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงสินะ?ตอนนี้แหละ ข้าจะเอาคืนทั้งหมดที่เจ้าแย่งไปจากข้า!”
DND.762 – องค์กรลับ
  หยวนหยิงหยิงสีหน้าใจเย็น
  “ท่านพี่คิดจะทำอะไรข้ารึ?”
  หยวนหวังปี่ตอบอย่างเยือกเย็น
  “แน่ล่ะข้าอยาก…”
  นางชิงชังน้องสาวเป็นอย่างยิ่งแต่นางก็สับสนในตอนนี้ นางไม่รู้ว่าต้องการจะทำอะไรกับหยิงหยิง…ข้าอยากสังหารนางรึ? นางเคยคิดในบางครั้ง แต่ตอนนี้ ตอนที่อยู่ต่อหน้า นางกลับทำให้ตัวเองพูดจาโหดร้ายแบบนั้นออกมาไม่ได้
  แต่ข้าจะล้างแค้นได้ยังไงถ้าข้าไม่ลบน้องสาวข้าให้หายไปจากโลกนี้?
  “หวังปี่พูดมาเลย เจ้าอยากจะทำอะไรนาง? ข้าจะทำให้ความปรารถนาเจ้าเป็นจริง”
  ชางก่วนหยุนซื่อเข้าข้างนางเต็มประตู
  หยวนหวังปี่เริ่มหนักใจนางมองคนตระกูลหยวนตรงหน้าและเริ่มเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป
  นางลังเลก่อนจะกัดฟันเค้นคำพูด
  “แค่ให้นางขอโทษข้าก็พอ”
  แค่ขอโทษรึ?เจ้าตระกูลหยวนตากระตุก ความผิดหวังในแววลาหายไปทันที
  คนตระกูลหยวนมากมายตกใจยากที่พวกเขาจะคิดว่านายหญิงแห่งตระกูลจะทำทุกวิถีทางเพื่อคำขอโทษ
  หยวนหยิงหยิงพูดขึ้น
  “ท่านพี่อยากจะให้ข้าขอโทษเรื่องอะไรรึ?”
  หยวนหวังปี่อึ้งกับคำถามนี้
  ข้าอยากให้นางขอโทษเรื่องอะไรล่ะ?นางทำอะไรให้ข้ากัน?
  ข้าจะให้นางขอโทษเพราะนางมีพรสวรรค์มากกว่าข้ารึ?
  หยวนหวังปี่ใจลอยและหนักใจนางเอาแต่ตั้งคำถามในหัว
  “หวังปี่เจ้าพูดมาเลย เจ้าอยากจะให้นางขอโทษเรื่องอะไร?”
  ชางก่วนหยุนซื่อถามนาง
  หยวนหวังปี่ส่ายหน้าความร้อนแรงในใจได้หายไปแล้ว
  “ช่างเถอะนางไม่ต้องขอโทษอะไรข้าหรอกนายน้อยชางก่วน ขอบคุณมาก แต่ข้าไม่เป็นไร”
  “แล้วเขาล่ะ?”
  ชางก่วนหยุนซื่อมองซือหยู
  หยวนหวังปี่มองเขาอย่างลึกซึ้งแต่ก็มิอาจทำใจให้ชิงชังเขาได้อีกแล้ว
  “ลืมเขาไปด้วยข้าไม่เป็นไร ข้ายินดีกับน้ำใจของนายน้อย แต่ให้มันจบตรงนี้เถอะ”
  ความโกรธและความเศร้าหมองของนางหายไปแล้ว
  “มิใช่ว่าเจ้ากังวลว่าน้องสาวเจ้าจะนำหน้าเจ้าต่อไปรึ?”
  ชางก่วนหยุนซื่อถาม
  หยวนหวังปี่ส่ายหน้านางหยิบขวดหยกที่มีโอสถขยายภูติระดับสี่ออกมา
  “ข้าใช้พลังตัวเองเป็นภูติได้ข้าจะเอาชนะนางอย่างยุติธรรม”
  ป๊าบ!ป๊าบ!
  ในตอนนั้นเองชางก่วนหยุนซื่อหัวเราะชอบใจและปรบมือเสียงดัง
  “ฮ่าๆๆๆ!น่าสนใจนัก! ไม่คิดเลยว่าจะจบเช่นนี้!”
  หืม?คนตระกูลหยวนตกใจ หยวนหวังปี่รีบถาม
  “เจ้าพูดถึงจบอะไรกัน?”
  “ก็จุดจบของเจ้าน่ะสิ!”
  ชางก่วนหยุนซื่อตอบ
  “เจ้าคิดจริงๆรึว่าข้าจะมาช่วยเจ้าล้างแค้นโดยไร้เหตุผลเช่นนี้?”
  หยวนหวังปี่เริ่มหวาดกลัวในใจนางรีบถอยห่างจากเขา
  “เจ้าจะพูดอะไรกันแน่?”
  ชางก่วนหยุนซื่อมองนาง
  “ข้าเดินทางมาที่นี่เพื่อสังเกตดูตัวตนของเจ้าตลอดสิบวันที่ผ่านมา ข้าแอบอยู่ในเมือง รวบรวมข่าวว่าเจ้าเป็นคนเช่นใด…เจ้าเคยทำอะไรมาบ้าง ชื่อเสียงเจ้า…ข่าวลือจากชางบ้าน ข้ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้าหมดแล้ว”
  หยวนหวังปี่ถอยไปหลายก้าวและเอามือปิดปากนางไม่อยากจะคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง
  “เจ้าแค่ทดสอบข้าเรอะ?”
  “ข้ารู้ว่าเจ้าแอบนัดพบเฉาหยินและข้าก็รู้ว่าเจ้าพยายามยั่วยวนซือหยูเซี่ยน ข้าเห็นกับตา ข้าต้องพูดสิ่งใดอีกหรือไม่?”
  ชางก่วนหยุนซื่อถาม
  อะไรนะ?เจ้าตระกูลหยวนเบิกตาโพลง เพลิงความแค้นแผดเผาในดวงตา
  “อับอายขายขี้หน้า!เจ้าแอบสร้างสัมพันธ์กับเฉาหยิน ทั้งๆที่เป็นคู่หมั้นน้องสาวเจ้าเรอะ? เจ้ามันไร้ยางอาย!”
  เขาโกรธแค้น!เพราะตอนที่เขาเฉินมาขอแต่งงาน นางได้ปฏิเสธเพราะรู้ว่าจะต้องพบเจอกับความยากลำบากหากแต่งเข้าตระกูลนี้ สุดท้ายหยิงหยิงได้เสนอตัวเข้าแทนที่นาง แต่นางกลับกล้าแอบสานสัมพันธ์กับเฉาหยิน!
  นางต้องการทุกสิ่งที่หอมหวานกับตนเองขณะที่น้องสาวนางต้องแบกรับความทุกข์ทน! นางยังพยายามยั่วซือหยูเซี่ยนอีก!
  “เจ้ามันลูกหน้าด้านสัปดน!”
  เจ้าตระกูลหยวนโกรธจนยกมือขึ้นฟ้าเขาตะโกน
  “ข้า…ข้าจะฆ่าเจ้า!”
  คนในตระกูลเป็นห่วงความปลอดภัยของหยวนหวังปี่อย่างจริงจังเมื่อเห็นความโกรธแค้นของเจ้าตระกูลเพราะหยวนหวังปี่มีฐานพลังที่อ้อนด้อยกว่าผู้เป็นพ่อ เป็นไปไม่ได้ที่นางจะหลบ นางจึงยกมือขึ้นมาบังกายโดยไม่รู้ตัว ความโศกเศร้าและหวาดกลัวถาโถมในใจ
  ปั้ง!
  เมื่อเขาฟาดมือลงมาช่างน่าแปลกใจนักที่นางไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลย
  “หยิงหยิง!”
  เจ้าตระกูลหยวนเป็นคนแรกที่รู้สึกตัวหลังจากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
  เมื่อเขาฟาดมือไปยังหวังปี่หยิงหยิงได้กระโจนเข้ามาระหว่างเขากับนางและรับแรงตบนั้นแทน! หยิงหยิงถูกตบจนกระเด็น มีโลหิตไหลออกมาจากมุมปาก
  เมื่อรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าตระกูลหยวนรีบวิ่งไปช่วยพยุงตัวนางขึ้น
  “ลูกรักใยเจ้าหัวทึบเช่นนี้ทุกครั้ง?”
  แม้พี่สาวจะมาหาเรื่องหยวนหยิงหยิงก็ยังอดทนทุกอย่างตามเดิม นางยิ้มแต่ก็เจ็บปวด นางร้องครางออกมา
  “ข้าเป็นน้องท่านพี่ข้ามองท่านพี่ถูกรังแกอยู่เฉยๆไม่ได้หรอก!”
  คำตอบอันเรียบง่ายใจซื่อประทับดวงใจทุกคนในตระกูลหยวนแม้พี่สาวจะปฏิบัติต่อนางอย่างโหดร้าย นางก็ยังเป็นเด็กสาวที่อ่อนหวานไม่เปลี่ยนแปลง
  พวกเขามองหยวนหยิงหยิงที่บาดเจ็บผู้เฒ่าหลายคนถอนหายใจ พวกเขารู้สึกละอายใจในสิ่งที่ทำกับนางในอดีต
  หยวนหวังปี่จ้องมองน้องสาวโดยพูดไม่ออกแม้นางจะทำเรื่องทั้งหมดมา น้องสาวนางก็ยังห่วงใยนาง! จุดอ่อนไหวในดวงใจถูกสัมผัสโดยหยิงหยิง ความรู้สึกด้านลบต่างๆที่เป็นพิษต่อหัวใจได้หายไปราวกับหมอกควัน
  นางรู้สึกละอายใจเมื่อมองหยิงหยิงท่านพ่อ และคนในตระกูลรวมถึงชางก่วนหยุนซื่อ นางมิอาจมองหน้าใครได้เลย นางใช้มือปิดปาก ปลายเท้าแตะพื้น บินหนีไป
  “นายหญิงรอข้าด้วย!”
  สาวใช้เสี่ยวเถารีบตามนางไป
  หยวนหวังปี่หยุดกลางทางร่อนลงพื้นที่นอกเมืองนางหันกลับไป
  “เสี่ยวเถากลับไปซะ เจ้าไม่ต้องตามข้า ข้าไม่คิดจะกลับตระกูลแล้ว ตระกูลจะดูแลพร้อมหาตำแหน่งใหม่ให้เจ้า”
  เสี่ยวเถาถอนหายใจ
  “นายหญิงท่านใจดีกับข้าเสมอมา ข้าจะติดตามไม่ว่าท่านจะไปไหน แต่ถ้าหนีออกมาโดยไร้เงินทองเช่นนี้ ท่านจะไปได้ไกลสักเพียงใดเชียว?”
  หยวนหวังปี่ยิ้มอย่างขื่นขม
  “เจ้าลืมแล้วรึว่าข้าเป็นนักปรุงยาชั้นต้นข้าปรุงโอสถระดับสามได้ ข้ายังชำนาญการปรุงโอสถของตระกูลหยวน ข้าขายโอสถหากินได้”
  เสี่ยวเถาถาม
  “นายหญิงท่านจำสูตรโอสถทั้งหมดของตระกูลหยวนได้รึ? มันมีสูตรตั้งมาก ท่านจำได้หมดเลยหรือ?”
  หยวนหวังปี่ส่ายหน้า
  “ข้าจำได้ไม่หมดอยู่แล้วแต่ข้าจำโอสถสำคัญและสูตรที่ล้ำค่าได้”
  นางมองเสี่ยวเถาอย่างอบอุ่น
  “เสี่ยวเถาข้าเหลือแต่เจ้าแล้ว เจ้าติดตามข้ามาตั้งแต่เด็ก เจ้าเป็นดั่งน้องสาวข้า หากคิดจะติดตาม ก็ไปผจญโลกด้วยกัน ข้ามิอาจให้เกียรติยศหรือเงินทอง หรือฐานะสูงส่ง แต่ข้าจะให้เจ้าได้อยู่อย่างสบาย เราสองคนไม่ต้องกลับตระกูลหยวนอีกแล้ว ความทรงจำเลวร้ายมากมายนัก”
  เสี่ยวเถากล่าว
  “ข้าจะติดตามท่านอยู่แล้วแต่มีบางอย่างที่ข้าต้องบอก…”
  “เจ้าอยากพูดอะไร?”
  หยวนหวังปี่แปลกใจนางคิดว่าเสี่ยวเถาอยากจะเกลี้ยกล่อมให้นางกลับตระกูล
  เสี่ยวเถาเข้าใกล้และพูดเบาๆทันใดนั้นหยวนหวังปี่ก็รู้สึกเจ็บปวดที่เอว พลังชีวิตทั้งร่างถูกปิดกั้น ราวกับทั้งร่างถูกชิงพลังออกไป นางอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
  นางล้มลงกับพื้นและเห็นเสี่ยวเถาตรงหน้าที่ยิ้มจางๆ
  “ที่ข้าอยากจะพูดก็คือ…ขอบคุณที่ดูแลข้าดั่งน้องสาวแต่น่าเสียดายนัก เจ้าตาบอดเหมือนค้างคาวจนเข้าใจข้าผิด!”
  เสี่ยวเถาในตอนนี้ดูไม่เหมือนสาวใช้ที่ภักดีอีกแล้วนางยิ้มอย่างชั่วร้ายและหยิบเอาแหวนมิติของหยวนหวังปี่ออกมา นางเปิดดูสิ่งที่อยู่ภายในพร้อมกับยินดี
  “ฮ่าๆๆสูตรโอสถอยู่ในนี้จริงๆด้วย! นายหญิง ท่านไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!”
  หยวนหวังปี่ขยับไม่ได้แม้แต่น้อยนางแทบจะพูดไม่ออก
  “เสี่ยวเถา?จะ…เจ้าเป็นใคร?”
  ความโลภปรากฏบนใบหน้าเสี่ยวเถาเมื่อมองสูตรโอสถกองโต  “ข้าเป็นใครน่ะรึ?หึหึ! ข้าเป็นสายลับ! เฉาหยินห่าวส่งข้ามาตระกูลหยวนเพื่อลอกสูตรโอสถ โดยเฉพาะโอสถโบราณวารีผงกลั่นดวงใจ! มันคือสูตรที่พันธมิตรปรุงยาต้องการมาตลอด แต่ข้าก็ไม่เคยขโมยมันได้จนถึงวันนี้!”
  “อะไรนะ?เจ้ามาจากพันธมิตรปรุงยาเรอะ?”
  หยวนหวังปี่มิอาจเชื่อว่าสาวใช้ที่เติบโตมาด้วยกันจะเป็นหนอนบ่อนไส้!แต่ความจริงที่มิอาจปฏิเสธก็อยู่ตรหน้าแล้ว
  หยวนหวังปี่รู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอันตรายนางพยายามจะให้เหตุผล
  “เสี่ยวเถาพันธมิตรปรุงยาล่มสลายแล้ว เจ้าไม่ต้องรับใช้พวกมันอีกแล้ว สูตรโอสถก็ไม่ต้องเอาไปด้วย! ข้าแลกมันกับแก้วพลังก็ได้ ยังไงเจ้าก็ไม่ใช่นักปรุงยา สูตรโอสถไม่มีประโยชน์กับเจ้า”
  เสี่ยวเถาตอบ
  “ก็จริงที่ข้าไม่ต้องทำภารกิจของพันธมิตรต่อไปแล้วแต่ข้าก็ยังมีอีกภารกิจที่ยังไม่สำเร็จ”
  “ยังมีภารกิจอื่นอีกรึ?เจ้าทำงานเป็นสายลับของทั้งสองสำนักเลยเรอะ?”
  หยวนหวังปี่ฉลาดหลักแหลมนางเดาได้ในทันที
  เสี่ยวเถาหัวเราะ
  “ใช่แล้ว!ข้ายังมีอีกฐานะหนึ่ง…ข้าเป็นคนของผาบั่นภูติ!”
  หยวนหวังปี่เบิกตากว้าง
  “ผาบั่นภูติหรือ?”
  ความหวาดกลัวรุนแรงฉายผ่านไปใบหน้านางเมื่อได้ยินนามนี้ผาบั่นภูติเป็นนามที่ทุกคนหวาดกลัว!
  มันมีอำนาจและกำลังอันยิ่งใหญ่ทั้งยังเร้นกายอยู่ในความมืดเสมอ ไม่มีใครรู้ว่าที่ตั้งหลักของมันอยู่ที่ใด หรือว่ามีคนอยู่กี่คน ทั้งหมดที่รู้ก็คือคนของพวกเขากระจายอยู่ทั่วโลกจิวโจว!
  ทุกคนเคลื่อนไหวในเงามืดทำงานเป็นมือสังหาร ทหารรับจ้าง ขโมย และปล้น พวกเขายังเกี่ยวข้องกับเงินผิดกฎหมายและบ่อนใต้ดิน พวกเขาเกี่ยวข้องกับทุกอย่างที่ไม่ควรเผยในที่สาธารณะ!
  มือสังหารของผาบั่นภูติมีชื่อเสียงไปทั่วแผ่นดินตราบเท่าที่รับภารกิจไปแล้ว ต่อให้เป้าหมายเป็นอสูรเนรมิตร เป้าหมายนั้นก็มิอาจหนีจากความตายได้!

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset