The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 939 – กำราบด้วยเวลา

DND.
“ใช่เราเจอกันอีกแล้ว”
ร่างที่ดูยิ่งใหญ่ที่สวมมงกุฎพูดอย่างไร้อารมณ์
“ตั้งแต่ที่เจ้าหนีไปจากแม่น้ำเยือกแข็งพวกเราตามหาเจ้าอยู่ตลอดเวลา”
หัวหน้าองครักษ์แสงกระจ่างถอนหายใจเบาๆเขาดูไม่รีบร้อนในการจับตัวซือหยู หรือก็คือซือหยูที่อยู่ในแหนี้หมดหนทางหนีจนหัวหน้าองครักษ์ไม่รู้สึกว่าจะต้องจับตัวอีกแล้ว
แต่พวกมันย่อมไม่เคยคิดถึงมัจฉาที่มีพลังมากพอที่จะสะบั้นแห…
“ข้ายังถามเช่นเดิม…เจ้าจะไปกับพวกข้าหรือจะให้พวกข้าเอาร่างไร้วิญญาณของเจ้าไป?”
หัวหน้าองครักษ์แสงกระจ่างยังคงพูดจาอวดดีเช่นเคย
ซือหยูตอบอย่างใจเย็น
“เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าทำไมราชาเขตกลางถึงอยากจับตัวข้าไม่ว่าจะเป็นหรือตาย?”
หัวหน้ากล่าว
“พวกเราทำตามคำสั่งท่านราชาเท่านั้นพวกเราไม่เคยตั้งคำถาม ถ้าเจ้าจะคิดติดสินบนก็จงอย่าเสียเวลา”
แม้ว่าจะดูแปลกที่พวกเขาทั้งห้าถูกสั่งให้จับตัวภูติธรรมดาๆ คนหนึ่ง และสามารถจับได้ทั้งเป็นและตาย พวกเขาก็ไม่ตั้งคำถาม
คนผู้นี้อาจจะมีสิ่งที่ราชาเขตกลางต้องการและมันจะต้องเป็นสิ่งที่มีค่ามหาศาล พวกเขารู้ดี แต่พวกเขาก็รู้ว่าถ้าทรยศราชาเขตกลางแล้วจะเป็นอย่างไร ถ้าพวกเขาไม่ทำตามคำสั่งก็ไม่มีใครบนโลกนี้ที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้
เมื่อได้ฟังคำตอบซือหยูตอบกลับ
“ข้าไม่ได้คิดติดสินบนเจ้าข้าแค่อยากจะถามว่าทำไมพวกเจ้าถึงเลือกรับใช้คนชั่วช้าเช่นนั้น?”
ซือหยูส่ายหน้า
“สิ่งที่มันทำในเฉินหลงกับสิ่งที่มันทำกับเฉินอี้เจิงที่เป็นราชาคนก่อน…พวกเจ้ารู้เรื่องทั้งหมดหรือไม่?”
องครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้าชักสีหน้าพร้อมกันหัวหน้าองครักษ์หรี่ตา
“เจ้าจะบอกว่า…เจ้ารู้เรื่องเฉินอี้เจิง…แล้วยังรู้เรื่องดินแดนเฉินหลงด้วยรึ?”
กงซุนหวูซื่อที่อยู่ข้างๆ เบิกตากว้างเมื่อได้ยินความลับยิ่งใหญ่จากปากซือหยู ราชาเขตกลางคนก่อนที่ไม่มีใครในจิวโจวเทียบได้และกำลังจะถูกแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดิ…ได้ถึงแก่กรรมไปโดยไม่คาดฝัน ซึ่งความจริงนั้นเกี่ยวข้องกับราชาเขตกลางคนปัจจุบัน!
ซือหยูพูดต่อ
“พวกเจ้าทุกคนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นสินะแต่พวกเจ้าก็ยังยินดีรับใช้มัน”
ซือหยูมององครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้าด้วยความผิดหวัง
หัวหน้าองครักษ์ตอบกลับด้วยคำถาม
“พวกข้ารู้แล้วมันทำไมเล่า?ทุกสิ่งบนโลกย่อมดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด ราชาเขตกลางเองก็ดิ้นรน พวกข้าก็เช่นกัน ท่านราชาคร่าชีวิตนับล้านกับวางอุบายใส่เฉินอี้เจิงแล้วมันทำไมกัน?”
เขาพูดต่อ
“จากที่ข้าคิดการเสียสละใดย่อมคุ้มค่า ตราบเท่าที่พวกข้าจะได้บ่มเพาะพลังต่อไป! ท่านราชาช่วยให้พวกข้าได้เติบโต…พวกข้าเลยรับใช้เขา”
เมื่อพูดสิ่งที่คิดหมดแล้วหัวหน้าองครักษ์ถาม
“ถึงตรงนี้เจ้าคงไม่ต้องพูดอะไรแล้วสินะ?”
เพราะอย่างไรซือหยูก็กำลังจะตายซึ่งมันไม่มีความหมายสำหรับพวกเขา
ซือหยูตอบอย่างใจเย็น
“ต้องสิประเด็นของข้าก็เพื่อให้แน่ใจว่าข้าไม่ได้ฆ่าคนบริสุทธิ์!”
เขามีกฎที่จะไม่ฆ่าคนบริสุทธิ์แม้ว่าองครักษ์แสงกระจ่างจะเป็นคนของราชาเขตกลางก็ตามเขารู้แล้วว่าองครักษ์เหล่านี้ทำผิดบาปอย่างเต็มใจแม้จะรู้ทุกอย่าง หากพวกมันตายตอนนี้ซือหยูก็ไม่รู้สึกผิดเลย
“โอ้?เจ้าไม่ได้กล้าแค่ต่อต้านพวกข้า แต่เจ้ายังมั่นใจว่าจะฆ่าพวกข้าได้ด้วยงั้นรึ?”
หัวหน้าองครักษ์แสงกระจ่างยิ้มเยาะ
“คนหนุ่มอย่างพวกเจ้าช่างอวดดีนัก!”
ในตอนนี้เองซือหยูหยิบกล่องไม้ออกมา มันปล่อยกลิ่นไม้อันรุนแรงเมื่อเปิดกล่องออก
ไม่นานหลังจากนั้นคลื่นเล็กๆได้ก่อเกิดขึ้นในพื้นที่เงียบสนิท หยดวารีบริสุทธิ์สามหยดบรรจุอยู่ในกล่องไม้ ทุกหยดเปล่งประกายราวกับอัญมณี
แม้จะถูกปิดผนึกอยู่ในกล่องไม้แสงที่มันเปล่งออกมานั้นมีชีวิตชีวา ราวกับว่าในหยดนั้นคือแหล่งก่อเกิดแห่งชีวิต
รอยยิ้มของหัวหน้าองครักษ์หายไปมันแทนที่ด้วยความตกตะลึง
“น้ำพุแห่งชีวิตเรอะ?มันเกิดจากเผ่าไม้ที่มีพลังอสูรเนรมิตรขั้นหกขึ้นไป!”
องครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้าแววตาร้อนผ่าวเพราะน้ำพุแห่งชีวิตที่เกิดจากเผ่าไม้อสูรเนรมิตรขั้นหกขึ้นไปนั้นจะเพิ่มอายุขัยได้อีกพันปี
สำหรับพวกขเาที่อยากจะแข็งแกร่งขึ้นมันคือความหวังที่หาได้ยากมากและเป็นสิ่งล้ำค่า มันมิอาจแลกได้ด้วยเงินทอง
“ต่อให้เจ้าดื่มมันไปชีวิตเจ้าก็รักษาไว้ไม่ได้อยู่ดี!”
หัวหน้าองครักษ์พูด
“ส่งมาให้พวกข้าซะแล้วเจ้าจะได้ตายดี”
ซือหยูแววตาสงบนิ่งเขาส่ายหน้า
“เจ้าเข้าใจผิดแล้วนี่ไม่ใช่เพราะยื้อชีวิตข้า แต่ทำให้ฆ่าพวกเจ้าง่ายขึ้น!”
เมื่อพูดจบซือหยูกลืนหนึ่งหยดเข้าไปทันที พลังอายุขัยเอ่อล้นในร่างของซือหยูราวกับคลื่นพลังอันน่าตกใจ
รูปลักษณ์แก่เฒ่าของเขาเปลี่ยนแปลงผมสีขาวได้กลายเป็นสีเงินสง่า
ริ้วรอยและใบหน้าหมองได้เปลี่ยนไปเช่นกันมันกลายเป็นใบหน้าชายหนุ่มอายุสิบแปด เขามีผิวเรียบลื่นดั่งหยกและใบหน้าหล่อเหลา ดวงตานั้นเป็นประกายสดใสราวกับมีหมู่ดาวอยู่ภายใน
ชายแก่ได้แปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มรูปหล่อผมสีเงินในทันที!กงซุนหวูซื่ออ้าปากค้าง นางจ้องร่างหนุ่มของซือหยูราวกับมองเซียนที่เพิ่งจะเกิดมาบนโลก!
ความสง่าผ่าเผยประกอบกับความสุขุมนุ่มลึกนั้นทำให้เขาไม่เหมือนใครที่นางเคยเจอมาก่อนดวงตาสีดำสนิทของเขายังเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
แสงสีม่วงอ่อนเปล่งประกายจากตาซ้ายส่วนตาขวาแดงดั่งสุราองุ่น สีสันต่างๆสะท้อนออกมาจากดวงตา เขาดูไม่เหมือนกับมนุษย์เลย
“เป็นเจ้าจริงๆด้วย!”
หัวหน้าองครักษ์แสงกระจ่างเบิกตากว้าง
ใบหน้าของชายหนุ่มที่ได้เห็นคือใบหน้าเดียวกับที่ราชาเขตกลางวาดเอาไว้อย่างไม่มีผิดเพี้ยนทีแรก การที่พวกเขาไล่ล่าซือหยูแต่ได้พบกับชายแก่ก็น่ากังวลอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ข้อกังขาทั้งหมดได้หายไป
ซือหยูยืนมือไพล่หลังเขาเยือกเย็นแม้จะเผชิญหน้าอยู่กับองครักษ์แสงกระจ่าง
“พวกเจ้าตามล่าข้ามาหนึ่งปีแล้วถึงเวลาที่ข้าจะจบมันเสียที…”
นี่คือสิ่งแรกที่ซือหยูพูดออกมาหลังจากคืนรูปลักษณ์
ตลอดปีที่ผ่านมาเขารู้สึกถึงคมกระบี่ที่จ่อหัวใจของเขาอยู่ตลอดมา ในวันนี้ ถึงเวลาที่เขาจะเผชิญหน้าตาต่อตากับมันแล้ว
หัวหน้าองครักษ์จ้องซือหยูที่ปล่อยพลังอันแข็งแกร่งออกมา
“ระวัง!มันแสดงร่างจริงแล้ว อย่าประมาท! ใช้ค่ายกลดับสวรรค์ห้าธาตุ!”
เพราะชายผมสีเงินผู้นี้คือคนที่สังหารซือตี๋หรือก็คือจักรพรรดิโลหิตในด้านของพลัง มีเพียงหัวหน้าองครักษ์แสงกระจ่างคนเดียวเท่านั้นที่ต่อสู้กับซือตี๋ได้ถึงร้อยกระบวนท่า ส่วนคนอื่น ๆ นั้นพ่ายแพ้ในสิบกระบวนท่า! ถึงอย่างนั้น ซือหยูก็ลบล้างจักรพรรดิโลหิตให้หายไปจากโลกได้ เขาไม่ใช่คนธรรมดาๆ!.ไอรีนโนเวล.
องครักษ์ทั้งห้าขยับมือไปมาเสียงเบาๆดังก้องมาจากนภา เมฆาและสายลมร้องโหยหวน พื้นที่ที่ทั้งห้าผนึกเอาไว้สั่นสะเทือนเพราะมันกำลังถูกบีบอัด
ในภาพที่ซือหยูกับกงวุนหวูซื่อเห็นทั้งห้านั้นกำลังดึงฟ้าดินห่างไปไกลจากพวกเขาขึ้นเรื่อยๆ
ในภาพที่องครักษ์ทั้งห้ามองเห็นซือหยูกับกงซุนหวูซื่อที่ถูกกักตัวกับพื้นที่นั่นลดขนาดตัวลง ค่ายกลดับสวรรค์นั้นผนึกพื้นที่และถึงกับบีบอัดพื้นที่ได้ ถ้าหากใช้ได้ในระดับที่ดีที่สุด มันจะบีบอัดพื้นที่หนึ่งแสนลี้ให้มีขนาดเท่าฝ่ามือเดียวได้!
หากมันเกิดขึ้นพื้นที่ที่ถูกบีบอัดนี้จะแข็งจนอสูรเนรมิตรขั้นหกถูกขังและมิอาจหนีออกมาได้
แต่แววตาซือหยูนั้นไม่แปรเปลี่ยนตาซ้ายเปล่งแสงสีม่วง ตาขวาเปล่งแสงสีแดง แสงสีม่วงและแดงหลอมรวมเป็นหนึ่ง มันทะลุทะลวงพื้นที่แสนลี้ที่ถูกบีบอัด!
แม้จะมีแสงสีทองเปล่งออกมาจากร่างกายองครักษ์แสงกระจ่างก็ถูกแสงสีม่วงแดงนั้นสาดใส่ปกคลุมเอาไว้
“ย้อนเวลา!”
ซือหยูตะโกน
หลุมลึกไร้ก้นบึ้งปรากฏในร่างอายุขัยของเขาลดลงไปหนึ่งในสิบอย่างรวดเร็ว แต่ทุกอย่างในพื้นที่นั้นก็ถูกย้อนเวลาไป
ด้านนอกค่ายกลกระเรียนป่าที่่บินผ่านได้บินย้อนกลับไปพันศอก มัจฉาที่กระโดดข้ามวารีกลับไปสู่ผิววารีในท่าเดิม จากนั้นมันก็กระโดดอีกครั้ง
เกลียวเมฆาขาวเปลี่ยนทิศอย่างแปลกประหลาดเช่นเดียวกับองครักษ์แสงกระจ่าง พวกเขากลับมาสู่เวลาแรกเริ่ม
พื้นที่ที่ถูกบีบอัดหายไปมันกลับมาเป็นที่ดังเดิม ทั้งเวลาและพื้นที่ได้รับการย้อนกลับ
มีเพียงซือหยูกับกงซุนหวูซื่อที่ยืนใกล้กับซือหยูที่ไม่ได้รับผลกระทบทั้งสองได้เห็นการย้อนเวลากับตาตัวเอง
กงซุนหวูซื่อเบิกตากว้างราวกับถ้วยใบเล็กนางรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในแดนความฝัน นางหันไปมองซือหยูราวกับมองเทพแห่งกาลเวลา
ปลุกปั่นมิติและห้วงเวลา…นี่มันพลังยิ่งใหญ่ที่ทำลายได้แม้กระทั่งหยินหยางมิใช่หรือ?องครักษ์แสงกระจ่างมองด้วยความสับสน
พวกเขาจำได้ดีว่าตัวเองเพิ่งจะใช้ค่ายกลดับสวรรค์ไปแต่สิ่งนี้ก็เกิดขึ้น!
มีเพียงหัวหน้าองครักษ์แสงกระจ่างที่ยังเหลือความทรงจำอยู่บ้างเขาหายใจเข้าลึก
“เวลาถูกย้อนกลับมา!”
ซือหยูพยักหน้า
“ใช่พวกเจ้าคงอยากรู้ว่าซือตี๋ตายยังไง วันนี้ข้าจะทำให้พวกเจ้าโดนกับตัวเอง!”
แสงสีแดงในตาขวากระจัดกระจายหายไปขณะที่เขาพูดเหลือเพียงตาซ้ายที่เปล่งแสงม่วงประกาย
“ย้อนเวลา!”
เมื่อบัญชาตาซ้ายของซือหยูจับจ้องไปที่องครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้า
แสงสีม่วงพุ่งตรงทอดยาวแสนศอกไปถึงพวกเขาร่างกายของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างน่าตกตะลึง!
พวกเขาย้อนเวลาจากช่วงวัยกลางคนมาเป็นวัยหนุ่มสาวฐานพลังเองก็ลดลงด้วย
ขณะนั้นภูเขาลูกใหญ่โตและแม่น้ำกว้างขวางที่ถูกแสงสีม่วงสาดส่องก็ได้ลดขนาดเตี้ยลงและแคบลงอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ ผืนดินยังเคลื่อนตามภูมิประเทศ
ทะเลสาบสีเงินแห้งเหือดกลายเป็นทุ่งหม่อนต้นไม้เก่าแก่ที่มีอายุพันปีกลับกลายเป็นหน่ออ่อนจนกระทั่งกลับคืนเป็นเมล็ด
พร้อมกันนั้นเรือนตระกูลซือถูยังหายไปที่นี่เหลือเพียงแต่ดินแดนรกร้างว่างเปล่า ทุกอย่างกลายเป็นสิ่งที่เป็นในหลายแสนปีก่อน
เช่นเดียวกับองครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้าเมื่อความแก่ตัวกลับกลายเป็นหนุ่มสาว ฐานพลังเองก็หวนคืนสู่อดีตเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ทุกคนเป็นอสูรเนรมิตรขั้นสอง หัวหน้าองครักษ์น่ากลัวจนเป็นขั้นสาม แต่ตอนนี้สี่คนกลับคืนเป็นอสูรเนรมิตรขั้นหนึ่ง ส่วนหัวหน้าก็มีพลังแค่ขั้นสอง
พลังได้กลับคืนสู่สภาพเมื่อพันปีก่อนจากการย้อนเวลา!และการย้อนเวลาก็ยังไม่จบสิ้น!
พวกเขายังคงอ่อนวัยต่อไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเด็กวัยรุ่น!การย้อนเวลานี้ทำให้องครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้ามีความสะพรึงกลัวและตกตะลึงเต็มหัวใจ!
พวกเขารู้เหตุที่จักรพรรดิโลหิตตายแล้วเขาถูกลบล้างให้หายไปอย่างทารุณด้วยการย้อนเวลา!
“เร็วเข้า!ไม่จำเป็นต้องจับเป็นมันแล้ว! ฆ่ามันเลย!”
หัวหน้าองครักษ์หวาดกลัวและเศร้าหมองนั่นทำให้เขาเลิกคิดจับเป็นและคิดสังหารแทน
เขาตกตะลึงอีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงอันตรายสุดท้ายยังได้รู้อีกว่าเหตุใดราชาเขตกลางจึงส่งพวกเขาห้าคนมาตามล่าซือหยูพร้อมกัน นั่นก็เพราะเขาอันตรายเกินไป!
“ฝ่ามือเทพกระจ่าง!”
หัวหน้าองครักษ์กู่ร้อง
แสงจันทร์ในมือซ้ายของเขาก่อภาพลวงราวความฝันแสงตะวันมือขวาเข้าควบแน่น เหล่าแสงสีทองได้กลายเป็นบอลแสงสองลูก
หากเหลือบมองจะรู้สึกว่าเหมือนได้เห็นดวงจันทร์ที่มือซ้ายและดวงตะวันที่มือขวาจากนั้นเขาก็ผสานมือทั้งสองเข้าด้วยกันเพื่อหลอมรวมพลังทั้งสองเป็นหนึ่ง
ลูกแสงก่อตัวเป็นแสงปกคลุมทั้งโลกซือหยูเคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนแล้ว เพราะมันคือท่าที่จักรพรรดิโลหิตเคยใช้
นี่คือวิชาสุดท้ายของฝ่ามือเทพดับสวรรค์ฝ่ามือเทพกระจ่าง!

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset