The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 28 ได้คริสตัลสองธาตุกับต้นคริสตัลแบรีเออร์แล้วสิ

ตอนที่28 ได้คริสตัลสองธาตุกับต้นคริสตัลแบรีเออร์แล้วสิ
เนื่องจากค่าสถานะมันแดกคำผมจะขอไม่ย่อพวกชื่อ ค่าสถานะ ระดับ ฉายา พวกนี้นะเพราะตัวมันกินคำน้อย แต่ว่าจะย่อทักษะให้เอาแค่ให้รู้ว่าใช้ทำอะไรยกเว้นทักษะที่เพิ่มมาใหม่จะพิมพ์ละเอียดช่วงนึงก่อนจะย่อให้
“โกร๊ววววววววววว!” ซีฟอสคำรามก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่จิ้งจกยักษ์สีเขียวตัวนั้น
“จั๊กๆๆๆ” จิ้งจกร้องอยู่ในลำคอก่อนที่จะฟาดกรงเล็บเข้าใส่ซีฟอสที่กำลังพุ่งมา
“ฟูวววววว” ซีฟอสโยกหลบก่อนที่จะอ้าปากเพลิงอเวจีทะลักออกมาจากปากกราดไปทางจิ้งจกยักษ์สีเขียว
“ฟูววววววววววว” จิ้งจกยักษ์สีเขียวเปิดปากไอน้ำเย็นสีดำถูกพ่นออกมาจากปากไอเย็นนี้ถึงกับทำให้ไอน้ำในอากาศที่อยู่รอบๆจับตัวกลายเป็นหิมะเลยทีเดียว
ไฟอเวจีสีม่วงเข้มและไอน้ำเย็นสีดำทมิฬโดยที่ไม่มีฝ่ายไหนสามารถดันไปได้
“เสมอกันหรอเนี่ย?!” เบลซตกใจขณะที่ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นคมกริบ
“เพลิงอัสนี!” เพลิงอัสนีลุกโชติช่วงง้าวกรีดนภาแทงออกไปยังหัวของจิ้งจกยักษ์สีเขียว
“ฟึบบบ” จิ้งจกยักษ์สีเขียวหลบถอยฉากออกมาทำให้การปะทะของเปลวเพลิงและไอน้ำเย็นหยุดลง
“ดูเหมือนระดับจะเท่ากับแกเลยนะเจ้าดาบน้อย แถมยังมีสองธาตุซะด้วยมืดกับน้ำไม่เลวๆ ทีนี้เพื่อนของฉันก็จะมีสิ่งมีชีวิตสองธาตุเพิ่มมาอีกคน” เบลซพูดพลางลูบหัวเจ้าดาบน้อยเบาๆ
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนกล้าเข้ามาแถวๆนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นเจ้าดาบน้อยก็คงเกือบจะเป็นเจ้าเขตไม่ต่างกัน” เบลซคิดในใจก่อนที่จะจริงจังขึ้นมาอีกระดับ
“เถาโลหิต….” เบลซเรียกเถาโลหิตออกมา3เถาโดยแอบ1เถาและอีก2เถาเรียกมาวนอยู่รอบๆตัวเตรียมช่วยโจมตีและป้องกัน
“อีกที!”
“กร๊าววววววว!” เจ้าดาบน้อยพุ่งไปอีกครั้งครั้งนี้เพลิงอเวจีลุกขึ้นที่เท้าและกรงเล็บของมัน
“จั๊กๆๆๆๆๆ” จิ้งจกยักษ์สีเขียวก็เคลือบน้ำแรงดันสูงแต่ว่ามันกลับเป็นสีดำและเย็นยะเยือก การโจมตีประสานสองธาตุ มืดและน้ำ!
“ปัง!” ด้วยการปะทะกันของพลังทั้งสองเสียงระเบิดดังสนั่นแรงผลักมหาศาลถูกส่งกลับมายังทั้งสองตัวแต่ว่าด้วยแรงกายมหาศาลถึงจะได้รับแรงปะทะก็ไม่ถอยไปแม้แต่ก้าวเดียว
“ฉัวะ” เบลซตวัดง้าวออกไปฟันเข้ากลางหลังของมัน
“ซิบบบ” ง้าวเพลิงอัสนีฟันผ่านเกล็ดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเลือดไหลซิบออกจกบาดแผลเหมือนโดนถลอกๆ
“จั๊กกกกกกกก!” จิ้งจกยักษ์สีเขียวร้องด้วยความโมโหมากกว่าจะเจ็บแล้วฟาดกรงเล็บไปทางเบลซทันที
“แคร้ง! แคร้ง!” เถาโลหิตทั้งสองขยับเข้ามาป้องกันทันที
“ได้โอกาสหละ”
“ฉึก!” เถาโลหิตที่แอบไว้ก่อนหน้านี้เบลซส่งลงไปใต้ดินแล้วแทงขึ้นมาเข้าที่หน้าท้องของจิ้งจกยักษ์สีเขียวพอดี
“จั๊ก!!! พุฟ!” จิ้งจกยักษ์สีเขียวร้องออกมาสั้นๆก่อนที่จะกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย
“ใต้ท้องมันไม่มีเกล็ดจริงด้วยแต่ดูท่าจะโจมตีไม่โดนจุดสำคัญนะแต่ว่า” เบลซดูที่เถาวัลย์โลหิตของตัวเอง
“เปลือกเป็นรอยแล้วดีนะที่ไม่ลึกกว่านี้ถึงจะไม่ลึกเท่ากับตอนหนูวารีก็เถอะแต่ว่ามันยังไม่ได้ใช้ทักษะเลยนะเฮ้ย แต่มันก็อาจจะไม่มีก็ได้ ที่แน่ๆคือแรงมันเยอะแบบนี้เพื่อนๆระดับยังน้อยอยู่มาก็ไม่ช่วยอะไรหรอก” เบลซคิดในใจ
“รีบๆจบดีกว่า พุ่งไปเลยเจ้าดาบน้อย”
“โกร๊ววววว” เจ้าดาบน้อยพุ่งเข้าไปอีกรอบ
“จั๊กกก!” จิ้งจกยักษ์สีเขียวก็วิ่งเข้ามาเช่นกันแต่ว่าเหมือนการเคลื่อนไหวของมันจะดูติดขัดนึดนึง
เมื่อมาถึงระยะเถาโลหิตทั้งสามของเบลซฟาดลงไปที่ตัวของมันทันที
“โคร่มมมม!” เถาโลหิตฟาดลงไปอย่างแรงแน่นอนว่าไม่สามารถที่จะทำอะไรเกล็ดของมันได้ แต่การฟาดอย่างแรงก็ทำให้มันทรุดลง ขาทั้งสี่ของมันงอลงจนหน้าท้องติดกับพื้นดิน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เบลซเล็งไว้
“เหยียบ!” เมื่อเห็นโอกาสเจ้าดาบน้อยก็กระโดดเท้าที่ลุกไปด้วยเพลิงอเวจีเหยียบลงบนปลายๆหัวของมันทันที
“จั๊กๆๆๆๆๆๆๆ” จิ้งจกยักษ์สีเขียวร้องอยู่ในลำคอมันพยายามดิ้นเปิดปากพ่นไอเย็นแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะโดนเท้าของเจ้าดาบน้อยเหยียบอยู่
ขณะเดียวกันนั้นเองเบลซก็กระโดดลงจากหลังของเจ้าดาบน้อยแล้วแทงง้าวออกไปโดยเล็งไปที่ดวงตาของมัน
“ฉึกก!” ง้าวกรีดนภาที่ลุกท่วมไปด้วยเพลิงอัสนีก่อนที่เจ้าแทงเข้าไปยังเบ้าตาของมัน
“จั๊กๆๆๆๆๆๆ” จิ้งจกยักษ์สีเขียวพยายามดิ้นไปดิ้นมาแต่ก็ขยับไม่ค่อยได้เพราะยังโดนเจ้าดาบน้อยเหยียบอยู่
ซักพักเสียงก็หยุดลงแล้วก็มีเสียงประกาศขึ้น
“จิ้งจกอสูรเกล็ดเขียว(ขาว)ระดับ10 ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิตx10”
“น่าเสียดายที่ไม่ได้ทักษะอย่างบิดเบือนสิ่งรอบข้าง หรือทักษะสองธาตุลมหายใจไอเย็นทมิฬเลยซักทักษะ”
“ยินดีด้วยท่านเป็นคนแรกที่สังหารอสูรสองธาตุ ได้รับฉายา โปรดตรวจสอบในช่องฉายา”
“ยินดีด้วยท่านถึงระดับ 10 ปลดล็อคความสามารถประเมินโปรดตรวจสอบในช่องทักษะ”
“เอ๋ประเมินปกติได้อย่างนี้หรอเนี่ย” เบลซประหลาดใจเพราะตั้งแต่ที่เขาได้รับการทดสอบจากชิพนอกจากไข่เจ้าดาบน้อยและช่องเก็บของทั้ง16ช่องแล้วพวกของเทพๆ ทักษะโกงๆหรือระบบร้านค้า ฯลฯ ถูกลบทั้งหมดแม้แต่อาชีพเสริมนักตัดแต่งยีนของเขาตอนนี้ก็ไม่มีทักษะตอนแรกเขาเข้าใจว่ามันเป็นแค่การจำลองของบททดสอบในการรับชิพเฉยๆ
“เนื่องจากท่านเป็นคนแรกที่ถึงระดับสิบจะตอบให้เป็นพิเศษ ใช่! ทุกคนเมื่อถึงระดับที่10 จะได้รับทักษะประเมินโปรดดูรายละเอียดอีกที”
เบลซเอาคริสตัสออกมาจากหัวของจิ้งจกอสูรเกล็ดเขียวมันเป็นคริสตัลเหมือนธาตุน้ำแต่ว่ามีไอเย็นจัดสีดำกระจายออกมารอบๆ
เบลซเอามันเก็บใส่กระเป๋าก่อนที่จะพูดว่า
“ระบบ!”
ชื่อ เบลซ แร็คน่าร์ เหรียญชีวิต79เหรียญ
ระดับ10
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว(5/100) พลังธาตุ
อาชีพ ไม่มี
อาชีพเสริม นักตัดแต่งยีน
ฉายา
(+5ทุกค่าสถานะ เพิ่มความแรงธาตุไฟ และ เพิ่มอัมพาตธาตุสายฟ้า 50%)
(+2ทุกค่าสถานะเพิ่มพลังโจมตีประสาน2ธาตุ10%)
Strength(แรงกาย) : 15+10
Agility(ความว่องไว) : 13+10
Vitality(พละกำลัง) : 9+10
Stamina(ความทรหด) : 18/13+10
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 26/20+10
ทักษะ
ใช้พลังธาตุน้ำควบแน่นเป็นคมดาบซัดใส่ศัตรู
ประเมินสีและระดับของเป้าหมาย โดยระดับต้องไม่มากกว่า15 และสีไม่มากกว่าครึ่งสี และไม่สามารถประเมินสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งของที่มีการปกปิดได้
สัตว์อสูรสงคราม
ซีฟอส(เจ้าดาบน้อย)
ยูทาห์แร็พเตอร์เพลิงอเวจี(ลูก) ระดับ9
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว
พลังธาตุ เพลิง ระดับขาว
Strength(แรงกาย) : 20
Agility(ความว่องไว) : 24
Vitality(พละกำลัง) : 36
Stamina(ความทรหด) : 19/22
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 4/7
ทักษะ
ใช้เพลิงจากนรกได้(เพลิงแรงขึ้น75%)
พืชปรสิตดอกเถาโลหิต ระดับ7
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว
พลังธาตุ พืช โลหิต ระดับขาว
Strength(แรงกาย) : 1
Agility(ความว่องไว) : 1
Vitality(พละกำลัง) : 44
Stamina(ความทรหด) : 1
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 1
ทักษะ
+3ทุกสถานะของโฮสต์ เรียกเถาออกมาช่วยได้โดยมีค่าสถานะเท่ากับโฮสต์ ยกเว้นVitality
แบ่งพลังธาตุพืชให้โฮสต์ใช้ชั่วขณะ ผ่านเถาวัลย์
ดูดเลือดหรือพลังงานมาฟื้นฟูให้โฮสต์และตัวเอง
“อย่างนี้นี่เองถึงจะประเมินแต่ก็มีข้อจำกัดไม่ได้ประเมินได้ทุกสรรพสิ่งเหมือนที่เราได้ทดลองในชิพ”
“มาได้แล้วหละ” เบลซเรียกเพื่อนของเขามาก่อนะแจกงาน
“เอาหละไม่ค่อยมีเวลามากแต่ว่าเนื่องจากไอจิ้งจกเมื่อกี้ตายหมายความว่าที่นี่จะกลายเป็นอาณาเขตว่างๆเดี๋ยวคงมีพวกหนูกลายพันธ์มาแถวๆนี้แน่ พวกนายช่วยกันถลกหนังมันแล้วกันนะ ส่วนเนื้อก็ให้เจ้าดาบน้อยกินไปแล้วกัน”
จากนั้นเบลซก็เดินไปยังต้นคริสตัลแบรีเออร์
“ประเมิน”
“ต้นไม้คริสตัลแบรีเออร์(เขียวอ่อน) พืชกลายพันธ์ เมื่ออยู่ในฐานที่มั่นและสะสมพลังงานมากพอสามมารถสร้างบาเรียออกมาได้”
“นี้แหละที่ต้องการ” เบลซยิ้มก่อนที่จะวางมือลงบนลำต้นและ “เก็บ” เข้าช่องเก็บของ
“อะ เอออ … เบลซต้นไม้มันหายไปไหนแล้วหละ?” เพื่อนๆที่กำลังตะลึงอยู่ชินก็ถาม
“อ๋อ ฉันได้ช่องเก็บของมาจากระบบหนะ เห็นว่ามันน่าสนใจดีก็เลยเก็บไว้ก่อน”
“อ๋อ” เพื่อนๆพยักหน้ารับยกเว้นเอลลี่ที่ขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ก่อนหน้านี้ที่โรงฝึกก็เหมือนจะใช้ออกมารึปล่าวนะ” เอลลี่คิดก่อนที่จะส่ายหน้าเพราะถ้าเธอถามไปก็ลำบากใจเบลซปล่าวๆ อีกอย่างทุกคนก็มีความลับเป็นของตัวเอง
หลังจากถลกหนังเสร็จก็ห่อเก็บไว้โดให้อิฟฟรากับอิโนะเป็นคนแบก
“จี๊ดดดดดดดดดด”
“จี๊ดดดดดดดดดดดดดด”
พวกหนูกลายพันธ์วิ่งเข้ามาในพื้นที่ด้วยความกระหายเพราะก่อนหน้านี้มีจิ้งจกอสูรเกล็ดเขียวอยู่พวกมันเลยไม่กล้าเข้ามาแต่ตอนนี้? ทางสะดวก!
“เข้าไปที่หอพักหญิงได้แล้วเร็ว!”

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset