The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 50 เริ่มสร้างฐานแล้วสิ

ตอนที่50 เริ่มสร้างฐานแล้วสิ
 
เบลซมองไปที่คริสตัลสีฟ้าที่สูงพอๆกับตัวเขา เค้ายื่นมือไปยังคริสตัลแกนกลางฐานก็เกิดหน้าจอคล้ายๆกับระบบขึ้น
 
ฐาน (โปรดตั้งชื่อ) ขั้นที่1 เจ้าของ เบลซ แร็คน่าร์
 
ระยะเวลาที่บาเรียจะพักชั่วคราว 1วันทุกสัปดาห์ปัจจุบัน อีก6วัน
 
สมาชิกที่อยู่ในฐาน 13
 
เงื่อนไขในการอัพเกรด
 
พลังงานคริสตัลสัตว์อสูร(0/10000)
 
สร้างหอสําหรับแกนกลางขั้น2
 
เมนูการสร้าง
 
อาคารผู้ฝึกสอน (ฟรีในครั้งแรก) ไม้100 หิน100 เหรียญครูฝึกสอน 1
 
ร้านปรุงยา (ฟรีในครั้งแรก) ไม้50 หิน50 เหรียญนักปรุงยา1
 
ร้านตีเหล็ก (ฟรีในครั้งแรก) ไม้50 หิน50 เหรียญนักหลอมสร้าง1
 
บ้านขนาดเล็ก (ฟรี3หลัง) ไม้10หน่วย หิน10หน่วย
 
โรงเก็บไม้/หิน (ฟรีในครั้งแรก) ไม้50 หิน20
 
รั้วกัน ไม้ เชือกหรือตะป (ตามพื้นที่และรูปแบบที่กําหนด)
 
กําแพง ไม้หรือหิน (ตามพื้นที่และขนาดที่กําหนด)
 
หน้าจออินเตอร์เฟสของฐานเป็นอะไรที่ดูค่อนข้างง่ายมันมีขั้นจํานวนคนที่อยู่แล้วก็สิ่งก่อสร้างที่สร้างได้พร้อมกับสูตร แล้วก็แผนผังโคมรูปทรงกลมสามมิติแสดงสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ หิน น้ํา ฯลฯ ที่อยู่ในอาณาเขตของฐาน
 
ไม่นานอินเตอร์เฟสก็เปลี่ยนไป คนเพิ่มขึ้นเป็น13 และแผนผัง สามมิติก็เพิ่มรถบัสจิ๋วที่กําลังวิ่งเข้ามาที่แกนกลาง
 
“มากันแล้วสินะ” เบลซยิ้มด้วยความยินดีแต่ว่าก็ต้องขมวดคิ้วด้วยจํานวนเพิ่มขึ้นมาแสดงว่าคนหายไปคนนึ่ง เบลซอดห่วงไม่ได้ ใครกันที่ไม่ได้เขามาในฐานเบลซจําได้ว่าถ้ารวมตัวเขาเองเข้าไปจะต้องมีคน14คน ถึงจะครบใครเป็นอะไรไปคนนึง?
 
“แต่ถ้าเป็นไปได้ขอให้คนที่เกิดเรื่องเป็นหยุนเฟยที่เทอะ สาธุ” (แอดตั้งใจเทอะเองนะแอดอยากให้มันคิดเสียง “เทอะ”ไม่ ใช่ “เถอะ” หน่อย)
 
“ปิ๊ด ปิ๊ด” เสียงแตรรถบัสบีบเบาสองที ทุกคนก็ทยอยกันลงมา แล้วต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกและความยินดี ในขณะที่มองออกไปไกลๆก็มีกิ้งก่ายักษ์ห้าหกตัวพยายามกระแทกเข้ามาในบาเรียแต่ก็กระเด็นกลับไปทุกครั้ง
 
“ไชโย! ปลอดภัยแล้วหละปลอดภัยแล้ว” เพิ่งหยิ่งหยิงชูมือทั้งสองข้างแกว่งแขนไปมาด้วยท่าทางร่าเริงดูไร้เดียงสาเหมือนเคย
 
“พวกนายปลอดภัยดีใช่ไหม?” เบลซถามด้วยความเป็นห่วง
“อื้อ ปลอดภัยดียกเว้นไอบ้าหยุนเฟย” เอลลี่พูดออกมาด้วยท่า ทางหงุดหงิด
 
“เกิดอะไรขึ้น?”
 
“ก็[email protected]@$##@@[email protected]$ แล้วก็[email protected]@$##@@[email protected]$ ” เพิ่งหยิงหยิง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความโกรธแต่ว่าด้วยรูปลักษณ์ของเธอทําให้มันดูน่ารักมากว่า
 
“เอาเถอะก็ถือว่าเขาทําตัวเองแล้วมันก็ตายแล้วด้วย เอาเป็นว่าตอนนี้เรามาดูฐานกันดีกว่า” เบลซพูดด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะกดปุ่มสร้าง อาคารผู้ฝึกสอน ร้านปรุงยาและร้านตีเหล็ก เนื่องจากมันฟรีในครั้งแรก เค้าเลือกตําแหน่งตรงบริเวณกลางๆของฐานเรียง กันไปเป็นเส้นตรงตามลําดับ
 
“ปิ้ง ปิ้ง ปิ้ง” ทันใดนั้นอาคารโผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่า เรียกว่าอาคารก็คงจะไม่เหมาะควรเรียกว่าบ้านสองชั้นมากกว่า
 
หลังแรกใหญ่ที่สุดข้างๆมีรัวกันเป็นลานฝึกฝนและหุ่นไม้ หุ่นฟางไว้ซ้อมหลายสิบตัว
 
หลังที่สองกับหลังที่สามเท่ากันแต่ว่ามี สัญลักษณ์ที่ต่างกันหลังที่สองเป็นหม้อปรุงยาและมีสวนสมุนไพรข้างๆและสวนดอกไม้กลิ่นหอมๆอยู่ข้างหน้าร้าน
 
ส่วนหลังสุดท้ายชั้นแรกนั้นเปิดโล่งเห็นอุปกรณ์ตีเหล็กมากมาย เตาหลอม เหล็ก ฯลฯ ที่สําคัญเห็นคนอยู่คนนึงกําลังหลอมโลหะส่วนชั้นบนนั้นเป็นร้านขาย
 
“นั้นใครหนะ? แล้วอาคารพวกนี้โผล่มาได้อย่างไร?” เมิ่งหยิงหยิงถามด้วยความสงสัยและอยากรู้อยากเห็น
 
“โฮมุนครูสหนะ หรือพูดง่ายๆก็คือมนุษย์เทียมที่ระบบสร้างขึ้นมาบางคนถ้าติดเกมหน่อยจะเรียกว่าnpcก็ได้” เบลซตอบแน่นอนว่าเขาได้ความรู้นี้มาจากชิพ ความจริงนี้จะเรียกว่าเป็นตัวช่วยก็ได้โฮมุนครูสจะเรียกว่ามนุษย์ที่ระบบสร้างขึ้นมาก็ได้ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้มนุษย์สามารถเข้ากับโลกยุคนี้ได้เร็วขึ้นและยังช่วยสอนสิ่งต่างๆที่จําเป็นให้ แต่แน่นอนว่าต้องมีของแลกเปลี่ยนและบททดสอบก่อนถึงจะได้รับการสอน ที่สําคัญยังเป็นร้านขายของอีกด้วยทําให้เราสามารถหาทรัพยากรที่จําเป็นง่ายขึ้นตราบไปที่มีเหรียญชีวิตในการแลกเปลี่ยนหรือของอย่างอื่นตามแต่จะต่อรอง
 
“เอาหละต่อจากนั้นก็บ้าน” เบลซกดไอค่อนสร้างบ้านฟรีทั้งสามหลังทันทีโดนเรียงกันเป็นเส้นตรงเช่นเคย ตําแหน่งอยู่ตรงข้ามกับอาคารฝึกสอนและร้านค้าก่อนหน้านี้โดยเว้นระยะห่างกันประมาณถนน4เลน
 
บ้านขนาดย่อมไชั้นก็ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าสามหลัง
 
“ก่อนอื่นเรามาถางทางเดินก่อนดีกว่าจะได้เดินสะดวกๆ” เบลซพูดเขาควบคุมเถาโลหิตทั้ง 7 ให้งอกหนามยาวและคมออกมาและ กวาดเป็นรอบๆจนกลายเป็นทางเดินง่ายๆเฉพาะตรงนี้เท่านั้นใน เบื้องต้น
 
“ตอนนี้เราก็มีบ้านแล้วจะแบ่งกันยังไง?” เอลลี่ถาม
 
“เข้าไปดูก่อนสิ” รินเสนอด้วยท่าทางตื่นเต้น
 
“ใช้ๆๆๆ” เพิ่งหยิงหยิงเสริมอีกคน
 
“อืม” งั้นก็ไปกันเบลซตอบถึงเขาจะพอเดาได้ก็ตามว่ามันต้องเหมือนไม่ก็คล้ายๆจากข้อมูลในชิพ
 
“แอ๊ด” สาวๆเปิดประตูเข้าไปในบ้านและสํารวจรอบทันทีที่เข้ามาก็เป็นห้องกว้างโล่งๆเหมือนจะเป็นห้องรับแขก
 
ข้างหลังห้องรับแขกมีโต๊ะเก้าอีกไม้หนึ่งชุด ข้างหลังเป็นห้องครัวมีที่สําหรับวางเตาและอุปกรณ์ทําครัว
 
ข้างๆแบ่งเป็นห้องนอนกับห้องน้ํา ห้องนอนกว้างพอสมควรถ้าวางเตียงเดี่ยวแยกหละก็สามารถอยู่ได้ราวๆ6คนพร้อมกับพื้นที่เก็บของใช้พอสมควรแต่แน่นอนว่าถ้าจัดกันดีๆให้ เสือปนอนหรือเตียงนอนติดกันก็จะได้มากกว่านั้นและนั้นเป็นสาเหตุที่ผมให้ขนฟอร์นิเจอร์พวกชั้นเก็บของตู้ ฯลฯ มาด้วยเพราะว่ามันไม่มีให้นอกจากโต๊ะเก้าอีกไม้ชุดเดียว
 
ส่วนห้องอาบน้ําเป็นไปอ่างอาบรวมโดยมีอ่างน้ําสูงราวๆ 1เมตรขนาดใหญ่จะเรียกว่าสระขนาดเล็กๆก็ได้มันใหญ่พอที่จะให้คนห้า หกคนไปแช่ข้างในแบบเบียดๆได้อยู่ตรงกลางแต่ในการใช้งานแล้ว เพื่อการประหยัดน้ําให้ใช้ขันตักอาบดีกว่าและก็มีห้องอาบแยกเดี่ยวสามห้องแต่ว่าต้องหาม่านกับถังน้ําแล้วก็ขันตักน้ํามาติดเอง แล้วก็มีห้องที่มีโถสุขภัณฑ์ที่ทําจากหินขัดเรียบๆอีกสี่ห้อง แต่แน่นอนว่าบ้านไม่มีระบบปั้มน้ําจากการประปาดังนั้นต้องเติมน้ําใส่ถังเก็บน้ําเองก่อนกดและอ่างอาบน้ําหรือซิงค์น้ําในห้องครัวก็ต้องตักน้ํามาใช้เอง
 
แล้วก็เบลซมีข้อมูลแผงผังบ้านจากชิพอย่างละเอียดแล้วเนื่อง จากมันเป็นบ้านหลังเดียวไม่มีระบบไฟฟ้า มีแต่ระบบประปาอย่างเดียวซึ่งก็ดูค่อนข้างง่ายเพราะมีแค่ห้องครัวและห้องน้ําอย่างละจุด โดยน้ําเสียจะไหลไปรวมที่บ่อพักใต้ดินข้างๆบ้านซึ่งเบลซได้วางแผนวิธีการบําบัดไว้แล้ว เพราะถ้าหากไม่ทําการบําบัดน้ําเสียนอกจากจะส่งกลิ่นเหม็นแล้วยังเป็นมลพิษภายในฐานอีกจะปล่อยน้ํา ทั้งๆที่เสียลงแม่น้ําใกล้ๆก็ไม่ได้เพราะยังต้องหาปลาตรงนั้นและ มันก็จะทําให้แม่น้ําสกปรกด้วยเลยต้องทําระบบให้ได้โดยเร็วเพราะในระยะอันสั้นจะมีคนเข้ามาอยู่อีกและปริมาณน้ําเสียก็จะยิ่ง มากเลยต้องทําแต่เนิ่นๆแต่ว่าคงต้องเป็นที่หลังอย่างน้อยๆก็คงจะไม่ใช่วันนี้แล้วก็ยังต้องไปหาของที่จะใช้สร้างบางอย่างด้วย
 
“เอาหละก่อนอื่นมาตกลงกันก่อนตอนนี้เรามีกันทั้งหมด13คน แบ่งเป็นผู้ชาย6คนผู้หญิง8คนจากความเห็นในคืนแรกให้ใช้บ้าน แค่สองหลังแบ่งชายกับหญิงนอนกันก็พอ แล้วก็นี้เป็นสาเหตุที่ฉันบอกให้เอาเต็นท์มาด้วยก็เพราะแบบนี้แหละกางเต็นท์แบ่งกันนอน ใครเอาถุงนอนมานอนหรือเอาฟูกมาปูก็ได้แล้วแต่ที่สะดวก” เบลซพูดแล้วเพื่อนๆ ก็เห็นด้วยเพราะมันก็เป็นอะไรที่ปกติ
 
“งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกันตราบใดที่ไม่ออกจากเขตบาเรียก็จะปลอดภัย”
 

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse
Status: Ongoing
The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset