The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ

The Great Geneticist in Apocalypse ตอนที่52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ
 
ตอนที่ 52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ
 
หลังจากตกลงงานคร่าวๆในวันพรุ่งนี้เบลซขี่เจ้าดาบน้อยก็เข้าไปในปาอีกครั้ง
 
แน่นอนว่าตอนกลางคืนมันอันตรายกว่าตอนกลางวันดังนั้นเขาจะไม่ออกไปไกลมาก
 
“คาซ่าาา” เบลซยังคงอยู่ในเขตบาเรียเขายืนอยู่ริมแม่น้ําพลางมองลงไป
 
“น้ําใสมากมองเห็นถึงหินที่ก้นแม่ น้ําปลากุ้งแล้วก็สัตว์น้ําอื่นๆกับพืชน้ําก็อุดมสมบรูณ์ดี” หลังจากวันแห่งหายนะเริ่มขึ้นแหล่งน้ําที่สกปรกตามธรรมชาติถูกชําระให้สะอาดตราบใดที่ไม่ได้อยู่ติดกับเมืองมากเกินไปก็จะไม่ปนเปื้อนแต่ยังไงเบลซก็ต้องหาอะไรที่จะทําให้มั่นใจได้ว่าน้ําตรงที่ฐานของเขาจะไร้การปนเปื้อนเพื่อจะได้ใช้ได้อย่างสบายใจ
 
“ไปกันเจ้าดาบน้อย”
 
“กรู้วววว” เบลชขี่เจ้าน้อยออกไปจากเขตบาเรีย
 
“ระวังๆแล้วก็ช้าด้วย” เบลซกระซิบ
 
“แครก แครก แครก” เสียงเหยียบใบไม้และหญ้าเบาๆกลืนไปกับสายลมเบลซพยายามจะสร้างเสียงให้เบาที่สุดสิ่งที่ เขาจะหามันหาง่ายกว่าในตอนกลางคืนถึงมันจะค่อนข้างหาได้น้อยถึงยากแต่ก็จะลองดูเพราะว่าช่วงแรกๆมักจะมีของหายากมากกว่าปกติ
สิ่งที่เบลซพยายามหาก็คือ“กุหลาบชําระล้าง”
 
มันเป็นกุหลาบกลายพันธ์ที่มีความสามารถในการชําระดินอากาศและก็น้ํา มันเป็นต้นไม้ที่ดูดสิ่งสกปรกและสารเคมีที่เป็นมลพิษบางอย่างมาทําการสลายและชําระล้างใหม่ได้โดยเบลซจะเอาไปปลูกตรงข้างบนบ่อพักน้ําเสียเพื่อให้มันบําบัดน้ําเสียที่อยู่ข้างใต้ผ่านรากและออร่าชําระล้างของมันให้มันสะอาดก่อนแล้วค่อยเอาไปใช้อย่างอื่นอย่างเช่นการรดน้ําต้นไม้หรือเลี้ยงปลาและยังสามารถนําดอกของมัน ยังเป็นส่วนผสมมาทํายาชําระล้างได้ด้วยมันเป็นยาที่ใช้แทนสบู่เหลวและยาสระผมได้ และยังสามารถทําเป็นยาทําความสะอาดที่ใช้แทนน้ํายาล้างจานได้ด้วย และสุดท้ายยังบดและผสมกับส่วนผสมอื่นทําเป็นผงซักฟอกกลิ่นหอมได้อีกตั้งหาก
 
และแน่นอนว่ารูปร่างของมันเหมือนกับต้นกุหลาบที่มีดอกสีขาวธรรมดาเลยแต่ว่ามันมีคุณสมบัติที่พิเศษจากกุหลาบดอกสีขาวทั่วๆไปก็คือมันเรืองแสงได้
 
ดังนั้นเบลซเลยคิดถึงมันตั้งแต่คือแรกเขาไม่อยากให้การขนทรัพยากรต้องมาคํานึงถึงของใช้จุกจิกพวกนี้ไปซะทุกอย่างแล้วพวกสบู่แชมพูก็ยังใช้ทุกวันอยู่แล้วด้วย
 
เบลซบีซีฟอสเข้าไปในปาลึกเรื่อยๆระหว่างนั้นเขาก็หยิบคริ สตัลน้ําที่เหลืออีก3ชิ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วทําการดูดซับ
 
“ท่านดูดซับคริสตัลน้ํา ได้ค่าวิวัฒนาการ+1”
 
“จริงด้วย” เบลซคิดคริสตัลธาตุพวกนี้เป็นขั้นสีขาวเนื่องจากได้มาจากสิ่งมีชีวิตสีขาวดังนั้นคริสตัลพวกนี้จะใช้ได้ดีแค่ตอนเป็นสิ่งมีชีวิตสีขาวเท่านั้น ถึงเบลซจะยังใช้ได้แต่ว่าประสิทธิภาพของมันก็ลดลงมากและคงไม่มีผลอีกเมื่อเขาวิวัฒนาการเป็นสีเขียว เขาควรที่จะหาคริสตัลขั้นสีเขียวอ่อนมาดูดซับ
 
“คกกกกกกก” เสียงแหลมสูงดังขึ้นเบลซมองไปข้างบนเขาเห็นค้างคาวสีดําตัวใหญ่กําลังพุ่งมาหาเขา
 
“ประเมิน
 
“ค้างคาวราตรีไร้ธาตุ>(ขาว)ระดับ9”
 
“ฉีก ฉีก ฉีก” ทันทีที่มันเข้ามาเบลซเรียกเถาพิษโลหิตออกมาเสียบทะลุมันด้วยความเร็วสูง ปลิดชีวิตทันทีในความเงียบงัน!
 
“เอาหละไปกันต่อ” เบลซกระซิบตอนนี้เขาอยู่ห่างจากเขตบาเรียประมาณร้อยเมตรแล้วเข้าจะไปต่ออีกแค่50เมตรถ้าเกิดว่ายังไม่เจออะไรก็จะลองดูรอบๆอีกหน่อยแต่ว่าจะไม่ไปลึกกว่านั้น
 
“แครกแครกแครก” ไม่นานเบลซก็สัมผัสได้ถึงรังสีมุ่งร้ายมาทางเขา
 
“โกรัววววว!” ทันใดนั้นซีฟอสคํารามลั่นก่อนจะพ่นไฟสีม่วงเข้มไปข้างหน้า
 
“อะไร?!” เบลซตกใจแล้วมองไปข้างหน้า
 
ต้นไม้ข้างหน้าไหม้เกรียมเบลซมองไปข้างหน้าท่ามกลางไฟสีม่วงเขาเห็นแสงสีส้มเหลืองดวงหนึ่งส่องสว่างอยู่มันเป็นหิงห้อยขนาดราวๆลูกเมล่อนและมันไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจากเพลิงอเวจี
“ประเมิน
 
“หิงห้อยประกายเพลิง

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse
Status: Ongoing
The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset