The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 59 จบวันที่สองแล้วสิ

The Great Geneticist in Apocalypse
ตอนที่59 จบวันที่สองแล้วสิ
 
“ทักษะของเหมียนเหมียนจะโกงไปแล้วสิ” เบลซพึมพํากับตัวเอง
 
ทักษะบ้าอะไรทําให้สิ่งมีชีวิตสีขาวโจมตีสีเขียวอ่อนแบบยังสมบูรณ์ได้!
 
ไม่เหมือนกับเรย์ลินที่โจมตีรอยแตกระหว่างเปลือกที่เบลซฟาดง้าวลงไป แม้จะโจมตีซ้ำด้วยพลังธาตุเต็มแรงแล้วแถมเป็นตรงหัวด้วยก็ยังไม่สามารถฆ่ามันได้
 
“กวีซ!!” พญาแมงปองคริสตัลเหมันต์ร้องออกมาด้วยความโกรธมันจ้องไปที่เหมียนเหมียนด้วยความโกรธแค้นก่อนจะพยายามพุ่งเข้าหา
 
“ควับ ครับ” เมิ่งหยิงหยิงควบคุมหญ้ามาช่วยเถาพิษโลหิตล็อคตัวมันอีกครั้งขณะที่กุมขมับตัวเอง ระดับของเธอยังต่ำอยู่ถึงจะใช้ทักษะได้ผลแต่ว่ามันก็กินพลังจิตวิญญาณของเธออย่างรวดเร็ว
 
เหมียนเหมียนวิ่งหนีพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์กลับมาหาเอมิเลียทันที่ก่อนจะสลบไปเนื่องจากใช้Spiritualityรอบเดียวเกือบหมด
 
ในจังหวะเดียวกันนั้นเองเบลซตั้งท่าอีกครั้งก่อนที่จะฟาดง้าวประกายเพลิงไปอีกรอบ
 
“แคร้ง” พญาแมงปองคริสตัลเหมันต์ยกก้ามข้างหนึ่งมารับง้าวไว้ก้ามของมันนอกจากจะมีออร่าสีน้ำตาลอ่อนแล้วยังเคลือบไอเย็นสีขาวอีกชั้นที่เย็นเฉียบ พลังธาตุน้ำแข็ง
 
“ฟูวววว” ไอน้ำเล็กน้อยกระจายออกมาจากการปะทะกัน เบลซโจมตีต่อเนื่อง จ้าวประกายเพลิงกวัดแกว่งไปมาแต่พญาแมงปองคริสตัลเหมันต์ก็ยังใช้กามทั้งสองข้างป้องกันเอาไว้ได้ ถึงแม้ว่าจะขยับไม่สะดวกเนื่องจากการรัดพันของเถาพิษโลหิตแต่ว่าการขยับองศาแคบๆในการป้องกันตัวเองนั้นยังทําได้สบาย
 
“กวีซซซ!” พญาแมงปองคริสตัลเหมันต์คํารามไอเย็นกระจายไปรอบๆก่อนจะรวมเป็นคมน้ำแข็งนับร้อย
 
แน่นอนว่าเบลซนั้นรู้ทันทีว่ามันคือทักษะอะไร
 
ทักษะระดับเขียวอ่อน
 
“ชิบหายแล้วหลบเร็ว!” เบลซตะโกนนี้เป็นทักษะที่จะซัดคมไอเย็นนับร้อยโจมตีใส่ศัตรู
 
“ถ้าแบบนี้ถอยไปไม่ทันแน่อย่างนี้ต้องฆ่ามันอย่างเดียว!” เบลซคิดได้ฉับพลันเลยทุ่มการโจมตีทั้งหมดไว้ในครั้งนี้
 
“ฟืบ ฟืบ ฟืบฟืบๆ” เถาพิษโลหิตทั้งเจ็ดคลายออกทั้งหมดไปรวมอยู่ที่ช่วงบนของพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์กดมันลงกับพื้น
 
“ครับ” เบลซเปลี่ยนท่าจับง้าวเป็นท่าแทงลงง้าวประกายเพลิงลุกท่วมไปด้วยเพลิงอัสนี้ส้มเหลือและประกายเขียวอ่อนสลับม่วงลุกโชติช่วงสูงนับเมตรก่อนจะเล็งไปที่หัวของพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์
 
“พิวๆ พิวๆ พิวๆ” ในขณะเดียวกันพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์พร้อมที่จะปล่อยร้อยคมเหมันต์แล้ว คมน้ำแข็งเย็นยะเยือกกําลังพุ่งออกไปนับสิบ
 
“แคร้ง! แคร้ง! ปัก! ปัก! ปัก! ปัก!” คมเหมันต์จํานวนมากพุ่งไปยังทิศทางของพวกเบลซทันทีแน่นอนว่าเบลซได้ตะโกนเตือนไว้ก่อนแล้วทําให้คนที่บอบบางอย่างเมิ่งหยิงหยิงหรือเอมิเลียถูกพาไปหลบหลังต้นไม้ก่อนส่วนที่เหลือก็หมอบหลังกําแพงศิลาเตี้ยๆของชินที่สร้างขึ้นมาอย่างกระทันหัน ถึงจะโดนเฉียวๆบ้างแต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก
 
“ฉับ ฉับ ฉับ” คมเหมันต์5-6คมพุ่งเข้าหาเบลซ ด้วยความเร็วของเค้ามันพอที่จะโยกหลบสองสามคมแล้วรอบอีกสองสามอันที่เหลือแต่ว่าคมเหมันต์ที่ปะทะกับง้าวได้แฉลบออกไปโดนเบลซเฉี่ยวๆสามที ที่ต้นขา แขน แล้วก็ ลําตัว
 
“ฉึก!” หลังจากที่ปล่อยคมเหมันต์ไปหลายสิบคมก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่เบลซแทงง้าวซ้ำเข้าไปที่หัวของพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์ทําให้มันตายทันทีและคมเหมันต์ที่ยังลอยอยู่กลางอากาศก็ตกลงสู่พื้นและสลายไปอย่างรวดเร็ว
 
“พญาแมงปองคริสตัลเหมันต์ (เขียวอ่อน)ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิต 19เหรียญ และดรอปทักษะ”
 
“พวกนายเป็นอะไรไหม?” เบลซถามพลางปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก
 
“ยังอยู่ดีอยู่” ชินตอบเพื่อนๆค่อยๆออกมาจาก ที่กําบัง พวกเขาหันกลับมาดูความหนาของไม้และกําแพงศิลาหายไปกว่าครึ่งถ้าเกิดว่าปล่อยให้พญาแมงปองคริสตัลเหมันต์ยิงคมเหมันต์ออกมาจนหมดต้นไม้และกําแพงศิลาไม่สามารถต้านทานได้แน่
 
“เอาหละมาเก็บของกันเถอะ” เมิ่งหยิงหยิงทําท่าร่าเริงก่อนจะพุ่งไปเลาะเปลือกของพวกแมงปองคริสตัล
 
“เราแบกกลับไปทําที่ฐานก็ได้” เบลซพูดพวกเขามีสเกี่ยอยู่สามารถช่วยแบกได้หลายตัวและที่เหลือพวกเขาก็แบกกลับฐานกันเองที่นี่ก็ไม่ได้อยู่ไกลจากฐานมากด้วย
 
“โอเค” เพื่อนๆตอบก่อนจะช่วยกันแบกพวกมันกลับไป
 
ที่ ฐาน
 
“กลับมาแล้วหรอ” ริน อิฟฟรา อิโนะ เนี่ยนโหย่วโหย่ว และ อี้หนาน
 
เบลซและเพื่อนเดินกลับมาถึงฐานพวกเขาก็วางซากของแมงปองคริสตัลลงและเริ่มทําการชําแหละพวกมัน
 
“ว้ายยย” รินกรดและสะบัดมือหลังจากที่กําลังชําแหละมันอยู่ เพื่อนๆเห็นว่าเธอสบัดอะไรขาวๆออกมา
 
“อะไรๆ!?” เพื่อนวิ่งเข้าไปดูขณะที่เบลซพุ่งไปเก็บวัตถุสีขาวออกมาเบลซแบมีมาดู
 
“ลูกแมงปอง?” เบลซมองลูกแมงปองสีขาวปลายหางมีเหล็กในสีแดงตัวใหญ่ประมาณคืบที่กําลังดิ้นอยู่ในฝ่ามือพลางคิด “พลังชีวิตเยอะมากนะหรือว่าแค่โชคดีกันถึงยังไม่ตาย”
 
“ประเมิน”
 
“แมงปองคริสตัลเหมันต์ ระดับ1 (ทารก)”
 
“พวกนายลองเช็คที่ท้องของตัวอื่นๆด้วยว่ามีรึปล่าว” เบลซบอกเพื่อนๆ
 
หลังจากที่ช่วยกันเช็คพวกเค้าได้เจอกับทารก แมงปองคริสตัลธรรมดาอีกหลายตัวแต่ว่าที่ยังไม่ตายมีแค่สิบกว่าตัวเท่านั้น ส่วนแมงปองคริสตัลเหมันต์เจออีกเพียงแค่ตัวเดียวในท้องของนางพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์ตัวเดียวเท่านั้น
 
พวกเขาเอาผ้ามาปูแล้วก็เอาพวกมันมาวางไว้บนผ้าแล้วเบลซและกลุ่มได้ชําแหละจนเสร็จในขณะที่อิฟฟราและคนอื่นๆก็ช่วยเอาเปลือกของมันไปเก็บ
 
“สรุปว่าเราได้เนื้อ เปลือก คริสตัลธรรมดา 6 คริสตัลธาตุน้ำแข็ง 1 คริสตัลสองธาตุ แล้วก็ลูกแมงปองอีก เราจะทําอะไรกับลูกมองปองดี”
 
“ฉันว่าก็ฆ่ามันทิ้งไปเลยก็ได้มั้งยังไงเราก็น่าจะเลี้ยงมันหรือว่า เอามาทําอย่างอื่นไม่ได้” เรย์ลิ่นเสนอ
 
“อึ่มๆ” คนอื่นๆก็พยักหน้า
 
“เออ โทษทีนะแต่จริงๆแล้วฉันคิดจะเลี้ยงมันหนะ” เบลซพูดพลางม้วนผมเล่น
 
“เอิ่มมม แล้วนายเลี้ยงยังไง?” ชินถาม
 
“ก็หักเหล็กในทิ้งซะแล้วก็ขุนให้โตนอกจากเนื้อที่ให้เป็นอาหารแล้วเรายังจะได้เปลือกของมันมาทําเป็นเกราะด้วยไม่เสียหายหนิ”
 
“แล้วใครจะดูแลพวกมัน?” คนอื่นๆถาม
 
“ตอนเด็กๆใครก็ได้นั้นแหละแต่ว่าพอโตขึ้นมาหน่อยตอนนั้นพวกเราก็แข็งแกร่งพอจะเลี้ยงพวกมันได้สบายๆแล้ว” เบลซคิดกว่าพวกมันจะโตคนอื่นๆก็คนวิวัฒนาการเป็นสีเขียวอ่อนกันหมดแล้วถึงตอนนั้นใครจะเลี้ยงก็ได้ขอแค่มีคอกที่แข็งแรงและใหญ่พอ
 
“งั้นก็ได้” จากการอธิบายของเบลซเพื่อนๆก็เห็นด้วยและตกลงกันว่าจะเลี้ยงพวกลูกแมงปองนี้ลานหลังบ้านของผู้ชายในการเลี้ยงให้ชินเป็นคนสร้างกําแพงศิลาล้อมเอาไว้แต่ตอนนี้พวกมันยังเป็นทารกเลยทําเป็นกรงศิลาขนาดเล็กก่อนข้างในใส่ผ้าไว้ผืนนึงเพื่อความอบอุ่นและทําที่ใส่ตะเกียงเล็กไว้ให้ใส่ฟื้นไว้จุดไฟให้ความอบอุ่นตอนกลางคืน
 
เบลซหักเหล็กในของพวกมันทิ้งและในเนื้อของแมงปองคริสตัลชิ้นเล็กๆเป็นอาหารก่อนจะจากไป
 
เมิ่งหยิงหยิงทําอาหารเย็นเสร็จแล้วทุกคนก็มันกินข้าวด้วยกันที่โต๊ะ รอบนี้เป็นสเต็กจากเนื้อของแมงปองคริสตัลที่หามาได้มันเต็มไปด้วยพลังงานและความอร่อย
 
วันนี้พวกเขาได้อะไรหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นผลไม้อย่างส้มและบลูเบอรรี่ซึ่งเมิ่งหยิงหยิงและรินได้ใส่พลังธาตุพืชปลูกพวกมันเรียบร้อย
 
เวลาที่เหลือตอนกลางคืนทุกคนก็ไปทําอย่างอื่นบ้างก็ไปซ้อม บ้างก็พักผ่อน บ้างก็ออกไปหาพืชผักในเขตบาเรียเพื่อเอาไปปลูกเพิ่ม
 
วันที่สองนี้ก็เหมือนจะจบลงด้วยดี ขณะที่เบลซจะออกไปจากเขตบาเรียอีกครั้งในการตามหาต้นกุหลาบชําระล้าง
 
“นายจะไปไหนหนะ?” เอลลี่ที่เดินผ่านมาถามจริงๆแล้วเธอว่าจะไปซ้อมดาบแต่เธอเห็นว่าเบลซไม่ได้เดินตรงไปที่โรงฝึกหรือว่าร้านและบ้าน ด้วยความสงสัยเธอเลยเดินเข้าไปถาม
 
“อ๋อ ฉันจะออกไปข้างนอกหนะ” เบลซพูด
 
“ให้ฉันไปด้วย!” เอลลี่พูดพลางแก้มปอง

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset