ฉินซีตัวสั่น หยางเฉินมองอย่างเจ็บปวด
ถ้าไม่ใช่เพราะทำให้ฉินต้าหย่งเลิกเล่นการพนันจริงๆ เขาไม่มีทางเลือกวิธีนี้อย่างแน่นอน
เจ็บสั้นๆดีกว่าเจ็บยาวๆ ทำได้เพียงให้ฉินซียอมรับโหดเหี้ยวของฉินต้าหย่งให้ได้
ซูซานรีบพยุงฉินซี รีบพูดอย่างกัดฟันโมโหว่า “ลุงฉิน เสี่ยวซีเป็นลูกของลุงนะ ลุงคงไม่ทำเพื่อการพนัน แม้แต่ลูกสาวก็ยังเอาไปเป็นตัวพนันจริงๆหรอกใช่มั้ย?”
“คุณคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ ว่าจะเอาลูกสาวเป็นตัวค้ำประกันมั้ย ถ้าคุณแพ้ ผมจะพาเธอไป ชาตินี้อย่าหวังจะได้เจอเธออีก”
เสียงอันห่อเหี่ยวของหยางเฉินดังขึ้นอีกครั้ง “ถึงตอนนั้น คุณจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าเธออยู่ที่ไหนกันแน่ และจะไม่รู้เลย ว่าเธอจะมีความสุขหรือไม่ ถึงขั้นแม้แต่เธอจะเป็นตายร้ายดียังไง คุณก็ไม่สามารถรู้ได้เลย”
“แน่นอน คุณก็อาจจะชนะได้ ถ้าชนะ สิบล้านกว่านี้เป็นของคุณ ตอนนี้ บอกผม ว่าคุณเลือกอะไร!”
หยางเฉินพูดประโยคนี้อย่างโมโห ความอาฆาตที่มีต่อฉินต้าหย่งได้ปะทุขึ้นแล้ว แต่เขารู้ดี เพื่อฉินซี เขาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน
“พ่อ อย่าพนันอีกเลย ได้มั้ย?”
ฉินซีแทบจะพูดอ้อนวอนประโยคนี้ออกมา
“ถ้าจะเล่นก็ไปต่อ ไม่เล่นก็ไสหัวไปซะ!”
หยางเฉินตวาดอย่างรำคาญ เสียงเยือกเย็นถึงขีดสุด
“พนัน! ผมเอาลูกของผมไปพนัน! ถ้าแพ้ เธอจะเป็นของคุณ”
ฉินต้าหย่งกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา สีหน้าเจ็บปวดมาก ถึงแม้ในใจทนไม่ไหว แต่เขาคิดไปเองว่าไม่มีทางแพ้ เพียงแค่ชนะ ลูกสาวก็จะไม่เป็นไร
ฉินซีไม่คาดคิด ว่าฉินต้าหย่งจะเอาตัวเองไปพนันจริงๆ หน้าตาอกสั่นขวัญหาย
“ไอ้เหี้ยนี่มันคือสัตว์เดรัจฉาน แม้แต่ลูกสาวตัวเองยังเอาไปเป็นเบี้ยพนัน!”
“เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นสัตว์เดรัจฉานที่เหี้ยได้ขนาดนี้!”
“ต่อให้เขาชนะ ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงความจริงในเรื่องที่เขาได้กระทำป่าเถื่อนลงไป!”
……
คนรอบๆข้างต่างพากันด่าทอ ถึงแม้จะเป็นนักพนันพวกนั้น ตอนนี้ต่างพากันอับอาย
คำด่าทอที่ฟังไม่เข้าหูดังขึ้น ทันใดนั้นฉินต้าหย่งก็รับรู้ได้ถึงความเกินไปของตนแล้ว เขาก็รู้ดี ถ้าชนะก็ดีไป แต่ถ้าแพ้ ก็ต้องเสียลูกสาวคนนี้ไปเลย
“เสี่ยวซี ไม่ต้องกลัวนะ ตานี้ พ่อชนะแน่นอน เพียงแค่พ่อชนะ ต่อไปพ่อจะไม่เล่นพนันอีกแล้ว”
ฉินต้าหย่งเห็นท่าทีเจ็บปวดเศร้าโศกของฉินซี ก็ทนไม่ค่อยไหว ปลอบโยนฉินซีไปหนึ่งประโยค มองไปที่หยางเฉินอย่างโมโห แล้วตะคอกว่า “ผมเปิดไพ่คุณ!”
“เพี่ยะ!”
ฉินต้าหย่งโยนไพ่Kโพดำไปบนโต๊ะ
ตอนที่ผู้คนโดยรอบเห็นไพ่ ล้วนตกใจกัน ทันใดนั้นก็ได้เข้าใจฉินต้าหย่งแล้วว่าทำไมถึงกล้าเอาลูกสาวตัวเองไปพนัน ที่แท้ก็มีไพ่ใหญ่อยู่ในมือ
ซูซานโล่งอก แล้วรีบปลอบ “เสี่ยวซี ไม่ต้องกังวลนะ ไพ่ของคุณลุงใหญ่ขนาดนี้ ชนะแน่นอน แกก็ปลอดภัยไม่มีอะไรแล้ว”
“ฮ่าฮ่า ตอนนี้ ผมเอาเบี้ยพนันพวกนี้ไปได้แล้วใช่มั้ย?”
หลังจากที่ฉินต้าหย่งโยนไพ่ออกไปแล้ว สีหน้าตื่นเต้นจะไปเอาเบี้ยพนัน
“ไพ่ของผม คุณยังไม่ทันเห็นเลย ก็มั่นใจแล้วว่าจะชนะ?” หยางเฉินถามอย่างสัพยอก
มือของฉินต้าหย่งชะงัก แล้วดูแคลน “แม้แต่ไพ่คุณยังไม่ดูเลย คงไม่คิดว่าตัวเองโชคดี ได้A หรือไพ่ใบเอกใบรองหรอกนะ?”
“ทำไมจะไม่ได้ละ?”
หยางเฉินเยาะเย้ย แล้วเปิดไพ่ที่คว่ำอยู่บนโต๊ะขึ้น
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจ ไพ่สีรุ้งใบหนึ่งปรากฏขึ้น
เสียงร้องดังทั้งห้องโถง!
ฉินต้าหย่งช็อกอย่างที่สุด ตาทั้งสองเพ่งมองไป ที่ไพ่ของหยางเฉินอย่างไม่ละสายตา
ไพ่ใบเอก!
เขาแพ้แล้ว!
เป็นไปได้ยังไงกัน?
ขณะนี้ หยางเฉินยืนขึ้นเดินไปข้างๆฉินซี จูงฉินซีที่ไร้ความรู้สึกออกไป ต่อหน้าทุกคน
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอคือลูกของผม ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีกต่อไป!”
หยางเฉินกล่าวอย่างเย็นชา ด้วยน้ำเสียงที่เย็นไปถึงกระดูก อุณหภูมิของห้องโถง ทันใดนั้นก็ลดลงหลายองศา
“ปล่อยเสี่ยวซีนะ!”
ใครจะรู้ว่าตอนนี้ จู่ๆซูซานจะจับแขนของฉินซี มองไปที่หยางเฉินอย่างเกรี้ยวกราด
หยางเฉินขมวดคิ้ว “อย่าหาเรื่องผมจะดีที่สุด มิเช่นนั้นผมจะทำให้ตระกูลซูเป็นแค่ประวัติศาสตร์!”
ทุกๆคนที่อยู่รอบๆฉินซี หยางเฉินสืบมาแล้วทั้งหมด ไม่ได้อยากก้าวล่วงความส่วนตัวของฉินซี แต่เพราะความปลอดภัยของเธอ
แต่ซูซานในฐานะที่เป็นเพื่อนรักของฉินซี หยางฉินต้องรู้ตัวตนของเธอเป็นธรรมดา
หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใคร เป็นคุณหนูของตระกูลซูเศรษฐีอันดับหนึ่งของเจียงโจว ถูกปกป้องมาดีมาก ถึงขั้นแม้แต่ตระกูลเศรษฐีอื่นของเจียงโจว ยังไม่เคยได้เห็นเธอมาก่อน
ซูซานได้ยินดังนี้ ก็ช็อก เธออช็อกที่หยางเฉินรู้ตัวตนของเธอ
คนอื่นๆไม่ได้เอาตระกูลซูที่หลุดมาจากปากของหยางเฉินไปสัมพันธ์กับเศรษฐีอันดับหนึ่งของเจียงโจว เพียงแค่รู้สึกว่าลักษณ์ของหยางเฉินไม่ธรรมดา จะต้องเป็นคนของตระกูลใหญ่แน่นอน
ตอนเริ่มแรก ทุกคนล้วนสังเกตไปที่โต๊ะไพ่ จนกระทั่งถึงตอนนี้ พวกเขาเพิ่งจะสังเกตความงามของฉินซี
คนจำนวนมากเข้าใจในทันที ว่าหยางเฉินต้องชอบผู้หญิงคนนี้เข้าแล้ว จึงได้มาเล่นพนันตรงนี้
ต่อให้ตาเมื่อกี้แพ้ หยางเฉินก็จะพนันต่อไป เพียงแค่เขามีเงิน ก็สามารถบีบให้ฉินต้าหย่งเอาลูกสาวมาวางพนันแล้วแพ้ให้กับตนได้
“ซานซาน ไม่ต้องมาสนใจฉันแล้ว ยอมพนันถ้าแพ้ก็ต้องยอมรับ ในเมื่อแพ้แล้ว จากวันนี้ไปฉันก็ต้องเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว”
ซูซานคิดจะขัดขวาง แต่ฉินซีกล่าวขึ้นทันใด
ในสถานการณ์แบบนี้ ซูซานออกตัวมาช่วยตัวเอง ก็พอจะที่บรรเทาจิตใจที่เจ็บปวดของฉินซีได้บ้าง
ซูซานยังคงไม่อยากยอมแพ้ จับฉินซีไว้แน่น น้ำตาคลอเบ้ามองไปที่หยางเฉินแล้วกล่าว “ฉันให้คุณสิบหกล้าน ปล่อยฉินซีไป”
หยางเฉินเคร่งขรึม “ผู้หญิงของผม ไม่เคยเป็นสินค้าในการต่อรองมาก่อน ถ้าไม่อยากให้ตระกูลติดร่างแหไปด้วย อย่ายุ่งเรื่องนี้จะดีที่สุด”
การยื้อของซูซาน อยู่เหนือความคาดหมายของหยางเฉิน
เดิมทีคิดว่าข่มขู่ซูซานได้ แต่ใครจะรู้ว่าสาวคนนี้ดื้อดึงเหลือเกิน เธอจับมือฉินซีอย่างแน่นไม่ยอมปล่อย
“เพียงแค่คุณปล่อยเสี่ยวซีไป คุณจะเอาไง ฉันสนองให้ได้หมด” ซูซานกัดฟันพูด
หยางเฉินยิ้มร้าย “ทำอะไรกับคุณก็ได้?”
“ไอ้เลว!ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!” ”ซูซานกัดฟัน
“ในเมื่อคุณจะให้ฟรีๆ งั้นผมก็จะไม่เกรงใจละกัน!”
หยางเฉินพูดจบ ในความตะลึงของทุกคน เขาอุ้มซูซาน พาดไว้บนบ่าของตัวเอง มือหนึ่งกำลังจับฉินซี ในขณะที่ทุกคนกำลังมองอยู่นั้น เขาพาหญิงสาวทั้งสองคนไปพร้อมกัน
“ไอ้เลว ปล่อยฉันนะ!ปล่อยฉัน!”
ซูซานดิ้นรนอย่างเกรี้ยวกราด แต่ในมือของหยางเฉิน เธอจะดิ้นอย่างไรได้?
“คุณปล่อยลูกสาวผม!ได้โปรดปบ่อยเธอไป!ผมมันเลว ผมมันสัตว์เดรัจฉาน คุณจะฆ่าผมก้ได้ แต่ได้โปรดปล่อยลูกสาวผมไปเถอะนะ!อย่าเอาเธอไป……”
ฉินต้าหย่งที่เหม่อลอยมาตลอดเวลา จนกระทั่งตอนนี้ เพิ่งจะตื่นจากฝัน เมื่อนึกถึงแพ้แล้วเอาลูกสาวของตัวเองให้คนอื่น ชาตินี้จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว เขาจึงเสียใจอย่างที่สุด
และแล้วเขาก็รู้สึกตัว พุ่งไปที่ด้านหน้าของหยางเฉินอย่างไม่สนใจใดๆ ขวางทางเดินไว้
“ไสหัวไป!”
หยางเฉินตวาด
“ปัก!”
ในความตกใจของทุกคน ฉินต้าหย่งได้คุกเข่าลงกับพื้นอย่างแรง น้ำตาคลอเบ้า และไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ ร้องไห้อ้อนวอน “ได้โปรด อย่าพาลูกสาวของผมไปเลย ผมจะทำทุกวิถีทาง ที่จะคืนเงินสิบหกล้านให้คุณ ขอเพียงคุณปล่อยลูกสาวผมไป”
ฉินซีเห็นฉินต้าหย่งคุกเข่าที่เท้าของหยางเฉิน ได้ยินเขาพูดประโยคนั้น ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ น้ำตาไหลเต็มไปทั้งหน้า
“ออกไป!”
หยางเฉินใจแข็ง ถีบไปที่ฉินต้าหย่ง บ่าพาดซูซาน มือจับฉินซี แล้วเดินจากไป
ถ้าใจอ่อนตอนนี้ ทุกอย่างที่พยายามมาก็พังลง
แต่ทว่าเขาจะไป แต่กลับมีคนไม่อยากให้เขาไป เขากำลังจะลงลิฟต์ การ์ดร่างกำยำสิบกว่าคน มาล้อมจนหยางเฉินไว้ตรงกลาง