ทันใดนั้นเธอนึกถึงตระกูลฉินขึ้นมาอีก ถ้าตอนนั้นนายท่านฉินปฏิบัติต่อเธอด้วยความจริงใจ เกรงว่าตระกูลฉินในตอนนี้ คงสามารถแทรกขึ้นมาอยู่ในลำดับของตระกูลใหญ่สี่พรรคแห่งเมืองเจียงโจวแล้วมั้ง?
“คุณไม่มีอะไรอยากถามบ้างเหรอ?”
หยางเฉินถามขึ้นกะทันหัน
ฉินซีหัวเราะแบบขมขื่น “ถ้าคุณยินยอมเล่าออกมา ฉันยอมฟังอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณไม่อยากเล่า ทำไมฉันต้องเค้นถามด้วยล่ะ?”
หยางเฉินหัวเราะ “ความจริงทุกอย่างของตระกูลกวนตอนนี้เป็นของผมหมด”
ฉินซีมองตาค้อนไปทีหนึ่ง “พอชมเข้าหน่อย ก็โม้ใหญ่เลยนะ!”
หยางเฉินส่ายหน้าด้วยความจำใจ “ในสังคมนี้ พูดความจริงไป ทำไมถึงไม่มีใครเชื่อเลยล่ะ?”
ฉินซีปากบอกว่าไม่เชื่อ ภายในใจกลับสั่นเทารุนแรงพักหนึ่ง
หรือว่าตระกูลกวนเป็นของเขาทั้งหมดจริง?
ไม่อย่างนั้นทำไมกวนเสว่ซงถึงได้เคารพนบนอบต่อเขาขนาดนั้น?
“หยางเฉิน ฉันอยากกินไส้กรอกย่าง”
ตอนที่ทั้งสองคนมาที่หน้าประตูโรงภาพยนตร์ ฉินซียื่นมือชี้ไปที่ร้านไส้กรอกย่างด้านข้างทันใด
หยางเฉินตะลึงครู่หนึ่ง รีบวิ่งเข้าไปยังร้านไส้กรอกย่างทันที
ไม่นาน เขาถือไส้กรอกย่างไม้หนึ่งเข้ามาแล้ว
ฉินซีส่งเสียงหัวเราะ กัดกินขึ้นมาคำเล็กๆ
ในสายตาของหยางเฉินเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“ให้คุณกินบ้าง!”
ฉินซีกินไปหลายคำแล้ว ทันใดนั้นยื่นไส้กรอกย่างไปตรงปากของหยางเฉิน
มองตำแหน่งที่ฉินซีเคยกัด หยางเฉินไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย กัดเข้าไปคำหนึ่ง
ครั้งแรกที่เขาทานไส้กรอกย่าง วินาทีนี้กลับรู้สึกว่านี่คืออาหารที่รสเลิศมากที่สุดบนโลกใบนี้
ที่ทำให้หยางเฉินตกใจคือหลังจากนั้นตรงบริเวณที่เขาเคยกัด ฉินซีกินตามเข้าไปคำหนึ่ง ไม่ได้รังเกียจเลยสักนิดเดียว
เป็นแบบนี้ ไส้กรอกย่างไม้หนึ่ง สองสามีภรรยาคนนู้นคำคนนี้คำ ไม่นานก็ทานหมดเกลี้ยง
มองท่าทางของหยางเฉินยังอาลัยอาวรณ์ ฉินซีส่งเสียง“หึๆ” หัวเราะออกมาแล้ว “โง่จัง!”
นี่กำหนดให้เป็นค่ำคืนแห่งความสุข ถึงแม้จะมีเพียงช่วงเวลาอยู่ตามลำพังกันแค่สองชั่วโมงสั้นๆ กลับทำให้ระยะห่างของสองสามีภรรยาใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม
ไม่นานฉินยีก็จูงมือเสี้ยวเสี้ยวเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์แล้ว
ใบหน้าน้อยๆ ของเสี้ยวเสี้ยวแดงระเรื่อ พูดคุยถึงเนื้อเรื่องเมื่อสักครู่นี้กับฉินยีอย่างตื่นเต้น
มองฉากนี้อยู่ หยางเฉินอดฉีกมุมปากขึ้นไม่ได้ ฉีกเส้นรัศมีวงกลมของความสุขขึ้น
อยากให้เป็นแบบนี้ต่อไปตลอดกาลเลย
หยางเฉินเพิ่งพาทั้งครอบครัวเดินออกมาจากWanda ทันใดนั้นรู้สึกว่ามีหลายคนตามพวกเขามาแบบไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
เขาค่อยๆ หรี่ดวงตาทั้งคู่ขึ้นมา
กลิ่นอายบนตัวของคนพวกนี้ล้วนแกร่งมาก และไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่ของเมืองเจียงโจวที่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้
และช่วงเวลาระยะนี้ ถ้าพูดถึงว่าเคยล่วงเกินอิทธิพลใหญ่โตที่ไหน คงมีเพียงตระกูลเมิ่งแห่งเมืองเอกเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ที่ยอดเมฆา เขาเพิ่งฆ่ายอดฝีมือของตระกูลเมิ่งไปคนหนึ่ง
หลังจากรู้สึกถึงกลิ่นอายที่หยาบคายอันธพาลพวกนั้นอยู่ด้านหลัง หยางเฉินหน้าตาไร้ความรู้สึก เพียงแค่มุมปากฉีกเส้นรัศมีวงกลมที่ร้ายกาจนิดๆ ขึ้น
ด้านหลังมียอดฝีมือทั้งหมดแปดคน หยางเฉินไม่ได้ทายผิด คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนของตระกูลเมิ่ง
ถึงแม้ข้างกายจะมีภรรยาและลูกสาวอยู่ แต่หยางเฉินกลับไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย
เพราะที่ด้านหน้าของเขามีภาพคนที่คุ้นเคยสองคนปรากฏตัวออกมาแล้ว เหมือนกับมองไม่เห็นหยางเฉิน เดินผ่านตัวเขาไป
สองคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น คือเฉียนเปียวและเซินปาที่หยางเฉินจัดเตรียมให้อยู่ข้างกายของฉินซีและฉินยี เพื่อแอบคุ้มครองพวกเธอไว้
เฉียนเปียวเป็นผู้แข็งแกร่งที่ออกมาจากชายแดนเหนือ ที่ชายแดนเหนือ มีสมญานามว่าคิงค่ำมืด ถึงแม้ออกไปจากชายแดนเหนือแล้ว ความสามารถที่ไม่ใช่ว่าผู้แข็งแกร่งทั่วไปจะสามารถเทียบได้
เซินปาคือราชาหมัดประเทศเฮย ถึงแม้ว่าจะสู้เฉียนเปียวไม่ได้ แต่ไม่ใช่พวกลูกกระจ๊อกไม่กี่คนจะสามารถมาตีเขาให้พ่ายได้
“แกแม่งตาบอดงั้นเหรอ?”
เฉียนเปียวเพิ่งเดินมาถึงข้างกายยอดฝีมือแปดคนนั้น จงใจชนบนตัวของหนึ่งคนในนั้น ทว่ากลับตะโกนใส่ฝ่ายตรงข้ามไป
คนคนนั้นมองเขาอย่างเย็นชาทีหนึ่ง ระเบิดเสียงตะโกนฉับพลัน “ไสหัวไป!”
“ปึง!”
ชั่วขณะที่เขาพึ่งพูดจบไป เฉียนเปียวขยับตัวทันใด ปล่อยหมัดออกไป
คนผู้นั้นไม่ได้ป้องกันตัวสักนิด ภายใต้หมัดเต็มกำลังของเฉียนเปียว ร่างกายกระเด็นออกไปหลายเมตร
ในขณะเดียวกันเซินปาก็ลงมือเช่นกัน เดิมทีเป็นนักมวย จึงโบกสะบัดหมัดทั้งคู่ออกไปอย่างคลุ้มคลั่ง
ช่วงไม่กี่วินาทีสั้นๆ ยอดฝีมือแปดคนของตระกูลเมิ่งนอนอยู่บนพื้นกันเกลื่อนกลาด
“บอกมา พวกแกเป็นใครกัน? ทำไมต้องสะกดรอยตามคุณหยาง?”
เฉียนเปียวเดินมาตรงหน้าคนที่เป็นหัวหน้า เหยียบเท้าลงบนหน้าอกของเขา พูดจาแบบเย็นชาไร้ที่เปรียบ
“พวกแกคือพวกเดียวกันกับเจ้าหมอนั่น?”
จนกระทั่งวินาทีนี้ ฝ่ายตรงข้ามถึงเข้าใจขึ้นมาทันที เฉียนเปียวและเซินปาจงใจชนพวกเขา เพื่อช่วยหยางเฉิน
“ถุย!”
ทันทีที่ฝ่ายตรงข้ามพูดจบ มีแสงคมกริบแวบผ่าน มีดในมือของเฉียนเปียวกรีดเข้าที่ลำคอของเขาในชั่วขณะหนึ่ง ขณะนั้นเลือดสดสาดกระจาย
ชั่วพริบตาเดียวคนอื่นต่างตกใจค้างกันหมด เซินปาที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดูตื่นตกใจเหมือนกัน
การกระทำของเฉียนเปียวคล่องแคล่ว ไม่ยืดเยื้อแม้แต่น้อย ฝีมือโหดเหี้ยมขั้นสุด
“บอกฉันมา พวกแกเป็นใครกัน? และทำไมต้องสะกดรอยตามคุณหยาง?”
หลังจากเฉียนเปียวฆ่าคนที่เป็นหัวหน้านั้นทิ้ง จากนั้นมาที่ด้านข้างของอีกคนหนึ่ง เหยียบเท้าลงบนหน้าอกของเขา ในมือกุมมีดที่เปื้อนเลือดเล่มหนึ่ง
“พวก พวกเราเป็นคนของตระกูลเมิ่ง คือหงเทียนหยาส่งพวกเรามา เขาให้พวกเราลักพาตัวเจ้าหมอนั่นไป จากนั้นพาไปที่ตระกูลจวง”
คนผู้นั้นตกใจจนฉี่แทบราด เฉียนเปียวเป็นตัวละครเหี้ยมโหดที่บอกจะฆ่าก็ฆ่า จึงรีบตอบกลับทันที กลัวตอบว่าหากชักช้าแล้วจะโดนเฉียนเปียวฆ่าทิ้ง
“ทำไมต้องลักพาตัวคุณหยางไปด้วย?”
สายตาเฉียนเปียวค่อยๆ เย็นชาลงไป
หยางเฉินกับเขา ถึงแม้ว่าไม่ได้เป็นคนของชายแดนเหนือในรุ่นเดียวกัน แต่เขากลับรู้ว่าหยางเฉินเป็นจอมพลของชายแดนเหนือ
ในใจของเขา ชายแดนเหนือคือความศรัทธาของเขา ส่วนหยางเฉินในฐานะจอมพลของชายแดนเหนือ นั่นคือการมีตัวตนเช่นเดียวกับเทพ ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามมาใส่ร้ายป้ายสี
คนคนนั้นไม่ได้ลังเลสักนิด รีบพูดว่า “คุณหยางฆ่าลูกศิษย์ของหงเทียนหยาแล้ว หงเทียนหยาโกรธมาก เลยส่งพวกเรามาลักพาตัวคุณหยาง”
พอได้ยิน ในสายตาเฉียนเปียวเปล่งประกายแรงอาฆาตที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ค่อยๆ หรี่ดวงตาขึ้นมาแล้ว “เป็นพวกโง่เง่าที่ไม่รู้จักที่ตายจริงๆ!”
เฉียนเปียวไม่ได้ลงมืออีก ทั้งสองคนกับเซินปา ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ออกไปด้วยหน้าตานิ่งสงบ
ส่วนในเวลานี้ หยางเฉินขับรถพาทั้งครอบครัวตรงไปยังเส้นทางของยอดเมฆา
เพิ่งมาถึงบ้านก็พบข้อความบนมือถืออันหนึ่ง เนื้อหามีเพียงว่า “เป็นหงเทียนหยาของตระกูลเมิ่ง คนที่เขาส่งมา บอกว่าคุณฆ่าลูกศิษย์ของเขาแล้ว ต้องการให้ผมลงมือฆ่าเขาเลยหรือเปล่าครับ?”
หยางเฉินถือโอกาสตอบกลับไปคำหนึ่ง “ได้!”
ด้วยความสามารถของเฉียนเปียว ฆ่าสุนัขของตระกูลเมิ่งตัวหนึ่ง น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
เดิมทีหยางเฉินยังคิดจะรอก่อน แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับเตรียมลงมือในตอนที่ตนเองและภรรยาลูกสาวอยู่ด้วยกัน งั้นจำเป็นต้องตายสถานเดียว
ตระกูลจวง
ตระกูลจวงในปัจจุบัน ทุกที่ล้วนตกแต่งด้วยสีขาว ไม่มีชีวิตชีวาเลย
ไม่ว่าที่ไหนก็สามารถเจอคนใส่ชุดสีขาวได้
จวงปี้ฝานตายไปสองวันแล้ว แต่ยังไม่สามารถทำพิธีลงฝังได้ เพราะจวงเจี้ยนเซ่อผู้นำของตระกูลจวงขู่ว่าต้องเอาเลือดของหยางเฉินมาสังเวยวิญญาณของจวงปี้ฝานให้ได้
เดิมทีคิดว่ามาหายอดฝีมือของตระกูลเมิ่ง จะสามารถชำระสะสางความแค้นได้ กลับนึกไม่ถึงว่าความสามารถของหยางเฉินแกร่งขนาดนั้น แม้แต่ลูกศิษย์ของหงเทียนหยายังโดนฆ่าตาย
หงเทียนหยาซึมอยู่ในคฤหาสน์คนเดียว มองลูกศิษย์ที่ตายตัวแข็ง และนอนอยู่บนพื้นอยู่ หน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“ศิษย์รัก นายวางใจได้ อาจารย์จะต้องสะสางความแค้นให้นายแน่!”