The King of War – ตอนที่ 258 ถูกหลอกใช้แล้ว

“ทำไมกัน? ผู้นำเฉินคิดจะฆ่าผมแล้วเหรอ?”

หยางเฉินมองทางเฉินซิงไห่พลางถามหยอกเย้าขึ้น

หัวใจเฉินซิงไห่เต้นรัวแบบบ้าคลั่งอยู่เช่นกัน ในสายตาพยายามดิ้นรนเต็มที่ ส่วนในใจยังขัดแย้งกันอยู่ว่าจะฆ่าหรือไม่ฆ่าดี

ถ้าฆ่าหยางเฉินแล้ว ตระกูลหานคงต้องไม่ปล่อยตระกูลเฉินไปเป็นอันขาด

แต่ถ้าไม่ฆ่า ขอเพียงได้รับการอภัยของหยางเฉินมาได้ ตระกูลเฉินยังมีความเป็นไปได้ที่จะอยู่รอด

ภายใต้การเปรียบเทียบดู เหมือนจะทำได้เพียงเลือกไม่ฆ่าแล้ว

“พ่อครับ ฆ่าเขาเลย จะได้แก้แค้นให้อิงจวิ้นซะที!”

เฉินเห้ากัดฟันบอกไป

เฉินเห้าหน้าตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาตแค้น โดยเฉพาะสำหรับเขานั้น การตายของเฉินอิงจวิ้น ก็คือหยางเฉินเป็นคนทำทั้งหมด

ลั่วปิงมองทางเฉินเห้าอย่างเย็นชา พูดแบบไม่เกรงใจเลยสักนิด “ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เฉินซิงไห่ถือว่าเป็นบุคคลระดับแนวหน้าของเมืองโจวเฉิง แต่กลับมีลูกชายโง่เขลาแบบนายได้ซะงั้น ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าของตระกูลเฉินจริงๆ เลย!”

“นายว่าอะไรนะ?”

ชั่วขณะนั้นเฉินเห้าระเบิดความโกรธออกมา

“หุบปาก!”

เฉินซิงไห่ตะโกนอย่างโมโห ลูกชายของเขาเป็นคนประเภทไหน เขารู้ดีมาก

ถึงแม้คำพูดของลั่วปิงจะฟังไม่เข้าหูไปหน่อย แต่ความจริงก็เป็นเช่นนี้

เห็นเฉินซิงไห่หงุดหงิด เฉินเห้าจึงรีบหุบปากทันที ในสายตากลับเต็มไปด้วยความเกลียดอันรุนแรง

“นึกไม่ถึงว่านายจะกล้ามาที่ตระกูลเฉินของฉัน!”

เฉินซิงไห่มองทางหยางเฉินแล้วพูดขึ้น

นับวันเขายิ่งรู้สึกว่าหยางเฉินไม่ธรรมดา สามารถทำให้ลั่วปิงและซูเฉิงอู่บุคคลชั้นนำแบบนี้ปกป้องสุดแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังอยู่ต่อหน้าของมู่ตงเฟิงด้วย ย่อมไม่ธรรมดาเป็นแน่

สำหรับความสัมพันธ์ของหยางเฉินและหานเซี่ยวเทียน ถูกเขาเพิกเฉยไปโดยอัตโนมัติ

สำหรับเขานั้น หยางเฉินแค่ช่วยชีวิตของหานเซี่ยวเทียนโดยบังเอิญเท่านั้น อีกไม่นานเท่าไร หานเซี่ยวเทียนคงลืมเลือนไปว่ายังมีหยางเฉินคนแบบนี้อยู่ด้วย

เวลานี้หยางเฉินและลั่วปิงทั้งสองคนมาที่ตระกูลเฉิน ต้องเป็นเพราะมีคนหนุนหลังอยู่แน่

ในที่สุดเฉินซิงไห่จึงตัดสินใจได้ ไม่ลงมือ จากนั้นพูดสั่งยอดฝีมือของตระกูลเฉินที่อยู่รอบด้านว่า “พวกแกถอยไปให้หมด!”

“พ่อ……”

เฉินเห้าตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน กำลังอยากจะขัดขวาง ก็ถูกเฉินซิงไห่สั่งการว่า “แกก็ไสหัวออกไปด้วยเหมือนกัน!”

เฉินเห้าถลึงตาใส่หยางเฉินอย่างแรงทีหนึ่ง แล้วออกไปแบบหงอยเหงาเศร้าซึม

ชั่วพริบตาเดียว ภายในห้องรับแขกที่กว้างใหญ่เหลือเพียงหยางเฉินกับลั่วปิง ยังมีเฉินซิงไห่ และศพอีกคนเท่านั้น

“ประธานลั่วกับคุณหยางมาเยี่ยมผมที่ตระกูลเฉินกะทันหัน น่าจะมีธุระอะไรมาคุยมั้ง?”

เฉินซิงไห่มองทางทั้งสองคนด้วยหน้าตาไร้ซึ่งอารมณ์ น้ำเสียงไม่ถ่อมตัวไม่โอหัง

ถึงแม้ว่าหยางเฉินจะพูดมาประโยคหนึ่ง มีความเป็นไปได้ว่าอาจให้ตระกูลหานออกหน้าแทน พังตระกูลเฉินจนพินาศ แต่เฉินซิงไห่ก็ยังคงไม่แสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าหยางเฉิน

“ประธานลั่ว คุณมาพูดแล้วกัน!”

หยางเฉินนั่งอยู่ตรงข้ามกับเฉินซิงไห่

ลั่งปิงกลับทำเพียงแค่ยืนอยู่ข้างกายของเขา จากตรงนี้สามารถมองออกว่าลั่วปิงต้องฟังคำสั่งของหยางเฉินถึงจะกระทำการ

รายละเอียดอันนี้ ทำให้ในใจของเฉินซิงไห่ตื่นตกใจเต็มที่

“ครับ!”

ลั่วปิงตอบรับอย่างเคารพนอบน้อม จากนั้นถึงมองทางเฉินซิงไห่ “เฉินซิงไห่ นายควรจะรู้สึกโชคดี ถ้าไม่ใช่คุณหยาง เกรงว่าตระกูลเฉินคงพังพินาศไปแล้ว”

“เหอะ!”

เฉินซิงไห่พูดอย่างเย็นชา “มีอะไรก็พูดมาตรงๆ ฉันรำคาญพวกชอบพูดอ้อมค้อม!”

ลั่วปิงหน้าตาไร้ความรู้สึกมองเขาไปทีหนึ่ง “เฉินซิงไห่ ถ้าให้โอกาสขึ้นเป็นตระกูลใหญ่ชั้นนำหนึ่งเดียวของเมืองโจวเฉิงแก่นาย นายจะยินดีเอาหรือเปล่า?”

เฉินซิงไห่ตะลึงอยู่ตั้งนาน ถึงได้สติเข้ามา ส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ลั่วปิง นายเห็นฉันเฉินซิงไห่คนนี้เป็นไอ้โง่หรือไง? ต่อให้มีโอกาสแบบนี้จริง นายจะใจดีให้ฉันเหรอ?”

“เฉินซิงไห่ นายอย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง ขอเพียงคุณหยางพูดมาคำเดียว ก็ทำให้ตระกูลเฉินของนายพังพินาศได้!”

ลั่วปิงโกรธอยู่บ้าง พูดจาเย็นชา “ตอนนี้นายมีเพียงสองทางเลือก ฉันช่วยเหลือนาย ทำให้ตระกูลหยวนพังทลาย! หรือไม่งั้นตระกูลเฉินก็พังพินาศ!”

“นายหมายความว่าอะไร?”

จากคำพูดของลั่วปิง เฉินซิงไห่รู้สึกถึงความผิดปกตินิดหน่อย

เขารู้ถึงสถานการณ์ที่ตระกูลเฉินเผชิญอยู่ในปัจจุบันนี้ดีมาก ถ้าหยางเฉินอยากกำจัดตระกูลเฉินจริง ตระกูลเฉินย่อมไม่มีแรงต้านทานสักนิด

แต่ลั่วปิงกลับบอกว่าจะช่วยเหลือเขาทำลายตระกูลหยวน

“คนฆ่าหลานชายนายที่แท้จริงคือตระกูลหยวน! ส่วนนักฆ่าคนนี้ คือคนที่ตระกูลหยวนส่งมา”

ลั่วปิงยื่นมือชี้ไปยังศพที่ใส่ชุดสีดำทั้งตัวนั้น ก่อนจะพูดจาแบบเฉยชา

ชั่วขณะนั้นสีหน้าเฉินซิงไห่เปลี่ยนไปยกใหญ่ “เป็นไปไม่ได้!”

“สิ่งที่ควรพูดก็พูดแล้ว อยากเลือกยังไง นั่นเป็นเรื่องของนาย คุณหยางให้เวลานายครุ่นคิดแค่ครึ่งวัน วันนี้ก่อนตะวันตกดิน ถ้านายยังไม่ได้ตอบกลับมา งั้นคุณหยางจะถือว่านายเลือกทางตายแล้ว!”

ลั่วปิงพูดจบ ลุกขึ้นยืน มองทางหยางเฉิน “คุณหยางครับ พวกเราไปกันหรือยังครับ?”

“มีอีกหน่อย ฉันต้องการเสริมสักนิด ต่อให้นายเลือกทางที่หนึ่ง ก็ทำได้เพียงจัดการทุกอย่างของเมืองโจวเฉิงแทนฉันเท่านั้น แต่ไม่ใช่ให้ตระกูลเฉินของนายควบคุมทุกอย่าง”

หยางเฉินลุกขึ้นมาแบบเชื่องช้า ดวงตาที่เย็นเฉียบจ้องเฉินซิงไห่ “อย่าพยายามหักหลังฉันเป็นอันขาด ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีตระกูลหนึ่งที่เมืองโจวเฉิง หายไปจากเมืองโจวเฉิงในชั่วข้ามคืนเดียว!”

“รู้หรือเปล่าว่าทำไม? เพราะพวกเขาเลือกที่จะหักหลังไง!”

พูดจบ หยางเฉินก็หมุนตัวออกไป

ลั่วปิงมองเฉินซิงไห่และพูดว่า “นายเป็นคนฉลาด บางเรื่องน่าจะสามารถเข้าใจได้ ถ้าตระกูลเฉินและตระกูลซูเกี่ยวดองกันจริง ตำแหน่งของตระกูลเฉินที่เมืองโจวเฉิงจะสูงขึ้นอีกครั้ง สถานการณ์แบบนี้ คนที่ไม่ยินยอมเห็นมากที่สุดคือใครล่ะ?”

ลั่วปิงทิ้งคำพูดแบบนี้เอาไว้ จากนั้นถึงตามหยางเฉินออกไปติดๆ

หน้าเฉินซิงไห่เต็มไปด้วยความตื่นตกใจ จ้องภาพเบื้องหลังของหยางเฉินที่จากไปตาไม่กะพริบ

ในช่วงเวลานี้ มีเพียงตระกูลเดียวที่พังทลายลงไปในชั่วข้ามคืน นั่นก็คือตระกูลหยางแห่งเมืองโจวเฉิง

เรื่องนี้ เดิมคือปัญหาที่คาราคาซังกันอยู่ คนเมืองโจวเฉิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงว่าเฉียนเปียวออกไปจากตระกูลหยาง ต่อมาศัตรูที่ตระกูลหยางเคยล่วงเกินไว้ ต่างมาหาถึงที่แล้ว

ถ้าไม่ใช่ความฉลาดปราดเปรียวของหยางเซี่ยงหมิง เกรงว่าตระกูลหยางคงโดนประหารชั่วโคตรไปแล้ว

ตระกูลหยางเป็นตระกูลระดับหนึ่งของเมืองโจวเฉิง แต่สำหรับตระกูลใหญ่โตแต่ละที่ของเมืองโจวเฉิง เทียบกับตระกูลเฉินและตระกูลหยวนแล้ว ความน่าเกรงขามของพวกเขายังยิ่งใหญ่กว่า

เพราะตระกูลหยางมีเฉียนเปียว ทหารที่กล้าหาญผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่ระดับหัวหน้าได้อย่างง่ายดาย

เมื่อคืนนี้ที่ร้านอาหารเป่ยหยวนชุน เฉียนเปียวปรากฏตัวแล้ว โดยเฉพาะยังมีท่าทีเคารพนบน้อมต่อหยางเฉินที่สุด

ทุกอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าที่ตระกูลหยางแห่งเมืองโจวเฉิงพังทลายลง ก็คือหยางเฉินเป็นคนทำ

ยังมีคำพูดพวกนั้นที่ลั่วปิงเพิ่งพูดเมื่อสักครู่ ควรค่าให้คิดอย่างลึกซึ้ง

ตั้งแต่ตระกูลเฉินและตระกูลซูเปิดเผยเรื่องที่จะเกี่ยวดองกันออกไป เฉินอิงจวิ้นเคยเจอการลอบสังหารมาหลายครั้งมาก ตอนนี้มาคิดๆ ดูแล้ว ที่เมืองโจวเฉิง มีเพียงตระกูลหยวนที่เทียบเคียงเสมอกันกับตระกูลเฉิน และไม่ยินยอมเห็นการเกี่ยวดองของตระกูลเฉินและตระกูลซูเกิดขึ้น

พอพูดเช่นนี้ มีความเป็นไปได้ว่าตระกูลหยวนจะลอบสังหารเฉินอิงจวิ้น

จนกระทั่งวินาทีนี้ เขาถึงระลึกได้ว่าตนเองทำเรื่องที่โง่เขลาไปมากแค่ไหน

“พ่อครับ พ่อไม่เป็นอะไรนะครับ?”

เวลานี้เฉินเห้าวิ่งเข้ามาแล้ว ท่าทางประหม่ามองเฉินซิงไห่อยู่

เฉินซิงไห่พูดแบบหน้าตาเคร่งขรึม “รีบเรียกรวมญาติพี่น้องตระกูลเฉิน ฉันมีธุระด่วนต้องหารือ!”

“พ่อครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วหรือเปล่าครับ?”

เฉินเห้าถามอย่างสงสัย

“ไสหัวไป!”

เฉินซิงไห่ตวาดใส่

ลูกชายคนนี้ นับวันยิ่งทำให้เขาไม่ปลื้มใจเอาเสียเลย

เฉินเห้ารีบวิ่งออกไปทันที

อีกด้านหนึ่ง ลั่วปิงที่กำลังขับรถ เอ่ยปากถามว่า “ท่านประธานครับ เฉินซิงไห่จะเชื่อพวกเราเหรอครับ?”

“เชื่อแล้วยังไง? ไม่เชื่อแล้วยังไง?”

หยางเฉินหลับตาพักผ่อน เอ่ยปากพูดนิ่งๆ

ชั่วขณะนั้นลั่วปิงตะลึง ไม่นานก็ตอบสนองเข้ามาแล้ว

สำหรับหยางเฉินแล้ว ตระกูลเฉินไม่สลักสำคัญ เป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ช่วยเขาจัดการเมืองโจวเฉิงเท่านั้นเอง

ถ้าตระกูลเฉินอยากวอนหาที่ตายเองจริงๆ กำจัดทิ้งก็จบ เพียงแต่ว่าเขาต้องการหาคนที่สามารถดูแลเมืองโจวเฉิงเท่านั้น

“ฉันยอมให้คนอื่นมาท้าทายได้ แต่ไม่มีทางยอมให้คนอื่นมาหลอกใช้ได้!”

ทันใดนั้นหยางเฉินลืมตาทั้งคู่ขึ้น แรงอาฆาตแค้นที่รุนแรงแวบผ่านไป “กล้าหลอกใช้ฉัน ตระกูลหยวน จำเป็นต้องตาย!”

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Options

not work with dark mode
Reset