ภายในตระกูลหวง มีเพียงหวงเทียนเชิงกับหวงเทียนหยาสองคนนี้ ที่ขัดเเย้งกันมากที่สุด เมื่อหวงเทียนหยากลับไปแล้ว กลุ่มผู้อาวุโสคนอื่นๆก็ไม่จำเป็นต้องสร้างแรงกดดันให้กับหวงเทียนเชิงอีก ดังนั้นจึงจากไปทีละคน
“หยางเฉิน นี่คือสิ่งที่นายบีบบังคับฉันเอง!”
หลังจากที่หวงเทียนหยาและคนอื่นๆจากไปแล้ว หวงเทียนเชิงมีสีหน้าโกรธจัด
คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เขารู้ดีว่า ใครจงใจปล่อยข่าวที่เกาสงเสียชีวิตในต่างแดน เป็นใครไม่ได้นอกจากหยางเฉิน?
คนที่ปล่อยข่าวออกมาคือหยางเฉินจริงๆ เดิมทีเขากะจะมาบ้านตระกูลหวงด้วยตัวเอง แต่ว่าตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะไปเยี่ยนตู
ดังนั้น เขาจึงส่งคนไปตรวจสอบตระกูลหวง ถึงรู้ว่า เป็นเพราะเกาสงได้ช่วยเหลือ จึงทำให้หวงเทียนเชิงกลายเป็นเจ้าบ้าน
นอกจากนี้ ยังมีหวงเทียนหยา รอความผิดพลาดจากหวงเทียนเชิงมาตลอด และพร้อมที่จะแทนที่เขาทุกเมื่อ
“เจ้าบ้าน คุณชายหวงเจิ้งกลับมาแล้ว!”
ในขณะนี้ คนรับใช้คนหนึ่ง เร่งรีบมารายงาน
“ให้เขามาพบฉัน!”
หวงเทียนเชิงพูดอย่างโกรธเคือง
“เจ้าบ้าน คุณชายท่าน……”
คนรับใช้รู้สึกลำบากใจ และไม่กล้าพูดออกมา
“เกิดอะไรขึ้นกับหวงเจิ้ง?”
หวงเทียนเชิงลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกมีลางไม่ดี
“คุณชายเขา บ้าไปแล้ว!”
คนรับใช้ไม่กล้าปิดบังอีกต่อไป และในที่สุดก็พูดความจริงออกมา
“อะไรนะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวงเทียนเชิงก็ตกตะลึงจนนิ่งอึ้ง
ทันใดนั้น ความโกรธที่รุนแรงมาก ก็ระเบิดออกมา “หยางเฉิน ฉันเอาแกตายแน่!”
หวงเจิ้งเป็นลูกชายคนเดียวของเขา แต่เขาถูกหวงจงซึ่งเป็นลูกชายของหวงเทียนหยากดขี่มาตลอด
ดังนั้นก่อนหน้านี้ หวงจงเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหวง
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาถูกหยางเฉินบังคับให้คุกเข่าต่อหน้าฝูงชน หวงเจิ้งจะมีโอกาสเป็นผู้สืบทอดได้อย่างไร?
ตอนนี้ หวงเจิ้งบ้าไปแล้ว!
แค่คิดก็รู้แล้วว่า ในใจหวงเทียนเชิงโกรธแค่ไหน
เขาผลักคนรับใช้ออกไป และรีบออกจากคฤหาสน์
“นายอย่าเข้ามา อย่าเข้ามา ฉันจะไม่มาเจียงโจวอีกแล้ว และไม่กล้าทำให้นายขุ่นเคืองใจอีกแล้ว”
“ฉันขอร้องอย่าเข้ามาเลย ฉันรู้สึกผิดไปเเล้ว”
“ฉันไม่ต้องการอะไรแล้ว และที่ดินผืนนั้นให้นายฟรีๆเลย ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน อย่าฆ่าฉันเลย”
……
ทันทีที่หวงเทียนเชิงวิ่งออกจากคฤหาสน์ ก็เห็นร่างชายวัยกลางคนที่น่าสมเพช สีหน้าตื่นตระหนก
คนๆนี้ ไม่ใช่ใครอื่น เขาเป็นลูกชายคนเดียวของหวงเทียนเชิง หวงเจิ้ง
ในขณะนี้หวงเจิ้งได้ซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้อง ตัวสั่น รูม่านตาขยายออกเพราะความกลัว เหมือนกับช็อกกับเรื่องใหญ่มาก
รอบๆ มีคนของตระกูลหวงล้อมรอบ ต่างมองหวงเจิ้งด้วยความประหลาดใจ โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เจิ้งเอ๋อร์!”
หวงเทียนเชิงตะหวาดด้วยความโกรธ ผลักฝูงชนออก และรีบเดินไปหาหวงเจิ้ง
“นายอย่าเข้ามา ขอร้องล่ะอย่าเข้ามา!”
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริงๆ!”
“ฉันคุกเข่าก้มกราบนาย ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลย”
เมื่อเห็นหวงเทียนเชิงวิ่งเข้ามา หวงเจิ้งก็ตกใจสุดขีด คุกเข่าลงบนพื้น และเอาหัวโคกกับพื้นซ้ำๆ
“ตุ๊บๆๆ!”
หวงเจิ้งเอาหัวโคกพื้นอย่างแรง และทุกครั้งที่เขาโคกหัว เขาจะตะโกนด้วยความหวาดกลัว “นายอย่าเข้ามา!”“
“เจิ้งเอ๋อร์ ฉันคือพ่อของเธอ ฉันคือพ่อของเธอไง!”
หวงเทียนเชิงมีอารมณ์โมโหมาก วิ่งเข้าไปขวางหวงเจิ้ง ใช้มือทั้งสองจับไหล่เขาไว้แน่น และพูดด้วยดวงตาสีแดง
ในชีวิตของเขา มีเพียงลูกชายคนเดียวและลูกสาวหนึ่งคน
ลูกสาวคือหวงเหมย ก่อนหน้านี้อยู่ที่เจียงโจว เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ได้ฆ่าหวงอันลูกชายของหวงจง แล้วป้ายสีให้หยางเฉิง เมื่อหวงจงรู้ความจริง ก็ฆ่าเธอทิ้งทันที
ตอนนี้เหลือเพียงหวงเจิ้งลูกชายคนเดียว แต่น่าเสียดายที่เขาบ้าไปแล้ว แม้แต่พ่อเขายังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
หวงเทียนเชิงรู้สึกมีความเกลียดชังเพิ่มขึ้น
“ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฉิน ลูกสาวของฉันจะตายได้อย่างไร? ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฉิน ลูกชายของฉันจะบ้าไปได้อย่างไร?”
“ทั้งหมดนี่ ต้องโทษหยางเฉิน นายทำลายครอบครัวของฉัน!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจะให้แกรับรู้ความรู้สึกเหมือนฉัน!”
หวงเทียนเชิงพูดด้วยความโกรธ แล้วเอามือทุบลงมาที่ท้ายทอย หวงเจิ้งก็สลบไป
“ส่งหวงเจิ้งไปโรงพยาบาล!”
หวงเทียนเชิงออกคำสั่งเสร็จ ลูกน้องของเขาก็รีบพาหวงเจิ้งไปทันที
และหวงเทียนเชิงก็กลับมาที่คฤหาสน์อีกครั้ง และโทรศัพท์ “เตรียมของขวัญ! ไปที่บ้านของตระกูลอ้าย!”
ในเวลาเดียวกัน เยี่ยนเฉินกรุ๊ป สาขาเจียงโจวชั้นบนสุด ออฟฟิตท่านประธานใหญ่
เมื่อฉินยีเห็นที่ดินแม่น้ำเหล่าหลงบนฝั่งตะวันออกได้ทำเอกสารสัญญาโอนให้ฟรีๆ ก็ตกตะลึง
“พี่เขย พี่ทำได้ยังไง?”
ฉินยีถามด้วยความประหลาดใจ ที่ดินผืนนั้นถูกยึดครองโดยตระกูลหวงหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู และใช้งินไป1.5 พันล้าน ทำไมถึงให้พี่ฟรีๆ?”
หยางเฉินยิ้มเเล้วพูดว่า “อาจจะเป็นเพราะว่าฉันหล่อมั้ง ดังนั้นจึงมอบให้ฉันฟรีๆ”
ฉินยีกลอกตา และพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อใบหน้าของพี่มีค่ามากขนาดนี้ถ้างั้นก็ช่วยบริษัทอีก ไปหาที่ดินฟรีๆมาอีก?”
หยางเฉินยิ้มแล้วส่ายหัว “เธอก็อย่ามารังแกฉันเลย ช่วงนี้ ฉันอาจจะต้องไปจากเจียงโจวสักพักหนึ่ง ถึงตอนนั้นแล้วบริษัทก็ต้องให้เธอดูแลทุกอย่าง”
“พี่เขย พี่จะไปไหนเหรอ?”
เมื่อได้ยินว่าหยางเฉินกำลังจะไป ฉินยีก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
ตัวตนของหยางเฉิน เธอรู้แล้ว
หยางเฉินจะไปในเวลานี้ ซึ่งเป็นเวลาที่เขาพึ่งยึดครองที่ดินของตระกูลหวง เป็นไปได้ว่าเขาอาจประสบปัญหาที่หนักหน่วง
แม้ว่าฉินยีจะพึ่งมาทำงาน เนื่องจากหยางเฉินแอบสอนเธอ เธอจึงสามารถยืนหยัดคนเดียวได้
จากการเป็นผู้จัดการทั่วไปมานาน วิสัยทัศน์แค่นี้เธอก็มี
หยางเฉินจะจากไป ไม่ใช่เรื่องดีเเน่นอน
เมื่อหยางเฉินรู้สึกว่าฉินยีมีความกังวลใจ หยางเฉินก็ยิ้มเล็กน้อยเเล้วพูดว่า “เธอรู้จักพี่ก็นานมากแล้ว ฉันเคยทำให้เธอผิดหวังไหม?”
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่มั่นใจของหยางเฉิน ความกังวลใจของฉินยีก็น้อยลงเล็กน้อย แต่ความกังวลบนใบหน้าไม่สามารถเก็บซ่อนไว้ได้
หยางเฉินเป็นคนที่เก่งมาก แต่ครั้งนี้ที่ไปทำให้ขุ่นเคือง เป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู และเป็นตะกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเยี่ยนตู
“พี่เขย คุณจะทำอะไร ฉันไม่ถาม ฉันขอให้คุณดูแลตัวเองให้ดีๆ เพียงเพื่อเห็นแก่พี่สาวและเสี้ยวเสี้ยว ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ!” ฉินยีเตือนอย่างจริงจัง
หยางเฉินรู้สึกอบอุ่นในใจ รู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย และพยักหน้า “ตกลง ฉันสัญญา!”
ที่จริงเขาวางแผนไว้ อีกหลายวัน เขาถึงจะไปเยี่ยนตู แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ ช่วงบ่ายวันนี้ เขาได้ข่าวมา ซึ่งมันทำให้เขาต้องรีบไปเยี่ยนตูทันที
“พี่เฉิน พี่อ้ายกำลังจะแต่งงานเเล้ว!”
คืนนั้น หยางเฉินได้รับโทรศัพท์จากหม่าชาว เป็นข่าวที่ทำให้เขาประหลาดใจสุดๆ
“อ้ายหลินจะแต่งงานเหรอ?”
หยางเฉินถามด้วยความประหลาดใจ “จะแต่งงานกับใคร?”
ในเวลานี้ จู่ๆก็มีข่าวว่าอ้ายหลินกำลังจะแต่งงาน ซึ่งผิดปกติมาก
ยิ่งไปกว่านั้น หยางเฉินรู้ว่า หม่าชาวชอบอ้ายหลิน ตอนนั้นเขาส่งหม่าชาวไปเยี่ยนตู เพื่อปกป้องลั่วปิง และก็เพื่อสร้างโอกาสให้หม่าชาวได้ติดต่อกับอ้ายหลิน
ว่ากันว่า พวกเขาสองคน ก็เริ่มตกหลุมรักกัน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หยางเฉินจะยอม ให้อ้ายหลินแต่งงานกับชายอื่นที่ไม่ใช่หม่าชาวได้ไง?
“อีกฝ่ายแซ่หวัง เป็นตระกูลที่ตระกูลหวงให้การสนับสนุน ฐานะตำแหน่งในเยี่ยนตู ก็เทียบเท่าตระกูลอ้าย” หม่าชาวพูด
“ตระกูลหวง!”
หยางเฉินเข้าใจทันที ว่าทำไมอ้ายหลินถึงต้องแต่งงานกะทันหันนั้น