The King of War – ตอนที่ 493 สมัครงานสำเร็จ

นาทีที่เจ้าหน้าที่ปรากฏตัว ทุกคนก็อึ้งกันหมด

โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาพูดว่าผู้บริหารระดับสูงบางคนของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปต้องเข้ารับการสอบสวนนั้น เหล่าคนที่อยู่ด้านหลังหยูเหวินหวูตัวสั่นกันอย่างอดไม่ได้

หยูเหวินหวูก็ขมวดคิ้วเป็นปม ใบหน้าไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดๆนั้นก็ปรากฏความกลัดกลุ้มในที่สุด

โดยเฉพาะลั่วปิง ที่ตอนนี้ทึ่งไปเล็กน้อย

เขาแค่ตบตาเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเรื่องนี้จริงๆ

หรือว่า หยางเฉินเป็นคนทำ?

คิดมาถึงตรงนี้ ลั่วปิงหันไปมองหยางเฉินตามสัญชาตญาณ ก็เห็นหยางเฉินนั่งไถโทรศัพท์อยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าราบเรียบ

แสงเยือกเย็นเปล่งประกายอยู่ในสายตาของหยูเหวินหวู เขากวาดสายตาผ่านหยางเฉินโดยไม่ให้ใครรู้ตัว

เจ้าหน้าที่ที่เป็นหัวหน้าอ่านไปสิบกว่าชื่อถึงเป็นอันสิ้นสุด ที่ทุกคนตะลึงคือคนที่มีชื่อล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงที่ไม่มาเข้าร่วมการประชุม

และก็คือเหล่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังหยูเหวินหวูในตอนนี้

“บัญชีธนาคารของพวกคุณถูกอายัติหมดแล้วคับ และทรัพย์สินในนามของพวกคุณไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือรถล้วนถูกศาลสั่งให้ยึดมาหมดแล้ว”

“ตอนนี้พวกคุณต้องมากับพวกเรา เข้ารับการสืบสวน!”

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกล่าวอย่างเย็นชา ไม่มีอารมณ์ใดๆแสดงอยู่บนใบหน้า

ผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นที่มีชื่อหน้าซีดกันหมด อ่อนแรงไปทั้งตัว

จากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเครื่องแบบอีกกลุ่มใหญ่พุ่งเข้ามาในห้องประชุม และนำตัวเหล่าผู้บริหารระดับสูงไปทั้งหมด

“ขออนุญาตนะครับ!”

หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ หัวหน้าของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็พยักหน้าเล็กน้อยใส่ทิศทางที่ลั่วปิงอยู่พร้อมกล่าว สายตาแฝงไว้ด้วยความเคารพนับถือ

พูดจบเขาก็พาคนของเขาออกไปทันที

ลั่วปิงมีสีหน้ามึนงง เมื่อกี้หัวหน้าของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทักทายตัวเองหรอ?

แต่ ต่อให้ทักทายตัวเองแล้วทำไมสายตาของเขาถึงแฝงความเคารพนับถือไว้ด้วยล่ะ?

ทันใดนั้น ลั่วปิงก็คิดอะไรขึ้นได้ เขามีสีหน้าทึ่งขึ้นมาทันที

เขาไม่รู้จักหัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคนเมื่อกี้เลยสักนิด และด้วยฐานะของตัวเอง หัวหน้าของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ไม่จำเป็นต้องทักทายเขาด้วย

มีเพียงความเป็นไปได้เดียว หัวหน้าของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทักทายหยางเฉินที่อยู่ข้างๆเขา ความนอบน้อมที่แสดงออกมาก็เป็นเพราะหยางเฉิน

คิดมาถึงตรงนี้ ลั่วปิงก็ยิ่งทึ่งเข้าไปใหญ่

ชั่วขณะหนึ่ง ห้องประชุมขนาดใหญ่นี้กลับสู่ความสงบอีกครั้ง

ด้านหลังของหยูเหวินหวูไม่เหลือใคร สีหน้าของเขาย่ำแย่อย่างมาก

เดิมทีเขาวางแผนว่าจะพาคนมาข่มหยางเฉิน แต่คิดไม่ถึงว่านอกจากจะไม่ด้ข่มแล้ว ยังเสียคนของตัวเองไปทั้งหมด

ผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นนิสัยเป็นยังไงเขารู้ดียิ่งกว่าใคร ถูกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำตัวไปครั้งนี้เกรงว่าจะโดนความผิดแล้วจริงๆ ไม่มีหวังที่จะได้ออกมาอีกแล้ว

หรือก็คือ กรุ๊ปเยี่ยนเฉินหลังจากนี้จะหลุดออกจากการควบคุมของเขาโดยสิ้นเชิงใช่มั้ย?

คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็หงุดหงิดสุดๆ แต่ในฐานะทายาทผู้สืบทอดของตระกูลอวี๋เหวิน เวลาแบบนี้จะต้องใจเย็น

เมื่อคนเราอยู่ในอารมณ์โกรธ ก็มักจะทำผิดพลาด

หยูเหวินหวูพูดประโยคนี้ในใจซ้ำๆ

“ประธานลั่ว ไว้เจอกัน!”

หยูเหวินหวูจ้องลั่วปิงและพูดด้วยรอยยิ้ม

พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป

พอรู้ว่าหยูเหวินหวูไปแล้ว ลั่วปิงถึงรู้สึกปลดเปลื้องภาระหนักอึ้งได้ แต่ความกดดันที่หยูเหวินหวูมีต่อเขานั้นไม่ลดลงเลยสักนิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคที่เขาพูดก่อนไปว่า “ไว้เจอกัน” เป็นการบอกเขาอย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่จบแค่นี้แน่

“เลิกประชุม!”

ลั่วปิงประกาศเลิกประชุมทันที

หลังจากที่พาหยางเฉินกลับไปยังห้องทำงานผู้จัดการใหญ่แล้ว ลั่วปิงนั่งตุ้บลงบนเก้าอี้ทำงาน หอบหายใจยกใหญ่

นาทีที่หยูเหวินหวูปรากฏตัว เขาก็แสร้งทำเป็นเยือกเย็นไปเท่านั้น บัดนี้กลับมาถึงห้องทำงาน เขาถึงสบายใจได้จริงๆ

พักใหญ่กว่าเขาจะได้สติ และมองหยางเฉินอย่างรู้สึกผิดพร้อมเอ่ย “ท่านประธานครับ ทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว”

หยางเฉินส่ายหัว ยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าว “นายทนต่อแรงกดดันของหยูเหวินหวูได้และปะทะซึ่งๆหน้า เท่านี้ก็เกินความคาดหมายของฉันแล้ว อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องออกหน้า ฉันพอใจมากแล้ว”

ลั่วปิงยิ้มอย่างขมขื่น “ถ้าไม่ใช่เพราะท่านประธานเตรียมการไว้แล้ว ผมกลัวว่าผมคงไม่สามารถต่อกรกับหยูเหวินหวูได้จริงๆ”

หยางเฉินยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เป็นที่ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพวกนั้นเป็นกองกำลังเสริมที่เขาเตรียมไว้

ก่อนหน้านี้ตอนที่บีบให้ซ่งซวี่หยาง รองผู้จัดการใหญ่ของกรุ๊ปออกไป หยางเฉินก็สั่งให้หม่าชาวไปจับตาดูไว้แล้ว

ซ่งซวี่หยางในฐานะรองผู้จัดการใหญ่ของกรุ๊ป เขาต่างหากที่เป็นบุคคลที่ติดต่อโดยตรงกับตระกูลอวี๋เหวิน และแลกเปลี่ยนผลประโยชน์

หลักฐานที่อยู่ในมือของเขาพอที่จะรวบผู้บริหารระดับสูงของกรุ๊ปที่เป็นพรรคพวกของหยูเหวินหวูให้หมด

ภายใต้การข่มขู่ของหม่าชาว ซ่งซวี่หยางต้านทานอะไรไม่ได้เลยสักนิด เขาตามหม่าชาวไปมอบตัวแต่โดยดี และมอบหลักฐานของการกระทำความผิดของผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จากนั้นจึงมีภาพเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ที่มาจับตัวคนในห้องประชุม

ขณะเดียวกัน รถเบนท์ลีย์สีดำหน้าประตูเยี่ยนเฉินกรุ๊ปคันหนึ่งขับออกไปช้าๆ

ด้านหลังรถเบนท์ลีย์ มีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ ใบหน้าบิดเบี้ยวสุดๆ

“ไอ้ชั่ว! บังอาจส่งคนของฉันเข้าคุกทั้งหมด นายเป็นคนแรกที่กล้า น้องชายแสนดีของฉัน!”

หยูเหวินหวูพูดอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน สายตาฉายแววอาฆาต

“คุณชายปิง ให้ผมลงมือมั้ยครับ?”

ขณะนั้น บอดี้การ์ดร่างกำยำคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับกล่าวขึ้นเสียงเข้ม

หยูเหวินหวูเหลือบมองเขา สีหน้าค่อยๆกลับสู่ปกติ เขาจ้องบอดี้การ์ดพลางเอ่ย “เหยถ่า นายน่าจะรู้นะว่าการลงมือต้องแลกมาด้วยอะไร”

เมื่อได้ฟัง เหยถ่าก็พูดด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “คุณชายปิงวางใจได้ครับ ผมรู้ดีว่าการลงมือต้องแลกด้วยอะไร ไม่ว่ายังไงในกายเขาก็มีสายเลือดของตระกูลอวี๋เหวินไหลเวียนอยู่ หากจะลงมือต้องกำจัดได้ในคราเดียว ไม่อย่างนั้นหากเรื่องนี้ถูกเปิดโปง จะทำให้คุณชายปิงต้องซวยไปด้วย”

“ในเมื่อนายรู้ ยังยืนกรานจะลงมืออยู่หรือไม่?” หยูเหวินหวูเอ่ยปากถาม

เซลล์ทั้งร่างของเหยถ่าพร้อมรบ เขาพูดด้วยสายตาแน่วแน่ “ยืนกรานแน่นอนครับ!”

“ดี ในเมื่อเป็นเช่นนั้น นายก็เป็นคนลงมือแล้วกัน” สีหน้าของหยูเหวินหวูเริ่มโหดเหี้ยมขึ้น

“ผมสาบานว่าจะรับใช้คุณชายปิงด้วยชีวิต!”

เสียงดังก้องประหนึ่งฟ้าผ่าของเหยถ่าพลันดังขึ้น

ในฐานะทายาทตระกูลอวี๋เหวิน บอดี้การ์ดเคียงกายของเขาจะมีกำลังน่ากลัวขนาดไหนกัน

ไม่ใช่ว่าหยูเหวินหวูไม่อยากลงมือกับหยางเฉิน แต่หากเรื่องนี้ถูกเปิดโปงขึ้นมาจะเกิดผลลัพธ์อันร้ายแรง

อีกด้าน หยางเฉินออกจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว

บัดนี้อุปสรรคในเยี่ยนเฉินกรุ๊ปถูกกำจัดออกไปอย่างหมดจดแล้ว แม้ว่าตอนนี้การก้าวหน้าจะชะงักงันลง แต่ชื่อเสียงของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปโด่งดังอยู่แล้ว และมีอัจฉริยะทางธุรกิจอย่างลั่วปิงอยู่ เชื่อว่าใช้เวลาไม่นานเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็กลับสู่จุดสูงสุดได้

หกโมงเย็น หยางเฉินได้รับโทรศัพท์จากหานเฟยเฟย นัดเขาออกมากินข้าวด้วยกัน

“พี่หยางคะ หนูมีข่าวดีจะบอก หนูสมัครงานสำเร็จแล้วค่ะ หลังจากนี้ก็ได้เป็นพนักงานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว!”

พอเห็นหยางเฉิน หานเฟยเฟยก็พูดอย่างตื่นเต้น

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset