“ไม่งั้น ผมจะไปที่ตระกูลของพวกคุณด้วยตัวเอง!”
“ยกเลิกงานวันเกิดวันนี้ ทุกคนไม่ต้องอยู่ต่อ เชิญกลับไปเถอะ!”
จู่ๆ เย่จี้จงกวาดตามองทุกคน และพูดอย่างน่าเกรงขาม คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
เรื่องมาถึงขนาดนี้ ถ้าขืนให้คนนอกอยู่ต่อ พวกเขาก็จะมองตระกูลเย่เป็นตัวตลก
ทุกคนมองหน้ากันไปมา พวกเขารีบตั้งสติ ทำความเคารพและกล่าวอวยพร จากนั้นจึงพากันแยกย้ายกลับ
คำขู่ของเย่จี้จงเมื่อครู่ ใครๆ ก็รู้ว่าห้ามพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเด็ดขาด
ไม่นาน ในห้องโถงตระกูลเย่ เหลือเพียงแค่หยางเฉินกับหม่าชาว
บรรยากาศค่อนข้างอึดอัด เย่จี้จงค้ำไม้เท้า และมองหยางเฉินอย่างโกรธแค้น
แต่หยางเฉินกลับมีสีหน้าราบเรียบ ยังนั่งอยู่อย่างมั่นคง มีกาน้ำชาลายคราม และถ้วยชาแสนประณีตวางอยู่ตรงหน้า ท่าทางของเขาผ่อนคลาย และนั่งจิบชาอย่างนิ่งเฉย
ส่วนหม่าชาวที่ฆ่าผู้แข็งแกร่งชุดดำเมื่อครู่ ยืนอยู่ข้างหลังหยางเฉินด้วยท่าทีแน่วแน่ สีหน้าของเขาเฉยชา
ทุกคนมองเงียบๆ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา
“หยางเฉิน คนของนาย กล้าฆ่าคนในตระกูลเย่ ยังไม่รีบให้เขาคุกเข่าขอโทษอีก!”
หลังจากที่เย่ม่านอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง เธอตวาดใส่หยางเฉิน ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
ถึงตอนนี้ หยางเฉินเพิ่งจะเงยหน้าช้าๆ เขามองหน้าซีดเผือดของเย่ม่าน และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คนนั้นเขาทำร้ายเพื่อนผมก่อน ข่มขู่ว่าจะฆ่าเพื่อนผม เขาเลยต้องป้องกันตัวไม่ใช่หรือไง”
“ทำไมเมื่อมาถึงถิ่นของพวกคุณ ต้องโยนความผิดทั้งหมด ให้เพื่อนผมอย่างนั้นเหรอ”
“หรือจะบอกว่า คนตระกูลเย่ฆ่าเพื่อนผมได้ แต่เพื่อนผมตอบโต้กลับไม่ได้เหรอ”
“แถมยังจะให้เพื่อนผมคุกเข่าขอโทษ ตระกูลธรรมดาๆ อย่างตระกูลเย่ มีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ”
สีหน้าของหยางเฉินราบเรียบ น้ำเสียงของเขาก็เช่นกัน แต่คำพูดที่ออกมา กลับกระแทกหน้าคนตระกูลเย่เต็มๆ
ตอนนี้อำนาจบนตัวหยางเฉินพลุ่งพล่าน เหมือนเขาคือราชาเพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้
เมื่อหยางเฉินกวาดตามอง ทุกคนที่โดนมอง ถึงกับก้มหน้าลงอัตโนมัติ เพราะไม่กล้าสบตาหยางเฉิน
เย่ม่านกัดฟันแน่น เธอรู้ดีว่าหยางเฉินแข็งแกร่งเพียงใด ขนาดนักสู้อันดับเก้าของสมาคมบูโด อย่างหนิวเกนหุย ยังถูกเขาฆ่าอย่างง่ายดาย
ถ้าไม่ใช่เพราะฉินซี หยางเฉินคงไม่ตอบตกลงเธอ และร่วมมือกับตระกูลเย่
และคงไม่มาตระกูลเย่ในวันนี้
“ฉันเป็นแม่ของเสี่ยวซี! เขาเป็นตาของเสี่ยวซี! เขาแค่อยากเจอหน้าหลานสาวสักครั้ง คนของนายถึงกับต้องฆ่าคน ต่อหน้าทุกคนเลยเหรอ”
“การที่นายทำแบบนี้ รู้ไหมว่าจะทำให้ตระกูลเย่ลำบากใจขนาดไหน”
“ถึงนายจะไม่พอใจตระกูลเย่แค่ไหน ก็ไม่ควรทำตัวไร้มารยาทกับผู้อาวุโสแบบนี้ เข้าใจไหม”
เย่ม่านสะกดกลั้นความกลัวในใจ และกัดฟันพูดออกมา
เธอกลัวหยางเฉินมาก กลัวว่าถ้าหยางเฉินไม่พอใจขึ้นมา แล้วจะฆ่าเธอไปด้วย
ไม่ว่ายังไง หยางเฉินก็เป็นลูกเขยของเธอ ถ้าไม่ไกล่เกลี่ย เรื่องทั้งหมดในวันนี้ ยากมากที่เธอคงจะควบคุมอำนาจในตระกูลเย่ต่อไป
เธอกล้าพนันได้เลยว่า หยางเฉินไม่ฆ่าเธอ เพราะฉินซี
ไม่ใช่แค่เธอ เย่จี้จงก็ด้วย หยางเฉินไม่มีทางทำแน่นอน
ไม่ว่ายังไง พวกเขาเป็นคนในครอบครัวของฉินซี ถ้าเขาฆ่า ฉินซีจะรับเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร
ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้ตระกูลเย่เป็นฝ่ายยั่วโมโห เขาคงไม่ปล่อยให้หม่าชาวลงมือหรอก
เรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเพราะตระกูลเย่หาเรื่องใส่ตัวทั้งนั้น!
“ก่อนที่จะสั่งสอนผม ทางที่ดีคุณช่วยคิดให้ดีก่อนพูด”
หยางเฉินหรี่ตามองเย่ม่าน เขาพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ
เย่ม่านอึ้งไป หยางเฉินกำลังพูดขู่เธอเหรอ
เพราะเธอเคยบอกหยางเฉิน เรื่องที่ต้องการแก้แค้นแทนสามี
ถ้าตอนนี้หยางเฉินพูดออกมา เธอต้องตายอย่างแน่นอน!
ตระกูลเย่ที่ไร้ความเมตตา ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของเย่จี้จง ก็ต้องตายอยู่ดี!
อันที่จริง เธอลืมเรื่องแก้แค้นอะไรนั่น ไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากควบคุมอำนาจในตระกูลเย่
เพราะเธอรู้ดี ขอแค่มีอำนาจในมือ เธอถึงจะมีสิทธิ์เผชิญหน้ากับทุกอย่าง
ถ้าในตอนนั้น เธอมีอำนาจในตระกูลเย่เหมือนตอนนี้ สามีเธอคงไม่ต้องตาย และคงไม่ต้องทิ้งลูกสาวแท้ๆ ของเธอ
สุดท้ายเย่ม่านก็เงียบ หยางเฉินจึงหันไปมองเย่จี้จง และพูดเนิบๆ ว่า “เห็นแก่เสี่ยวซี ผมหวังว่าจะจบกันในวันนี้! แน่นอนว่าถ้าคุณไม่ยอมจบ คุณจะเอายังไง ผมจะสนองให้ทุกอย่าง!”
“นายมันก้าวร้าว! ก้าวร้าวที่สุดในบรรดาคนหนุ่มที่ฉันเคยเจอมา!”
ในที่สุด เย่จี้จงก็เอ่ยขึ้น
เมื่อเขาพูดออกมา ความโกรธแค้นบนตัวเขาค่อยๆ หายไป แววตาที่มองหยางเฉิน เต็มไปด้วยความสับสน
สีหน้าของ เย่จี้จง ทำให้หยางเฉินคิดไม่ถึง
เขารู้สึกว่า ความอาฆาตที่ เย่จี้จงมีต่อเขาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้หายไปหมดแล้ว แววตาที่เขามองมายังตัวเอง แฝงไปด้วยความชื่นชม
หยางเฉินยิ้มบางๆ “ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ ผมก็ยอมรับ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นผมขอลา!”
พูดจบ หยางเฉินเตรียมกลับ
“ขอแค่นายยอมพาหลานสาวฉันกลับมาตระกูล นายจะได้เป็นเจ้าบ้านคนต่อไปของตระกูลเย่!”
หยางเฉินเดินไปได้หลายก้าว จู่ๆ เสียงของ เย่จี้จงดังขึ้นจากข้างหลัง
ตอนนี้ เหล่าญาติสายตรงของตระกูลเย่ พากันเบิกตาโต
เย่จี้จงต้องการให้ลูกเขยตระกูลเย่ มาเป็นเจ้าบ้านอย่างนั้นเหรอ
ขนาดหยางเฉิน ยังตกใจกับคำพูดของ เย่จี้จง
สำหรับเหล่าคนตระกูลสูงส่งในเมืองเยี่ยนตู หยางเฉินรู้ดีว่าพวกเขาให้ความสำคัญ กับทายาทสายตรงมากแค่ไหน
ตอนนี้เย่จี้จงกลับพูดว่า ถ้าหยางเฉินยอมพาฉินซีกลับตระกูล จะมอบตำแหน่งเจ้าบ้านให้หยางเฉิน
“แต่นายต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเย่!”
เย่จี้จงพูดเสริมอีก
“พ่อ เขาเป็นแค่คนนอกตระกูล ถึงจะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเย่ ยังไงก็ยังเป็นคนนอก พ่อจะเอาตำแหน่งเจ้าบ้าน มอบให้เขาได้ยังไง”
หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เย่ชังพูดขึ้นเป็นคนแรก สีหน้าของเขาดูกระวนกระวาย
การที่เขาโดนปลดออกจากตำแหน่งเจ้าบ้าน ทำให้เขาไม่พอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เย่จี้จงจะมอบตำแหน่งเจ้าบ้านให้หยางเฉินอีก เขาจะยอมรับได้ยังไง
ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฉิน งานวันเกิดคงเริ่มไปนานแล้ว ไม่แน่เย่จี้จงอาจจะประกาศว่า เย่ชังเป็นเจ้าบ้านคนต่อไปแล้วด้วย
ตอนนี้ความแค้นที่เย่ชังมีต่อหยางเฉิน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“คุณปู่ ลุงรองพูดถูก ยังไงเขาก็เป็นคนนอก ถ้าเจ้าบ้าน ไม่มีสายเลือดของคนในตระกูล แล้วจะมีค่าอะไรอีก”
จากนั้นเย่หวูซวงก็ลุกขึ้นพูดเช่นกัน
เดิมทีหลังจากที่เย่ชังโดนปลดออกจากตำแหน่งเจ้าบ้าน คนที่มีโอกาสที่สุดคือเขา ส่วนเย่ม่าน เป็นเพียงแรงกดดันเล็กน้อยสำหรับเขาเท่านั้น ไม่มีอะไรอย่างอื่น
แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึง เย่จี้จงจะให้คนนอก มาเป็นเจ้าบ้านตระกูลเย่