The King of War – ตอนที่ 567 คนโง่ทั้งสอง

“ไอ้หนู ข้าจะให้โอกาสแกมีชีวิตรอดอีกสักครั้ง มาคุกเข่าลงแทบเท้าข้าเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น วันนี้ในปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของแก!”

ดวงตาของเถียนซินหยู่เต็มไปด้วยความดุร้าย และจ้องเขม็งไปที่หม่าชาว

ข่มขู่!

เป็นการข่มขู่กันอย่างดื้อๆ!

หม่าชาวถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่ “งั้นผมจะให้โอกาสคุณมากราบแทบเท้าผมเหมือนกัน ไม่อย่างนั้น ผมรับประกันว่าคุณจะกลายเป็นคนพิการและต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต!”

“ไอ้สารเลว รนหาที่ตายงั้นเหรอ!”

เถียนซินหยู่โกรธจนสุดขีด เขาไม่พูดอะไรอีกและเหวี่ยงหมัดไปที่หม่าชาวทันที

ไม่แปลกเลยที่เขาเย่อหยิ่งขนาดนี้ เพราะแท้จริงแล้วเขาก็เป็นคนฝึกวิชาเหมือนกัน ถึงแม้จะอ้วนไปหน่อย แต่ฝีมือนั้นกราดเกรี้ยวมาก

เมื่อเทียบกับคนธรรมดาทั่วไป เขาถือว่าเป็นคนที่มีฝีมือและสามารถสู้กันหนึ่งต่อสองได้

แต่ว่า เขากลับไม่รู้ว่าคนที่เขากำลังจะต่อยนั้นไม่ใช่คนธรรมดา เพราะต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเถียน เมื่อต้องเผชิญกับหม่าชาวแล้ว เขาก็ต้องเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอยู่ดี

หม่าชาวยืนอยู่กับที่อย่างไม่ขยับเขยื้อนและด้วยสายตาที่เย็นชา

“ที่รักคะ สู้ๆ นะ ฆ่าไอ้หน้าจืดคนนี้เลย ให้มันรู้ไปว่าจุดจบของการที่อยากเสนอหน้ามาช่วยนังตัวร้ายคนนี้มันต้องเจอกับอะไร!”

หลินเจียวพูดอย่างชั่วร้าย

เธอแค่มีเรื่องถกเถียงกับอ้ายหลินเท่านั้น แต่ถึงขั้นจะฆ่าหม่าชาวเลย

“ไปตายซะ!”

เถียนซินหยู่ตะโกนอย่างเสียงดัง ทันใดนั้น มีดสั้นปรากฏขึ้นในมือของเขา และเขาก็แทงไปยังหน้าท้องของหม่าชาวทันที

ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ในสายตาของคนอย่างเขาแล้ว คนธรรมดาเป็นได้แค่มดน้อยตัวหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้จะอยู่ในที่สาธารณะ เขาคิดจะฆ่าก็ฆ่าโดยที่ไม่สนใจใครเลย

“ไม่รู้จักเจียมตัวจริงๆ!”

แสงเย็นประกายในดวงตาของหม่าชาว

เมื่อเห็นมีดสั้นใจมือของเถียนซินหยู่ที่กำลังแทงเข้ามา และในเวลานี้หม่าชาวก็ได้ขยับตัวอย่างกะทันหัน

“สึบ!”

ในชั่วพริบตานั้น หม่าชาวเหยียดสองนิ้วออกไปและหนีบมีดสั้นนั้นไว้

ทำให้สีหน้าของเถียนซินหยู่เปลี่ยนไปทันที เพราะเขาใช้แรงทั้งหมดที่มีแล้ว แต่สุดท้ายหม่าชาวกลับใช้เพียงสองนิ้วก็สามารถหยุดมีดของเขาได้

และเขาไม่สามารถแทงไปข้างหน้าได้อีก

จนกระทั่งถึงเวลานี้เองที่เขาจะตระหนักได้ว่าเขาได้พบกับปรมาจารย์ที่แท้จริงแล้ว และสีหน้าของเขาก็ซีดลงทันที

“ที่รัก คุณทำอะไรอยู่?”

“แทงมันสิ แทงมันให้ตายเลยสิ!”

“ให้พวกมันรู้ว่าคนที่กล้าท้าทายคุณมันจะต้องเจอกับอะไร”

หลินเจียวตะโกนอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่

อ้ายหลินก็มองหลินเจียวเหมือนคนบ้าคนหนึ่ง เธอได้แต่ส่ายหัวและไม่เข้าใจว่าผู้หญิงแบบนี้ยังกล้ามาต่อกรกับเธอ

เถียนซินหยู่ก็ด่าหลินเจียวในใจว่าทำไมเธอถึงงี่เง่าขนาดนี้ เพราะมีดของเขาถูกหม่าชาวหนีบไว้ด้วยสองนิ้วเท่านั้น ในเวลานี้เขาต่างหากที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก

หลินเจียวยังให้เขาฆ่าหม่าชาวด้วย รนหาที่ตายชัดๆ?

“มีแรงแค่นี้เหรอ?”

หม่าชาวยิ้มพูดกับเขา

เถียนซินหยู่ถึงกับหน้าแดงก่ำและกัดฟันแน่นๆ แล้วกระซิบพูดว่า “ไอ้หนู แกปล่อยมือแล้วให้ข้าแทงแกซะ ข้ารับปากว่าจะไม่ฆ่าแก ถ้าแกให้เกียรติข้า ตระกูลเถียนของข้าก็จะไม่ทำอะไรแก ไม่อย่างนั้น ต่อไปแกจะต้องเจอกับการไล่ล่าของตระกูลเถียนทั้งตระกูล”

เสียงของเขาเบามาก มีเพียงหม่าชาวกับเขาเท่านั้นที่ได้ยิน

หม่าชาวมองไปที่เถียนซินหยู่ด้วยท่าทางแปลกๆ ทันใดนั้นเขาถึงกับพูดไม่ออกและไม่เข้าใจว่าทำไมยังมีคนโง่เขลาขนาดนั้น?

ไอ้หมอนี่เป็นทายาทของตระกูลเถียน หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูจริงหรือ?

“เคร้ง!”

สองนิ้วของหม่าชาวใช้แรงอย่างกะทันหัน และมีดก็แตกหักทันที

“แก……”

ในวินาทีถัดมา ใบหน้าของเถียนซินหยู่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เนื่องจากหม่าชาวได้คว้าข้อมือของเขาไว้แล้ว และเขาก็พูดด้วยความหวาดกลัวว่า “แก แกคิดจะทำอะไร?”

“ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าผมจะทำให้คุณพิการไปตลอดชีวิต คุณลืมไวจริงๆ เลยนะ?”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของหม่าชาว ซึ่งทำให้เถียนซินหยู่มองแล้วตัวสั่นอย่างไม่หยุด

“ที่รัก คุณทำอะไรเนี่ย?”

“ทำไมไม่ฆ่ามันล่ะ?”

“มันเป็นแค่กิ๊กของอินังตัวร้ายอ้ายหลิน อยู่ไปก็เท่านั้น ฆ่ามันให้ตายไปเลยสิ!”

หลินเจียวยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์และพูดอย่างเสียงดังไม่หยุด

เมื่อพูดจบ เธอยังไม่ลืมที่จะหันมองไปที่อ้ายหลินแล้วพูดเยาะเย้ยว่า “อ้ายหลิน ถ้าเธอยอมมากราบแทบเท้าฉัน ไม่แน่ฉันอาจจะใจบุญแล้วปล่อยเธอไปก็ได้นะ”

อ้ายหลินถึงกับหัวเราะออกมา “เธอก็พูดขนาดนี้แล้ว คุกเข่าลงสิ! คุกเข่าลงขอโทษฉัน แล้วฉันจะปล่อยเธอไป”

“ยัยบื้อ นี่เธอยังไม่เข้าใจสถานการณ์เหรอ? กิ๊กของเธอใกล้ตายแล้วนะ เธอยังมาเสแสร้งอะไรแถวนี้?” หลินเจียวพูดด้วยความโกรธ

แม้แต่ฉินซียังอดไม่ได้ที่จะขบขัน ตอนนี้ข้อมือของเถียนซินหยู่ถูกหม่าชาวจับไว้แล้ว เธอไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่า ทำไมหลินเจียวยังคิดว่าหม่าชาวกำลังจะถูกฆ่า?

“แคร่ก!”

ในขณะนั้นเอง เสียงกระดูกแตกหักก็ดังขึ้น

“ฮ่า ๆ อ้ายหลิน ต่อให้เธอคุกเข่ากราบฉันตอนนี้มันก็สายไปแล้ว เพราะว่าแฟนเธอพิการไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ ……”

หลังจากหลินเจียวได้ยินเสียงกระดูกแตกหักนั้น เธอก็หัวเราะออกมาดังๆ

“อ๊าก……”

ขณะที่เธอกำลังหัวเราะอย่างเสียงดัง ในเวลาเดียวกันเสียงคร่ำครวญอันน่าสลดใจก็ดังสนั่นไปทั่วร้านเสื้อผ้า

เหล่าพนักงานร้านค้าถึงกับตกใจจนหน้าซีดทันที

“อ้ายหลิน ต่อไปตาเธอแล้วสินะ ไหนว่ามาสิ๊ ว่าเธออยากตายท่าไหน?”

หลินเจียวยังคงข่มขู่อ้ายหลินโดยที่ไม่สนใจว่าเสียงกรีดร้องเมื่อครู่นี้เป็นของเถียนซินหยู่

“แคร่ก แคร่ก แคร่ก!!!”

ในขณะนี้ เสียงกระดูกแตกหักดังขึ้นอีกสามครั้ง เถียนซินหยู่คร่ำครวญอย่างเจ็บปวดและสุดท้ายก็ได้สลบไป

“ฮ่า ๆ ……”

หลินเจียวหัวเราะอย่างสะใจ ““อ้ายหลิน กิ๊กเธอไม่ส่งเสียงแล้ว สงสัยคงตายแล้วล่ะ?”

“ที่รัก คุณอยากให้ผมจัดการยังไงกับยัยโง่คนนี้? จะให้ผมฆ่าเธอเลยไหม?”

ในขณะที่หลินเจียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหารก็ดังขึ้น

เสียงนี้น่าสยดจนทำให้เสียงหัวเราะของหลินเจียวต้องหยุดไปอย่างกะทันหัน จากนั้นเธอหันมองไปที่หม่าชาวที่เดินกลับมาหาอ้ายหลินด้วยความตกใจ

“ทะ……ทำไมแกยังไม่ตาย?”

หลินเจียวพูดด้วยเสียงที่สั่นคลอนและสีหน้าก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เมื่อเธอหันกลับไป เธอก็เห็นแฟนของเธอซึ่งกำลังนอนอยู่บนพื้นในเวลานี้ และมีเลือดหยดลงบนเข่าของแขนขาของเขา

ตู้ม!

เสียงดังสนั่นขึ้นในใจเธอ และนัยน์ตาของเธอเหลือเพียงความกลัวเท่านั้น

จนกระทั่งเวลานี้ เธอถึงจะตื่นจากความเพ้อฝัน และนึกได้ว่าเสียงกรีดร้องครวญครางเมื่อกี้นี้เป็นเสียงของแฟนเธอ

“หลินเจียว คุกเข่าขอโทษซะ แล้วฉันจะปล่อยเธอไป!” ตามด้วยเสียงของอ้ายหลินดังขึ้น

“พรึ่บ!”

สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจคือหลินเจียวที่ยังคงหยิ่งยโสในก่อนหน้านี้ เมื่อได้ยินคำพูดของอ้ายหลินแล้ว เธอก็คุกเข่าลงอย่างไม่มีการลังเลเลย แม้แต่เสียงพูดของอ้ายหลินยังไม่ทันจบ ขาทั้งคู่ของเธอก็เหมือนไร้กระดูกและฟุบลงกับพื้น

“อ้ายหลิน ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ฉันมันเลว ฉันมันโง่ ถึงกล้าไปด่าเธอ ฉันมันงี่เง่า ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ!”

หลินเจียวพูดขอโทษพร้อมกับด่าตัวเองไปด้วยและก้มกราบอ้ายหลินอย่างไม่หยุด

แม้แต่อ้ายหลินเองยังถึงกับตะลึง หลังจากหลินเจียวให้เธอคุกเข่าขอความเมตตา เธอก็แค่จะตอบโต้โดยการให้หลินเจียวขอความเมตตาเธอเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าหลินเจียวจะก้มกราบแทบเท้าเธอขนาดนี้!

“วันหลังไปไหนทำอะไรช่วยตั้งสติด้วยนะ เธอโง่ขนาดนี้ ไม่กลัวคนอื่นที่อยู่กับเธอต้องซวยไปด้วยเหรอ?”

อ้ายหลินพูดเบาๆ

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset