ชายวัยกลางคนในชุดชุดสามัญชนโบราณผู้ซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งที่ยืนอยู่ด้านหลังซ่งหวาเหว่ยก็เต็มไปด้วยความระแวดระวัง ดูเหมือนเขากังวลว่าหยางเฉินจะทำร้ายซ่งหวาเหว่ยอย่างกะทันหัน เขาจึงก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อปกป้องซ่งหวาเหว่ยไว้
“แกกล้าฆ่าทายาทสายตรงของตระกูลซ่งงั้นเหรอ?”
ซ่งหวาเหว่ยรู้สึกเหลือเชื่อมาก และความโกรธก็ทำให้เขาโพล่งออกมา
หยางเฉินหรี่ตาแล้วตอบว่า “ผมไม่ถือสาถ้าใครคิดจะฆ่าผมหรอกนะ แต่ถ้าเขาคิดจะทำจริง เขาก็ต้องตายสถานเดียว!”
ในเวลานี้ หยางเฉินเต็มไปด้วยออร่าของคนสูงส่ง
เพราะเขาเป็นถึงผู้พิทักษ์ในดินแดนเหนือ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือสถานะก็ไม่มีใครเทียบกับเขาได้อยู่แล้ว แล้วคนแบบนี้จะมีสักกี่คนในโลกใบนี้?
ซ่งหวาเหว่ยที่ถูกหยางเฉินจ้องมอง และในขณะนี้ เขารู้สึกว่าตนกำลังถูกสัตว์ป่าเพ่งมองและร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง
ในฐานะลูกชายคนโตของทายาทรุ่นที่สามในตระกูลซ่ง และยังเป็นสายตรงที่มีศักยภาพสูงสุดในการรับตำแหน่งผู้สืบทอดของตระกูล แล้วเขาจะเป็นคนโง่ขนาดนั้นได้อย่างไร?
นับตั้งแต่ยอดฝีมือในชุดชุดสามัญชนโบราณเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉิน เพราะแม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่คอยปกป้องเขายังสัมผัสถึงภัยคุกคามอันใหญ่หลวงนั้นได้
ไม่อย่างนั้นผู้แข็งแกร่งในชุดชุดสามัญชนโบราณคงไม่มายืนขวางอยู่ตรงหน้าเขาหรอก
“พี่ใหญ่ พี่ใจเย็นก่อน!”
ในเวลานี้ ซ่งหวายี่ก็ตั้งสติได้และรีบเข้ามาพูดด้วยสีหน้ากังวลใจ
ในความเห็นของเขา ตำแหน่งของหยางเฉินในกองทัพนั้นสูงมาก หยางเฉินอาจเป็นถึงผู้บัญชาการสูงสุด หรือเป็นตำแหน่งที่เทียบเท่ากับตำแหน่งราชวงศ์ก็เป็นได้
ณ ขณะนี้ หยางเฉินฆ่าซ่งหวาตงไปแล้ว ถ้าหากเขาฆ่าซ่งหวาเหว่ยไปอีกคน เกรงว่าตระกูลซ่งจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับหยางเฉินอย่างไม่มีวันจบสิ้นแน่
ถึงเวลานั้น ตระกูลซ่งอาจต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ก็เป็นไปได้
เพราะการที่เขาเข้าหาหยางเฉินก็เพื่อจะขอให้หยางเฉินช่วยในการต่อสู้ของเขาก็เท่านั้น แต่ไม่เคยคิดจะขอให้หยางเฉินช่วยเขาฆ่าคู่ต่อสู้เลย
“ซ่งหวายี่ คนนี้เหรอที่จะมาลงแข่งให้นาย?”
สายตาอันเฉียบคมของซ่งหวาเหว่ยจ้องไปที่ซ่งหวายี่ จากนั้นกัดฟันพูดต่อ “ตอนนี้มันฆ่าน้องสามไปแล้ว ข้าอยากรู้เหมือนกันว่านายจะกลับไปอธิบายให้ที่บ้านยังไง!”
สีหน้าซ่งหวายี่ดูอึดอัดใจมาก ในเวลานี้เขาไม่รู้จะยอมรับหรือจะปฏิเสธดี
“อยากให้ผมลงแข่ง ต่อให้เป็นเจ้าบ้านตระกูลซ่งก็ไม่มีสิทธิ์นั้นหรอก!” หยางเฉินพูดอย่างเฉยเมย
ถึงแม้เขาไม่สนใจว่าซ่งหวายี่จะเป็นหรือตาย แต่ทั้งสองก็ถือว่ายังเป็นเพื่อนกันอยู่ เขาจึงไม่จำเป็นต้องให้ซ่งหวายี่มารับผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปด้วย
ซึ่งเห็นได้ชัดว่าซ่งหวาเหว่ยตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ในการกำจัดซ่งหวายี่ออกไป
เพราะซ่งหวาตงก็ตายไปแล้ว ตอนนี้คู่แข่งของเขาเหลือเพียงซ่งหวายี่คนเดียวเท่านั้น
“คุณเป็นใครกันแน่?”
ซ่งหวาเหว่ยจ้องมองหยางเฉินอยู่สักพักและถามเขาด้วยความสงสัย
ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งที่หยางเฉินแสดงให้เห็น หรือจะเป็นออร่าในตัวเขา มันก็ทำให้ซ่งหวาเหว่ยรู้สึกได้ว่าหยางเฉินนั้นไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
“เขาก็แค่ลูกชายที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลอวี๋เหวิน คุณไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรหรอก”
ในขณะนี้ เสียงที่เต็มไปด้วยการประชดดังขึ้น
ทุกคนรีบหันไปมองและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
ซ่งหวาเหว่ยที่เห็นเขาคนนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที “อวี๋เหวินปิง!”
คนที่มาคืออวี๋เหวินปิง ส่วนด้านหลังเขาคือชายชราในชุดจีนราชวงศ์ถังคนที่เพิ่งช่วยเหลือเขาก่อนหน้านี้มาด้วย
“จะว่าไป เขายังเป็นน้องชายผมนะ เมื่อสิบกว่าปีก่อน เขาถูกไล่ออกจากครอบครัวและแม้กระทั่งถูกไล่ออกจากเมืองเยี่ยนตูด้วย”
“และเมื่อห้าปีที่แล้ว เขายังเป็นแค่ลูกเขยไร้ค่าคนหนึ่ง จากนั้นก็เข้ารับราชการทหารเป็นเวลาห้าปี นี่ก็เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน”
“ทักษะทั้งหมดก็คงเรียนรู้จากการเป็นทหาร”
“แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ยังไงเขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งอยู่ดี”
อวี๋เหวินปิงพูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซ่งหวาเหว่ยก็เพิ่งรู้สถานะตัวตนของหยางเฉิน ที่แท้เคยเป็นทหารมาห้าปี ถึงว่าทำไมแข็งแกร่งขนาดนี้
“อวี๋เหวินปิง นี่เป็นเรื่องตระกูลซ่งของเรา ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณคิดจะยุยงให้พวกเราแตกแยกงั้นเหรอ?” ซ่งหวายี่ก้าวออกมาแล้วพูดอย่างไม่พอใจ
เขาเข้าใจทุกอย่างในสิ่งที่อวี๋เหวินปิงพูด แต่อวี๋เหวินปิงนั้นพูดง่ายเกินไป ด้วยทักษะฝีมือของหยางเฉินแล้ว เขาจะเป็นแค่ทหารธรรมดาได้อย่างไร?
อวี๋เหวินปิงกางมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมก็แค่พูดความจริงเท่านั้น ถ้าพวกคุณจะคิดว่าผมมาเพื่อยุยงให้แตกแยกก็ไม่เป็นไรหรอก”
ซ่งหวาเหว่ยไม่ได้พูดอะไร ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หยางเฉิน
หากเขาปล่อยให้เรื่องจบลงแบบนี้ ไม่เพียงแต่เขาที่ต้องเสียหน้าคนเดียว แต่ยังรวมถึงตระกูลซ่งของเขาด้วย
แต่ถ้าจะทำอะไรกับหยางเฉิน แล้วผู้แข็งแกร่งที่เขาพามาจะรับมือไหวไหม?
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าหยางเฉินเป็นลูกชายที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลอวี๋เหวิน แต่เขาไม่ได้โง่ถึงขั้นคิดว่าหยางเฉินเป็นแค่ทหารธรรมดาที่เพิ่งเกษียณมาเท่านั้น
ฆ่ายอดฝีมือของซ่งหวาตงได้ด้วยการเตะเพียงแค่ครั้งเดียว และยังฆ่าซ่งหวาตงด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว
คนแบบนี้จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร?
“ผมจะบอกคุณในสังเวียนเองว่าการที่คุณท้าทายตระกูลซ่งจะต้องเจอกับอะไร!”
ในขณะนี้ ผู้แข็งแกร่งในชุดสามัญชนโบราณที่ยืนอยู่ข้างซ่งหวาเหว่ยก็พูดขึ้นอย่างกะทันหัน
“ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายพอ เจอกันที่เวทีสังเวียน!” ซ่งหวาเหว่ยก็เจอทางออกจนได้ เขาจึงพูดจาข่มขู่หยางเฉินแล้วพาคนเดินจากไป
แต่หยางเฉินไม่ได้สนใจต่อการข่มขู่ของเขา ได้แต่หรี่ตามองอวี๋เหวินปิงแล้วพูดว่า “ครั้งก่อนผมไม่ได้ฆ่าคุณ คุณคงไม่คิดว่าวันนี้จะอยู่รอดไปได้อีกนะ?”
เมื่อเผชิญกับสายตาอันดุร้ายของหยางเฉิน อวี๋เหวินปิงก็อดตัวสั่นไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขายังเต็มไปด้วยความโกรธ “ถ้าอยู่ข้างนอก บางทีผมอาจจะกลัวคำข่มขู่ของคุณก็ได้นะ แต่ที่นี่คือคลับหวงจิน คิดอยากฆ่าผมงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!”
เดิมทีเขายังอยากเห็นการต่อสู้ระหว่างซ่งหวาเหว่ยกับหยางเฉิน แต่ไม่นึกเลยว่าซ่งหวาเหว่ยจะกลัวจนถอนตัวออกไป
“งั้นเหรอ?”
มุมปากของหยางเฉินยกขึ้นเล็กน้อย และรอยยิ้มอันเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า
ชายชราในชุดจีนรีบก้าวออกมาแล้วจ้องมองไปที่หยางเฉินด้วยความระมัดระวัง “ไอ้หนู ข้าขอรับประกันได้เลยว่า ถ้าแกกล้าทำอะไรใครที่นี่ แกจะตายโดยไม่มีที่ฝังศพแน่!”
“ขู่ผมงั้นเหรอ?”
หยางเฉินยิ้มพูด
และในวินาทีต่อมา ร่างกายของเขาหายไปจากที่เดิมแล้วมาโผ่ลอีกทีเมื่ออยู่ต่อหน้าอวี๋เหวินปิง
“พรึบ!”
จากนั้นเขายื่นมือออกไปคว้าคอของอวี๋เหวินปิงไว้แล้วใช้แรงบีบทันที ในระหว่างที่ทุกคนรู้สึกไม่คาดคิดอยู่นั้น ร่างกายของอวี๋เหวินปิงก็ถูกยกขึ้นกลางอากาศ
ในขณะนี้ สายตาของชายชราในชุดจีนก็เต็มไปด้วยความตกใจ
เขาเคยประลองกับหยางเฉินมาแล้ว ซึ่งก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉินดี แต่ไม่นึกเลยว่าครั้งนี้หยางเฉินกลับควบคุมชีวิตความเป็นความตายของอวี๋เหวินปิงได้ภายใต้การดูแลของเขา
เพราะครั้งก่อนที่สู้กับชายชราคนนี้ หยางเฉินไม่ได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ และเหตุผลที่ปล่อยพวกเขาไปก็เพราะอวี๋เหวินปิงรู้ความลับเกี่ยวกับแม่ของหยางเฉิน
“ตอนนี้ชีวิตของอวี๋เหวินปิงขึ้นอยู่กับผมแล้ว คุณจะทำอะไรผมได้บ้าง?”
หยางเฉินมองไปที่ชายชราในชุดจีนด้วยความดูถูกและถามเขาอย่างเย็นชา
ณ ขณะนี้ แทบจะทุกคนให้ความสนใจกับหยางเฉิน เพราะเขาเพิ่งฆ่าทายาทสายตรงของตระกูลซ่งไป
และในตอนนี้ ชีวิตของทายาทสายตรงอีกคนจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็ถูกหยางเฉินควบคุมไว้ หรือว่าหยางเฉินจะฆ่าอีกคนงั้นหรือ?
อวี๋เหวินปิงรู้สึกอับอายขายหน้ามาก เพราะเขาถูกหยางเฉินบีบคอต่อหน้าสาธารณะเหมือนลูกไก่ตัวหนึ่ง และมันก็เป็นความอัปยศอดสูของเขา
“คุณใจเย็นๆ ก่อน!” ชายชราในชุดจีนไม่กล้ายั่วยุหยางเฉินอีก ได้แต่พูดอย่างเคร่งขรึม
ในขณะเดียวกัน รัศมีอันทรงพลังที่ซ่อนอยู่ในคลับหวงจินได้เข้าปกคลุมตัวของหยางเฉิน