หยางเฉินมองผู้แข็งแกร่งตระกูลเฉาที่อยู่รอบด้านอย่างสบายๆ และมองไปทางเฉาฮุย ถามอย่างหยอกล้อ “นายมั่นใจขนาดนี้เลยว่าคนพวกนี้จะสามารถขวางทางฉันเอาไว้ได้?”
เห็นหยางเฉินมองทางตนเอง เฉาฮุยอดตัวสั่นเทาไม่ได้
เมื่อคืนนี้ข้างกายเขามีผู้แข็งแกร่งชั้นสูงของตระกูลสองคน ผลปรากฏว่าหยางเฉินอยู่ภายใต้สายตาประชาชน ยกเขาขึ้นด้วยมือข้างเดียวต่อหน้าทุกคน
วันนี้เขาจึงจงใจพาผู้แข็งแกร่งของตระกูลมาเพิ่มอีก เพื่อให้สามารถรับมือหยางเฉินได้
แต่ว่ามองท่าทางที่ไม่กังวลและหวาดกลัวของหยางเฉินแล้ว ทันใดนั้นเขาหวาดหวั่นอยู่บ้าง
“ฉันขอเตือนนายไว้ เอาชิปของฉันไปแลกมาซะ บวกกับค่าทำขวัญหนึ่งร้อยล้านของเมื่อคืนเอามาให้ฉันดีๆ ฉันจะออกไปตอนนี้”
หยางเฉินถูกผู้แข็งแกร่งตระกูลเฉาสี่คนล้อมรอบ ยังคงไม่มีความหวาดกลัวสักนิด กอดหน้าอกไว้ ยิ้มกริ่มพูดว่า “ไม่อย่างนั้น ค่าทำขวัญ จะเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่า”
ทันใดนั้น เฉาฮุยมีความรู้สึกแบบขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก
ในคลับหวงจิน ยังมีพนักงานอีกมากมาย ล้วนมองกันอยู่ ถ้าเขาปล่อยหยางเฉินไปอย่างง่ายดายขนาดนี้จริง ต่อไปเขายังมีหน้าอยู่ที่นี่ต่อไปได้อย่างไร?
“ลงมือ!”
ในที่สุดเฉาฮุยออกคำสั่งให้ลงมือแล้ว
แต่ชั่วขณะที่เขาสั่งการไป หยางเฉินพุ่งเข้ามาเรียบร้อย
“ตึง!”
เสียงดังสนั่นทีหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งของตระกูลที่อยู่ด้านหน้าเขาคนนั้น เหมือนกับลูกฟุตบอล โดนชนจนลอยออกไปโดยตรงแล้ว
เขายังไม่ทันได้สติกลับมา หยางเฉินก็ตีฝ่าวงล้อม ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
“คุณชายฮุย คนของนาย เหมือนจะฝีมืออ่อนไปหน่อยนะ”
หยางเฉินยิ้มกริ่มพูดไป
วินาทีนี้ ทุกคนต่างเบิกดวงตาโต ถึงแม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งอยู่สนามมวยใต้ดินเมื่อคืนที่เคยรับรู้ว่าหยางเฉินเก่งกาจพวกนั้น เวลานี้มีความรู้สึกเหมือนฝันไปเช่นกัน
พวกเขาในฐานะผู้แข็งแกร่งชั้นสูงของตระกูลเฉา ทั้งสี่คนยังแตะไม่โดนแม้แต่เสื้อผ้าของหยางเฉิน ก็ถูกหยางเฉินตีฝ่าวงล้อมได้แล้ว
“นาย……นาย นี่……นี่เป็นไปได้ยังไง?”
เฉาฮุยตกใจจนพูดไม่ปะติดปะต่อกัน สั่นเทาทั้งตัว
“คุณชายฮุย นายไม่ต้องกลัว ฉันไม่ต่อยนายหรอก”
เห็นเฉาฮุยที่ตัวสั่นงันงก หยางเฉินจึงยิ้มด้วยหน้าตาอ่อนโยน “ค่าทำขวัญเมื่อคืนคือหนึ่งร้อยล้าน วันนี้ฉันเคยเตือนนายไปแล้ว แต่นายยังไม่ยอมฟังเอง”
“เอาแบบนี้แล้วกัน ชิปจำนวนหนึ่งหมื่นสองพันเก้าร้อยล้าน บวกกับค่าทำขวัญหนึ่งร้อยล้านของเมื่อวาน รวมกับวันนี้พอดีด้วย เป็นหนึ่งหมื่นห้าพันล้าน”
ขณะกำลังพูด หยางเฉินทิ้งบัตรธนาคารใบหนึ่งออกไป พูดจาแบบยิ้มกริ่ม “ภายในห้านาที เอาเงินโอนมาไว้ที่บัตรใบนี้ ไม่อย่างนั้น ดอกเบี้ยของฉันสูงมากนะ”
เฉาฮุยใกล้จะร้องไห้แล้ว นี่ชัดเจนว่าหยางเฉินกำลังไถเงิน คือค่าทำขวัญที่ไหนกัน?
เคยเจอค่าทำขวัญสองพันล้านงั้นเหรอ?
เขาโตมาขนาดนี้ แต่ไหนแต่ไรล้วนเป็นคนอื่นมาประจบสอพลอ ถ้าเขาอยากซื้อที่ดินผืนนั้น ถ้าเกิดคนอื่นรู้สถานะของเขา แม้กระทั่งไม่ต้องจ่ายเงิน คนอื่นก็ส่งให้เขาโดยตรงเลย
หยางเฉินยังเป็นคนแรก ที่เขาจ่ายราคาสูงซื้อที่ดิน แถมยังไม่ขายให้เขา
ปัจจุบันนี้ ยังอยากรีดไถเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้อีก
คลับหวงจินเป็นที่ทำเงินได้มาก แต่ว่าส่วนใหญ่ถูกตระกูลกลุ่มต่างๆ นำไปแล้ว ส่วนเขาก็เป็นเพียงตัวแทนจัดการ ขอบเขตเงินที่สามารถใช้งานได้ ก็แค่หนึ่งหมื่นล้าน
ปัจจุบันนี้ หยางเฉินอยากให้เขาเอาออกมาหนึ่งหมื่นห้าพันล้านอย่างคาดไม่ถึง
“ยังอึ้งอยู่ทำอะไร? รีบเอาเงินให้คุณหยางสิ!”
ทันใดนั้นเฉาฮุยโมโหคำรามขึ้นมาใส่พนักงานการเงินที่อยู่ด้านหลัง
ต่อให้ไม่ยินยอมอย่างไร เขาก็ไม่กล้าปฏิเสธหยางเฉินหรอก!
ถ้าเกินกว่าห้านาทีไปจริง ใครจะรู้ว่าหยางเฉินยังจะเพิ่มดอกเบี้ยมากเท่าไร
หยางเฉินไม่รีบร้อน นั่งอยู่บนเก้าอี้มีระดับด้านข้าง ยิ้มกริ่มมองเฉาฮุย
เดิมที เขามาที่คลับหวงจิน เพื่อเตรียมสังหารหมู่ ส่วนเฉาฮุย เป็นคนที่จำเป็นต้องตาย
ดีที่ลั่วปิงโทรศัพท์เข้ามาทันเวลา อธิบายสาเหตุหลักที่รีบช่วยชีวิตศาสตราจารย์ตู้โดยด่วนว่าเป็นเพราะโรคหัวใจ ถึงทำให้ความคิดอาฆาตของหยางเฉินเลือนหาย
มิฉะนั้น คลับหวงจินในตอนนี้ คงนองเลือดแล้ว
เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่เดียว เฉาฮุยกลับรู้สึกว่าเวลาเดินช้ามาก เขายืนอยู่ด้านข้างหยางเฉิน ร่างกายสั่นเทาอยู่ตลอด
ในที่สุด หยางเฉินก็ได้รับข้อความเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว หนึ่งหมื่นห้าพันล้าน
พนักงานการเงินนำบัตรธนาคารของหยางเฉินส่งเข้ามาด้วยความเคารพนบนอบ “คุณหยาง เงินโอนเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วครับ!”
“คุณชายฮุย ถ้าต่อไปเงินมากไม่มีที่ใช้แล้ว อย่าลืมมาหาฉันอีกนะ? ฉันไม่เกรงใจหรอก”
หยางเฉินเก็บบัตรธนาคารไว้ หัวเราะบอกไป
การแสดงออกบนหน้าของเฉาฮุยวิเศษที่สุด ใกล้จะร้องไห้อยู่แล้ว รีบบอกทันที “คุณหยางเดินทางปลอดภัยครับ!”
หยางเฉินโบกมือให้ “ไปแล้วนะ!”
พูดจบ เขาเดินท่าทางหยิ่งยโสไม่สนอะไรทั้งสิ้นจากไป
จนกระทั่งหยางเฉินหายลับไปจากในเส้นสายตาของเฉาฮุย เขาถึงเหมือนยกภูเขาออกจากอก ขาอ่อนนั่งลงบนเก้าอี้หวาย หน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ
“คุณชายฮุยครับ หรือว่าจะปล่อยเจ้าหนุ่มนั้นไปแบบนี้?”
ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทคนหนึ่งเดินมาถึงข้างกายเฉาฮุย ถามเบาๆ
“ไม่ทำแบบนี้ ยังทำแบบไหนได้อีก?”
เฉาฮุยตวาดขึ้นมา “ถ้านายขัดขวางเขาไว้ได้ นายก็ไปขวางเขาสิ!”
ชายวัยกลางคนตกใจแทบแย่ รีบหุบปากไว้แล้ว
“เรื่องในวันนี้ ใครก็ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”
เฉาฮุยกวาดสายตาทั่วทั้งหมด กัดฟันแน่นพลางพูดขึ้น
พนักงานเหล่านั้น ตกใจตนตัวสั่นกัน รีบแสดงออกว่าจะไม่พูดมั่วซั่ว
ใจจำนวนเงินหนึ่งหมื่นห้าพันล้านนั้นที่หยางเฉินนำไป นอกจากสองพันหนึ่งร้อยล้านที่หยางเฉินแลกชิปมาแล้ว หนึ่งหมื่นสองพันเก้าร้อยล้านที่เหลือ ล้วนเป็นกำไรของคลับหวงจิน
เงินก้อนนี้ เฉาฮุยสามารถปิดซ่อนได้ชั่วคราว ตอนนี้เขาได้เพียงคิดหาวิธี พยายามนำเงินหนึ่งหมื่นสองพันเก้าร้อยล้านที่ขาดนี้เติมกลับมาโดยเร็ว
ไม่อย่างนั้นหากตระกูลเฉารู้เข้า ชีวิตสงบสุขของเขาคงถึงจุดสิ้นสุดแล้ว แม้กระทั่งอาจจะถูกตระกูลลงโทษ
อีกด้านหนึ่ง หลังหยางเฉินออกมาจากคลับหวงจิน ก็ตรงไปที่โรงพยาบาลเลย
รีบช่วยชีวิตศาสตราจารย์ตู้กลับมาได้แล้ว หมอก็อธิบายถึงสาเหตุที่ศาสตราจารย์ตู้ถูกรีบช่วยชีวิต คนในครอบครัวของศาสตราจารย์ตู้ น่าจะไม่ตำหนิตนเองเกินไป
“ท่านประธานครับ ท่านไม่เป็นอะไรนะครับ?”
มองเห็นหยางเฉินปรากฏตัว ลั่วปิงรีบถามทันที
เมื่อสักครู่ที่หยางเฉินออกไป เขาก็คาดเดาได้ หยางเฉินต้องไปคลับหวงจินแน่นอน
หยางเฉินส่ายหน้า ถามว่า “ตอนนี้ศาสตราจารย์ตู้เป็นยังไงบ้างแล้ว?”
“คนยังไม่ได้สติเลยครับ แต่ว่าหมอบอกแล้ว คนพ้นขีดอันตรายแล้ว เดาว่าใช้เวลาอีกไม่นานมากเท่าไร คงฟื้นขึ้นมาได้ครับ” ลั่วปิงตอบ
“ศาสตราจารย์ตู้ไม่เป็นอะไรก็ดี”
หยางเฉินพูดจบ นึกอะไรขึ้นได้กะทันหัน นำบัตรธนาคารจำนวนหนึ่งหมื่นกว่าล้านที่รีดไถมาจากคลับหวงจินก่อนหน้านี้หยิบออกมาแล้ว “ในบัตรใบนี้ ยังมีสองหมื่นกว่าล้าน นายเอาไปให้คนในครอบครัวของศาสตราจารย์ตู้หนึ่งร้อยล้าน ถือว่าเป็นค่าชดเชย เงินที่เหลือ ใช้ในการก่อสร้างเมืองจิ่วโจว”
ในบัตรใบนี้ของหยางเฉิน เดิมทีมีหนึ่งหมื่นกว่าล้าน บวกกับหนึ่งหมื่นกว่าล้านที่มาจากคลับหวงจิน ยังมีสองหมื่นกว่าล้าน
ลั่วปิงได้ยิน ตกใจยกใหญ่ เขามีความรู้สึกว่า เงินก้อนนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะนำมาจากคลับหวงจิน
“ท่านประธานครับ เงินที่ท่านให้มาครั้งก่อนยังเหลืออยู่มาก คงใช้มากขนาดนี้ไม่ไหวในระยะสั้นๆ ครับ” ลั่วปิงรีบบอก
หยางเฉินส่ายหน้า “นายก็บอกแล้วว่า ใช้ไม่ไหวชั่วคราว ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะไม่ได้ใช้ ให้นายเอาไว้ก็เอาไว้เถอะ”
ครั้งนี้ ลั่วปิงไม่ปฏิเสธอีก เก็บขึ้นมาด้วยความระมัดระวังแล้ว
เขารู้สึกประทับใจอย่างสุดขีดตั้งแต่แรกแล้ว หยางเฉินวางใจนำบัตรธนาคารมูลค่าสองหมื่นกว่าล้านบอกว่าให้เขาก็ให้มาแบบนี้ นี่คือไว้ใจเขามากที่สุด