“จางหรุ่ย แม้แต่คุณชายเหลียงเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เธออย่าหาเรื่องสร้างปัญหาเถอะนะ” ผังเสี่ยวเยว่พูดอย่างไม่เกรงใจ
“ผังเสี่ยวเยว่ คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะเป็นคนแบบนี้ ฉันมองหล่อนผิดไปจริงๆ!” จางหรุ่ยพูดอย่างโกรธเคือง
“ใช่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะเป็นคนแบบนี้ มันทำให้พวกเราผิดหวังมากเลยจริงๆ” เนี่ยเจียเจียเองก็รีบพูดออกมาเช่นเดียวกัน
ในเวลานี้โจวชินเองก็ไม่ลืมที่จะเหยียบย่ำผังเสี่ยวเยว่ด้วยการพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ผังเสี่ยวเยว่ หล่อนนี่หาแฟนได้ดีจริงๆเลยนะ!เขาไม่ยอมช่วยเหลือก็ไม่เป็นไรแต่หล่อนยังจะมาพูดจาไร้สาระอยู่ได้!”
สีหน้าของผังเสี่ยวเยว่นั้นดูแย่เป็นอย่างมากแต่หล่อนไม่ได้รู้สึกเศร้าเสียใจเลยแม้แต่น้อย
ด้วยสติปัญญาและการสังเกตของหล่อนก็พอรู้ได้ว่าเพื่อนรูมเมททั้งสามคนของหล่อนนั้นเป็นผู้หญิงยังไงแล้วทำไมจะต้องมารู้สึกเศร้าเสียใจด้วยล่ะ?
“ในเมื่อพวกเธอเก่งนักเก่งหนา ทำไมแฟนของพวกเธอถึงยังสู้กันเองอยู่นั่นล่ะ?มีความสามารถก็ให้พวกเขาหยุดสิ จะไปเชื่อฟังเหมือนหมาอยู่ทำไม?”
ผังเสี่ยวเยว่พูดอย่างประชดประชัน
เวลานี้เอง ใบหน้าของฉือเจียงและเจียวต้าเหว่ยนั้นล้วนแต่บวมช้ำไปหมด ทั้งสองคนต่างไร้เรี่ยวแรงที่จะสู้กันอีกต่อไป
“พอแล้ว!”
ไช่เหวินพูดออกมาในทันใด
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉือเหวินและเจียวต้าเหว่ยที่ทำผิดแต่ไม่โดนลงโทษต่อก็ได้รีบหยุดสู้กันในทันทีพร้อมกับพูดออกมาอย่างสั่นเทา “คุณชายเหวิน ท่านปล่อยพวกเราไปแล้วใช่ไหมครับ?”
ไช่เหวินพูดอย่างเย็นชา “พวกนายสองสามคนรีบไสหัวออกไปซะและทิ้งแฟนของพวกนายเอาไว้ เรื่องในวันนี้ก็จะถือว่าจบลง”
ขณะที่พูดเขาก็ได้เหล่ตามองหญิงสาวทั้งสี่คนที่อยู่ในที่นั่งชั้นพิเศษนี้
สีหน้าของผู้หญิงสองสามคนนั้นดูเปลี่ยนไปอย่างมาก หลังจากที่ลังเลเล็กน้อยฉือเจียงและเจียวต้าเหว่ยก็พยักหน้าออกมาและกล่าวในทันทีว่า “ขอบคุณคุณชายเหวิน ขอบคุณคุณชายเหวิน พวกหญิงพวกนี้จะทิ้งไว้ให้กับท่าน พวกเราไปก่อนนะครับ!”
ผู้หญิงทั้งสี่คนนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเหลียงหยุน เขาจึงไม่ได้สนใจอะไรพร้อมกับรีบพูดว่า “ขอบคุณคุณชายเหวิน พวกหญิงพวกนี้เชิญเล่นตามสบาย พวกเราขอตัวไปก่อนนะครับ!”
เนี่ยเจียเจียและโจวชินที่เพิ่งจะประณามหยางเฉินไปได้แต่มองไปที่แฟนหนุ่มของตนที่ทิ้งพวกเธอไว้โดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียวซึ่งนั่นทำให้พวกหล่อนตกใจไปครู่หนึ่ง
สีหน้าของผังเสี่ยวเยว่เปลี่ยนไปอย่างมากพร้อมกับใช้แรงที่ผิดปกติจับไปที่มือของหยางเฉิน
มีเพียงแค่จางหรุ่ยเท่านั้นที่ไม่มีจิตสำนึกใดๆแต่กลับยังตั้งหน้าตั้งตารอสิ่งนี้อีกต่างหาก
“คุณชายกวางคะ เมื่อกี้ท่านไม่ได้พูดวว่าชอบฉันงั้นเหรอ?เมื่อสักครู่ที่ฉันกล้าที่จะปฏิเสธท่านไปนั่นก็เป็นเพราะฉันตาบอดเอง ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคิดผิดและเสียใจเป็นอย่างมาก คุณชายกวางให้โอกาสฉันได้คอยดูแลปรนนิบัติท่านได้ไหมคะ?”
สิ่งที่ทำให้เนี่ยเจียเจียและโจวชินผิดหวังมากไปกว่านี้ก็คือท่าทางที่ดูประจบเอาใจของจางรุ่ยนั่นเอง อีกทั้งเธอยังเริ่มเดินเข้าไปแนบชิดกับตัวของไช่กวางอีก “ฉันชื่อจางหรุ่ยค่ะ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ของมหาวิทยาลัยเยี่ยนตู ขอเพียงแค่ท่านยินยอม ต่อไปฉันก็จะเป็นผู้หญิงของท่านเอง”
ฉือเจียง เจียวต้าเหว่ยและเหลียงหยุนที่เดินมาถึงประตูทางเข้าก็ยืนหยุดอยู่ตรงนั้น
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมองเห็นความหวัง
“ฮ่าฮ่าฮ๋า…”
ไช่กวางหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับหรี่ตาพูดว่า “ฉันดูเพื่อนสนิทของเธอแล้วดูเหมือนว่าพวกหล่อนจะไม่อยากอยู่ต่อกันนะ ขอเพียงแค่เธอไปเกลี้ยกล่อมพวกหล่อนให้มาอยู่เป็นเพื่อนฉันในคืนนี้ ต่อไปเธอก็จะมาเป็นผู้หญิงของฉัน!”
จางหรุ่ยไม่ได้โกรธที่ไช่กวางทำตัวเจ้าชู้จากนั้นมองไปที่เนี่ยเจียเจียและคนอื่นๆพร้อมกับเอ่ยปากพูดว่า “พวกหล่อนสองสามคนได้ยินที่ไช่กวางพูดไหม?”
“ในเมื่อแฟนของพวกหล่อนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว คิดอยากจะออกไปก็ไม่มีหวังซะหรอก มันจะดีกว่าไหมถ้าพวกหล่อนเชื่อฟังไช่กวางอย่างว่านอนสอนง่าย”
“ฉันคิดว่าคุณชายกวางคงไม่ปฏิบัติกับพวกหล่อนอย่างไม่เป็นธรรมหรอก”
เมื่อจางหรุ่ยพูดจบก็ได้หันไปมองไช่กวางและถามว่า “ใช่ไหมคะ! คุณชายกวาง?”
“ฮ่าฮ่า ไม่ผิด ตราบใดที่พวกเธอคอยติดตามฉัน พวกเธอก็จะเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันจะปฏิบัติต่อพวกเธออย่างเท่าเทียมกัน” ไช่กวางพูด
โจวชินและเนี่ยเจียเจียโมโหจนแทบบ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อไม่คิดเลยว่าคนที่ตนเรียกว่าเป็นพี่น้องรูมเมทในตลอดระยะเวลาสี่ปีจะทำกันแบบนี้
จุดสำคัญเลยก็คือเรื่องในวันนี้ที่ทำก็เพื่อช่วยจางหรุ่ยด้วยซ้ำ
“จางหรุ่ย ทำไมเธอหน้าไม่อายแบบนี้?”
เนี่ยเจียเจียพูดยอ่างโกรธเคือง “ต่อให้ตาย ฉันก็ไม่ติดตามเขาหรอก!”
โจวชินเองก็กล่าวอย่างโกรธเคือง “จางหรุ่ย เธอเองก็เป็นแค่ผู้หญิงดอกๆคนหนึ่งเท่านั้นแหละ พวกเราช่วยเธอถึงได้ไปทำให้พวกเขาขุ่นเคืองใจ พอตอนนี้เธอก็จะมาโอเคและทำเพื่อความไร้สาระของตัวเองจนเสร็จแล้วก็จะลากพวกเราไปทำเรื่องเลวๆด้วยงั้นเหรอ”
จางหรุ่ยไม่โกรธเลยสักนิด เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันก็ไม่ได้กำลังช่วยพวกหล่อนอยู่เหรอ?ยังไงซะแฟนหนุ่มของพวกหล่อนก็ไม่ต้องการหล่อนอยู่แล้วนี่”
“อีกอย่าง พวกหล่อนก็แค่อยู่เป็นเพื่อนคุณชายกวางแค่คืนเดียวและแค่คนเดียวอีกต่างหาก หากพวกหล่อนไม่ยอมล่ะก็เกรงว่าจะถูกรุมโทรมจากคนหลายคนก็เป็นได้นะ?”
จางหรุ่ยพูดอย่างตรงไปตรงมา
ดวงตาของไช่กวางเต็มไปด้วยความชั่วร้ายจากนั้นก็ได้เอ่ยปากพูดว่า “ไม่ผิด ตอนนี้พวกหล่อนมีแค่สองทางเลือกเท่านั้น จะอยู่เป็นเพื่อนฉันแค่คืนเดียวหรือจะรอโดนรุมโทรมก็เลือกเอา พี่ชายฉันพาลูกน้องมาเยอะด้วยสิ”
โจวชินและเนี่ยเจียเจียเหลือบมองไปที่กลุ่มชายที่อยู่ด้านหลังไช่กวางจนแทบจะร้องไห้ออกมา
หากโดนคนพวกนั้นรุมโทรมจริงๆล่ะก็ต่อให้ไม่ตายแต่อีกครึ่งชีวิตหนึ่งก็คงจะเสียไปด้วย
“พวกนายจะอยู่ทำซากอะไรกัน?หรืออยากจะดูฉากรักของฉันกับผู้หญิงของพวกนายงั้นเหรอ?แน่นอนว่าถ้าพวกนายอยากดูล่ะก็ฉันก็ไม่รังเกียจหรอกนะ” ไช่กวางพูดด้วยรอยยิ้ม
ฉือเจียงและเจียวต้าเหว่ยจะไปอยากดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับแฟนสาวของตนได้ยังไงกัน?
“พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
พูดเสร็จ ทั้งสองคนก็เดินจากไป
แต่ในเวลานี้เอง หยางเฉินผู้ที่เงียบมาโดยตลอดก็ได้เอ่ยปากพูดออกมาอย่างเย็นชาในทันใด “ผู้หญิงสารเลวแบบนั้น ถ้าหากพวกนายต้องการจริงๆล่ะก็จะเอาเหลือทิ้งไว้ก็ได้แต่อีกสามคนที่เหลือจะต้องออกไปจากที่นี่กับฉัน!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็ตกตะลึง
ฉือเจียงและเจียวต้าเหว่ยเองก็เบิกตากว้างเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ได้คิดว่าหยางเฉินจะยอมออกหน้าเพื่อแฟนสาวของพวกเขา
ตัวของผังเสี่ยวเยว่เองก็สั่นไปหมด ได้แต่มองไปที่หยางเฉินอย่างเหลือเชื่อ
หล่อนรู้ว่าหยางเฉฺนคือประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปและเดาออกว่าหยางเฉินเองก็เป็นคนของตระกูลอวี๋เหวิน อย่างไรก็ตามเขาเป็นแค่คนที่ถูกทอดทิ้ง การที่ตระกูลอวี๋เหวินได้มอบเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้แก่เขาก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว
แต่ยังไงซะคนของตระกูลไช่ก็ไม่ใช่คนธรรมดาอยู่แล้ว แม้จะสู้แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูไม่ได้แต่ตระกูลไช่ก็เป็นเจ้าวงการสถานบันเทิงของเยี่ยนตู
พูดได้ว่าครึ่งหนึ่งของสถานบันเทิงของเมืองเยี่ยนตูเป็นของตระกูลไช่
แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเองก็ไม่กล้าที่จะมีปัญหากับตระกูลไช่
เดิมทีหยางเฉินถูกเรียกมาเพื่อปลอมตัวเป็นแฟนหนุ่มให้กับหล่อน ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมาช่วยหล่อนอีกทั้งยังมาทำให้คนที่มีเบื้องหลังใหญ่โตอย่างนี้ต้องขุ่นเคืองอีกด้วย
เนี่ยเจียเจียและโจวชินที่ไม่พอใจในตัวของหยางเฉินมาโดยตลอดถึงกับตกตะลึง ในดวงตาคู่นั้นฉายแววถึงความซึ้งใจและความเสียใจเอาไว้
ไม่ว่าหยางเฉินจะสามารถแก้ไขความยุ่งยากเหล่านี้ให้พวกหล่อนได้หรือไม่แต่อย่างน้อยหยางเฉินก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องก่อนหน้านี้และยังช่วยเหลือผังเสี่ยวเยว่รวมถึงพวกหล่อนอีก
“หนุ่มน้อย นายกำลังรนหาที่ตาย!” ไช่กวางหรี่ตาพร้อมกับพูดออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยความโหดร้าย
ใบหน้าของจางหรุ่ยเต็มไปด้วยความอัปยศและโกรธเคือง คำพูดของหยางเฉินเมื่อสักครู่มันเห็นได้ชัดว่าเขาจงใจทิ้งเธอเอาไว้
“คุณชายกวาง ในเมื่อไอ้หมอนี่มันรนหาที่ตาย ฉันเห็นว่าท่านเองก็คงทำมันให้ลุล่วงไปได้ ทางที่ดีที่สุดคือโยนเขาไปเป็นอาหารของพวกปลาซะ” จางหรุ่ยพูดออกมาอย่างชั่วร้าย