“มีความสัมพันธ์บางอย่าง?ขอฉันดูหน้าตาหน่อย”
หานเซี่ยวอยากรู้
อีซอปหยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา แสดงภาพบุคคลสามมิติ
นี่คือชายผิวซีดที่ดูเหมือนจะมาจากดาวอความารีน หานเซี่ยวสำรวจเขาสักพักแต่ดูเหมือนจะไม่เจอในความทรงจำ
“แปลก ฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อน ยังไงก้ตาม ฉันจะให้คนมองหาคนคนนี้”
เนื่องจากเขาเป็นส่วนหนึ่งของคำทนาย คนคนนี้จึงต้องเกี่ยวกับบางสิ่งที่สำคัญ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีที่คนคนนี้มาถึงดาวอความารีน เหนือสิ่งอื่นใด ดาวอความารีนคือดาวแม่เขา เขาจึงกังวลถึงความปลอดภัยของมัน
“สิ่งที่นายเพิ่งพูดคือเรื่องแรก เรื่องสองละ?”
“ฉันเห็นประวัติศาสตร์ฉายซ้ำ”อีซอปขมวดคิ้ว ดูสับสน
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย”นายกำลังบอกว่า..”
“ในนิมิตฉัน หลายคนที่ตายไปนานแล้วปรากฏขึ้นใหม่ในโลก ฉันยังเห็นพวกบรรพชนอีกด้วย”
หรือว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เทพอำนวยฟื้นคืนชีพผู้อยู่เหนือ?ถ้าอีซอปรู้สึกถึงอนาคตนี้ด้วย งั้นจุดเริ่มต้นก็น่าจะเป็นข้อตกลงของเขากับผู้รักษาสัจจะ
“อืม?นายดูไม่แปลกใจเลยนะ?”อีซอปสงสัย
“ฉันมีความรู้เรื่องนี้”หานเซี่ยวลูบคางและถาม”แล้ว นายรู้เกี่ยวกับ..”
เขาถามอีซอปสั้นๆถึงเทพอำนวย ผู้รักษาสัจจะ วิหารและเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หวังว่าพวกนิรันดร์อย่างอีซอปที่ท่องจักรวาลมาจะรู้สิ่งที่คนอื่นไม่รู้ แต่น่าเศร้า อีซอปกลับส่ายหัว แสดงว่าเขาไม่เคยได้ยิน
แต่ทว่า เมื่อพูดถึงผู้รักษาสัจจะ เขาดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้”ความสามารถจำแลงจิตที่ไม่สนใจระยะทางนั้นไม่ธรรมดา มันอาจฟังดูง่าย แต่มันยากมาก ความสามารถพลังจิตและเอสเปอร์ที่เกี่ยวกับวิญญาณส่วนใหญ่จะไม่สามารถทำแบบนี้ได้ ถ้านี่ไม่ใช่ความสามารถเอสเปอร์ของตัวเขา งั้นมันก็คล้ายกับความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มในตำนาน ไฟวิญญาณ”
หลังได้ยินถึงความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม หานเซี่ยวก็รู้ว่านี่อาจเป็นไปได้ เขาถาม”นายรู้อะไรอีก?”
“ไฟวิญญษณคือหนึ่งในความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง ไม่มีรายงานพบเห็นมันมาหลายปี..โอ้ แต่นายควรรู้แล้ว ฉันจะไม่พูดเพิ่ม ในช่วงปีแรกที่ฉันท่องจักรวาล ฉันจำคำทำนายหนึ่งได้ คำทำนายนั้นเตือนฉันว่าถ้าฉันทำสิ่งนี้ บุคคลที่ใช้ไฟวิญญาณจะปรากฏตัวขึ้น พยายามควบคุมฉัน ทำให้ฉันช่วยเขาค้นหาบางสิ่ง ดังนั้น ต้องขอบคุณคำทำนาย ฉันจึงเลี่ยงสิ่งนั้นมาได้ คนคนนั้นอาจเป็นผู้รักษาสัจจะที่นายพูดถึง ฉันมีข้อมูลแค่นี้แหละ”
หลังสื่อสารกันสักพัก หานเซี่ยวก็ตระหนักว่านี่คือทั้งหมดที่อีซอปรู้ เขาจึงหยุดถาม จำชื่อไฟวิญญาณไว้ เขาวางแผนกลับไป ถามพลังงานโกลาหลแรกเริ่มกับอนุภาคแสง พวกมันต่างเป็นสมาชิกของตระกูลความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม มันอาจรู้เยอะกว่า
นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มดำรงอยู่มานานมาก ถ้าพวกมันรู้ว่าไฟวิญญาณตกอยู่ในมือใคร เขาอาจรู้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงองค์กรเทพอำนวยได้”ในเมื่อนายพอมีความรู้เรื่องนี้ ฉันก็จะไม่พูดมาก”อีซอปยกนิ้วที่สามขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง”มีคำทำนายสุดท้าย ฉันเห็นหายนะระดับจักรวาลที่กำลังก่อตัวขึ้นในที่ที่เรามองไม่เห็น” “กำลังพูดถึงไวรัสกบฏเสมือนใช่ไหม?งั้นคำทำนายนี้ก็อาจหมดอายุไปแล้ว”
“ฉันดูเหมือนกำลังพูดเล่นงั้นเหรอ?”อีซอปถาม”ฉันเห็นรูหนอนขนาดใหญ่เปิดตัวขึ้นในที่ที่ห่างไกลออกไปนับล้าน ๆ ไมล์ กองยานนับไม่ถ้วนหลั่งใหลออกจากมัน และอบุติเห็นสงครามกาแล็กซี่ที่เทียบได้กับยุคสำรวจ ไม่มีใครจะหลีกเลี่ยงมันได้”
ดวงตาของหานเซี่ยวพลันเปลี่ยนไป นั่นฟังดูเหมือนการรุกรานของอารยธรรมต้นไม้โลก
คำทำนายเกิดขึ้นด้วยเหตุผล ต้องมีสาเหตุหรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ทำให้อีซอปเกิดคำทำนายนี้ นั่นหมายความว่าโครงเรื่องต้นไม้โลกถูกเร่งกระบวนการขึ้น
หานเซี่ยวนึกถึงพิกัดของรูหนอนจากอดีต ซึ่งยากจะกำหนดได้อย่างแม่นยำ
เขามีความคืบหน้าจำกัด แล้วจักรวรรดิจะพบอะไรบ้างหรือยัง? ดูเหมือนฉันต้องหาเวลาไปถาม ย้อนกลับไปตอนเทพเอสได้รับพิกัดรูหนอนมา ฉันรู้ว่าเนื้อเรื่องต้นไม้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว..หานเซี่ยวส่ายหัว
อีซอปยืนขึ้น บิดเอวและพูด”ฉันได้ส่งคำทำนายให้นายแล้ว ฉันจะทิ้งที่เหลือไว้ให้นาย ฉันจะบอกนายทันทีถ้ามีคำทำนายใหม่ๆ”
เขาจงใจบอกคำทำนายเหล่านี้กับหานเซี่ยว ไม่ใช่กับเอเมสเพราะมันจะไม่สร้างความแตกต่างถ้าเอเมสรู้ เธอแค่จะรับฟังเท่านั้น มีเพียงแบล็คสตาร์ถึงทำอะไรบางอย่าง
หานเซี่ยวกำลังจะส่งอีซอปออก แต่อีซอปลพันโบกมือ บอกเขาว่าไม่จำเป็น แต่ทว่า เขาก็พลันหยุดที่ประตู ราวกับเขาคิดอะไรได้”ตอนที่ฉันรอนาย ฉันได้ทำนายให้ลูกน้องนายเพื่อฆ่าเวลา เด็กที่ชื่อแฮร์ริสันมีอนาคตสดใสมาก สายใยชะตากรรมของเขาหนามาก และมันก็เบี่ยงไปจากเส้นทางเดิม”
จากนั้น อีซอปก็เปิดประตูเดินออกไปหานเซี่ยวหันไปมองแฮร์ริสันที่ยังไม่รู้เรื่อง หานเซี่ยวไม่แปลกใจเลย
เขาลากแฮร์ริสันมากับเขา แน่นอน สายใยชะตาย่อมเบี่ยง สงครามต้นไม้โลกน่าจะปะทุเร็วขึ้น และมันก็ไม่แน่ใจว่าแฮร์ริสันจะเสียสละตัวเองเหมือนที่ทำในชีวิตก่อนของหานเซี่ยวไหม
หานเซี่ยวยึดถือคำทำนายทั้งสามไว้ แม้จะค่อนข้างเลือนราง อีซอปก็ให้ข้อมูลสำคัญกับเขาทางอ้อม เขาจึงมีเบาะแสเพิ่ม
ปัจจุบัน สิ่งที่ดีสุดคือมองหาคนที่อีซอปพูดถึงก่อน หานเซี่ยวให้ภาพวาดของเป้าหมายกับฟิลลิป บอกให้จับตาดูทั้งดาว จากนั้นก็เรียกสมาชิกกองทัพที่ประจำการบนดาวอความารีน ส่งพวกเขาออกไปค้นหาทั้งดาว
ด้วยอำนาจของเขาบนดาวอความารีน เขาสามารถหาได้แม้แต่หนูตัวเล็กๆ ไม่ต้องพูดถึงคน
ชื่อของฉันคือโรดี้ แอนเชอร์ อายุ 48 ปี พลเมืองของเมืองป่าน้ำแข็ง ประเทศเมเปิ้ลดาวอความารีน บ้านของฉันอยู่บนถนนแสงอรุณ 107 บล็อกB 1511 รหัสประจำตัวของฉันคือ77054591A62H ปัจจุบันฉันกำลังทำงานที่สาขาองค์กรเฟโร่ ฉันเป็นรองผู้จัการแผนกปฏิบัติการ.
พ่อแม่ฉันเป็นผู้รอดชีวิตจากยุคเก่า พวกเขาตายระหว่างมหันตภัยกลายพันธุ์ ตอนนั้น ฉันเป็นแค่เด็กโง่ๆ หายนะทำให้ประชากรของเมืองส่วนใหญ่หลบหนี ร้านค้าถูกปล้น รถโดนเผาอยู่ทั่วถนน ฉันใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแบบนี้ได้ไม่นานและในที่สุดก็พบกับทีมกู้ภัยของกองทัพแบล็คสตาร์ และถูกนำตัวมาใช้ชีวิตในเขตอนุรักษ์
หลังจากนั้น ท่านแบล็คสตาร์ก็กำจัดมหันตภัยกลายพันธุ์ ฉันถูกส่งตัวไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า 87 หลังได้รับการบำบัดจากคุณมาร์ธาเป็นเวลาหกปี ในที่สุดฉันก็ผ่านพ้นอาการบาดเจ็บวัยเด็กได้ ความวิตกทางสังคม ภาวะซึมเศร้าและอาการเจ็บปวดอื่นหายขาด
หลังจากนั้น ชีวิตฉันก็รู้สึกเหมือนก้าวหน้าเร็วไป ไปโรงเรียน จบการศึกษา เข้าสังคม เข้าร่วมการก่อสร้างดาวอความารีนใหม่ เปลี่ยนงาน ย้านบ้าน มีแฟนสาว ชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวถึงสองครั้ง…ทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก เมหือนทุกคนในยุคเดียวกับฉัน ฉันทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือสังคมและยุคใหม่ ด้วยตาของฉันเอง ฉันได้เห็นการพัฒนาอย่างไม่น่าเชื่อของดาวอความารีนหลังเชื่อมต่อกับสังคมกาแล็กซี่
แต่ทว่า เมื่อฉันโตขึ้น ความทะเยอทะยานก็เริ่มลดลง ฉันเริ่มคิดถึงพ่อแม่มากขึ้น ห้าปีก่อน ฉันตัดสินใจลาออกจากงานในบริษัทใหญ่ของเมืองแบล็คสตาร์ กลับไปบ้านเกิดที่ชื่อเมืองป่าน้ำแข็ง เมืองบ้านเกิดฉันได้รับการสร้างขึ้นใหม่แล้ว ฉันซื้อบ้านในเมืองนี้ หางานใหม่และเริ่มอาศัยที่นี่
งานใหม่สบายมาก สภาพแวดล้อมการแข่งขันรุนแรงที่ฉันพบในเมืองหลวงไม่มีที่นี่ ชีวิตเหมือนทะเลสาบเงียบสงบ ฉันเจอคนเดิมๆทุกวัน ฉันแก่แล้วและฉันก็ชอบชีวิตแบบสงบสุขมากขึ้น อย่างรวดเร็ว ฉันตกหลุมรักชีวิตที่สงบสุขนี้
ปฏิทินกาแล็กซี่ปี 731 วันที่ 16 กรกฏาคม ฉันยังจำเช้าสดใสวันนั้นได้ ฉันตื่นแต่เช้า อาบน้ำตามปกติ เตรียมออกไปนำอาหารเย็นที่เหลือจากเมื่อวานมาอุ่น
แต่ทว่า ตอนฉันกำลังแปรงฟัน จู่ๆฉันก็มองไม่เห็นตัวเองในกระจก!
ฉันกลัวจับใจ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันขลุกตัวอยู่มุมห้องน้ำ มองรอบๆอย่างกระวนกระวายราวกับจะมีสัตว์ประหลาดโผล่ออกมา ฉันอยู่ในสภาพนั้นนานเป็นนาที จากนั้นในที่สุดฉันก็รวบรวมความกล้าวิ่งออกห้องน้ำ ฉันรีบคว้ากุญแจ ออกบ้าน กดปุ่มลอฟต์อย่างรวดเร็วเหมือนคนบ้า
ฉันอาศัยในตอนโดที่สูง 33 ชั้น มันมี ลิฟต์4ตัว ตอนเช้าลิฟต์มักขึ้นไปชั้นบนก่อนค่อยๆลงมา หยุดแทบทุกชั้น โดยปกติ ฉันจะดูข่าวยามเช้าขณะรอลิฟต์ แต่ทุกวินาทีกลับนานนับปีในตอนนี้ สุดท้าย ลิฟต์ก็มาถึงชั้นที่เขาอาศัย ประตูเปิด มันเต็มไปด้วยคน โดยปกติ ตอนฉันเจอแบบนี้ ฉันจะทักทายเพื่อนบ้านภายในด้วยรอยยิ้มและรอลิฟต์ถัดไป แต่ทว่า ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไร ฉันคว้าประตู และกรีดร้องใส่พวกเขา อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน
อย่างไรก็ตาม ฉันพบว่าไม่มีใครมองฉันเลย ไม่มีใครฟังฉัน ราวกับฉันไม่มีตัวตน!
ขณะที่ฉันกำลังตื่นตระหนกและหวาดกลัว คนด้านในก็สังเกตว่าประตูลิฟต์ไม่ปิด ดังนั้นคนที่ยืนอยู่ข้างปุ่มจึงกดปุ่มปิดอย่างหมดความอดทน บางคนยังพยายามตบประตู และมือของคนคนนั้นก็โดนแขนฉัน
บางสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันยิ่งหวาดกลัว มือของคนคนนั้นผ่านแขนฉันไป
ก่อนสมองฉันจะได้ตอบสนอง ภาพของฉันก็เริ่มกระเพื่อม ฉันเห็นภาพลวงตา หญิงสาวในลิฟต์ไม่ได้ถืออุปกรณ์สื่อสารไว้ในมือเธออย่างเหมาะสม และมันก็ร่วงตกลงพื้น
ทันใดนั้น ความเจ็บปวดมหาศาลก็ปะทุในตัวฉัน ฉันเสียการควบคุมร่างกาย ล้มลงกับพื้น เริ่มกระตุก สายตาฉันพร่ามัว ความรู้สึกง่วงพุ่งเข้าสมอง
วินาทีก่อนฉันจะหมดสติ ฉันเหลือบเห็นอุปกรณ์สื่อสารที่เหมือนกับอันที่ฉันเห็นในภาพลวงตาก่อนฉัน ฉันเห็นมันตกลงบนพื้นลิฟต์
วินาทีถัดมา ฉันก็หมดสติ
ตอนฉันตื่นขึ้นอีกครั้ง มันก็ดึกแล้วและฉันยังนอนบนพื้นด้านนอกลิฟต์ ความรุ้สึกอ่อนแอแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวราวกับฉันไม่ได้กินหรือนอนมาสองวันเต็ม
ความรู้สึกหิวกระหายขับไล่ความกลัวฉันออกไป ฉันลากตัวเองกลับบ้าน กินแทบทุกอย่างในตู้เย็น ในที่สุดก็พอมีแรง ระหว่างนั้น ฉันพยายามใช้ช้อนส้อมโลหะและกล้องเพื่อดูเงาสะท้อนของฉัน แต่ทุกอย่างกลับล้มเหลว
หลังจากนั้น ฉันพยายามสงบสติ หลังทดสอบหลายครั้ง ฉันตระหนักว่าฉันไม่มีตัวตนอยู่ และฉันก็ไม่สามารถแตะต้องใครได้เลย แต่ทว่า ฉันสามารถมีอิทธิพลต่อวัตถุบางอย่างที่ไม่ได้สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตได้
ดังนั้น ฉันจึงพยายามขับรถ ขโมยของ สร้างเหตุการณ์และอื่นๆ การกระทำส่วนใหญ่ของฉันจะมีอิทธิพลโดยตรงต่อคนอื่น แต่ทว่า ความพยายามการขโมยของฉันก็ได้ผล ไม่มีใครสังเกตเห็นเลย มันต้องขอบคุณที่ฉันมีชีวิตได้อยู่ถึงตอนนี้ ไม่งั้นฉันคงอดตายไปนานแล้ว
ภาพลวงตาที่ทำให้ฉันหมดสติเกิดขึ้นบ่อย ฉันตระหนักว่าฉันดูเหมือนจะมองเห็นช่วงเวลาหนึ่งในอนาคตได้ แต่ฉันไม่สามารถใช้หรือยกเลิกพลังนั้นได้ ตอนพลังนี้เกิดขึ้น ฉันจะหมดสติและรู้สึกอ่อนแอ ฉันเดาว่าค่าใช้พลังนี้คงเป็นความแข็งแกร่งของฉัน
ฉันคิดถึงมหันตภัยกลายพันธุ์ ร่างของฉันผ่านการกลายพันธุ์แสนน่ากลัว ฉันใช้ชีวิตประมาณสามเดือนในสภาพนี้ เดิมที ฉันกลัว แต่จากนั้น ฉันก็รู้สึกมีความสุข ผ่านไปสักพัก ฉันรู้สึกโดดเดี่ยว ฉันไม่สามารถติดต่อกับใครได้เลย ฉันยังลองสื่อสารกับคนผ่านเครือข่าย
แต่ทว่า ไม่ว่าฉันจะใช้วิธีการใดเพื่อฝากข้อความ มันก็ยังโดนเมิน ฉันส่งข้อความหาเพื่อน แต่ไม่เคยมีการตอบกลับ ไม่มีใครจากบริษัทฉันที่โทรถามว่าทำไมฉันไม่ไปทำงาน มันเหมือนว่าทุกคนใช้ชีวิตด้วยความจริงที่ฉันไม่เคยมีตัวตน ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ดังนั้น ฉันจึงเขียนไดอารี่นี้ขึ้น หวังว่าจะมีคนเห็นมันและมาช่วยฉัน ที่อยู่ของฉันคือประเทศเมเปิ้ล เมืองป่าน้ำแข็ง ถนนแสงอรุณ 107 บล็อก B1511 ฉันจะรอที่บ้าน
ช่องทางประกาศสาธารณะดาวอความารีน กระทู้’ช่วยด้วย!ฉันหายตัวไป!’
คนดู : 0
หนึ่งวันต่อมา บนเกาะมังกร…
“ไม่เจอ?”
หานเซี่ยวได้รับรายงานค้นหาจากฟิลลิปและสมาชิกกองทัพต่างๆ”นายท่าน ฮึ่ม…ไม่เพียงจะไม่มีร่องรอยคนคนนี้ในกล้องวงจรปิดผมยังดูรูปถ่ายของประชากรชาวอความารีนทั้งหมด แต่ก็ยังไม่พบ”
“เราได้สแกนทั้งดาวโดยใช้อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณชีวิตทุกประเภท รวมถึงทุกจุด แต่ก็ยังไม่พบเป้าหมายเช่นกัน”นักรบกองทัพที่รับผิดชอบการค้นหาพูด”คนคนนี้อยู่บนดาวอความารีนจริงหรือครับ?”
หานเซี่ยวเคาะโต๊ะ หันไปหาแฮร์ริสัน ถามว่า”นายคิดยังไง?”
“ผม?”แฮร์ริสันชี้ตัวเองด้วยความแปลกใจ เขาลังเล”เราจะทำประกาศค้นหาเป็นยังไง?”
“ได้”หานเซี่ยวพยักหน้า เดิมที เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนนี้ในคำทำนายของอีซอป ดังนั้นเขาจึงไม่อยากทำให้อีกฝ่ายตื่นตูม แต่ทว่า ในเมื่อพวกเขาหาเขาไม่พบ การทำให้มันเป็นสาธารณะคงไม่ใช่เรื่องแย่ ยังไงก็ตาม เขาอยู่นี่ เขาไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาสร้างปัญหา
เขาต้องดูว่าเขามีความสัมพันธ์อะไรกับคนแปลกหน้าคนนี้
หานเซี่ยวอยากรู้
อีซอปหยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา แสดงภาพบุคคลสามมิติ
นี่คือชายผิวซีดที่ดูเหมือนจะมาจากดาวอความารีน หานเซี่ยวสำรวจเขาสักพักแต่ดูเหมือนจะไม่เจอในความทรงจำ
“แปลก ฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อน ยังไงก้ตาม ฉันจะให้คนมองหาคนคนนี้”
เนื่องจากเขาเป็นส่วนหนึ่งของคำทนาย คนคนนี้จึงต้องเกี่ยวกับบางสิ่งที่สำคัญ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีที่คนคนนี้มาถึงดาวอความารีน เหนือสิ่งอื่นใด ดาวอความารีนคือดาวแม่เขา เขาจึงกังวลถึงความปลอดภัยของมัน
“สิ่งที่นายเพิ่งพูดคือเรื่องแรก เรื่องสองละ?”
“ฉันเห็นประวัติศาสตร์ฉายซ้ำ”อีซอปขมวดคิ้ว ดูสับสน
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย”นายกำลังบอกว่า..”
“ในนิมิตฉัน หลายคนที่ตายไปนานแล้วปรากฏขึ้นใหม่ในโลก ฉันยังเห็นพวกบรรพชนอีกด้วย”
หรือว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เทพอำนวยฟื้นคืนชีพผู้อยู่เหนือ?ถ้าอีซอปรู้สึกถึงอนาคตนี้ด้วย งั้นจุดเริ่มต้นก็น่าจะเป็นข้อตกลงของเขากับผู้รักษาสัจจะ
“อืม?นายดูไม่แปลกใจเลยนะ?”อีซอปสงสัย
“ฉันมีความรู้เรื่องนี้”หานเซี่ยวลูบคางและถาม”แล้ว นายรู้เกี่ยวกับ..”
เขาถามอีซอปสั้นๆถึงเทพอำนวย ผู้รักษาสัจจะ วิหารและเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หวังว่าพวกนิรันดร์อย่างอีซอปที่ท่องจักรวาลมาจะรู้สิ่งที่คนอื่นไม่รู้ แต่น่าเศร้า อีซอปกลับส่ายหัว แสดงว่าเขาไม่เคยได้ยิน
แต่ทว่า เมื่อพูดถึงผู้รักษาสัจจะ เขาดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้”ความสามารถจำแลงจิตที่ไม่สนใจระยะทางนั้นไม่ธรรมดา มันอาจฟังดูง่าย แต่มันยากมาก ความสามารถพลังจิตและเอสเปอร์ที่เกี่ยวกับวิญญาณส่วนใหญ่จะไม่สามารถทำแบบนี้ได้ ถ้านี่ไม่ใช่ความสามารถเอสเปอร์ของตัวเขา งั้นมันก็คล้ายกับความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มในตำนาน ไฟวิญญาณ”
หลังได้ยินถึงความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม หานเซี่ยวก็รู้ว่านี่อาจเป็นไปได้ เขาถาม”นายรู้อะไรอีก?”
“ไฟวิญญษณคือหนึ่งในความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง ไม่มีรายงานพบเห็นมันมาหลายปี..โอ้ แต่นายควรรู้แล้ว ฉันจะไม่พูดเพิ่ม ในช่วงปีแรกที่ฉันท่องจักรวาล ฉันจำคำทำนายหนึ่งได้ คำทำนายนั้นเตือนฉันว่าถ้าฉันทำสิ่งนี้ บุคคลที่ใช้ไฟวิญญาณจะปรากฏตัวขึ้น พยายามควบคุมฉัน ทำให้ฉันช่วยเขาค้นหาบางสิ่ง ดังนั้น ต้องขอบคุณคำทำนาย ฉันจึงเลี่ยงสิ่งนั้นมาได้ คนคนนั้นอาจเป็นผู้รักษาสัจจะที่นายพูดถึง ฉันมีข้อมูลแค่นี้แหละ”
หลังสื่อสารกันสักพัก หานเซี่ยวก็ตระหนักว่านี่คือทั้งหมดที่อีซอปรู้ เขาจึงหยุดถาม จำชื่อไฟวิญญาณไว้ เขาวางแผนกลับไป ถามพลังงานโกลาหลแรกเริ่มกับอนุภาคแสง พวกมันต่างเป็นสมาชิกของตระกูลความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม มันอาจรู้เยอะกว่า
นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มดำรงอยู่มานานมาก ถ้าพวกมันรู้ว่าไฟวิญญาณตกอยู่ในมือใคร เขาอาจรู้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงองค์กรเทพอำนวยได้”ในเมื่อนายพอมีความรู้เรื่องนี้ ฉันก็จะไม่พูดมาก”อีซอปยกนิ้วที่สามขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง”มีคำทำนายสุดท้าย ฉันเห็นหายนะระดับจักรวาลที่กำลังก่อตัวขึ้นในที่ที่เรามองไม่เห็น” “กำลังพูดถึงไวรัสกบฏเสมือนใช่ไหม?งั้นคำทำนายนี้ก็อาจหมดอายุไปแล้ว”
“ฉันดูเหมือนกำลังพูดเล่นงั้นเหรอ?”อีซอปถาม”ฉันเห็นรูหนอนขนาดใหญ่เปิดตัวขึ้นในที่ที่ห่างไกลออกไปนับล้าน ๆ ไมล์ กองยานนับไม่ถ้วนหลั่งใหลออกจากมัน และอบุติเห็นสงครามกาแล็กซี่ที่เทียบได้กับยุคสำรวจ ไม่มีใครจะหลีกเลี่ยงมันได้”
ดวงตาของหานเซี่ยวพลันเปลี่ยนไป นั่นฟังดูเหมือนการรุกรานของอารยธรรมต้นไม้โลก
คำทำนายเกิดขึ้นด้วยเหตุผล ต้องมีสาเหตุหรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ทำให้อีซอปเกิดคำทำนายนี้ นั่นหมายความว่าโครงเรื่องต้นไม้โลกถูกเร่งกระบวนการขึ้น
หานเซี่ยวนึกถึงพิกัดของรูหนอนจากอดีต ซึ่งยากจะกำหนดได้อย่างแม่นยำ
เขามีความคืบหน้าจำกัด แล้วจักรวรรดิจะพบอะไรบ้างหรือยัง? ดูเหมือนฉันต้องหาเวลาไปถาม ย้อนกลับไปตอนเทพเอสได้รับพิกัดรูหนอนมา ฉันรู้ว่าเนื้อเรื่องต้นไม้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว..หานเซี่ยวส่ายหัว
อีซอปยืนขึ้น บิดเอวและพูด”ฉันได้ส่งคำทำนายให้นายแล้ว ฉันจะทิ้งที่เหลือไว้ให้นาย ฉันจะบอกนายทันทีถ้ามีคำทำนายใหม่ๆ”
เขาจงใจบอกคำทำนายเหล่านี้กับหานเซี่ยว ไม่ใช่กับเอเมสเพราะมันจะไม่สร้างความแตกต่างถ้าเอเมสรู้ เธอแค่จะรับฟังเท่านั้น มีเพียงแบล็คสตาร์ถึงทำอะไรบางอย่าง
หานเซี่ยวกำลังจะส่งอีซอปออก แต่อีซอปลพันโบกมือ บอกเขาว่าไม่จำเป็น แต่ทว่า เขาก็พลันหยุดที่ประตู ราวกับเขาคิดอะไรได้”ตอนที่ฉันรอนาย ฉันได้ทำนายให้ลูกน้องนายเพื่อฆ่าเวลา เด็กที่ชื่อแฮร์ริสันมีอนาคตสดใสมาก สายใยชะตากรรมของเขาหนามาก และมันก็เบี่ยงไปจากเส้นทางเดิม”
จากนั้น อีซอปก็เปิดประตูเดินออกไปหานเซี่ยวหันไปมองแฮร์ริสันที่ยังไม่รู้เรื่อง หานเซี่ยวไม่แปลกใจเลย
เขาลากแฮร์ริสันมากับเขา แน่นอน สายใยชะตาย่อมเบี่ยง สงครามต้นไม้โลกน่าจะปะทุเร็วขึ้น และมันก็ไม่แน่ใจว่าแฮร์ริสันจะเสียสละตัวเองเหมือนที่ทำในชีวิตก่อนของหานเซี่ยวไหม
หานเซี่ยวยึดถือคำทำนายทั้งสามไว้ แม้จะค่อนข้างเลือนราง อีซอปก็ให้ข้อมูลสำคัญกับเขาทางอ้อม เขาจึงมีเบาะแสเพิ่ม
ปัจจุบัน สิ่งที่ดีสุดคือมองหาคนที่อีซอปพูดถึงก่อน หานเซี่ยวให้ภาพวาดของเป้าหมายกับฟิลลิป บอกให้จับตาดูทั้งดาว จากนั้นก็เรียกสมาชิกกองทัพที่ประจำการบนดาวอความารีน ส่งพวกเขาออกไปค้นหาทั้งดาว
ด้วยอำนาจของเขาบนดาวอความารีน เขาสามารถหาได้แม้แต่หนูตัวเล็กๆ ไม่ต้องพูดถึงคน
ชื่อของฉันคือโรดี้ แอนเชอร์ อายุ 48 ปี พลเมืองของเมืองป่าน้ำแข็ง ประเทศเมเปิ้ลดาวอความารีน บ้านของฉันอยู่บนถนนแสงอรุณ 107 บล็อกB 1511 รหัสประจำตัวของฉันคือ77054591A62H ปัจจุบันฉันกำลังทำงานที่สาขาองค์กรเฟโร่ ฉันเป็นรองผู้จัการแผนกปฏิบัติการ.
พ่อแม่ฉันเป็นผู้รอดชีวิตจากยุคเก่า พวกเขาตายระหว่างมหันตภัยกลายพันธุ์ ตอนนั้น ฉันเป็นแค่เด็กโง่ๆ หายนะทำให้ประชากรของเมืองส่วนใหญ่หลบหนี ร้านค้าถูกปล้น รถโดนเผาอยู่ทั่วถนน ฉันใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแบบนี้ได้ไม่นานและในที่สุดก็พบกับทีมกู้ภัยของกองทัพแบล็คสตาร์ และถูกนำตัวมาใช้ชีวิตในเขตอนุรักษ์
หลังจากนั้น ท่านแบล็คสตาร์ก็กำจัดมหันตภัยกลายพันธุ์ ฉันถูกส่งตัวไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า 87 หลังได้รับการบำบัดจากคุณมาร์ธาเป็นเวลาหกปี ในที่สุดฉันก็ผ่านพ้นอาการบาดเจ็บวัยเด็กได้ ความวิตกทางสังคม ภาวะซึมเศร้าและอาการเจ็บปวดอื่นหายขาด
หลังจากนั้น ชีวิตฉันก็รู้สึกเหมือนก้าวหน้าเร็วไป ไปโรงเรียน จบการศึกษา เข้าสังคม เข้าร่วมการก่อสร้างดาวอความารีนใหม่ เปลี่ยนงาน ย้านบ้าน มีแฟนสาว ชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวถึงสองครั้ง…ทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก เมหือนทุกคนในยุคเดียวกับฉัน ฉันทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือสังคมและยุคใหม่ ด้วยตาของฉันเอง ฉันได้เห็นการพัฒนาอย่างไม่น่าเชื่อของดาวอความารีนหลังเชื่อมต่อกับสังคมกาแล็กซี่
แต่ทว่า เมื่อฉันโตขึ้น ความทะเยอทะยานก็เริ่มลดลง ฉันเริ่มคิดถึงพ่อแม่มากขึ้น ห้าปีก่อน ฉันตัดสินใจลาออกจากงานในบริษัทใหญ่ของเมืองแบล็คสตาร์ กลับไปบ้านเกิดที่ชื่อเมืองป่าน้ำแข็ง เมืองบ้านเกิดฉันได้รับการสร้างขึ้นใหม่แล้ว ฉันซื้อบ้านในเมืองนี้ หางานใหม่และเริ่มอาศัยที่นี่
งานใหม่สบายมาก สภาพแวดล้อมการแข่งขันรุนแรงที่ฉันพบในเมืองหลวงไม่มีที่นี่ ชีวิตเหมือนทะเลสาบเงียบสงบ ฉันเจอคนเดิมๆทุกวัน ฉันแก่แล้วและฉันก็ชอบชีวิตแบบสงบสุขมากขึ้น อย่างรวดเร็ว ฉันตกหลุมรักชีวิตที่สงบสุขนี้
ปฏิทินกาแล็กซี่ปี 731 วันที่ 16 กรกฏาคม ฉันยังจำเช้าสดใสวันนั้นได้ ฉันตื่นแต่เช้า อาบน้ำตามปกติ เตรียมออกไปนำอาหารเย็นที่เหลือจากเมื่อวานมาอุ่น
แต่ทว่า ตอนฉันกำลังแปรงฟัน จู่ๆฉันก็มองไม่เห็นตัวเองในกระจก!
ฉันกลัวจับใจ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันขลุกตัวอยู่มุมห้องน้ำ มองรอบๆอย่างกระวนกระวายราวกับจะมีสัตว์ประหลาดโผล่ออกมา ฉันอยู่ในสภาพนั้นนานเป็นนาที จากนั้นในที่สุดฉันก็รวบรวมความกล้าวิ่งออกห้องน้ำ ฉันรีบคว้ากุญแจ ออกบ้าน กดปุ่มลอฟต์อย่างรวดเร็วเหมือนคนบ้า
ฉันอาศัยในตอนโดที่สูง 33 ชั้น มันมี ลิฟต์4ตัว ตอนเช้าลิฟต์มักขึ้นไปชั้นบนก่อนค่อยๆลงมา หยุดแทบทุกชั้น โดยปกติ ฉันจะดูข่าวยามเช้าขณะรอลิฟต์ แต่ทุกวินาทีกลับนานนับปีในตอนนี้ สุดท้าย ลิฟต์ก็มาถึงชั้นที่เขาอาศัย ประตูเปิด มันเต็มไปด้วยคน โดยปกติ ตอนฉันเจอแบบนี้ ฉันจะทักทายเพื่อนบ้านภายในด้วยรอยยิ้มและรอลิฟต์ถัดไป แต่ทว่า ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไร ฉันคว้าประตู และกรีดร้องใส่พวกเขา อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน
อย่างไรก็ตาม ฉันพบว่าไม่มีใครมองฉันเลย ไม่มีใครฟังฉัน ราวกับฉันไม่มีตัวตน!
ขณะที่ฉันกำลังตื่นตระหนกและหวาดกลัว คนด้านในก็สังเกตว่าประตูลิฟต์ไม่ปิด ดังนั้นคนที่ยืนอยู่ข้างปุ่มจึงกดปุ่มปิดอย่างหมดความอดทน บางคนยังพยายามตบประตู และมือของคนคนนั้นก็โดนแขนฉัน
บางสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันยิ่งหวาดกลัว มือของคนคนนั้นผ่านแขนฉันไป
ก่อนสมองฉันจะได้ตอบสนอง ภาพของฉันก็เริ่มกระเพื่อม ฉันเห็นภาพลวงตา หญิงสาวในลิฟต์ไม่ได้ถืออุปกรณ์สื่อสารไว้ในมือเธออย่างเหมาะสม และมันก็ร่วงตกลงพื้น
ทันใดนั้น ความเจ็บปวดมหาศาลก็ปะทุในตัวฉัน ฉันเสียการควบคุมร่างกาย ล้มลงกับพื้น เริ่มกระตุก สายตาฉันพร่ามัว ความรู้สึกง่วงพุ่งเข้าสมอง
วินาทีก่อนฉันจะหมดสติ ฉันเหลือบเห็นอุปกรณ์สื่อสารที่เหมือนกับอันที่ฉันเห็นในภาพลวงตาก่อนฉัน ฉันเห็นมันตกลงบนพื้นลิฟต์
วินาทีถัดมา ฉันก็หมดสติ
ตอนฉันตื่นขึ้นอีกครั้ง มันก็ดึกแล้วและฉันยังนอนบนพื้นด้านนอกลิฟต์ ความรุ้สึกอ่อนแอแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวราวกับฉันไม่ได้กินหรือนอนมาสองวันเต็ม
ความรู้สึกหิวกระหายขับไล่ความกลัวฉันออกไป ฉันลากตัวเองกลับบ้าน กินแทบทุกอย่างในตู้เย็น ในที่สุดก็พอมีแรง ระหว่างนั้น ฉันพยายามใช้ช้อนส้อมโลหะและกล้องเพื่อดูเงาสะท้อนของฉัน แต่ทุกอย่างกลับล้มเหลว
หลังจากนั้น ฉันพยายามสงบสติ หลังทดสอบหลายครั้ง ฉันตระหนักว่าฉันไม่มีตัวตนอยู่ และฉันก็ไม่สามารถแตะต้องใครได้เลย แต่ทว่า ฉันสามารถมีอิทธิพลต่อวัตถุบางอย่างที่ไม่ได้สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตได้
ดังนั้น ฉันจึงพยายามขับรถ ขโมยของ สร้างเหตุการณ์และอื่นๆ การกระทำส่วนใหญ่ของฉันจะมีอิทธิพลโดยตรงต่อคนอื่น แต่ทว่า ความพยายามการขโมยของฉันก็ได้ผล ไม่มีใครสังเกตเห็นเลย มันต้องขอบคุณที่ฉันมีชีวิตได้อยู่ถึงตอนนี้ ไม่งั้นฉันคงอดตายไปนานแล้ว
ภาพลวงตาที่ทำให้ฉันหมดสติเกิดขึ้นบ่อย ฉันตระหนักว่าฉันดูเหมือนจะมองเห็นช่วงเวลาหนึ่งในอนาคตได้ แต่ฉันไม่สามารถใช้หรือยกเลิกพลังนั้นได้ ตอนพลังนี้เกิดขึ้น ฉันจะหมดสติและรู้สึกอ่อนแอ ฉันเดาว่าค่าใช้พลังนี้คงเป็นความแข็งแกร่งของฉัน
ฉันคิดถึงมหันตภัยกลายพันธุ์ ร่างของฉันผ่านการกลายพันธุ์แสนน่ากลัว ฉันใช้ชีวิตประมาณสามเดือนในสภาพนี้ เดิมที ฉันกลัว แต่จากนั้น ฉันก็รู้สึกมีความสุข ผ่านไปสักพัก ฉันรู้สึกโดดเดี่ยว ฉันไม่สามารถติดต่อกับใครได้เลย ฉันยังลองสื่อสารกับคนผ่านเครือข่าย
แต่ทว่า ไม่ว่าฉันจะใช้วิธีการใดเพื่อฝากข้อความ มันก็ยังโดนเมิน ฉันส่งข้อความหาเพื่อน แต่ไม่เคยมีการตอบกลับ ไม่มีใครจากบริษัทฉันที่โทรถามว่าทำไมฉันไม่ไปทำงาน มันเหมือนว่าทุกคนใช้ชีวิตด้วยความจริงที่ฉันไม่เคยมีตัวตน ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ดังนั้น ฉันจึงเขียนไดอารี่นี้ขึ้น หวังว่าจะมีคนเห็นมันและมาช่วยฉัน ที่อยู่ของฉันคือประเทศเมเปิ้ล เมืองป่าน้ำแข็ง ถนนแสงอรุณ 107 บล็อก B1511 ฉันจะรอที่บ้าน
ช่องทางประกาศสาธารณะดาวอความารีน กระทู้’ช่วยด้วย!ฉันหายตัวไป!’
คนดู : 0
หนึ่งวันต่อมา บนเกาะมังกร…
“ไม่เจอ?”
หานเซี่ยวได้รับรายงานค้นหาจากฟิลลิปและสมาชิกกองทัพต่างๆ”นายท่าน ฮึ่ม…ไม่เพียงจะไม่มีร่องรอยคนคนนี้ในกล้องวงจรปิดผมยังดูรูปถ่ายของประชากรชาวอความารีนทั้งหมด แต่ก็ยังไม่พบ”
“เราได้สแกนทั้งดาวโดยใช้อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณชีวิตทุกประเภท รวมถึงทุกจุด แต่ก็ยังไม่พบเป้าหมายเช่นกัน”นักรบกองทัพที่รับผิดชอบการค้นหาพูด”คนคนนี้อยู่บนดาวอความารีนจริงหรือครับ?”
หานเซี่ยวเคาะโต๊ะ หันไปหาแฮร์ริสัน ถามว่า”นายคิดยังไง?”
“ผม?”แฮร์ริสันชี้ตัวเองด้วยความแปลกใจ เขาลังเล”เราจะทำประกาศค้นหาเป็นยังไง?”
“ได้”หานเซี่ยวพยักหน้า เดิมที เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนนี้ในคำทำนายของอีซอป ดังนั้นเขาจึงไม่อยากทำให้อีกฝ่ายตื่นตูม แต่ทว่า ในเมื่อพวกเขาหาเขาไม่พบ การทำให้มันเป็นสาธารณะคงไม่ใช่เรื่องแย่ ยังไงก็ตาม เขาอยู่นี่ เขาไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาสร้างปัญหา
เขาต้องดูว่าเขามีความสัมพันธ์อะไรกับคนแปลกหน้าคนนี้