ตำแหน่งที่ตกลงกันโดยหานเซี่ยวกับผู้รักษาสัจจะเป็นดาวสถานะขนส่งแห่งหนึ่งในกลุ่มดาวรุ่งอรุณของโลกริบหรี่
เฟย์ดินได้รับการแต่งตั้งให้เป็นฑูต ซึ่งเป็นตัวแทนของกองทัพรอพบกับฑูตขององค์กรเทพอำนวยที่นั่น กระบวนการทั้งหมดจะถูกจับตาโดยหานเซี่ยวจากศูนย์ใหญ่
ผู้รักษาสัจจะยังใช้ร่างจำแลงจิตเพื่อพบกับหานเซี่ยว ทั้งคู่ยังสื่อสารกันเพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงนี้จะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น แสดงความจริงใจของพวกเขา ภายในห้องทำงาน หน้าจอเสมือนลอยบนโต๊ะและเล่นภาพจากกล้องวงจนปิด ภายในภาพคือพย่านรุ่งเรืองที่มีคนพลุกพล่าน เฟย์ดินยืนข้างกำแพงของตึก สวมหน้ากากเอาไว้ มองคนเดินเท้าเดินผ่านไปมา ฑูตองค์กรเทพอำนวยยังมาไม่ถึง
คนของนายจะมาถึงตอนไหน?เรารอมาเกือบสองชั่วโมงแล้วนะ หานเซี่ยวเอนพิงเก้าอี้และมองหน้าจออย่างเบื่อหน่าย
ใกล้แล้ว
นายพูดมาเจ็ดครั้งแล้วนะ
..ใกล้แล้วจริงๆ หลังจากนั้นไม่นาน ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวบนหน้าจอโดยถือกระเป๋าเดินทางโลหะผสมสีเงิน เขาเดินไปทางเฟย์ดิน ทั้งสองพบกัน แต่ยังไม่ก้าวเข้าสู่ขั้นต่อไป
เขาคือฑูตใช่ไหม? หานเซี่ยวถาม
ใช่ สิ่งที่นายต้องการอยู่ในกระเป๋าเดินทาง หานเซี่ยวพยักหน้า ติดต่อเฟย์ดิน บอกให้เขาแลกเปลี่ยนของ ผู้รักษาสัจจะยังใช้ความสามารถของเขาเพื่ออกคำสั่งเหมือนกัน ทั้งสองคนบนหน้าจอได้แลกเปลี่ยนสินค้ากันทันที จากนั้นก็ถอยไปสามก้าวเพื่อตรวจสอบ ทันใดนั้น ชุดเกราะก็ปรากฏบนตัวของเฟย์ดิน คลุมทั้งตัวของเขาและกระเป๋าเดินทาง ช่วงเวลาต่อมา แสงก็สว่างวาบ เขาหายไปทันที ปรากฏตัวในห้องทำงานของหานเซี่ยว
นี่ ของ เกราะเปิด เฟย์ดินวางกระเป๋าเดินทางไว้บนโต๊ะหานเซี่ยว นี่คือชุดจักรกลราชาที่หานเซี่ยวให้เฟย์ดินยืมชั่วคราว
หานเซี่ยวเปิดกระเป๋า และอากาศเย็นก็ไหลออกมา ภายในมีภาชนะทรงกระบอกสองอันที่บรรจุกลุ่มของสิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์ทั้งสองเอาไว้ หนึ่งเขียว หนึ่งฟ้า ยังมีอุปกรณ์เก็บข้อมูลด้านข้างภาชนะทั้งสอง หานเซี่ยวเปิดมันดู มันเก็บข้อมูลสำหรับพิมพ์เขียวทั้งสอง ทุกอย่างเป็นไปตามสัญญา ครั้งนี้ การแจ้งเตือนยังผุดบนหน้าต่างสถานะเขา
สิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์ที่ได้รับ : 4/4
ข้อกำหนด[ผู้สะสมความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม] ลุล่วง
ผล : เมื่อท่านสู้กับเอสเปอร์ ค่าสถานะทั้งหมดของท่านจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย -12%-20%ความเสียหายที่ได้รับจากเอสเปอร์ ท่านได้รับ1ชิ้นส่วนความสามารถ(วิหารสาม๗ ภารกิจสำเร็จแล้ว ซึ่งหมายความว่าทั้งสองเป็นของจริง!
หานเซี่ยวโล่งใจ เขาโบกมือให้เฟย์ดินเดินออกไป
กลับไปได้
ระยะเวลาสามนาทียังไม่หมด เขาเปิดใช้ชุดราชาอีกครั้งและส่งเฟย์ดินกลับไปตำแหน่งเดิม
ผู้รักษาสัจจะหันมามอง แบล็คสตาร์ เป็นยังไงบ้าง?
อืม ไม่มีปัญหา ทางนายละ?
สิ่งที่นายให้ฉันเป็นส่วนหนึ่งของอนุภาคแสงจริงๆ
หานเซี่ยวเลิกคิ้วและยื่นมือออกไป
ข้อตกลงเป็นไปด้วยดีนะ? แม้ร่างจำแลงจิตของผู้รักษาสัจจะจะจับต้องไม่ได้ เขาก็ยังทำท่าเพื่อจับมือกับหานเซี่ยว ดี
วินาทีถัดมา ฑูตเทพอำนวยบนหน้าจอก็ดูเหมือนจะเปิดใช้อุปกรณ์บางอย่างและหายลับไป โอ้?คนของนายหนีเร็วมาก นายกังวลฉันงั้นเหรอ? หานเซี่ยวถามด้วยน้ำเสียงติดตลก
ระวังไว้ก่อนย่อมดีกว่า ผู้รักษาสัจจะไม่ปฏิเสธ
เมื่อเห็นว่าฑูตทำตามแผนอย่างเคร่งครัดและออกจากที่นัดหมาย ผู้รักษาสัจจะก็ถอนหายใจโล่งอก
ข้อตกลงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทพอำนวย เขากังวลหลายอย่าง ที่สำคัญสุด เขากังวลว่าแบล็คสตาร์จะไม่ทำตามข้อตกลงของพวกเขาและพยายามไล่ล่าฑูต แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าแบล็คสตาร์จะไม่มีแผนแบบนั้นและข้อตกลงก็ดำเนินอย่างราบรื่น ด้วยอนุภาคแสง อัตราความสำเร็จของการเปิดวิหารสามย่อมเป็นไปตามที่คาด ผู้รักษาสัจจะรีบระงับความตื่นเต้นของเขาและพูด ฉันจะจดจำความมีน้ำใจของนายไว้ เนื่องจากข้อตกลงลุล่วงแล้ว มันก็ถึงเวลาต้องแยกย้าย
ทุกครั้งที่เขาติดต่อกับคนอย่างแบล็คสตาร์ มันเสี่ยง ยิ่งเขาพูด ข้อมูลก็ยิ่งรั่วไหล
โชคดี ไม่จำเป็นต้องติดต่อกับแบล็คสตาร์อีกต่อไปในอนาคต ทั้งหมดที่ผู้รักษาสัจจะอยากทำตอนนี้คือลบร่างจำแลงจิตและไม่มาพบหน้าหานเซี่ยวอีก
เนื่องจากผู้รักษาสัจจะมักติดต่อกับหานเซี่ยวผ่านร่างจำแลงจิต นี่หมายความว่ามีแค่เขาถึงติดต่อแบล็คสตาร์ได้ส่วนแบล็คสตาร์ไม่สามารถติดต่อเขาได้ ตราบเท่าที่เขาไม่ติดต่อแบล็คสตาร์อีก แบล็คสตาร์ก็จะไม่มีวันได้เห็นเขา ครั้งนี้ หานเซี่ยวพลันยิ้ม อย่ารีบร้อนสิ ใครจะไปรู้ว่าเราจะเจอกันอีกตอนไหน?มาคุยกันสักพักสิ ฉันมีคำถามอยากถามก่อนนายไป
หัวใจของผู้รักษาสัจจะเต้นกระหน่ำ โอ้ ไม่เอาหน่า ทำไมแกถึงมีคำถามอีกแล้ว?คำถามแกมีแต่คำถามชวนหัวใจวาย!ผู้รักษาสัจจะพยายามอดทน ..งั้นถามมา ฉันจะตอบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หานเซี่ยวหรี่ตาและยิ้ม เหมือนกับผู้รักษาสัจจะ เขาไม่มีอะไรที่ต้องกังวลหลังได้ของ
หลังทำเหมือนเขากำลังครุ่นคิด เขาก็ตัดสินใจเริ่มจากคำถามที่ทำให้ผู้รักษาสัจจะตกใจน้อยสุด …นายรู้จักบุตรแห่งโชคชะตาไหม? ดวงตาของผู้รักษาสัจจะเปลี่ยนไป
ระยำ!แกพบอะไรอีกแล้ว?เขาจ้องตาหานเซี่ยว หวังจะรู้ว่าเขาคิดอะไร แต่ ดวงตาใสของแบล็คสตาร์เต็มไปด้วยความจริงใจ ราวกับเขาแค่ถามเฉยๆ ผู้รักษาสัจจะสงบความตกใจและถาม ทำไมนายถึงถามฉัน?เกิดอะไรขึ้น?
อืม ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร ฉันเคยพบคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่าบุตรแห่งโชคชะตา น่าเศร้า เขาตายในระเบิดนิวเคลียร์ หลังจากการตรวจสอบบางอย่าง ฉันพบว่าดูเหมือนจะมีความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มที่เรียกว่าบุตรแห่งโชคชะตาดำรงอยู่ในจักรวาล มันดูเหมือนจะสามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตให้เป็นกายย่อยพิเศษได้ พวกนายมีความเชี่ยวชาญด้านนี้ ฉันจึงมาปรึกษา
แค่นั้น?
จะอะไรอีก?แต่จากที่นายแสดง องค์กรเทพอำนวยนายดูเหมือนจะรู้หลายสิ่ง’หานเซี่ยวสำรวจอีกฝ่ายและสงสัย เป็นไปได้ไหมที่บุตรแห่งโชคชะตาจะอยู่ในกำมือนาย?วิธีที่ฑูตนายหายตัวไปก่อนหน้าดูเหมือนเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับรูปแบบข้อมูลเลยนะ พวกนายคิดค้นมันขึ้นมาใช่ไหม?
ผู้รักษาสัจจะปวดหัว เขาเสียใจที่แสดงปฏิกิริยามากเกินไป
ไม่ใช่ พูดไร้สาระอะไร
จริง?
จริง ผู้รักษาสัจจะปฏิเสธมัน ฉันไม่สนใจหรอกว่ามันจะอยู่ในมือนายหรือเปล่า ฉันแค่อยากได้ข้อมูล พวกนายเชี่ยวชาญด้านนี้ พวกนายคงต้องรู้อะไรบ้างแน่ๆ ไม่งั้นนายคงไม่ถามฉันกลับ หานเซี่ยวเคาะโต๊ะ น้ำเสียงของเขาสบายๆ เขาดูเหมือนเขาเชื่อในสิ่งที่ผู้รักษาสัจจะพูด แต่จริงๆแล้ว เขามั่นใจ60%ว่าบุตรแห่งโชคชะตาอยู่ในมือเทพอำนวยจากปฏิกิริยาของผู้รักษาสัจจะ อย่างไรก็ตาม ผู้รักษาสัจจะไม่ยอมรับมันแน่ ดังนั้นช่างหานจึงไม่ถามต่อ สิ่งสำคัญสุดคือการถามถึงกลไกของบุตรแห่งโชคชะตา
ผู้รักษาสัจจะไตร่ตรองอย่างหน่ายใจและเลือกเผยข้อมูลบางอย่าง บุตรแห่งโชคชะตาเป็นความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มที่เก่าแก่มาก เราไม่รู้เกี่ยวกับมันมากนัก สิ่งที่เรารู้นั้นมาจากสิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มอื่น พวกมันบอกว่าความสามารถของบุตรแห่งโชคชะตาเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบข้อมูลและสายใยชะตากรรม และมันก็มีความสามารถทำนายที่ทรงพลังมาก ‘สายใยชะตากรรมยังเรียกอีกอย่างว่า’เหตุ’และ’ผล’ในบางวัฒนธรรม เหมือนกับตาข่ายขนาดใหญ่ ถ้านายสัมผัสสักเส้น แรงสะเทือนจะส่งไปเส้นอื่น ดังนั้น ทุกครั้งที่มันใช้ความสามารถ บุตรแห่งโชคชะตาจะต้องอ่านข้อมูลจำนวนมากและทำการวิเคราะห์ มันสามารถคำนวณความเป็นไปได้ต่างๆและผลลัพธ์ที่เหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้น จากนั้นก็ใช้เพื่อทำนายอนาคต
ในกระบวนการนี้ เพื่ออ่านสิ่งที่เรียกว่าสายใยชะตากรรม มันจะปล่อยอนุภาครูปแบบข้อมูลพิเศษเพื่อรวบรวมข้อมูล อนุภาคเหล่านี้จะทำให้เกิดการรบกวนสถานะข้อมูล พวกมันจะสร้างกายข้อมูลสุ่มๆ รับข้อมูลบางส่วนและนั่นคือวิธีที่กายย่อยถือกำเนิด เป้าหมายส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มบางตัวบอกว่าบุตรแห่งโชคชะตาสามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบข้อมูลมิติขั้นสูงได้ ถ้ามันไม่อยากถูกพบ ก็ไม่มีใครพบมันได้ นั่นทำให้ไม่มีใครสามารถจับมันได้จนถึงตอนนี้…ดังนั้น ที่นายพบสองกายย่อยก็เพราะว่านายโชคดี ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย ความคิดของเขาหมุนอย่างรวดเร็ว ข้อมูลนี้แทบเหมือนกับกลไกที่เขาคาดการณ์ไว้ แต่ทว่า เขารู้สึกว่าความสามารถของมันไม่หยุดแค่นี้ แค่ทำนาย?อาจไม่!ในเมื่อบุตรแห่งโชคชะตาสามารถสร้างกายย่อยได้ หรือว่ามันยังสร้างสิ่งอื่นได้?หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนทิศทางสายใยชะตากรรมของคน?มีหลายรูปแบบที่เรียกว่าการรบกวนสถานะข้อมูล หานเซี่ยวไม่ลืมไวรัสโดมิโน่ที่ทำให้เกิดไวรัสกบฏเสมือน ในเวอร์ชั่นหนึ่ง ข้อมูลที่เขาได้รับจากองค์กรต้นกำเนิดบอกว่าความสามารถของงบุตรแห่งโชคชะตาคือการมีอิทธิพลเหนืออนาคต ไม่ใช่แค่การทำนายอนาคต หานเซี่ยวเคยเลิกคิดเพราะตอนนั้นความรู้เขายังไม่กว้างขวาง แต่ตอนนี้มันไม่อาจเข้าใจผิดไปได้ หานเซี่ยวถามคำถามเพิ่ม ซึ่งผู้รักษาสัจจะบอกว่าไม่รู้ เห็นได้ชัดว่าไม่เต็มใจเปิดเผยข้อมูลมากไปกว่านี้
เมื่อเห็น หานเซี่ยวก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเปลี่ยนเรื่อง เขาหรี่ตา อืม ครั้งก่อนที่นายบอกฉันว่าความสามารถร่างจำแลงจิตของนายทำงานยังไง หลังจากนั้น ฉันก็ค้นคว้า ดูเหมือนจะมีความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มที่เรียกว่าไฟวิญญาณอยู่กับนายสินะ
เมื่อได้ยิน ผู้รักษาสัจจะก็พยักหน้าและพูดตรงๆ ถูกต้อง ฉันเป็นนายของไฟวิญญาณ
อืม ฉันได้ทำการค้นคว้าลึกลงไปอีก มันดูเหมือนนายคนสุดท้ายในจักรวาลของมันจะเป็นเอสเปอร์ผู้อยู่เหนือที่มีฉายาว่าจักรพรรดิวิญญาณ ชื่อของเขาคือโรเวลล์ ซิสซ็อก…นายรู้จักเขาไหม?
จากนั้นหานเซี่ยยวก็จ้องผู้รักษาสัจจะ อยากดูทุกปฏิกิริยา แต่ทว่า ผู้รักษาสัจจะไม่แปลกใจเลย ฉันเองก็ได้ยินเกี่ยวกับเขาด้วย แต่ฉันไม่รู้จักเขา
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว ในความคิดของเขา ไม่เหมือนกับคำถามเกี่ยวกับบุตรแห่งโชคชะตา ผู้รักษาสัจจะไม่แสดงปฏิกิริยาเลยกับคำถามนี้ เขาไม่รู้ว่ามันเพราะผู้รักษาสัจจะเตรียมใจไว้แล้วหรือเขาไม่สนใจถึงตัวตนที่โดนเปิดโปง หรือเขาอาจเดาผิดและผู้รักษาสัจจะไม่ใช่จักรพรรดิวิญญาณที่อาจแกล้งตาย หานเซี่ยวถาม ในเมื่อไฟวิญญาณเคยอยู่กับเจ้านายคนนี้ มันก็ต้องรู้มากกว่า ช่วยฉันถามมันหน่อย…
หานเซี่ยวรู้สึกแปลกทันทีที่เขาถาม มันฟังดูเหมือนเขากำลังขอให้ผู้ชายถามแฟนสาวคนปัจจุบันถึงแฟนเก่าของเธอว่าเป็นยังไง
อะไร? ผู้รักษาสัจจะไม่เห็นด้วยหรือปฏิเสธ อืม ฉันอยากรู้มากว่าหลังจักรพรรดิวิญญาณ ใครรับไฟวิญญาณไป แล้วมันมาอยู่ในมือนายได้ยังไง?
น้ำเสียงของผู้รักษาสัจจะเปลี่ยนไป’ไม่คิดว่าคำถามนี้เป็นเรื่องส่วนตัวงั้นหรือ?
ในฐานะชายผู้คลั่งใคล้ มันผิดหรือที่ฉันอยากรู้? หานเซี่ยวชินกับข้ออ้างดาษๆ ผุ้รักษาสัจจะทำได้แค่ส่ายหัว เอาละ ฉันรู้ว่านายอยากรู้ว่าฉันเป็นใคร และนายก็คือว่าฉันเป็นจักรพรรดิวิญญาณหรือหนึ่งในผู้อยู่เหนือที่ฆ่าจักรพรรดิวิญญาณและชิงไฟวิญญาณมาสินะ แต่นายเดาผิด ฉันไม่ใช่หนึ่งในนั้น ฉันไม่ได้ขโมยไฟวิญญาณมากจากใคร ตอนฉันเจอมัน มันก็เป็นอิสระแล้ว
งั้นนายช่วยฉันถามมันได้ไหม หานเซี่ยวถาม
มันไม่เต็มใจพูด ผู้รักษาสัจจะส่ายหัว แต่เขาก็พลันหยุดไปสักพัก แต่ มันบอกฉันว่าจักรพรรดิวิญญาณไม่ได้ตายในการต่อสู้ เนื่องจากนายดูข้อมูลเกี่ยวกับเขามาแล้ว ฉันก็จะไม่เจาะลึก ยังไงก็ตาม ระหว่างการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของจักรพรรดิวิญญาณ กายเขาโดนทำลาย แต่ทว่า เนื่องจากความสามารถเอสเปอร์ของเขา วิญญาณของเขาจึงไม่ตายและหลบหนไป ซึ่งไฟวิญญาณก็ไม่รู้ว่าไปไหน
หานเซี่ยวครุ่นคิด เขาไม่รู้ว่าผู้รักษาสัจจะพูดจริงหรือเปล่า แต่จากน้ำเสียงและเนื้อหา มันฟังดูจริง
ในชีวิตก่อนหน้าของหานเซี่ยว จักรพรรดิวิญญญาณไม่ได้คืนชีพ ซึ่งหมายความว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่เขาจะยังมีชีวิต ถ้าผู้รักษาสัจจะไม่ใช่จักรพรรดิวิญญาณ แล้วใคร?หรือว่าเขาจะหนีไปในมิติที่สองและไม่กลับมาอีก?
นายมีคำถามอื่นไหม?ถ้าไม่ ฉันก็จะไป
ผู้รักษาสัจจะร้อนใจ
เขาไม่อยากอยู่คุยกับหานเซี่ยวต่อ เขามีเรื่องสำคัญต้องทำ ความคิดทั้งหมดของเขาจดจ่อกับพิธี คำสัญญาในที่สุดก็จะได้รับการเติมเต็มสักที
สำหรับเขา การคุยกับหานเซี่ยวถือเป็นการให้เกียรติแล้ว ไม่งั้นเขาคงลบร่างจำแลงทันทีที่ข้อตกลงลุล่วง เขาคงไม่ได้ติดต่อกับหานเซี่ยวในอนาคตอยู่แล้ว เขาจึงไม่สนใจที่จะทำตัวหยาบคาย
เอาล่ะ นายคงมีเรื่องสำคัญต้องทำจริงๆ หานเซี่ยวยืนขึ้น ทำท่าอำลา และจงใจถอนหายใจ เห้อ เพื่อน ฉันชอบนายนะ หลังนายจากไปครั้งนี้ มีเพียงพระเจ้าถึงรู้ว่านายจะติดต่อหาฉันตอนไหน ฉันจะไม่พูดมาก เมื่อนายคืนชีพบรรพชน อย่าลืมฝากคำคิดถึงของฉันให้พวกเขาด้วย การเคลื่อนไหวของผู้รักษาสัจจะพลันหยุดชะงัก
ร่างจำแลงสั่นเหมือนเจ้าเข้า ซึ่งแสดงถึงอารมณ์ผันผวน ความผันผวนนี้ทำให้ผู้รักษาสัจจะเสียสมดุล มากจนเขาเกือบหลุดการควบคุมความสามารถ!เขาเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
แกรู้ความลับสุดยอดของเราได้อย่างไร?
ฉันตรวจสอบเบื้องบนทั้งหมดแล้ว ไม่มีสายเลย!
เมื่อความคิดนี้ปรากฏ ผู้รักษาสัจจะก็ตกตลง รอเดี๋ยว ฉันพลาดสิ่งหนึ่งไป จริงๆแล้วมีอีกคนที่ยังไม่โดนตรวจสอบ!มีคนเคยกล่าวไว้ว่า เมื่อกำจัดความเป็นไปได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเหลือเชื่อและเป็นไปไม่ได้มากแค่ไหน มันก็คือความจริง
งั้น…
ฉันคือสาย?
สมองของผู้รักษาสัจจะระเบิด