ดาวจาดิงเจอร์เป็นท่าจอดดวงดาวที่ค่อนข้างเจริญซึ่งเป็นของฝ่ายเป็นกลาง มีเครือข่ายองค์กรซับซ้อนและผู้คนจะผ่านมันทุกวัน บนถนนพลุกพล่าน มีชายร่างสูงสองคนเดินเล่นซื้อของ พวกเขาจะเดินเข้าร้านข้างถนนเป็นครั้งคราว มองซ้ายมองขวา
ทั้งสองคือหานเซี่ยวกับคาซูยินั่นเอง
มันผ่านมากว่าครึ่งเดือนแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาสู้กับกลุ่มของมิลตัน หานเซี่ยวนำคาซูยิไปดาวจาดิงเจอร์ตามพิกัดที่ชายลึกลับให้ไว้ พวกเขารอที่นี่มาหลายวัน แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวใด
มันหลายวันมาแล้ว ทำไมคนลึกลับที่นายพูดถึงยังไม่ตอบสนอง? โอ้ ฉันอยากได้อันนี้ ขอบคุณ
คาซูยิยืนด้านหน้าตู้ขายของแบบบริการตัวเองในร้านอาหาร เขาชี้กระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีเขียว พวกเขาคงดูอยู่ว่าเราสามารถสลัดการไล่ล่าได้ไหม
หานเซี่ยวยักไหล่ เปิดใช้งานการบุกรุกเสมือน เจาะเข้าร้านทั้งหมด วินาทีต่อมา กระป๋องเครื่องดื่มสองกระป๋องก็เด้งออกมาจากเครื่อง
เพราะพวกเขาเข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย โดยปราศจากบัญชีธนาคารชื่อพวกเขา พวกเขาจึงไม่มีเงิน เขาทำได้แค่ใช้การบุกรุกเสมือนเพื่อเลี่ยงการชำระเงินแบบนี้ เหมือนกับการเอาปืนใหญ่ออกมาฆ่ายุง ด้วยระดับปัจจุบันเขา ไม่มีทางที่เขาจะทิ้งร่องรอยไว้
เห้อ ฉันไม่ได้ยากจนข้นแค้นแบบนี้มานานแล้ว ฉันกลับต้องตกต่ำมาดื่มเหล้าชั้นต่ำนี่… คาซูยิกระดกของเหลวสีเขียวอ่อนด้วยท่าทางสง่างาม เราสามารถรอดชีวิตอยู่ได้เป็นสิบปีโดยไม่กิน ฉันคิดว่านายแค่โลภ
หานเซี่ยวกลอกตา ซดน้ำจนหมดในอึกเดียวก่อนบีบกระป๋องเป็นลูกบอล โยนมันลงถังขยะข้างๆ ทั้งสองไม่ได้ทำอะไร และดังนั้น พวกเขาจึงเร่ร่อนบนถนน พยายามเรียนรู้เกี่ยวกับประเพณี
ตอนแรก ทั้งคู่ยังระวังตัว แต่ศัตรูพวกเขาไม่เคยมาหา พิสูจน์ว่าอุปกรณ์ได้ผล
ขณะที่พวกเขากำลังสนทนา ข่าวก็ปรากฏบนหน้าจอเสมือนภายในร้าน ดึงดูดความสนใจพวกเขา
ข่าวด่วน : แผนกความมั่นคงพลังพิเศษ พันธมิตรดาวสวรรค์ได้ออกหมายจับอาชญากรสองคน เนื้อหามีดังนี้…
เป้าหมาย : แบล็คสตาร์ ช่างกลระดับสูงสุด รางวัล 1.6 พันล้านเหรียญพันธมิตรดาว
เป้าหมาย : คาซูยิ ผู้ใช้พลังจิตระดับสูงสุด รางวัล 1.6 พันล้านเหรียญพันธมิตรดาว
อาชญากรทั้งสองก่ออาชญากรรมมากมายและอันตรายมาก พวกเขาขับไล่ทีมไล่ล่าได้ ถ้าพบที่อยู่พวกเขา โปรดรายงานทันที ข้อมูลติดต่อคือ…
เมื่อเห็นข่าวนี้ หานเซี่ยวก็อดหัวเราะไม่ได้ โอ้ ค่าหัวเพิ่มขึ้นอีกแล้ว มันดูเหมือนพวกเขาจะหาเราไม่เจอจริงๆ
แต่ คาซูยิกลับหน้าดำมืด
ทุกครั้งที่เขาเห็นชื่อบนค่าหัวเขา เขาจะลุกเป็นไฟอย่างควบคุมไม่ได้
ไม่ว่าเขาจะมองมันยังไง ชื่อ’ราชันมิติ’ดูยิ่งใหญ่กว่าไม่ต้องสงสัย มันเหมาะกับสถานะของเขามาก! ทำไมพวกโง่เหล่านั้นถึงไม่สนใจคำพูดเขาและยึดคำพูดของแบล็คสตาร์เป็นจริงเป็นจัง?
โอ้ ใช่ พูดถึงอาชญากร ฉันได้ท่องอินเทอร์เน็ตเมื่อวาน.. หานเซี่ยวลูบคางด้วยความสนใจ ค่าหัวที่เพิ่มเข้ามาของเราทำให้เราอยู่ในอันดับสองของผู้ลี้ภัยทั้งหมดในจักรวาลนี้
เราเป็นอันดับสอง? เราไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายเลยนะ คาซูยิขมวดคิ้ว
แถม ค่าหัวเราไม่ควรสูงขนาดนั้น ไม่มีอาชญากรที่ดุร้ายกว่าเราแล้วหรือ?
มันดูเหมือนจะเป็นงั้น พันธมิตรดาวสวรรค์มีประสบการณ์หลายปีโดยไร้ความวุ่นวาย ไม่เพียงการปกครองพวกเขาจะมั่นคง ผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ที่นี่ยังเหมือนทารกที่เชื่อฟัง เราคือพวกผิดปกติ หานเซี่ยวโบกมือ งั้น ใครอยู่เหนือกว่าเรา?
มันเป็นองค์กรชื่อ (เนตรเห็นแจ้ง) ด้วยค่าหัวหกพันล้าน แต่ทว่า ฉันไม่สามารถหาบันทึกอาชญากรรมพวกเขาได้เจอ หานเซี่ยวส่ายหัว
ทั้งสองเดินออกร้านขณะคุยกัน ก่อนหน้านั้นไม่นาน พวกเขาเจอร้านแสนคึกคัก และเสียงโห่ร้องก็ชักจูงพวกเขาให้เดินไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
การตกแต่งภายในเหมือนร้านบอร์ดเกม เกมไพ่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ’ไพ่วิญญาณเหลือล้น’ มันดูเหมือนจะมีคนเล่นกันอยู่ ด้วยสี่คนที่นั่งบนโต๊ะเกม เล่นกันเองขณะที่ผู้ชมล้อมรอบพวกเขา ตรงกลางห้องเป็นตู้กระจกที่มี่ไพ่ทำอย่างประณีตสามใบลอยอยู่ พิธีกรเพิ่มบรรยากาศอย่างต่อเนื่องโดยเน้นว่าผู้ชนะเกมสามารถเดินออกไปพร้อมไพ่รุ่นลิมิเต็ดสามใบนี้
ขณะที่ทั้งคู่โน้มตัวเพื่อดู สีหน้าพวกเขาก็แปลกไป
นายรู้สึกว่ามันค่อนข้างคุ้นๆ หรือเปล่า? คาซูยิกระซิบ
อย่าพูด.. ปากของหานเซี่ยวกระตุก
เป็นไปได้ไง? รูปแบบการเล่นของเกมไพ่นี้เหมือนกับไพ่เวย์นไม่มีผิด แค่ตัวละครที่ต่างกัน
ทำไมถึงมีเกมไพ่คล้ายกันที่นี่? หรือว่าเป็นเจตจำนงของจักรวาล เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นไพ่จะอยู่ในโลกตลอดไป?
ตอนนี้ สัมผัสของทั้งสองจับอะไรบางอย่างได้ พวกเขาหันหัวพร้อมกัน พบคนที่จ้องพวกเขาจากฝูงชน
เมื่อเห็นพวกเขามองมา ชายคนนั้นก็ล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกง ค่อยๆ หยิบโลหะสีเขียวออกมาเขย่าก่อนจากไป
นั่นคืออุปกรณ์ที่ชายลึกลับมอบให้…
หานเซี่ยวจำมันได้ทันทีก่อนเหลือบมองคาซูยิ พวกเขาก้าวตามไป
คนคนนั้นเดินไปและหยุดระหว่างทาง เหลือบมองย้อนกลับมาราวกับกำลังนำทาง พวกเขาเดินไปตามถนน ในไม่ช้าก็พบท่าจอดเก่าแก่
คนคนนั้นเปิดโรงจอด ซึ่งเผยให้เห็นยานอวกาศธรรมดาทั่วไป จากนั้นเขาก็เปิดประตู หันมามองทั้งสองราวกับกำลังเชื้อเชิญ
เมื่อเห็น หานเซี่ยวกับคาซูยิก็ตรวจสอบยานด้วยสัมผัสพวกเขา เมื่อไม่พบความผิดปกติ พวกเขาจึงก้าวขึ้นไป
อย่างรวดเร็ว ยานสั่นเล็กน้อยก่อนเคลื่อนตัวออกไป มุมมองของดาวจาดิงเจอร์จากหน้าต่างหดเล็กลง
ในที่สุดหานเซี่ยวก็ถอนสายตา หันกลับไปมองคนนำทางเงียบๆ ก่อนหยิบโลหะผสมสีเขียว-ทองออกมาถาม ช่วยอธิบายได้ไหมว่านายเป็นใคร? ทำไมถึงพาเราขึ้นยาน?
เมื่อได้ยิน ผู้นำทางก็จัดเสื้อผ้าก่อนค่อยๆ พูด ขอผมแนะนำตัวเองก่อน ผมเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของเนตรเห็นแจ้ง ลูซิเดียส มันเป็นหัวหน้าของผมที่ขอให้มาพบพวกคุณ
เนตรเห็นแจ้ง…นั่นไม่ใช่องค์กรที่มีค่าหัวสูงสุด?
คาซูยิเหลือบมองหานเซี่ยว
ดวงตาของหานเซี่ยวทอประกาย เขาตอบ ในกรณีนั้น มันหมายความว่าผู้นำนายเป็นคนส่งข้อความไม่ระบุตัวตนมาให้ฉันใช่ไหม?
งานของผมคือพาพวกคุณทั้งสองไป หน้าที่ผมแค่แสดงเครื่องปกปิดสวรรค์ ให้คุณติดตามผม ส่วนที่เหลือ ผมไม่รู้ ลูซิเดียสส่ายหัว
อุปกรณ์ปกปิดสวรรค์? หานเซี่ยวยกโลหะผสมขึ้น หมายถึงสิ่งนี้?
ถูกต้อง มันคือเทคโนโลยีหลักของเรา เนตรเห็นแจ้ง ลูซิเดียสพยักหน้า
เนตรเห็นแจ้งของพวกนายทำอะไรกันแน่? หานเซี่ยวอยากรู้
ขอโทษด้วย แต่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผู้นำ ผมไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ถ้าพวกคุณมีคำถาม เชิญถามผู้นำเรา ลูซิเดียสปฏิเสธที่จะตอบ โยนขี้ให้หัวหน้าตัวเอง
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถขุดข้อมูลได้อีก หานเซี่ยวจึงหยุดถาม เริ่มตั้งสมมติฐานเอง
ระหว่างนี้ เขายังเดาตัวตนของชายลึกลับ ในข้อความที่ส่งมา มันเผยว่าชายลึกลับได้รู้ถึงตัวตนของพวกเขาในฐานะคนนอก
เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่สถานที่นี้แยกจากจักรวาลด้านนอก หานเซี่ยวจึงรู้สึกว่าชายลึกลับอาจเป็นคนที่ล่วงล้ำเข้ามาในนี้ด้วย สหรับว่าทำไมถึงตามหาพวกเขา มันอาจเพราะเขาติดอยู่ที่นี่และต้องการผู้ช่วยเพิ่ม
เนื่องจากพันธมิตรดาวสวรรค์ยังไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ของจักรวาลด้านนอก งั้นชายลึกลับคนนี้ก็อาจไม่เปิดเผยอะไรเกี่ยวกับจักรวาลหลัก คอยซุ่มซ่อน สร้างองค์กรนี้ขึ้นในที่ลับ
ยิ่งหานเซี่ยวคิด เขายิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปได้ ในทฤษฏีของเขา ข้อสงสัยเดียวคือเนตรเห็นแจ้งเพราะมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับพวกเขา แต่เมื่อมองย้อน มันดูเหมือนเนตรเห็นแจ้งจะดำรงอยู่มานานและไม่ดูเหมือนจะสร้างขึ้นโดยผู้รุกรานเลย
เนื่องจากภารกิจเชื่อมโยงฉันกับบุคคลลึกลับ อีกฝ่ายก็อาจเป็นมิตร ไม่ใช่ศัตรู มันเปล่าประโยชน์ที่จะคิดมาก มันดีกว่าที่จะถามตรงๆ
ยานอวกาศเดินทางนานกว่าสิบวันก่อนมาถึงจุดหมาย พวกเขามาถึงยานแม่ขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายดาวเคราะห์น้อย ซึ่งรักษาการล่องหนไว้
หวือ!
ประตูเปิด ทั้งสองคนเดินตามลูซิเดียสเข้ายานแม่ไป
พวกเขาเดินผ่านส่วนต่างๆ เห็นเจ้าหน้าที่กับจักรกลจำนวนมาก
กลุ่มคนเดินผ่านแต่ละพื้นที่ เข้าลึกไปส่วนกลางของยานแม่ก่อนมาถึงหน้าประตูเหล็กขนาดใหญ่
ท่านผู้นำกำลังรออยู่ด้านใน เขาอยากพบพวกคุณแค่สองคน ผมจะไม่เข้าไปด้วย
ลูซิเดียสหยุดเดิน
คาซูยิกับหานเซี่ยวสบตากันก่อนก้าวเข้าไป ประตูเหล็กเปิดเอง ยอมให้พวกเขาเข้าไป
เมื่อพวกเขาเข้า ประตูก็ปิด
หานเซี่ยวสำรวจห้อง ท่อยื่นจากพื้นกับผนัง เชื่อมต่อกับบุคคลตรงกลางห้อง
บุคคลนี้ตัวสูง แต่รูปร่างกลับเหี่ยวเฉา ด้วยท่อที่สอดรอบตัว เขามีดวงตาสีเขียวสองคู่ คู่หนึ่งใหญ่กว่าอีกคู่ ยังมีรอยแผลเป็นบนหน้า ทำให้ตาฝั่งซ้ายของเขาบอด
เมื่อเห็นคนทั้งสอง ชายคนนั้นก็ค่อยๆ พูด เสียงของเขาแหบแห้ง ในที่สุดเราก็ได้พบกัน…คนนอก!
หานเซี่ยวหรี่ตา
เขารู้จริงๆ ว่าเรามาจากจักรวาลด้านนอก
เขาคาดไว้แล้วจึงไม่แปลกใจ คาซูยิก็เช่นกัน
เนื่องจากนายเชิญเรามา ก็ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม? นายเป็นใคร ทำไมถึงรู้เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของจักรวาลด้านนอก และมีเหตุผลอะไรถึงติดต่อเรา?
ระหว่างนี้ หานเซี่ยวมีคำถามแน่นเต็มอก ตอนนี้ที่เขาพบกับคนที่ดูเหมือนจะรู้เรื่อง เขาจึงพ่นทั้งหมดออกมา ชายลึกลับฟังเงียบๆ แต่ไม่ตอบตรงๆ ฉันรู้ว่าพวกนายมีคำถามมากมาย แต่ก่อนหน้านั้น ฉันหวังว่าพวกนายจะตอบคำถามฉันก่อน…ด้านนอกเป็นยุคไหนแล้ว? สงครามยุคสำรวจจบลงแล้วหรือยัง?
ดวงตาของหานเซี่ยวเป็นประกาย
ถามถึงสงครามช่วงยุคสำรวจ? หรือว่าคนคนนี้จะเป็นบรรพชน?
เมื่อความคิดนี้แวบเข้ามา หานเซี่ยวก็บรรยายสั้นๆ ถึงการสิ้นสุดของยุคสำรวจและตั้งคำถาม
นายเป็นบรรพชนงั้นเหรอ?
ไม่ใช่ คนคนนั้นหัวเราะ ฉันไม่ใช่บรรพชนที่พวกนายเรียก แต่ฉันได้้พบกับพวกเขาแล้ว
นายเป็นใคร?
ฉันเข้าใจความสับสนของพวกนาย พวกนายเชื่อว่าฉันเข้ามาเหมือนพวกนาย…แต่พวกนายเดาผิด ฉันเป็นคนของที่นี่ น้ำเสียงของชายลึกลับสงบ
ตอนนี้ ความเป็นไปได้ต่างๆ ผุดในหัวของหานเซี่ยว
ถ้าสิ่งที่ชายลึกลับพูดเป็นจริง และแหล่งข้อมูลของเขามาจากบรรพชนที่บุกเข้ามาที่นี่ งั้นเป้าหมายของเขาคือออกโลกนี้? แถม บรรพชนที่คนคนนี้เคยพบไปอยู่ไหน? ทำไมถึงไม่มีบันทึกพวกเขาบนเครือข่าย? หรือว่าพวกเขาจะโดนพันธมิตรดาวสวรรค์จับไปแล้ว?
ตอนนี้ ชายลึกลับพูดขึ้นอีกครั้ง
ฉันรู้ว่าพวกนายสนใจอะไรมากสุดในตอนนี้ นั่นทำให้ฉันเชิญพวกนายมา…ฉันต้องการผู้ช่วย เพื่อกำจัดโลกนี้และปลดปล่อยฉันให้เป็นอิสระ นี่..ยังเป็นทางเดียวที่พวกนายจะออกไปได้!