“นี่มันหมายความว่ายังไง? ”แมนิสันมองคาซูยิ พูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
คาซูยิถอนหายใจ ไม่เลี่ยงสายตาเขาขณะพูด”ฉันหมายความตามนั้น ฉันรู้สึกว่าแบล็คสตาร์พูดถูก ในฐานะประธานของสมาคม นายเป็นแบบอย่าง นายควรละทิ้งเทคโนโลยีเฟลอนจริงๆ แม้นี่จะเกิดขึ้นนานก่อนสร้างสมาคม แต่ตอนนี้เรากำลังสนับสนุนให้เราสามัคคีกัน การเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตนั้นอุกอาจเกินไปและจะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ”
แมนิสันหรี่ตา
นี่ดูเหมือนการกระทำที่คาดคิดไว้ล่วงหน้า ถ้าแบล็คสตาร์กับคาซูยิติดต่อกันเป็นการส่วนตัว พวกเขาคงจงใจโจมตีเขาวันนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลัง โจมตีศักดิ์ศรีเขา แบ่งแยกเขา
แน่นอน มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คาซูยิอาจมีปัญหากับเทคโนโลยีเฟลอน แมนิสันรู้จักเพื่อนเก่ามาหลายปี เขารู้ว่าเขาไม่ชอบยุ่งกับใคร จึงควรมีเหตุผลที่เขาพูดแบบนี้ซึ่งๆ หน้า
ยิ่งไปกว่านั้น เฒ่าคายังไม่ใช่คนที่ซื้อง่ายๆ แมนิสันไม่เชื่อว่าแบล็คสตาร์จะสร้างความสัมพันธ์กับคาซูยิได้ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน
หรืออาจเป็นไปได้ว่าแบล็คสตาร์มีซัมติงกับคาซูยิ…อืม ฉันจะถามเขาหลังการประชุมนี้
แมนิสันตั้งสติใหม่ มองคนอื่น”วิธีที่ฉันจัดการกับสินสงครามเป็นสิทธิ์ของฉัน ถ้าทุกคนยังคุยเรื่องนี้ ก็จะไม่ได้อะไร อย่าเสียเวลาเลย มาคุยเรื่องจริงจังกัน”
เฟลอนคือไพ่ตายของเขา ทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะยอมความโดยการข่มขู่ แต่การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนแบล็คสตาร์เพราะเขาต้องรู้ว่าแมนิสันไม่มีวันยอมละทิ้งเทคโนโลยีนี้ เขาแค่อยากบังคับให้เขาแสดงจุดยืน แบบนี้ มันสามารถเพิ่มความไม่พอใจของสมาคมส่วนใหญ่ ลดศักดิ์ศรีของเขาในฐานะประธาน
กาลอวกาศแอมเบอร์ของแบล็คสตาร์ถือได้ว่าเป็นการขังคนในคุกเท่านั้นและยังเป็นวิธีการที่ปลอดภัย แต่ทว่า เทคโนโลยีเฟลอนได้มาจากการทดลองมนุษย์ ซึ่งเลวร้ายกว่ามาก
ต่อให้แมนิสันยังโต้เถียง สถานการณ์ก็มีแต่จะไม่เอื้อต่อเขา ดังนั้น เขาจึงแสดงท่าทีแข็งกร้าว ยุติหัวข้อ
เขาแสดงท่าทีไม่ยอมแพ้ และแม้ว่ามันจะไม่เป็นไปตามความคาดหวังของทุกคน ทุกคนก็ไม่พอใจเล็กน้อยเกี่บวกับมัน เหมือนจิ้งจอกที่เศร้าใจให้กระต่ายที่ตายไปแล้ว
เมื่อเห็น หานเซี่ยวก็ตัดสินใจไม่คุยเรื่องนี้ต่อ
ทุกคนได้แสดงจุดยืนแล้ว ดังนั้นการบังคับให้เขาผ่านจะไม่บรรลุผลลัพธ์ใดแต่จะขัดขวางการประชุมเท่านั้น ตอนนี้ เป้าหมายของเขาบรรลุ ซึ่งลดศักดิ์ศรีของตาแก่แมนิสัน นอกจากนี้ เขาสามารถขุดกับดักเพื่ออีกฝ่ายได้ แมนิสันยังไม่รู้ถึงวิหาร ดังนั้นหานเซี่ยวจึงกำหนดเป้ายังช่องโหว่ข้อมูล
หานเซี่ยวหันไปมองคาซูยิ ฉีกยิ้มชั่วร้าย
คาซูยิส่ายหัว การที่เขาแทงข้างหลังแมนิสันครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อช่วยให้แบล็คสตาร์ได้รับตำแหน่งมั่นคง แต่เขายังคิดถึงอนาคต หลังพบวิหาร ความคิดกับมุมมองของเขาที่มีต่อสมาคมก็เปลี่ยนไป
หลังคิดถึงมัน เจซได้พูดว่าวิหารสามารถคืนชีพคนตายได้ ดังนั้น คนที่ถูกเปลี่ยนเป็นเฟลอนนั้นตายหรือเป็น?
เป็นไปได้มากว่าพวกเขายังถือว่ามีชีวิต ในกรณีนั้น ถ้าผู้อยู่เหนือโดนเปลี่ยนเป็นเฟลอน ตราบเท่าที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย พวกเขาจะไม่สามารถถูกคืนชีพได้?
และนี่คือความคิดที่น่ากลัวกว่า…มีใครบ้างที่ใช้ความสามารถขิงวิหารเพื่อวางกับดัก จับผู้อยู่เหนือที่คืนชีพใหม่เพื่อเปลี่ยนให้เป็นเฟลอน?
คาซูยิตัวสั่น ในอดีต เขาสามารถยอมรับเทคโนโลยีนี้ได้แบบไม่เต็มใจ แต่แนวคิดของการคืนชีพผ่านวิหารก็ได้เปลี่ยนมุมมองเขา ถ้าไม่มีความคาดหวัง เขาคงไม่สนใจ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าชีวิตของเขาสามารถยืดไปได้เรื่อยๆ เขาจึงพบว่ามันยากที่จะทนให้ภัยคุกคามดังกล่าวดำรงอยู่ได้
นี่คือการพิจารณาจากมุมมองเขาเอง จากมุมมองโดยรวม ในระยะยาว เทคโนโลยีเฟลอนไม่เอื้อต่อการควบคุมของสมาคม และรักษาความสามารถของวิหารเพื่อคืนชีพหรือความสามัคคีของสมาชิก คาซูยิสามารถเดาสถานการณ์เลวร้ายหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตอนนี้มันดูเหมือนเส้นทางของแมนิสันจะใช้ไม่ได้แล้ว
มันพอคาดเดาได้ว่าเมื่อแบล็คสตาร์สามารถพัฒนาความสามารถคืนชีพคนจากวิหาร จักรพรรดิจักรกล ผู้ใช้
เทคโนโลยีเฟลอนคงกลายเป็นเป้าหมายของสาธารณะอย่างเลี่ยงไม่ได้ ใครจะอยากคืนชีพผู้อยู่เหนือที่รู้เทคโนโลยีเฟลอน? ตอนนั้น บางทีการตายอาจถือว่าหรูแล้วสำหรับเขา ถ้าผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่เอาจริงสุดขีด พวกเขาอาจร่วมมือกันเพื่อส่งเขาเข้ากาลอวกาศแอมเบอร์ ป้องกันแมนิสันจากการถูกคืนชีพโดยสามอารยธรรมจักรวาลเพื่อบีบเค้นเทคโนโลยีเฟลอนของเขา
คาซูยิยังมีมิตรภาพต่อแมนิสันบ้าง เขาไม่อยากเห็นอีกฝ่ายล้มลงในสภาพสิ้นหวัง อาจกล่าวได้ว่าเขาหวังดีต่อแมนิสัน เพระาเขารู้ถึงความรุนแรง ก่อนแบล็คสตาร์จะวิจัยเสร็จ ข้อมูลบนวิหารไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรู้ได้ สำหรับว่าแมนิสันจะฟังหรือไม่ นั่นคือปัญหาของเขา คาซูยิแค่รู้สึกว่าเขาได้แสดงความเป็นพี่น้องไปแล้ว
โดยปราศจากหานเซี่ยวคอยพัดไฟ การประชุมกลับเป็นปกติ แต่ทุกคนที่นี่ต่างเหม่อลอย สายตาพวกเขามองสลับระหว่างหานเซี่ยวกับคาซูยิด้วยความคิดต่างๆ
โซโรคินเองก็มองทั้งคู่เงียบๆ รู้สึกอิจฉามาก
คาซูยิเองก็ถูกมัดเข้าด้วย อิทธิพลของแบล็คสตาร์ในสมาคมยิ่งสูง….เขามักจำได้ถึงภัยคุกคามของแบล็คสตาร์ การที่จุดอ่อนเขาอยู่ในมือคนอื่น ขณะที่เขามักอยากปิดปากทำให้เขากลัวผลของการกระทำมาก
ตามการคำนวณของโซโรคิน ทางออกที่ดีสุดคือการใช้ผู้อยู่เหนือคนอื่นเพื่อฆ่าแบล็คสตาร์ แต่ทว่า ด้วยอิทธิพลของหานเซี่ยวที่ขยาย เขาจึงมีมิตรมากกว่าศัตรู ซึ่งหมายความว่ามีคนให้โซโรคินใช้น้อยลง
มีผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดมากมายในจักรวาล และเกือบทุกคนก็เป็นเพื่อนกับแบล็คสตาร์
“หรือว่าฉันจะต้องโดนเขากินจนตายแบบนี้? ถ้าฉันสามารถพบตัวแปรอื่น…”
ดวงตาของโซโรคินทอประกาย
ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป การประชุมจบลงอย่างราบรื่นและทุกคนก็ทยอยกันออกไป คาซูยิตัดการเชื่อมต่อกับภาพฉาย ครั้งนี้ อุปกรณ์สื่อสารเขาดัง และไม่น่าแปลกใจ มันคือแมนิสันที่โทรมา
เขาทำได้แค่ถอนหายใจ รับสายและพูดอย่างใจเย็น
“โทรมาทำไม? ”
“คาซูยิ เกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับแบล็คสตาร์? เขามีหมากต่อรองในมือ? ”แมนิสันตัดบท ถามถึงเหตุการณ์
“..ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
แมนิสันขมวดคิ้ว”นายหายไปหลายเดือน เป็นเพราะนายไปกับแบล็คสตาร์หรือเปล่า? นายเจออะไรบ้าง”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย? ”คาซูยิตอบอย่างไม่แยแส
เมื่อได้ยิน สีหน้าของแมนิสันก็เปลี่ยนไป
เขายอมรับมัน แต่จากน้ำเสียงเขา มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เต็มใจเผยข้อมูลใดเกี่ยวกับแบล็คสตาร์ ดูเหมือนเขาจะเดาผิด คาซูยิให้การสนับสนุนแบล็คสตาร์จริงๆ และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็พัฒนาอย่างก้าวกระโดด จนถึงจุดที่เขาเต็มใจยั่วโมโหแมนิสันเพื่อแบล็คสตาร์
แบล็คสตาร์รู้สึกได้ถึงความเฉยเมยและความเหินห่างจากคาซูยิ มันทำให้เขาอึดอัด
ความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนกับว่ามีเพื่อนสนิทถูกคู่ต่อสู้ดึงตัวไป เขาเริ่มรู้สึกว่าแวดวงของเขาโดนแบล็คสตาร์รุกราน ทุกอย่างที่เป็นของเขาค่อยๆ หายไป
ตอนนี้ คาซูยิพูด”มีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่ ฉันจะวางสาย ฉันยุ่งมาก”
ต่อให้นี่จะเป็นการสนทนาลับ เขาก็ไม่เต็มใจมีส่วนร่วมการสนทนาใดที่อาจทำให้เกิดการรั่วไหล เขาทำได้แค่พยายามไล่แมนิสันไป
“เข้าใจแล้ว”แมนิสันเงียบไปสองสามวินาที ระงับความผิดหวังก่อนตัดสาย
คาซูยิวางอุปกรณ์สื่อสารลง สีหน้าของเขาดูซับซ้อนและเศร้าเล็กน้อย
ระหว่างไวรัสกบฏเสมือน แมนิสันได้พยายามหาขนสัตว์แต่สุดท้ายก็โดนตัดขา จนตกที่นั่งลำบาก นี่ทำให้คาซูยิเปลี่ยนตัวเลือกจากแมนิสันเป็นแบล็คสตาร์ ซึ่งทำให้โอกาสดังกล่าวตกอยู่ในมือแบล็คสตาร์ ในสายตาของคาซูยิ แมนิสันได้เลือกผลประโยชน์ระยะสั้นมากกว่าระยะยาว ถ้าเขาไม่บุ่มบ่าม คาซูยิรู้สึกว่าเขายังเรียกแมนิสันมาร่วมกลุ่มได้ ในกรณีนี้ แมนิสันยังจะได้รับเทคโนโลยีใหม่ในมือ
น่าเสียดาย ไม่มีคำว่า’ถ้า’ในโลก “มันเป็นโชคชะตา ถ้าฉันจับกลุ่มกับนาย งั้นนายอาจเป็นคนที่มีความได้เปรียบด้านข้อมูล….”คาซูยิส่ายหัว รู้สึกเสียใจแทนแมนิสัน
คลื่นใต้น้ำของสมาคมผู้อยู่เหนือไม่ส่งผลกระทบต่อผู้เล่น ไม่กี่วันต่อมา รอบชิงของโปรลีกสี่ก็เริ่ม
คะแนนบนฟอรั่มทุบสถิติทั้งหมด อสรพิษสายฟ้าแบกความหวังของสโมสรต่างชาติไว้ มีพียงพวกเขาถึงป้องกันทีมจีนได้
ภายใต้ความสนใจของสาธารณะ ทัง้สองฝ่ายเสมอกันในนัดแรก แม้หุบเขาแม่น้ำจะมีความมั่นคง พวกเขาก็ยังเสียท่ากลยุทธ์ลับที่อสรพิษสายฟ้าซ่อนมาจนถึงตอนนี้ พวกเขาแพ้ในนัดแรกให้อสรพิษสายฟ้า ซึ่งเพิ่มความดันโลหิตของผู้เล่นจีนให้สูงขึ้น
แต่ทว่า ในรอบสองกับสาม หุบเขาแม่น้ำทนต่อแรงกดดันและเล่นอย่างมั่นคงภายใต้การนำของดาบคลั่ง ทีมได้พึ่งพาความทนทานของสายช่างกลเพื่อดึงความได้เปรียบเล็กน้อยและชนะทั้งสองเกมจนขึ้นนำ
ในรอบสี่ อสรพิษสายฟ้าพยายามอย่างเต็มที่ เล่นด้วยความระมัดระวัง แต่พวกเขาก็ยังโดนหุบเขาแม่น้ำทุบตีซ้ำเล่าซ้ำเล่า สุดท้าย หุบเขาแม่น้ำก็ชนะ ได้รับแชมป์ไป นับตั้งแต่เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ สถิติการแข่งของหุบเขาแม่น้ำส่วนใหญ่แล้วเป็นการชนะแบบ 3 : 1ความมั่นคงของสายช่างกลแสดงออกมาเต็มที่ ภายใต้สายตาของผู้ชมนับไม่ถ้วน ผู้เล่นคนสุดท้ายของอสรพิษสายฟ้าล้มลงบนเวที
เสียงของร่างล้มลงดังก้องในหัวใจของผู้ชมเหมือนกลอง มันคล้ายกับสัญญาณที่ประกาศการถือกำเนิดของจีนที่ได้แชมป์สามสมัยซ้อน!
คาซูยิถอนหายใจ ไม่เลี่ยงสายตาเขาขณะพูด”ฉันหมายความตามนั้น ฉันรู้สึกว่าแบล็คสตาร์พูดถูก ในฐานะประธานของสมาคม นายเป็นแบบอย่าง นายควรละทิ้งเทคโนโลยีเฟลอนจริงๆ แม้นี่จะเกิดขึ้นนานก่อนสร้างสมาคม แต่ตอนนี้เรากำลังสนับสนุนให้เราสามัคคีกัน การเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตนั้นอุกอาจเกินไปและจะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ”
แมนิสันหรี่ตา
นี่ดูเหมือนการกระทำที่คาดคิดไว้ล่วงหน้า ถ้าแบล็คสตาร์กับคาซูยิติดต่อกันเป็นการส่วนตัว พวกเขาคงจงใจโจมตีเขาวันนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลัง โจมตีศักดิ์ศรีเขา แบ่งแยกเขา
แน่นอน มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คาซูยิอาจมีปัญหากับเทคโนโลยีเฟลอน แมนิสันรู้จักเพื่อนเก่ามาหลายปี เขารู้ว่าเขาไม่ชอบยุ่งกับใคร จึงควรมีเหตุผลที่เขาพูดแบบนี้ซึ่งๆ หน้า
ยิ่งไปกว่านั้น เฒ่าคายังไม่ใช่คนที่ซื้อง่ายๆ แมนิสันไม่เชื่อว่าแบล็คสตาร์จะสร้างความสัมพันธ์กับคาซูยิได้ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน
หรืออาจเป็นไปได้ว่าแบล็คสตาร์มีซัมติงกับคาซูยิ…อืม ฉันจะถามเขาหลังการประชุมนี้
แมนิสันตั้งสติใหม่ มองคนอื่น”วิธีที่ฉันจัดการกับสินสงครามเป็นสิทธิ์ของฉัน ถ้าทุกคนยังคุยเรื่องนี้ ก็จะไม่ได้อะไร อย่าเสียเวลาเลย มาคุยเรื่องจริงจังกัน”
เฟลอนคือไพ่ตายของเขา ทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะยอมความโดยการข่มขู่ แต่การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนแบล็คสตาร์เพราะเขาต้องรู้ว่าแมนิสันไม่มีวันยอมละทิ้งเทคโนโลยีนี้ เขาแค่อยากบังคับให้เขาแสดงจุดยืน แบบนี้ มันสามารถเพิ่มความไม่พอใจของสมาคมส่วนใหญ่ ลดศักดิ์ศรีของเขาในฐานะประธาน
กาลอวกาศแอมเบอร์ของแบล็คสตาร์ถือได้ว่าเป็นการขังคนในคุกเท่านั้นและยังเป็นวิธีการที่ปลอดภัย แต่ทว่า เทคโนโลยีเฟลอนได้มาจากการทดลองมนุษย์ ซึ่งเลวร้ายกว่ามาก
ต่อให้แมนิสันยังโต้เถียง สถานการณ์ก็มีแต่จะไม่เอื้อต่อเขา ดังนั้น เขาจึงแสดงท่าทีแข็งกร้าว ยุติหัวข้อ
เขาแสดงท่าทีไม่ยอมแพ้ และแม้ว่ามันจะไม่เป็นไปตามความคาดหวังของทุกคน ทุกคนก็ไม่พอใจเล็กน้อยเกี่บวกับมัน เหมือนจิ้งจอกที่เศร้าใจให้กระต่ายที่ตายไปแล้ว
เมื่อเห็น หานเซี่ยวก็ตัดสินใจไม่คุยเรื่องนี้ต่อ
ทุกคนได้แสดงจุดยืนแล้ว ดังนั้นการบังคับให้เขาผ่านจะไม่บรรลุผลลัพธ์ใดแต่จะขัดขวางการประชุมเท่านั้น ตอนนี้ เป้าหมายของเขาบรรลุ ซึ่งลดศักดิ์ศรีของตาแก่แมนิสัน นอกจากนี้ เขาสามารถขุดกับดักเพื่ออีกฝ่ายได้ แมนิสันยังไม่รู้ถึงวิหาร ดังนั้นหานเซี่ยวจึงกำหนดเป้ายังช่องโหว่ข้อมูล
หานเซี่ยวหันไปมองคาซูยิ ฉีกยิ้มชั่วร้าย
คาซูยิส่ายหัว การที่เขาแทงข้างหลังแมนิสันครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อช่วยให้แบล็คสตาร์ได้รับตำแหน่งมั่นคง แต่เขายังคิดถึงอนาคต หลังพบวิหาร ความคิดกับมุมมองของเขาที่มีต่อสมาคมก็เปลี่ยนไป
หลังคิดถึงมัน เจซได้พูดว่าวิหารสามารถคืนชีพคนตายได้ ดังนั้น คนที่ถูกเปลี่ยนเป็นเฟลอนนั้นตายหรือเป็น?
เป็นไปได้มากว่าพวกเขายังถือว่ามีชีวิต ในกรณีนั้น ถ้าผู้อยู่เหนือโดนเปลี่ยนเป็นเฟลอน ตราบเท่าที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย พวกเขาจะไม่สามารถถูกคืนชีพได้?
และนี่คือความคิดที่น่ากลัวกว่า…มีใครบ้างที่ใช้ความสามารถขิงวิหารเพื่อวางกับดัก จับผู้อยู่เหนือที่คืนชีพใหม่เพื่อเปลี่ยนให้เป็นเฟลอน?
คาซูยิตัวสั่น ในอดีต เขาสามารถยอมรับเทคโนโลยีนี้ได้แบบไม่เต็มใจ แต่แนวคิดของการคืนชีพผ่านวิหารก็ได้เปลี่ยนมุมมองเขา ถ้าไม่มีความคาดหวัง เขาคงไม่สนใจ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าชีวิตของเขาสามารถยืดไปได้เรื่อยๆ เขาจึงพบว่ามันยากที่จะทนให้ภัยคุกคามดังกล่าวดำรงอยู่ได้
นี่คือการพิจารณาจากมุมมองเขาเอง จากมุมมองโดยรวม ในระยะยาว เทคโนโลยีเฟลอนไม่เอื้อต่อการควบคุมของสมาคม และรักษาความสามารถของวิหารเพื่อคืนชีพหรือความสามัคคีของสมาชิก คาซูยิสามารถเดาสถานการณ์เลวร้ายหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตอนนี้มันดูเหมือนเส้นทางของแมนิสันจะใช้ไม่ได้แล้ว
มันพอคาดเดาได้ว่าเมื่อแบล็คสตาร์สามารถพัฒนาความสามารถคืนชีพคนจากวิหาร จักรพรรดิจักรกล ผู้ใช้
เทคโนโลยีเฟลอนคงกลายเป็นเป้าหมายของสาธารณะอย่างเลี่ยงไม่ได้ ใครจะอยากคืนชีพผู้อยู่เหนือที่รู้เทคโนโลยีเฟลอน? ตอนนั้น บางทีการตายอาจถือว่าหรูแล้วสำหรับเขา ถ้าผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่เอาจริงสุดขีด พวกเขาอาจร่วมมือกันเพื่อส่งเขาเข้ากาลอวกาศแอมเบอร์ ป้องกันแมนิสันจากการถูกคืนชีพโดยสามอารยธรรมจักรวาลเพื่อบีบเค้นเทคโนโลยีเฟลอนของเขา
คาซูยิยังมีมิตรภาพต่อแมนิสันบ้าง เขาไม่อยากเห็นอีกฝ่ายล้มลงในสภาพสิ้นหวัง อาจกล่าวได้ว่าเขาหวังดีต่อแมนิสัน เพระาเขารู้ถึงความรุนแรง ก่อนแบล็คสตาร์จะวิจัยเสร็จ ข้อมูลบนวิหารไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรู้ได้ สำหรับว่าแมนิสันจะฟังหรือไม่ นั่นคือปัญหาของเขา คาซูยิแค่รู้สึกว่าเขาได้แสดงความเป็นพี่น้องไปแล้ว
โดยปราศจากหานเซี่ยวคอยพัดไฟ การประชุมกลับเป็นปกติ แต่ทุกคนที่นี่ต่างเหม่อลอย สายตาพวกเขามองสลับระหว่างหานเซี่ยวกับคาซูยิด้วยความคิดต่างๆ
โซโรคินเองก็มองทั้งคู่เงียบๆ รู้สึกอิจฉามาก
คาซูยิเองก็ถูกมัดเข้าด้วย อิทธิพลของแบล็คสตาร์ในสมาคมยิ่งสูง….เขามักจำได้ถึงภัยคุกคามของแบล็คสตาร์ การที่จุดอ่อนเขาอยู่ในมือคนอื่น ขณะที่เขามักอยากปิดปากทำให้เขากลัวผลของการกระทำมาก
ตามการคำนวณของโซโรคิน ทางออกที่ดีสุดคือการใช้ผู้อยู่เหนือคนอื่นเพื่อฆ่าแบล็คสตาร์ แต่ทว่า ด้วยอิทธิพลของหานเซี่ยวที่ขยาย เขาจึงมีมิตรมากกว่าศัตรู ซึ่งหมายความว่ามีคนให้โซโรคินใช้น้อยลง
มีผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดมากมายในจักรวาล และเกือบทุกคนก็เป็นเพื่อนกับแบล็คสตาร์
“หรือว่าฉันจะต้องโดนเขากินจนตายแบบนี้? ถ้าฉันสามารถพบตัวแปรอื่น…”
ดวงตาของโซโรคินทอประกาย
ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป การประชุมจบลงอย่างราบรื่นและทุกคนก็ทยอยกันออกไป คาซูยิตัดการเชื่อมต่อกับภาพฉาย ครั้งนี้ อุปกรณ์สื่อสารเขาดัง และไม่น่าแปลกใจ มันคือแมนิสันที่โทรมา
เขาทำได้แค่ถอนหายใจ รับสายและพูดอย่างใจเย็น
“โทรมาทำไม? ”
“คาซูยิ เกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับแบล็คสตาร์? เขามีหมากต่อรองในมือ? ”แมนิสันตัดบท ถามถึงเหตุการณ์
“..ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
แมนิสันขมวดคิ้ว”นายหายไปหลายเดือน เป็นเพราะนายไปกับแบล็คสตาร์หรือเปล่า? นายเจออะไรบ้าง”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย? ”คาซูยิตอบอย่างไม่แยแส
เมื่อได้ยิน สีหน้าของแมนิสันก็เปลี่ยนไป
เขายอมรับมัน แต่จากน้ำเสียงเขา มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เต็มใจเผยข้อมูลใดเกี่ยวกับแบล็คสตาร์ ดูเหมือนเขาจะเดาผิด คาซูยิให้การสนับสนุนแบล็คสตาร์จริงๆ และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็พัฒนาอย่างก้าวกระโดด จนถึงจุดที่เขาเต็มใจยั่วโมโหแมนิสันเพื่อแบล็คสตาร์
แบล็คสตาร์รู้สึกได้ถึงความเฉยเมยและความเหินห่างจากคาซูยิ มันทำให้เขาอึดอัด
ความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนกับว่ามีเพื่อนสนิทถูกคู่ต่อสู้ดึงตัวไป เขาเริ่มรู้สึกว่าแวดวงของเขาโดนแบล็คสตาร์รุกราน ทุกอย่างที่เป็นของเขาค่อยๆ หายไป
ตอนนี้ คาซูยิพูด”มีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่ ฉันจะวางสาย ฉันยุ่งมาก”
ต่อให้นี่จะเป็นการสนทนาลับ เขาก็ไม่เต็มใจมีส่วนร่วมการสนทนาใดที่อาจทำให้เกิดการรั่วไหล เขาทำได้แค่พยายามไล่แมนิสันไป
“เข้าใจแล้ว”แมนิสันเงียบไปสองสามวินาที ระงับความผิดหวังก่อนตัดสาย
คาซูยิวางอุปกรณ์สื่อสารลง สีหน้าของเขาดูซับซ้อนและเศร้าเล็กน้อย
ระหว่างไวรัสกบฏเสมือน แมนิสันได้พยายามหาขนสัตว์แต่สุดท้ายก็โดนตัดขา จนตกที่นั่งลำบาก นี่ทำให้คาซูยิเปลี่ยนตัวเลือกจากแมนิสันเป็นแบล็คสตาร์ ซึ่งทำให้โอกาสดังกล่าวตกอยู่ในมือแบล็คสตาร์ ในสายตาของคาซูยิ แมนิสันได้เลือกผลประโยชน์ระยะสั้นมากกว่าระยะยาว ถ้าเขาไม่บุ่มบ่าม คาซูยิรู้สึกว่าเขายังเรียกแมนิสันมาร่วมกลุ่มได้ ในกรณีนี้ แมนิสันยังจะได้รับเทคโนโลยีใหม่ในมือ
น่าเสียดาย ไม่มีคำว่า’ถ้า’ในโลก “มันเป็นโชคชะตา ถ้าฉันจับกลุ่มกับนาย งั้นนายอาจเป็นคนที่มีความได้เปรียบด้านข้อมูล….”คาซูยิส่ายหัว รู้สึกเสียใจแทนแมนิสัน
คลื่นใต้น้ำของสมาคมผู้อยู่เหนือไม่ส่งผลกระทบต่อผู้เล่น ไม่กี่วันต่อมา รอบชิงของโปรลีกสี่ก็เริ่ม
คะแนนบนฟอรั่มทุบสถิติทั้งหมด อสรพิษสายฟ้าแบกความหวังของสโมสรต่างชาติไว้ มีพียงพวกเขาถึงป้องกันทีมจีนได้
ภายใต้ความสนใจของสาธารณะ ทัง้สองฝ่ายเสมอกันในนัดแรก แม้หุบเขาแม่น้ำจะมีความมั่นคง พวกเขาก็ยังเสียท่ากลยุทธ์ลับที่อสรพิษสายฟ้าซ่อนมาจนถึงตอนนี้ พวกเขาแพ้ในนัดแรกให้อสรพิษสายฟ้า ซึ่งเพิ่มความดันโลหิตของผู้เล่นจีนให้สูงขึ้น
แต่ทว่า ในรอบสองกับสาม หุบเขาแม่น้ำทนต่อแรงกดดันและเล่นอย่างมั่นคงภายใต้การนำของดาบคลั่ง ทีมได้พึ่งพาความทนทานของสายช่างกลเพื่อดึงความได้เปรียบเล็กน้อยและชนะทั้งสองเกมจนขึ้นนำ
ในรอบสี่ อสรพิษสายฟ้าพยายามอย่างเต็มที่ เล่นด้วยความระมัดระวัง แต่พวกเขาก็ยังโดนหุบเขาแม่น้ำทุบตีซ้ำเล่าซ้ำเล่า สุดท้าย หุบเขาแม่น้ำก็ชนะ ได้รับแชมป์ไป นับตั้งแต่เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ สถิติการแข่งของหุบเขาแม่น้ำส่วนใหญ่แล้วเป็นการชนะแบบ 3 : 1ความมั่นคงของสายช่างกลแสดงออกมาเต็มที่ ภายใต้สายตาของผู้ชมนับไม่ถ้วน ผู้เล่นคนสุดท้ายของอสรพิษสายฟ้าล้มลงบนเวที
เสียงของร่างล้มลงดังก้องในหัวใจของผู้ชมเหมือนกลอง มันคล้ายกับสัญญาณที่ประกาศการถือกำเนิดของจีนที่ได้แชมป์สามสมัยซ้อน!