“หือ?ฉันออกมาแล้ว?”
หานเซี่ยวรู้สึกตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับตอนเข้าวิหาร มันราวกับเขาผ่านเยื่อบางและร่างกายก็หนักอึ้งเหมือนก้าวออกจากสระ
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาประสบในวิหาร ความทรงจำของเขาก็เลือนรางราวกับเขากำลังมองผ่านกระจกขุ่น แต่ทว่า มันรู้สึกดีกว่าสิ่งที่ผู้รักษาสัจจะอธิบายมาก มันควรเพราะอำนาจเขาสูงกว่า
เทคโนโลยีกับความรู้ที่เขาจำได้ชัดเจน
หานเซี่ยวก้มมองฝ่ามือเขา ตราที่แสดงถึงระดับอำนาจเขาในวิหารหายไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ตราคืนชีพ
“มาดูกันว่าฉันจะเปิดหน้าต่างสถานะได้ยัง”
เขาพยายามเปิดหน้าต่างสถานะและวินาทีต่อมา การแจ้งเตือนก็ผุเขึ้น
ท่านได้เข้าวิหารสามสำเร็จ
ท่านได้รับ 1 ชิ้นส่วน[วิหารสาม]
[การส่งต่อการวนซ้ำ]รอบสามสำเร็จ
ท่านได้รับค่าประสบการณ์สองแสนล้าน 2 รางวัลสุ่ม 3ชิ้นส่วน[วิหารสาม]
ท่านได้เข้าวิหาร ตอนนี้ชิ้นส่วนวิหารสามกำลังรวมกัน
การรวมกันสำเร็จ ท่านได้รับความสามารถ[อำนาจวิหารสามระดับ 6]!
“ฉันรู้แล้ว ชิ้นส่วนแสดงถึงอำนาจ ฉันไม่สามารถเปิดหน้าต่างสถานะในวิหารได้ แต่มันยังใช้งานได้”
หานเซี่ยวตาเป็นประกาย
เขาเปิดคำแนะนำความสามารถของ[อำนาจวิหารสามระดับ6]และอ่านมัน มันเหมือนกับสิ่งที่กระดานข้อความอธิบาย แค่มีรายละเอียดกว่า มันยังระบุด้วยว่าความเร็วของเวลาในวิหารยังขึ้นอยู่กับระดับของอำนาจ
หานเซี่ยวหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาดูวันที่และโล่งใจ
“ฟู่ เวลาผ่านไปไม่ถึงสี่เดือน นี่สั้นกว่าที่ฉันคิด ไม่เหมือนผู้รักษาสัจจะที่โชคร้ายถึงกับใช้เวลาเป็นปี นี่หมายความว่ายิ่งระดับอำนาจสูง ความเร็วของเวลาในวิหารก็จะยิ่งใกล้เคียงกับจักรวาลหลัก”
เขามีความสุขมากขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด เขาคาดไว้ว่านี่จะต้องใช้เวลาหลายปีและทำการเตรียมการไว้แล้ว เนื่องจากมันไม่ถึงสี่เดือน มันจึงน่ายินดี
เขานำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาดู เนื่องจากเขาได้เตรียมการก่อนเข้าวิหาร เรื่องของกองทัพและสมาคมจึงได้รับการดูแล เวลาหลายเดือนผ่านไปอย่างสงบสุข ไม่มีเรื่องใหญ่เกิด ผานกอนยังไม่ออกไป
“นี่เป็นสถานการณ์ที่ดีสุดแล้ว”
หานเซี่ยวพยักหน้า เก็บอุปกรณ์สื่อสารไปและมองหน้าต่างสถานะ ภารกิจรอบสี่ของ[การส่งต่อการวนซ้ำ]ปรากฏขึ้น
รอบสี่เริ่มแล้ว!
ข้อกำหนดภารกิจ(ไม่บังคับ)
1.แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับวิหาร การรีบู้ตครัั้งใหญ่ การวนซ้ำจักรวาล และอื่นๆกับอารญธรรมขั้นสูงปัจจุบัน(อย่างต่ำอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอด)
2.พิสูจน์การมีอยู่ของวิหารต่ออารยธรรมขั้นสูงและช่วยพวกเขาเปิดวิหาร
3.ใช้ประโยชน์จากระดับอำนาจที่ท่านมีและนำอารยธรรมขั้นสูงเข้าวิหาร
หมายเหตุ : เลือกข้อกำหนดภารกิจอย่างน้อยหนึ่งข้อด้านบน ยิ่งข้อกำหนดครบ คะแนนภารกิจรอบนี้จะยิ่งสูง
รางวัลพื้นฐาน : ค่าประสบการ์25000 ล้าน 1 ชิ้นส่วนวิหารทัั้งหมด
โบนัสรางวัลจะมอบให้ตามคะแนนภารกิจ “อืม นี่คือสิ่งที่รอบสี่จะเป็น มันต้องการให้คนเข้าวิหารแบ่งปันข้อมูลล้ำค่านี้กับอารยธรรมขั้นศูงด้วย มันสมเหตุสมผล นี่คือความหมายของการส่งต่อ มุมมองของภารกิจนี้ใหญ่ อารยธรรมคือกุญแจสำคัญต่อการเติบโตจักรวาล ยิ่งพวกเขารู้เร็ว พวกเขายิ่งมีเวลาเตรียมการ เป้าหมายสุดท้ายของภารกิจนี้ ตัดสินใจจากชื่อ มันคงเพื่อช่วยอารยธรรมให้ผ่านการรีบู้ตครั้งใหญ่”
อย่างไรก็ตาม แม้หานเซี่ยวจะเข้าใจจุดประสงค์ของภารกิจนี้ เขาก็ไม่วางแผนทำมัน
จากมุมมองของภารกิจ การช่วยอารยธรรมให้ได้รับกราควบคุมวิหารสำคัญสุด แต่ทว่า นี่จะทำให้เกิดผลกระทบที่คาดเดาไม่ได้ต่อแผนเขา
มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีก หานเซี่ยวต้องคิดแทนผู้อยู่เหนือทั้งหมด
ในอนาคต เพื่อจัดการกับการรีบู้ต พวกเขาอาจต้องร่วมมือกับสามอารยธรรมจักรวาล แต่ทว่าตอนนี้ ไม่มีทางที่เขาจะรีบแบ่งปันข้อมูลล้ำค่ากับสามอารยธรรมจักรวาลด้วยการทรยศผู้อยู่เหนือ
เขาวางแผนร่วมมือกับสามอารยธรรมจักรวาลหลังสมาคมยึดคุณสมบัติคืนชีพของวิหารอย่างมั่นคงแล้ว ไม่งั้น พันธมิตรดาวสวรรค์อีกแห่งคงถือกำเนิด
หานเซี่ยวถอนหายใจและตัดสินใจไม่รีบทำภารกิจให้สำเร็จ
ในเวลานี้ ยานอวกาศสองสามลำได้ปิดการใช้โหมดล่องหน ปรากฏตัวและถามด้วยความระมัดระวังในช่องสาธารณะ”ท่านแบล็คสตาร์หรือเปล่าครับ?”
“ใช่แล้ว”
หานเซี่ยวเงยหน้าขึ้นและไม่แปลกใจ
เขาสังเกตเห็นยานเทพอำนวยเหล่านี้แต่แรกและรู้ว่าพวกเขาคงโดนผู้รักษาสัจจะสั่งให้ประจำการ
หานเซี่ยวหยุด หยิบเอาอุปกรณ์สื่อสารออกมาโทรหาผู้รักษาสัจจะและมันก็ถูกรับอย่างรวดเร็ว
ผู้รักษาสัจจะปรากฏบนหน้าจอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“แบล็คสตาร์?ไหนว่าจะใช้เวลาเป็นปี?ทำไมนายกลับมาเร็วนัก?”
“อาจเพราะฉันโชคดีละมั้ง?”หานเซี่ยวยักไหล่
“ฉันไม่เชื่อนาย”
ผู้รักษาสัจจะแสดงความสงสัย
ทำไมเขาถึงใช้เวลาตั้งสองสามปี แต่นายแค่ไม่กี่เดือน?มันไม่ยุติธรรม!
“แล้ว ทำไมนายไม่บอกฉันถึงกระดานข้อความ?นายจงใจปิดบังมันจากฉัน?”หานเซี่ยวหรีต่า
ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูก เขาอาจออกมาโดยไม่เห็นกระดานข้ขอความ แถม ผู้รักษาสัจจะยังไม่พูดอะไรถึงระดับอำนาจวิหาร ซึ่งทำให้เขาสงสัยแรงจูงใจของอีกฝ่าย “กระดานข้อความอะไร?”เขาถามด้วยน้ำเสียงสับสน
“นายไม่รู้?”
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว สังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายแต่ไม่พบอะไร
อาจเป็นเพราะระดับอำนาจของเขาต่ำไปและเขาจึงจำไม่ได้หรือจงใจปิดบังมัน ยังไงก็ตาม ไม่ว่าเขาจะมีแรงจูงใจอะไร เรื่องเล็กน้อยนี้ก็ไม่ควรค่าแก่การใส่ใจ
“ช่างเถอะ ฉันได้รับตราคืนชีพวิหารมาแล้ว รีบนำกองยานมาเร็ว”
“ได้”ผู้รักษาสัจจะตอบกลับทันที
หานเซี่ยวพยักหน้า คิดถึงมันและพูดเสริม”แล้ว มันอาจต้องนำบรรพชนเหล่านั้นมาด้วย คราวนี้เรากำลังจะคืนชีพคนที่เราไม่รู้จักด้วย เราต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะอยู่ภายใต้การควบคุม”
“เข้าใจแล้ว”ผู้รักษาสัจจะพยักหน้า
เป้าหมายของการคืนชีพแรกเป็นสมาชิกเก่าของเทพอำนวย คนทั้งหมดรู้ถึงวิหาร ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจสถานการณ์ได้เร็ว แต่ทว่า เป้าหมายของกลุ่มนี้เป็นคนนอกที่ไม่รู้จักเทพอำนวย เมื่อพวกเขาคืนชีพ มันอาจยากที่พวกเขาจะยอมรับความจริง
เป้าหมายของการคืนชีพนี้ถูกคัดกรองแล้ว เป็นผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ที่ตายจากอุบัติเหตุ ไม่มีใครเป็นสมาชิกสายตรงของอารยธรรมขั้นสูงได้ นอกจากนี้ หลายคนยังตายในช่วงโศกนาฏกรรมพินนาเคิบล
โศกนาฏกรรมทำให้ผู้อยู่เหนือตายมากสุดตั้งแต่เกิดยุคสำรวจ พวกเขาถือเป็นจำนวนตายมากสุดในประวัติศาสตร์ มันยากที่จะเลี่ยงคนที่ต้องเสียสละในโศกนาฏกรรม แม้กระทั่งหานเซี่ยวก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีพวกแข็งแกร่งในหมู่พวกเขา
ในชีวิตก่อนหน้าเขา เทพอำนวไยด้คืนชีพผู้อยู่เหนือหลายกลุ่ม รวมถึงคนนอก แต่พวกเขาก็ยังปรากฏระหว่างสงครามต้นไม้โลกและไม่ทำให้ข้อมูลรั่วไหลก่อนหน้านั้น นี่พิสูจน์ว่าเทพอำนวยต้องมีหนทางยับยั้งพวกเขา
องค์กรเทพอำนวยไม่ใช่องค์กรการกุศล ลืมบรรพชนที่เข้าร่วมไปนานแล้ว แต่ถ้าคนนอกที่คืนชีพมาอยากสร้างปัญหา เทพอำนวยก็คงไม่ว่าอะไรที่จะส่งพวกเขากลับเข้าโลง
“พอคิดดู ผู้รักษาสัจจะกำลังโกหกสมาชิกองค์กรว่าพวกเขาคืนชีพได้แค่ครั้งเดียว นั่นดีจริง แบบนี้ คนที่คืนชีพมาจะหวงแหนมันและไม่อยากสร้างปัญหา”
หานเซี่ยวพยักหน้า เขาวางสาย เปิดกล่องกองทัพมิติที่สอง นำเอาฐานพกพาขนาดเล็กออกมา และเข้าไปพักผ่อนข้างใน อ่านเหตุการณ์ตลอดสี่เดือนที่ผ่านมาขณะรอผู้รักษาสัจจะ
สองวันต่อมา ในที่สุดกองยานเทพอำนวยก็มาถึงพร้อมบรรพชนหลายคน
กองยานจอดเทียบท่าที่ฐานของหานเซี่ยวและพวกเขาก็พบกัน “มันน่าแปลกใจที่นายออกมาหลังผ่านไปแค่สี่เดือน ดูเหมือนเราจะไม่ต้องรอเป็นปี”บีเกอร์กับคนอื่นประหลาดใจ
หานเซี่ยวมองรอบๆ แต่ไม่เห็นผานกอนกับกลุ่มเขา”พวกผานกอนไปไหน?”
“พวกเขาออกเทพอำนวยไปสามเดือนก่อน เราไม่ได้ติดต่อพวกเขาเลย”ผู้รักษาสัจจะส่ายหัว
หานเซี่ยวพยักหน้าและไม่พูดอะไร นี่เป็นไปตามคาด ข่าวดีคือก่อนผานกอนจะสร้างปัญหา เขากลับมาแล้ว
“เอาละ ช่างมันและคืนชีพคนเหล่านี้กัน พวกนายอยู่ข้างๆพอ พวกเขาจะสงบสติและคุยกับเราเอง”หานเซี่ยวแสดงตราคืนชีพบนหลังมือ
คนอื่นพยักหน้า ไม่คัดค้าน
พวกเขามาถึงสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าและยืนประจำตำแหน่ง หานเซี่ยวรับอุปกรณ์มาจากผู้รักษาสัจจะ สูดหายใจลึกและกดปุ่มทำงาน
บูซ!
ตราคืนชีพวิหารพลันเปล่งแสงสว่าง บินออกจากหลังมือ เปลี่ยนเป็นทรงกลมขยายออกไป
วินาทีต่อมา ทรงกลมแสงก็แตกตัว กลายเป็นร่างเลือนรางมากมายที่ค่อยๆก่อตัว เปลี่ยนเป็นผู้อยู่เหนือหลายคน
ด้านหน้าคือเอลฟ์ชายหูยาวท่าทางสง่างาม เขามองรอบๆ ดวงตาหยุดที่หานเซี่ยวและพึมพำ”นั้น นี่ก็คือเจ้านรกที่แต่งตัวเหมือนผี ท่านต้องเป็นราชานรกในตำนานแน่”
“หือ?”หานเซี่ยวขมวดคิ้ว ในเมื่อแกฉลาดมาก ก็พูดให้มากขณะที่ยังทำได้ ไม่งั้น ฉันเกรงว่าแกคงไม่มีปากไว้พูดอีกในอนาคต��
หานเซี่ยวรู้สึกตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับตอนเข้าวิหาร มันราวกับเขาผ่านเยื่อบางและร่างกายก็หนักอึ้งเหมือนก้าวออกจากสระ
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาประสบในวิหาร ความทรงจำของเขาก็เลือนรางราวกับเขากำลังมองผ่านกระจกขุ่น แต่ทว่า มันรู้สึกดีกว่าสิ่งที่ผู้รักษาสัจจะอธิบายมาก มันควรเพราะอำนาจเขาสูงกว่า
เทคโนโลยีกับความรู้ที่เขาจำได้ชัดเจน
หานเซี่ยวก้มมองฝ่ามือเขา ตราที่แสดงถึงระดับอำนาจเขาในวิหารหายไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ตราคืนชีพ
“มาดูกันว่าฉันจะเปิดหน้าต่างสถานะได้ยัง”
เขาพยายามเปิดหน้าต่างสถานะและวินาทีต่อมา การแจ้งเตือนก็ผุเขึ้น
ท่านได้เข้าวิหารสามสำเร็จ
ท่านได้รับ 1 ชิ้นส่วน[วิหารสาม]
[การส่งต่อการวนซ้ำ]รอบสามสำเร็จ
ท่านได้รับค่าประสบการณ์สองแสนล้าน 2 รางวัลสุ่ม 3ชิ้นส่วน[วิหารสาม]
ท่านได้เข้าวิหาร ตอนนี้ชิ้นส่วนวิหารสามกำลังรวมกัน
การรวมกันสำเร็จ ท่านได้รับความสามารถ[อำนาจวิหารสามระดับ 6]!
“ฉันรู้แล้ว ชิ้นส่วนแสดงถึงอำนาจ ฉันไม่สามารถเปิดหน้าต่างสถานะในวิหารได้ แต่มันยังใช้งานได้”
หานเซี่ยวตาเป็นประกาย
เขาเปิดคำแนะนำความสามารถของ[อำนาจวิหารสามระดับ6]และอ่านมัน มันเหมือนกับสิ่งที่กระดานข้อความอธิบาย แค่มีรายละเอียดกว่า มันยังระบุด้วยว่าความเร็วของเวลาในวิหารยังขึ้นอยู่กับระดับของอำนาจ
หานเซี่ยวหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาดูวันที่และโล่งใจ
“ฟู่ เวลาผ่านไปไม่ถึงสี่เดือน นี่สั้นกว่าที่ฉันคิด ไม่เหมือนผู้รักษาสัจจะที่โชคร้ายถึงกับใช้เวลาเป็นปี นี่หมายความว่ายิ่งระดับอำนาจสูง ความเร็วของเวลาในวิหารก็จะยิ่งใกล้เคียงกับจักรวาลหลัก”
เขามีความสุขมากขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด เขาคาดไว้ว่านี่จะต้องใช้เวลาหลายปีและทำการเตรียมการไว้แล้ว เนื่องจากมันไม่ถึงสี่เดือน มันจึงน่ายินดี
เขานำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาดู เนื่องจากเขาได้เตรียมการก่อนเข้าวิหาร เรื่องของกองทัพและสมาคมจึงได้รับการดูแล เวลาหลายเดือนผ่านไปอย่างสงบสุข ไม่มีเรื่องใหญ่เกิด ผานกอนยังไม่ออกไป
“นี่เป็นสถานการณ์ที่ดีสุดแล้ว”
หานเซี่ยวพยักหน้า เก็บอุปกรณ์สื่อสารไปและมองหน้าต่างสถานะ ภารกิจรอบสี่ของ[การส่งต่อการวนซ้ำ]ปรากฏขึ้น
รอบสี่เริ่มแล้ว!
ข้อกำหนดภารกิจ(ไม่บังคับ)
1.แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับวิหาร การรีบู้ตครัั้งใหญ่ การวนซ้ำจักรวาล และอื่นๆกับอารญธรรมขั้นสูงปัจจุบัน(อย่างต่ำอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอด)
2.พิสูจน์การมีอยู่ของวิหารต่ออารยธรรมขั้นสูงและช่วยพวกเขาเปิดวิหาร
3.ใช้ประโยชน์จากระดับอำนาจที่ท่านมีและนำอารยธรรมขั้นสูงเข้าวิหาร
หมายเหตุ : เลือกข้อกำหนดภารกิจอย่างน้อยหนึ่งข้อด้านบน ยิ่งข้อกำหนดครบ คะแนนภารกิจรอบนี้จะยิ่งสูง
รางวัลพื้นฐาน : ค่าประสบการ์25000 ล้าน 1 ชิ้นส่วนวิหารทัั้งหมด
โบนัสรางวัลจะมอบให้ตามคะแนนภารกิจ “อืม นี่คือสิ่งที่รอบสี่จะเป็น มันต้องการให้คนเข้าวิหารแบ่งปันข้อมูลล้ำค่านี้กับอารยธรรมขั้นศูงด้วย มันสมเหตุสมผล นี่คือความหมายของการส่งต่อ มุมมองของภารกิจนี้ใหญ่ อารยธรรมคือกุญแจสำคัญต่อการเติบโตจักรวาล ยิ่งพวกเขารู้เร็ว พวกเขายิ่งมีเวลาเตรียมการ เป้าหมายสุดท้ายของภารกิจนี้ ตัดสินใจจากชื่อ มันคงเพื่อช่วยอารยธรรมให้ผ่านการรีบู้ตครั้งใหญ่”
อย่างไรก็ตาม แม้หานเซี่ยวจะเข้าใจจุดประสงค์ของภารกิจนี้ เขาก็ไม่วางแผนทำมัน
จากมุมมองของภารกิจ การช่วยอารยธรรมให้ได้รับกราควบคุมวิหารสำคัญสุด แต่ทว่า นี่จะทำให้เกิดผลกระทบที่คาดเดาไม่ได้ต่อแผนเขา
มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีก หานเซี่ยวต้องคิดแทนผู้อยู่เหนือทั้งหมด
ในอนาคต เพื่อจัดการกับการรีบู้ต พวกเขาอาจต้องร่วมมือกับสามอารยธรรมจักรวาล แต่ทว่าตอนนี้ ไม่มีทางที่เขาจะรีบแบ่งปันข้อมูลล้ำค่ากับสามอารยธรรมจักรวาลด้วยการทรยศผู้อยู่เหนือ
เขาวางแผนร่วมมือกับสามอารยธรรมจักรวาลหลังสมาคมยึดคุณสมบัติคืนชีพของวิหารอย่างมั่นคงแล้ว ไม่งั้น พันธมิตรดาวสวรรค์อีกแห่งคงถือกำเนิด
หานเซี่ยวถอนหายใจและตัดสินใจไม่รีบทำภารกิจให้สำเร็จ
ในเวลานี้ ยานอวกาศสองสามลำได้ปิดการใช้โหมดล่องหน ปรากฏตัวและถามด้วยความระมัดระวังในช่องสาธารณะ”ท่านแบล็คสตาร์หรือเปล่าครับ?”
“ใช่แล้ว”
หานเซี่ยวเงยหน้าขึ้นและไม่แปลกใจ
เขาสังเกตเห็นยานเทพอำนวยเหล่านี้แต่แรกและรู้ว่าพวกเขาคงโดนผู้รักษาสัจจะสั่งให้ประจำการ
หานเซี่ยวหยุด หยิบเอาอุปกรณ์สื่อสารออกมาโทรหาผู้รักษาสัจจะและมันก็ถูกรับอย่างรวดเร็ว
ผู้รักษาสัจจะปรากฏบนหน้าจอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“แบล็คสตาร์?ไหนว่าจะใช้เวลาเป็นปี?ทำไมนายกลับมาเร็วนัก?”
“อาจเพราะฉันโชคดีละมั้ง?”หานเซี่ยวยักไหล่
“ฉันไม่เชื่อนาย”
ผู้รักษาสัจจะแสดงความสงสัย
ทำไมเขาถึงใช้เวลาตั้งสองสามปี แต่นายแค่ไม่กี่เดือน?มันไม่ยุติธรรม!
“แล้ว ทำไมนายไม่บอกฉันถึงกระดานข้อความ?นายจงใจปิดบังมันจากฉัน?”หานเซี่ยวหรีต่า
ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูก เขาอาจออกมาโดยไม่เห็นกระดานข้ขอความ แถม ผู้รักษาสัจจะยังไม่พูดอะไรถึงระดับอำนาจวิหาร ซึ่งทำให้เขาสงสัยแรงจูงใจของอีกฝ่าย “กระดานข้อความอะไร?”เขาถามด้วยน้ำเสียงสับสน
“นายไม่รู้?”
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว สังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายแต่ไม่พบอะไร
อาจเป็นเพราะระดับอำนาจของเขาต่ำไปและเขาจึงจำไม่ได้หรือจงใจปิดบังมัน ยังไงก็ตาม ไม่ว่าเขาจะมีแรงจูงใจอะไร เรื่องเล็กน้อยนี้ก็ไม่ควรค่าแก่การใส่ใจ
“ช่างเถอะ ฉันได้รับตราคืนชีพวิหารมาแล้ว รีบนำกองยานมาเร็ว”
“ได้”ผู้รักษาสัจจะตอบกลับทันที
หานเซี่ยวพยักหน้า คิดถึงมันและพูดเสริม”แล้ว มันอาจต้องนำบรรพชนเหล่านั้นมาด้วย คราวนี้เรากำลังจะคืนชีพคนที่เราไม่รู้จักด้วย เราต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะอยู่ภายใต้การควบคุม”
“เข้าใจแล้ว”ผู้รักษาสัจจะพยักหน้า
เป้าหมายของการคืนชีพแรกเป็นสมาชิกเก่าของเทพอำนวย คนทั้งหมดรู้ถึงวิหาร ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจสถานการณ์ได้เร็ว แต่ทว่า เป้าหมายของกลุ่มนี้เป็นคนนอกที่ไม่รู้จักเทพอำนวย เมื่อพวกเขาคืนชีพ มันอาจยากที่พวกเขาจะยอมรับความจริง
เป้าหมายของการคืนชีพนี้ถูกคัดกรองแล้ว เป็นผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ที่ตายจากอุบัติเหตุ ไม่มีใครเป็นสมาชิกสายตรงของอารยธรรมขั้นสูงได้ นอกจากนี้ หลายคนยังตายในช่วงโศกนาฏกรรมพินนาเคิบล
โศกนาฏกรรมทำให้ผู้อยู่เหนือตายมากสุดตั้งแต่เกิดยุคสำรวจ พวกเขาถือเป็นจำนวนตายมากสุดในประวัติศาสตร์ มันยากที่จะเลี่ยงคนที่ต้องเสียสละในโศกนาฏกรรม แม้กระทั่งหานเซี่ยวก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีพวกแข็งแกร่งในหมู่พวกเขา
ในชีวิตก่อนหน้าเขา เทพอำนวไยด้คืนชีพผู้อยู่เหนือหลายกลุ่ม รวมถึงคนนอก แต่พวกเขาก็ยังปรากฏระหว่างสงครามต้นไม้โลกและไม่ทำให้ข้อมูลรั่วไหลก่อนหน้านั้น นี่พิสูจน์ว่าเทพอำนวยต้องมีหนทางยับยั้งพวกเขา
องค์กรเทพอำนวยไม่ใช่องค์กรการกุศล ลืมบรรพชนที่เข้าร่วมไปนานแล้ว แต่ถ้าคนนอกที่คืนชีพมาอยากสร้างปัญหา เทพอำนวยก็คงไม่ว่าอะไรที่จะส่งพวกเขากลับเข้าโลง
“พอคิดดู ผู้รักษาสัจจะกำลังโกหกสมาชิกองค์กรว่าพวกเขาคืนชีพได้แค่ครั้งเดียว นั่นดีจริง แบบนี้ คนที่คืนชีพมาจะหวงแหนมันและไม่อยากสร้างปัญหา”
หานเซี่ยวพยักหน้า เขาวางสาย เปิดกล่องกองทัพมิติที่สอง นำเอาฐานพกพาขนาดเล็กออกมา และเข้าไปพักผ่อนข้างใน อ่านเหตุการณ์ตลอดสี่เดือนที่ผ่านมาขณะรอผู้รักษาสัจจะ
สองวันต่อมา ในที่สุดกองยานเทพอำนวยก็มาถึงพร้อมบรรพชนหลายคน
กองยานจอดเทียบท่าที่ฐานของหานเซี่ยวและพวกเขาก็พบกัน “มันน่าแปลกใจที่นายออกมาหลังผ่านไปแค่สี่เดือน ดูเหมือนเราจะไม่ต้องรอเป็นปี”บีเกอร์กับคนอื่นประหลาดใจ
หานเซี่ยวมองรอบๆ แต่ไม่เห็นผานกอนกับกลุ่มเขา”พวกผานกอนไปไหน?”
“พวกเขาออกเทพอำนวยไปสามเดือนก่อน เราไม่ได้ติดต่อพวกเขาเลย”ผู้รักษาสัจจะส่ายหัว
หานเซี่ยวพยักหน้าและไม่พูดอะไร นี่เป็นไปตามคาด ข่าวดีคือก่อนผานกอนจะสร้างปัญหา เขากลับมาแล้ว
“เอาละ ช่างมันและคืนชีพคนเหล่านี้กัน พวกนายอยู่ข้างๆพอ พวกเขาจะสงบสติและคุยกับเราเอง”หานเซี่ยวแสดงตราคืนชีพบนหลังมือ
คนอื่นพยักหน้า ไม่คัดค้าน
พวกเขามาถึงสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าและยืนประจำตำแหน่ง หานเซี่ยวรับอุปกรณ์มาจากผู้รักษาสัจจะ สูดหายใจลึกและกดปุ่มทำงาน
บูซ!
ตราคืนชีพวิหารพลันเปล่งแสงสว่าง บินออกจากหลังมือ เปลี่ยนเป็นทรงกลมขยายออกไป
วินาทีต่อมา ทรงกลมแสงก็แตกตัว กลายเป็นร่างเลือนรางมากมายที่ค่อยๆก่อตัว เปลี่ยนเป็นผู้อยู่เหนือหลายคน
ด้านหน้าคือเอลฟ์ชายหูยาวท่าทางสง่างาม เขามองรอบๆ ดวงตาหยุดที่หานเซี่ยวและพึมพำ”นั้น นี่ก็คือเจ้านรกที่แต่งตัวเหมือนผี ท่านต้องเป็นราชานรกในตำนานแน่”
“หือ?”หานเซี่ยวขมวดคิ้ว ในเมื่อแกฉลาดมาก ก็พูดให้มากขณะที่ยังทำได้ ไม่งั้น ฉันเกรงว่าแกคงไม่มีปากไว้พูดอีกในอนาคต��
