เฮอลัส่คือนักสู้ระดับBและ[แสงกระจาย]ก็คืออุปกรณ์พิเศษ ชุดทำขึ้นเพื่อเขา ช่วยขับดันพลังของนักสู้ พลังงานมากมายไหลผ่านระหว่างชุดเกราะ และเปลวก็ระเบิดออกมา
นักสู้ระดับBนับว่าเป็นตัวตนระดับสุดยอด พวกเขาเหมือนระเบิดเดินได้
พลังของเฮอลัสไม่อาจเมินเฉยได้ทั่วทั้งวงแหวนดาวกระจาย เกราะชั้นบัญชาการคืออุปกรณ์ระดับสุดยอด และระดับมันก็แตกต่างจากเกราะประเภทอื่น ด้วยการเสริมพลังงานให้ดาบ ความเสียหายของเฮอลัสจึงน่สะพรึง
แสงหนาจากดาบปล่อยคลื่นออกมา สร้างเป็นรอยดาบบนพื้นทีละสาย ระดับของพลังนี้เหนือกว่าทหารทั่วไปมาก และไม่จำเป็นต้องให้ใครเข้าร่วม เฮอลัสหมุนสะบัดดาบเหมือนเทพนักรบ ว่องไวเสียยิ่งกว่าจ้าวแห่งนักล่า เนื้อของมันกระจายไปทั่ว
พลังระดับเทพของเฮอลัสได้จุดไฟในหัวใจของทหารทุกคน
เกราะชั้นบัญชาการปรากฏอีกครั้งหลังหายไปหลายปี!
ใครคือผู้ใช้เกราะนี้?
พวกซันนิลมีหลายคำถามในใจ
เกราะชั้นบัญชาการมีตำแหน่งพิเศษมากในสายตาชาวซันนิล หลายคนรู้ว่านี่คือสัญลักษณ์ของนักรบที่แข่งแกร่งสุดในเผ่าพันธื การปรากฏตัวของเฮอลัสได้สร้างขวัญกำลังใจของทุกคน
ขวัญกำลังใจพุ่งสูงเสียดฟ้า ในแง่ของเกม ชาวซันนิลทั้งหมดได้รับบัฟเพิ่มค่าสถานะ!
หานเซี่ยวเฝ้าดูการแสดงข้างๆ เฮอลัสแข็งแกร่งมาก แกร่งกว่าเขาในตอนนี้ซะอีก
การที่เฮอลัสออโรงหมายความว่าเนื้อเรื่องของซันนิลได้เริ่มขึ้นแล้ว…หานเซี่ยวคิด ด้วยการดำรงอยู่ การกระทำของหานเซี่ยวควรเบี่ยงไปจากเนื้อเรื่องเดิม งั้นเขาก็แค่ต้องการโอกาสชักจูง
ปืนใหญ่อนุภาคยิงสองครั้ง สร้างบาดแผลให้อสูรภูเขาและลิซาร์ดลาวา อาวุธนี้ถือเป็นของทั่วไปในอารยธรรมชั้นสูง และมันก็เป็นแค่ของเสียหาย พวกซันนิลสามารถเผาพลังงานเกรดต่ำได้ด้วยระดับเทคโนโลยีพวกเขา และต่อให้มีข้อจำกัดมากมาย พลังมันก็ยังถือเป็นไพ่ตายปกป้องเมือง
ในช่วงการชาร์จ เฮอลัสฆ่าจ้าวแห่งนักล่าได้สำเร็จและเริ่มวิ่งไปทั่วสนามรบ ด้วยเกราะเขาและพลังงานรอบร่าง เขาจึงไม่กลัวว่าจะถูกรุมเลย ดาบพลังงานเขาฟันเป็นแนวเฉียง เข่นฆ่าสัตว์ร้ายไปอย่างง่ายดาย
เฮอลัสไม่อาจหยุดสัตว์ร้ายทั้งหมดได้ลำพัง แต่การกระทำเขาได้ทำให้ทหารที่เหลือมีโอกาสพักหายใจ
บนอความารีน ยอดมนุษย์ระดับCสามารถต่อต้านได้ทั้งกองทัพ เฮอลัสมีระดับสูงกว่านั้น ต่อให้จะเป็นสัตว์ร้ายในช่วงท้ายของหายนะ เขาก็ยังรับมือกับพวกมันได้ง่ายๆ นอกจากนี้ เขายังเป็นนักสุ้ประเภทสายชน
เขามีทั้งพลัง ความเร็ว เหมือนดาบแหลม เขาคือหนึ่งคนหนึ่งกองทัพ!
เฮอลัสกระโดดไปทั่วสนามรบ กลายเป็นศูนย์กลางความสนใจ การมองเขาทำให้จิตวิญญาณของทหารลุกโชน
สถานการณ์ค่อยๆมั่นคง และคลื่นสัตว์ร้ายก็หมดลง ขณะที่ทหารกำลังตื่นเต้น เฮอลัสก็พุ่งไปในป่าและหายไป แสดงเจตนาว่าไม่อยากเปิดเผยตัวตน
เฮอลัสดูขัดแย้ง การติดต่อกับทหารหมายความว่าชีวิตอันสงบสุขเขาต้องจบลง เขาต้องเดินบนเส้นทางอย่างเฟอร์นาสและกลายเป็นผู้พิทักษ์เผ่าพันธ์
นอกจากนี้ พวกระดับสูงยังต้องร้องขอให้เขามอบเกราะชั้นบัญชาการเพื่อทำการวิจัย เฮอลัสถือมันเป็นสมบัติล้ำค่าจากเดลวิส ดังนั้นเขาย่อมไม่มีทางยกให้ใคร
แม้เขาจะยืนหยัดเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ แต่เขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงบุคลิกได้ในชั่วข้ามคืน
…
ไม่กี่วันมานี้ เฮอลัสได้เลือกแล้ว ขณะที่เขาปรากฏตัวเพื่อช่วย ทหารจึงยังคงพยายามหาตัวตนเขา แต่ทุกครั้งที่การต่อสู้จบ เขาจะหายตัวไปอย่างลึกลับ
ไม่กี่วันต่อมา เสียงกระซิบในหัวทุกคนก็หายไป หายนะได้จบลงแล้ว
คลื่นสัตว์ร้ายพลันหยุดกลางคัน และอสูรนับไม่ถ้วนก็ได้สติ หยุดวิ่ง และหมุนตัวหายไป
“ในที่สุดหายนะก็จบลง”หานเซี่ยวสูดหายใจลึก
เหล่าทหารนอนลงด้วยความเหนื่อยล้า ไม่อาจขยับได้ ร่างพวกเขามาถึงขีดจำกัด และทหารที่รอดชีวิตก็เหนื่อยล้าเกินไป
ทีมโลจิสเก็บกวาดสนามรบ ถอดเกราะทหารและส่งพวกเขาไปห้องรักษาทีละคน
ทหารกำลังพักฟื้น คนนับไม่ถ้วนในเมืองทยอยกันออกมา
การจบของหายนะเหมือนการอยู่รอดผ่านภัยพิบัติ ตามประเพณี จะมีการเฉลิมฉลอง ชื่นชมความกล้าของกองทัพและอำลาทหารที่ตายจาก มันเป็นงานที่ทำให้ผู้คนทั้งหัวเราะและร้องไห้ กำจัดอารมณ์ด้านลบ
แต่ทว่า ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เพียงหนึ่งชั่วโมงหลังหายนะจบลง ใบหน้าเย็นชาของเฟอร์นัสก็ปรากฏบนจอทีวี
“พี่น้องทุกคน ผมเฟอร์นัส ผมเชื่อว่าหลายคนรู้จักผม ผมอยากทำการออกเสียง จากวันนี้ไป ยอดซันนิล40% คนที่พวกคุณเรียกว่าผู้พิทักษ์ เราจะทำการทิ้งดาวซันนิลและไม่กลับมาอีก…”
คำพูดเขาดูหนักแน่น บอกว่าพวกเขาทำมามากพอแล้วและตอนนี้ก็กำลังขวนขวายหาอิสรภาพ
ชาวซันนิลรู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นสาดใส่หน้า ความสุขล้วนหายไปจนสิ้น
นี่มันเรื่องอะไรกัน?!
พวกทหารระดับสูงตกใจ พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
ไกลออกไปในป่า เฮอลัสเห็นการประกาศของเฟอร์นัสจากช่อง
ภายในเกราะเขา และพึมพำ”ทำไมถึงไม่ออกไปเงียบๆ?!ด้วยวิธีนี้ ผู้คนจะ…”
ด้วยการประกาศ ทั่วดาวจึงตกอยู่ในความตกใจ ผู้คนรู้สึกสับสนและหลงทาง พวกเขาไม่รู้เหตุผลเบื้องหลัง ทั้งหมดที่พวกเขารู้คือผู้พิทักษ์ที่พวกเขาเชื่อมั่นกำลังละทิ้งพวกเขา!
ทำไม?ทำไม?!
ทุกคนเงียบ
ความสิ้นหวัง หดหู่
เสียงร่ำไห้ โหยหวน
นี่คือความเชื่อที่แตกสลาย!แม้กระทั่งยอดซันนิลที่ไม่พอใจอยู่แล้วก็ยังตื่นตระหนก
สิ่งนี้สร้างความตกใจไปทั่วเผ่าพันธุ์!
เฟอร์นัสปรากฏพร้อมยอดมนุษย์คนอื่นที่ตัดสินใจจากไป ทหารซันนิลมองพวกเขาอย่างไม่เชื่อสายตา แต่ก็ยังเปิดทางให้
ครั้งนี้ คนอีกกลุ่มเดินมาด้วยความโกรธและตกใจ รวมถึงเลอเด็น
ยอดซันนิลแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่ประกาศละทิ้ง กลุ่มที่ตกใจและโกรธ พวกเขายืนอยู่ตรงข้ามกัน
ใบหน้าทหารรับจ้างกลับดูยินดีที่ได้เห็นการแสดง ใครจะสนเรื่องรางวัล
หานเซี่ยวเอนพิงกำแพง มองดูด้วยตาหรี่ลงและคิด มันเริ่มขึ้นแล้ว
เขาเคยอ่านถึงการแยกตัวของพวกซันนิลจากข่าว ครั้งนี้ เขากลับเห็นด้วยตาตัวเอง
รายงานได้อ้างอิงว่ากลุ่มคนรวมถึงเฟอร์นัสได้เลือกอยู่ฝ่ายอิสระ และอีกกลุ่มก็คือฝ่ายผู้พิทักษ์เผ่าพันธุ์
“ทำไมนายถึงทำอย่างนี้?!”คนจากฝ่ายผู้พิทักษ์กล่าว
เฟอร์นัสส่งสายตาเย็นชา”ฉันอธิบายไปชัดเจนแล้ว ฉันรู้ว่าพวกนายต้องเคยคิดเหมือนกัน ในอดีต พี่น้องเราต้องเสียสละกันไปมากเท่าไร?เราต้องเสียพี่น้องไปอีกแค่ไหน?เราทำมามากพอแล้ว”
สีหน้าฝ่ายผู้พิทักษ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ความคิดเดียวพลันปรากฏในหัวพวกเขา หลายคนยังหนักแน่นตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากนี้ พวกเขาได้เดินทางในอวกาศมานานและเห็นว่ามันน่าหลงใหลแค่ไหน
บางคนหลบหนีความปรารถนา บางคนปล่อยมันไว้
“แต่…”เลอเด็นกัดฟัน”หากนายอยากไป นายก็ควรไปเงียบๆ ทำไมต้องประกาศ?นายกำลังทำลายความหวังของ..”
เฟอร์นัสกล่าวตัด”แล้วไงละ?”
คนฝ่ายผู้พิทักษ์คกใจ พวกเขารู้สึกว่าเฟอร์นัสกลายเป็นคนแปลกหน้าไป
ทั้งสองฝ่ายยืนตรงข้ามกัน และทหารซันนิลก็ค่อยๆล้อมพวกเขา ไกลออกไป ทหารรับจ้างหยิบขนมและดูการแสดงด้วยใบหน้าตื่นเต้น
หานเซี่ยวคว้าบุหรี่ขึ้นมา สูดหายใจ”นี่คือจุดจบของความสัมพันธ์ระยะยาว”
“วิเศษ”ทหารรับจ้างคนอื่นหัวเราะ ทหารรับจ้างเป็นกลุ่มคนเย็นชาและไม่สงสารคน
หานเซี่ยวมีความคิดเปิดกว้าง การแยกทางของซันนิลคือชะตากรรม เปิดม่านแห่งจุดจบของอารยธรรมซันนิลและเริ่มเนื้อเรื่องของเฮอลัส เขาแค่ผู้ชม จนกว่าเรื่องราวจะดำเนิน เขาทำได้แค่รอ
นอกจากนี้ ด้วยการเข้าไปแทรก การแยกทางอาจไม่นำไปสู้จุดจบแบบเดิมแต่อาจเริ่มใหม่ได้ เนื่องจากเขาสามารถได้รับผลประโยชน์จากมัน นี่จึงเป็นเรื่องวินวิน
ควันถูกเป่าออกจากปากและปกคลุมดวงตาของหานเซี่ยว