The Legendary Mechanic – ตอนที่ 417 เก้าเดือนต่อมา

ในเมืองโบราณของดินแดนทางใต้บนดาวเคราะห์รุ่งอรุณ พันธมิตรของเผ่าต่างๆได้มารวมกัน
อัศวินโล่น้ำเงินสามพันคนของอาณาจักรทะนง นักรบเถื่อนห้าพันคนของชนเผ่าคนเถื่อน นักเล่นแร่แปรธาตุหนึ่งพันคนของชนเผ่าดิน ผู้ขี่สัตว์ห้าร้อยคนของบุตรแห่งเสียง และกองทัพผสมของเมืองแดนใต้และนครรัฐ มีคนทั้งสิ้น15000คนมาตั้งค่ายกันในทุ่งเขียวนอกเศษซากเมืองโบราณ ธงพวกเขาปลิวตามลม
ไม่มีเมฆแม้แต่ก้อนเดียวบนท้องฟ้า ท้องฟ้าเป็นสีของพลบค่ำ เปลี่ยนทุกอย่างให้อยู่ในเงามืด ดวงอาทิตย์ที่อยู่สูงในท้องฟ้าดูเล็กเพราะมันอยู่ไกลจากดาวมาก
จักรพรรดิกำลังประชุมในเต็นท์กับเหล่าผู้บัญชาการกองทัพอย่างดุเดือด มีเพียงชายผิวน้ำเงินที่ไม่พูดอะไรเลย เขาคือหัวหน้าอัศวินโล่น้ำเงิน เร็ก วีรบุรุษแห่งอาณาจักรทะนง เขาเปลี่ยนจากประชากรทั่วไปเป็นผู้บัญชาการกองทัพของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่สุดบนดาวเคราะห์อรุณรุ่ง การกระทำของเขาได้รับการชื่นชมจากคนทั่วดาว
เมื่อคนอื่นเกือบพูดจบ มันก็มีเพียงเร็ดที่เปิดปากขึ้น ผู้บัญชาการเหล่าทัพให้ความเคารพเขามาก ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดเถียงและฟังคำเขา
“รีซาร์และผู้ศรัทธาเขากำลังซ่อนตัวอยู่ใต้โบราณสถาน กำลังเตรียมพิธีปล่อยมลพิษลงแหล่งน้ำ เรามีเวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่ง มีหุ่นโมโจระดับสูงแปดร้อยตัว ซึ่งเขาใช้เวลาสร้างยี่สิบปีกำลังหลับใหลอยู่ด้านใต้ เขาติดตั้งเวทย์ซับซ้อนไว้ ดังนั้นเส้นทางไปแท่นบูชาจะเปิดก็ต่อเมื่อหุ่นโมโจทั้งหมดถูกทำลาย
“นี่หมายความว่าเราต้องทำลายการปิดล้อมของพวกมันในเวลาอันสั้น  หาตำแหน่งพวกมัน และหยุดพิธี หากไม่ แหล่งน้ำของเขตแดนใต้กว่าครึ่งจะสูญเสียพลังมัน และคนนับแสนก็จะตาย!”
ผู้บัญชาการอีกคนทอดถอนหายใจ”กำลังสอดแนมได้ส่งข้อความกลับมา หุ่นโมโจทุกตัวมีความสูงกว่าเจ็ดเมตร พวกมันแข็งมากและยังได้รับพรจากการสวด ดาบเหล็กรีย์เรายังหักจากการาฟันมันและทำได้เพียงทิ้งรอยขาวไว้..”
“ข้อมูลนี้ทำให้เราเสียทหารชั้นยอดไปหกนาย นิกายรีซาร์มี[ผู้ปล่อยมลพิษ]ร้อยคน ที่สามารถกัดกร่อนอาวุธและร่างกายเรา ไม่มีนักรบคนใดสามารถต้านทานคาถากัดกร่อนได้ สถานการณ์นี้เลวร้ายเกินไป”
“มันยากมากสำหรับกองทัพเราหมื่นห้าพันนายที่จะฝ่าไปได้ในเวลาอันสั้น เห้อ รีซาร์เตรียมการมาเป็นเวลายี่สิบปี หากเราพบมันสิบวันก่อน….ไม่สิ แค่สามวัน เราคงไม่อยู่ในสถานการณ์นี้ นั่นทำให้เรารวมคนได้แค่นี้”
“สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อความบริสุทธิ์ของแหล่งน้ำและชีวิตนับแสน เราไม่อาจล้มเหลว”เร็กกล่าว”อาณาจักรจอมเวทย์ผู้พิทักษ์ได้ติดต่อกับผู้ทรงอำนาจจากโลกชั้นสูงแล้ว พวกเขาได้จ้างนักรบจากโลกอื่นที่จะมาช่วยเรา….”
 
จากนั้นเร็กก็มองมุมเต็นท์ มนุษย์ในชุดรบสีแดงกำลังนั่งอยู่ ดูแตกต่างจากคนอื่นที่สวมเกราะโซ่ เขาลุกขึ้นยืนและกล่าว”ผมคือหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างเขาแดง หลินเกอ คนของเผ่าคุณจ่ายเงินให้เรา ดังนั้นเราจะช่วยคุณสุดความสามารถ”
“หัวหน้าหลินเกอ คุณมั่นใจไหม?”เร็กถาม
หลินเกอส่ายหัวและกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น”เอาจริงๆแล้ว สถานการณ์ที่นี่เลวร้ายกว่าข้อมูลที่เราได้รับมาก พลังเรามีจำกัด และเราก็ไม่อาจจัดการภารกิจระดับนี้ได้ รายละเอียดได้ถูกรายงานให้ผู้จ้างแล้ว และกำลังเสริมกลุ่มสองกำลังมา หากเราโชคดี พวกเขาควรมาถึงภายในสองชั่วโมง”
ใบหน้าของเร็กดำมืด และก็กล่าว”เวลากระชั้นชิดไป กำลังเสริมนั่นไว้ใจได้ไหม?”
“ไม่ต้องห่วง กลุ่มทหารรับจ้างที่จะมาแข็งแกร่งกว่าเรา ตราบเท่าที่พวกเขามาทัน การแก้ไขปัญหาที่นี่ก็จะง่ายเหมือนปอกกล้วย ฐานที่มั่นพวกเขาดันอยู่ในระบบดาวนี้ หากไม่ใช่แบบนั้น พวกเขาคงไม่ใส่ใจเหตุการณ์เล็กๆแบบนี้”
“หวังว่า..”
เร็กกังวล แต่หลินเกอมั่นใจ
ดาวเคราะห์อรุณรุ่งตั้งอยู่ในระบบดาวกาตอน เขตของโกโดร่า ดาวนี้อยู่ไกลจากระบบสุริยะมาก ดังนั้นมันจึงอยู่ในเวลารุ่งเช้าแม้จะเป็นกลางวัน ไม่มีดวงจันทร์ตอนกลางคืนเช่นกัน มีเพียงความมืด ไม่มีความแตกต่างในฤดูกาล ทุกวันหนาวเย็น ในทางทฤษฏี นี่ควรเป็นดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตได้ พลังชีวิตมันมาจากแม่น้ำที่ไหลผ่านพื้นผิวและติ้น น้ำธรรมดาบนดาวเต็มไปด้วยพลังงานเวทย์ มันอบอุ่นซึ่งทำให้ความเย็นของดาวลดลงและช่วยให้กำเนิดพืชกับสิ่งมีชีวิต มันถูกเรียกว่า’แหล่งน้ำต้นกำเนิด’ มันเป็นสิ่งสำคัญสุดของดาว
อารยธรรมบนดาวถูกสร้างด้วยน้ำต้นกำเนิด การเปลี่ยนแปลงและสงครามระหว่างอาณาจักรต่างๆตลอดประวัติศาสตร์ล้วนเกี่ยวกับแหล่งน้ำต้นกำเนิด การบริโภคน้ำระยะยาวจะช่วยให้คนแข็งแกร่งขึ้น ชาวทะนงผิวสีน้ำเงินคือเผ่าพันธ์หลัก อาณาจักรทะนงโบราณนับว่าแข็งแกร่งสุดในดาวนี้ การมีอยู่ของแหล่งน้ำต้นกำเนิดได้กำหนดให้ดาวเคราะห์อรุณรุ่งเป็นอารยธรรมเวทมนตร์ การพัฒนาทางเทคโนโลยีมันช้าและมุ่งเน้นยังความสามารถส่วนบุคคล โครงสร้างทางสังคมของมันมีลักษณะชัดเจนถึงเวทย์ เช่นคนที่สามารถควบคุมเวทย์ได้จะมีตำแหน่งสูงกว่า
แม้นี่จะเป็นอารยธรรมพื้นผิว มันก็ยังมุ่งเน้นเวทมนตร์เหมือนโกโดร่า มันติดต่อกับกาแล็กซี่ เมื่อมีคนแข็งแกร่งพอ พวกเขาจะสามารถร้องขอความช่วยเหลือของโกโดร่าและเข้าสู่’โลกชั้นสูง’ซึ่งก็คือกาแล็กซี่ คนเหล่านี้ถูกเรียกว่าผู้ทรงอำนาจ มีผู้ทรงอำนาจนับร้อยตลอดประวัติศาสตร์ บางคนหายตัวไป แต่ก็มีบางคนกลับมาบ้างและทิ้งอุปกรณ์สื่อสารไว้ นี่ยังถือเป็นสมบัติแห่งอาณาจักรจอมเวทย์ผู้พิทักษ์ ใช้เพื่อติดต่อกับผู้ทรงอำนาจ
ไม่นานมานี้ อาณาจักรทะนงได้ค้นพบการสมรู้ร่วมคิดของพวกรีซาร์ พวกมันอยากใช้พิธีเวทย์ขนาดใหญ่เพื่อเบี่ยงแหล่งน้ำต้นกำเนิด ช่วยให้ตัวมันได้รับพลังเวทย์เหนือใครจะเทียบ เดิมที เวทย์ในแหล่งน้ำนั้นบริสุทธิ์ ต่อให้ถูกใช้ มันก็ยังฟื้นคืนได้ผ่านวงจรธรรมชาติ
แต่พิธีนี้จะปลดเปลื้องเวทย์ไปจากมัน และน้ำต้นกำเนิดก็ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อฟื้นคืน ความหนาแน่นของน้ำต้นกำเนิดทั่วดาวจะลดลงเพราะเหตุนี้ ซึ่งทำให้อุณหภูมิของดาวลดลง
แม้ว่าน้ำต้นกำเนิดจะยังมีวงจร มันก็ต้องใช้เวลา บริเวณนั้นจะเสียการปกป้องของมันและปกคลุมด้วยน้ำแข็งภายในหนึ่งชั่วโมง เปลี่ยนให้เป็นดินแดนแห่งความตาย ทำให้ประชากรหลายแสนต้องทิ้งบ้านหรือตาย
ในยุคโบราณหนึ่งพันปีก่อนหน้า บางคนได้ทำพิธีกรรมเดียวกัน และนั่นก็ทำให้ดินแดนทางเหนือของดาวเคราะห์ซึ่งยังไม่ฟื้นตัวดีต้องเกิดหายนะ ตอนนั้น ทุกชนเผ่าได้ร่วมมือกันและฆ่าผู้กระทำผิด ความรู้ของพิธีกรรมนี้ถูกทำลาย แต่พันปีต่อมามันกลับปรากฏอีกครั้ง
ดังนั้น อาณาจักรทะนงจึงเรียกกองทัพแบบฉุกเฉิน ติดต่อกับอาณาจักรอื่น และสร้างพันธมิตรขึ้น ตรงไปยังสถานที่ที่รีซาร์กำลังทำพิธี ป้องกันดาวเคราะห์จากการเสื่อมถอยเหมือนอดีต นอกจากนี้ ดินแดนทางใต้ยังอุดมสมบูรณ์มาก หากสถานที่นี้กลายเป็นน้ำแข็ง แหล่งอาหารจะลดลงอย่างมาก ผู้คนหลายพันจะต้องอดทตาย
กลุ่มทหารรับจ้างเขาแดงของหลินเกอได้ยอมรับภารกิจจากผู้ทรงอำนาจของดดาวและมาถึงที่นี่ไม่กี่วันก่อนเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ทว่า จำนวนหุ่นเชิดโมโจก็เกินความคาดหมายพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องร้องขอกำลังเสริมภายนอก ดด้วยความแปลกใจ กลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อกลับเต็มใจช่วย
กลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักกันดีและมีภูมิหลังแข็งแกร่งมาก คนอย่างกลุ่มทหารรับจ้างเขาแดงไม่มีโอกาสได้ติดต่อกับพวกเขาภายใต้สถานการณ์ปกติ หลินเกอรู้สึกโล่งใจมาก ภารกิจนี้จะไม่มีปัญหาเมื่อพวกเขามาช่วย
เวลาจวนตัวเกินไป เร็กไม่อาจรอได้และสั่งให้พันธมิตรเริ่มเดินขบวน
บูม!
เสียงฝีเท้าและกีบสัตว์ร้ายย่ำพื้นก่อให้เกิดเสียงดัง กองทัพถาโถมและรีบเข้าใกล้เมืองโบราณ แม้จะอยู่ไกล พวกเขาก็ยังเห็นยักษ์สีเขียวเข้มภายในซากสถาน พวกมันมีสี่แขน ถือขวานยักษ์ และกระพริบแสงเวทมนตร์ ผิวพวกมันเหมือนหิน แต่ก็คล้ายโลหะ กองทัพสามารถเห็นได้ว่าพวกมันแข็งแค่ไหนจากการมอง
“อัศวินโล่น้ำเงิน บุก!”
เร็กดึงหมวกลงและกระชับขา สัตว์ขี่ของอัศวินถูกเรียกว่าอสูรราเวนนิ่ง พวกมันมีหัวงูและลำตัวเป็นม้า อัศวินโล่น้ำเงินสามพันนายติดตามหลังเขาไป เผชิญหน้ากับยักษ์เวทมนตร์ ซึ่งสูงกว่าพวกเขาสามเท่า อัศวินทุกคนไม่มีความกลัวในสายตาเลย
ยักษ์เวทย์ถูกควบคุมโดยใครบางคน พวกมันจัดขบวนรบและปะทะกับกองทัพอัศวิน!
ปัง ปัง ปัง!
ผู้คนล้มลง และสัตว์ขี่ก็ปลิวออกไป ภาพดูอลหม่านมาก เผ่าอื่นเองก็เข้าร่วมด้วย ดาบและกรงเล็บปะทะกับยักษ์เวทย์และสร้างเป็นเสียงที่ดังยิ่งกว่าระเบิด!
คนเถื่อนและอัศวินอยู่แนวหน้า แต่ไม่ว่าจะยังไง ยักษ์เวทย์ก็ยังทุบกระดูกของพวกเขาจนแหลกละเอียดได้ง่ายๆ สถานที่เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวน ศัตรูซ่อนตัวอยู่หลังยักษ์และร่ายคาถากัดกร่อนใส่เหล่านักรบ
บ่อยครั้ง พวกเขาจำต้องจ่ายราคาด้วยนักรบชั้นสูง13-18คนเพื่อทำลายยักษ์ตัวเดียว ต่อให้กลุ่มทหารรับจ้างเขาแดงช่วยด้วยการยิงและความสามารถ พวกเขาก็ยังฆ่ายักษ์เวทย์ได้ไม่เร็วพอ
มียักษ์เวทย์มากกว่าแปดร้อยตัว มันเหมือนกำแพงแห่งความสิ้นหวัง
เลือดค่อยไหลปกคลุมทั่วทุ่งเขียว และรุ่งอรุณบนท้องฟ้าก็เป็นสักขีพยานถึงเหตุการณ์นี้
 
“บุกต่อไป อย่าหยุด!”
อัศวินนำโดยเร็กได้เสียสมาชิกไปแล้ว1ใน4 พวกเขาได้ฆ่ายักษ์ไปมากสุดเช่นกัน ใบหน้าเขาแน่วแน่ และก็วิ่งออกสนามรบพร้อมกับพุ่งกลับเข้ามาใหม่
หอกเขาแทงเข้าไปในขายักษ์เวทย์ เสียงระเบิดดังขึ้นบนปลายหอกที่เสริมด้วยคาถาระเบิด ทำให้ร่างของยักษ์เวทย์ส่วนหนึ่งแตกกระจาย ยักษ์เวทย์ตัวหนึ่งสามารถกำจัดกองกำลังปกติได้นับร้อย อัศวินโล่น้ำเงินเป็นกองกำลังชั้นยอดของอาณาจักรทะนง ดังนั้นทุกคนจึงเป็นนักรบเวทย์ พวกเขาแข็งแกร่งเกินกว่าคนปกติ
ในเวลาเดียวกัน แท่นบูชาขนาดใหญ่ทรงแปลกตาได้ตั้งอยู่ภายใต้เมืองโบราณ ผู้ศรัทธานับไม่ถ้วนในชุดดำกำลังสวดมนตร์เสียงเบา ส่งพลังเวทย์ไปในวงเวทย์บนแท่น
ในใจกลางแท่นเป็นชายชราในชุดคลุมสีแดงสดใส-รีซาร์ กระจกกรอบทองลอยอยู่ข้างๆเขา มันครอบครองคาถา[ญาณทิพย์] และภาพในกระจกก็สะท้อนสงครามด้านบนเขาให้เห็น
“พวกโง่เขลา พวกมันเป็นไปตามคาด ยักษ์เวทย์เหล่านี้ใช้เพื่อสู้กับพวกมันโดยเฉพาะ วงเวทย์เราซ่อนอยู่ใต้นี้ เลือดจากด้านบนจะลงมายังที่นี่ พิธีสามารถกระตุ้นได้เมื่อมีเลือดพอ ฮี่ๆ ความคิดของท่านที่คิดใช้ยักษ์วงเวทย์ช่างหลักแหลมนัก ทำให้พวกมันจำต้องสู้กับยักษ์ซึ่งๆหน้า”ผู้ศรัทธาระดับสูงภายใต้แท่นกล่าวด้วยน้ำเสียงประจบ
รีซาร์พยักหน้าและถามเสียงเย็น”ต้องการเลือดอีกมากแค่ไหน?”
“เชื้อเพลิงที่ต้องใชเจะเพียงพอในหนึ่งชั่วโมงหากยังคงสู้ต่อ ท่านจะกลายเป็นจ้าวแห่งศาสตร์เวทย์ จอมเวทย์ที่แข็งแกร่งสุดในประวัติศาสตร์!”ผู้ศรัทธากล่าวด้วยใบหน้าคลั่งใคล้
“แข็งแกร่งสุด…”รีซาร์มองเขาอย่างสมเพช เขาส่ายหัวและพึมพำ”เตรียมการยี่สิบปี ในที่สุดก็เข้าใกล้ความสำเร็จ ฉันได้ติดอยู่ขั้นนี้มาหลายปี และนี่ก็คือขีดจำกัดของพรสวรรค์ฉัน ตราบเท่าที่ฉันข้ามขั้นนี้ไปได้ ฉันก็จะไปสู่โลกชั้นสูงได้…”
….
การต่อสู้บนพื้นกินเวลาเกือบชั่วโมง เพื่อประหยัดเวลา กองทัพเกือบยอมแพ้การป้องกันและโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ยักษ์เวทย์ครึ่งหนึ่งถูกทำลาย และผู้ก่อมลพิษทั้งหมดก็ตาย แต่ทว่า นักรบก็สูญเสียหนักเช่นกัน เลือดเปลี่ยนเป็นแม่น้ำ คนอื่นเหนื่อยล้า ความสูญเสียเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วสูง
“ทนไว้ ตามความเร็วนี้ เราจะหยุดพิธีได้ทัน!”เร็กตะโกนเสียงดังปลุกขวัญกำลังใจ
ครั้งนี้ เขารู้สึกหนาวเย็น ยักษ์เวทย์ใกล้เขาได้ทุบขวานยักษ์ลงมา
บูม!
เร็กรีบกระโจนหลบ สัตว์ขี่ตัวขาดครึ่งและขวานก็สับลงพื้น เลือดและลำไส้ของสัตว์ขี่เขากระจายไปทั่วพื้น หากเขาหลบไม่ทัน นั่นคงเป็นสภาพของเขา
เขาไม่มีเวลาดีใจ ยักษ์ตัวนี้ได้เดินมาทางเขาแล้ว เงาได้บดบังทั่วตัวของเร็กเมื่อขวานถูกยกขึ้นสูง
เร็กเจ็บขาจากการหลบ เขาปกคลุมด้วยเหงื่อและอยากยืนขึ้นด้วยพลังทั้งหมด
ในชั่วพริบตา เขาก็ตระหนักว่าเงาใต้ฝ่าเท้าเขาดูเหมือนจะขยายตัว ตามด้วยโซนิคบูมที่ดังขึ้นเรื่อยๆ
ปัง!
ห้องโดยสารที่ทำด้วยเหล็กผสมตกลงมาข้างยักษ์ตนนี้ และผลกระทบก็ทำให้ทั้งยักษ์และเร็กลอยออกไป
ตึง ตึง!
จากนั้นก็มีเสียงห้องโดยสารตกลงมามากขึ้น
หวือ!
ประตูเปิดและกลุ่มนักรบเกราะเหล็กหนักก็กรูกันออกมา ผู้นำคือมนุษย์ชายในชุดกันลมสีดำ สวมเครื่องประดับทรงกลมจำนวนมาก เขากวาดตามองซ้ายขวาอย่างอยากรู้
 
“กำลังเสริมจากโลกชั้นสูง?”เร็กประหลาดใจ
ครั้งนี้ ยักษ์เวทย์พุ่งตรงไปหาชายคนนี้ และขวานมันก็สับลง เร็กอยากตะโกนเตือนเขา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาต้องกลืนคำพูดลงไป
ชายคนนี้ยกมือขึ้นและคว้าขวานที่ใหญ่กว่าได้ง่ายๆ ผลกระทบจากขวานทำให้ข้อมือเขาตกลงเล็กน้อย เขาเลิกคิ้วและถาม”จิ๊ วิธีต้อนรับของดาวนี้ช่างน่าประทับใจจริงๆ…เรามาทันเวลา หยุดยืนเฉย ถึงเวลาทำงานแล้ว”
หลินเกอผู้อยู่กลางการต่อสู้มองมาและถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ในที่สุดพวกเขาก็มา กลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์”