ตอนที่ 448 ปิดล้อม
การมาของหานเชี่ยวได้สร้างพายุขึ้น
ลอร์ดแห่งรูนคือผู้ปกครองเมืองรูน เขานอนแต่หัวต่ําแต่กลับถูกปลุกด้วยข่าวนี้ ทันทีที่เขาได้ยิน เขาก็รีบแต่งตัวและรีบจัดประชุมฉุกเฉิน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงในเมืองรีบมายังโถงกลางหอคอย พวกเขาถูกปลุกจากการนอนหลับ และ บางคนก็ยังขยี้ตาอยู่
ภายนอกระเบียงหอคอยคือท้องฟ้ายามวิกาล แสงจันทร์ส่องผ่านราวหินและทิ้งเงาไว้บนพื้น
โถงสว่างด้วยรูน ลอร์ดแห่งรูนคือชายชราเหี่ยวย่น แต่เขาสวมชุดหรู สง่างามและถือคฑา สีหน้าดูแปลก
“ทุกคนรู้ถึงสกานการณ์กันดี มนุษย์ต่างดาวที่เรียกตัวเองว่าทหารรับจ้างได้ลงมาบนดาวเรา และกําลังมองหาวัตถุอวกาศในมือเรา ตามข้อมูล เขาใช้อสูรจักรกลบางประเภทและเอาชนะทหารรูนสองร้อยนายได้ง่ายๆ ตอนนี้เขาอยู่ในป่ากําลังรอคําตอบเรา พวกคุณคิดว่ายังไง?”
“มนุษย์ต่างดาวมีข้อมูลเกี่ยวกับจักรวาลมาก เขาบอกว่าเต็มใจจะแลกรูปปั้นกับข้อมูล ผมคิดว่าเราสามารถถือว่ามัน”เจ้าหน้าที่กล่าว ตําแหน่งเขาคล้ายกับหัตถ์ของราชา”แต่ทว่า วัตถุที่มนุษย์ต่างดาวต้องการย่อมมีค่า จากมุมมองของผม เขาอาจใช้ความจริงที่ว่าเราไม่เข้าใจคุณค่าของมันและอยากแลกมันกับข้อมูลง่ายๆ ผมรู้สึกว่าเราไม่อาจยอมยกให้ง่ายๆ เราต้องตรวจสอบรูปปั้นกัน”
“พูดถูก” ลอร์ดแห่งรูนพยักหน้า
ในไม่ช้า ทหารก็นํารูปปั้นมาจากคลัง มันลงมาบนดาวหลายปีก่อนและดํารงอยู่มาตั้งแต่ลอร์ดคนก่อน ด้วยความที่พวกเขาไม่อาจรู้ความลับของมัน และนักวิจัยหลายคนก็มีปัญหาทางจิตหลังอยู่ใกล้มั่นานเกิน มันจึงถูกผนึกไว้ในคลังและระบุว่าเป็นวัตถุนอกอวกาศที่ไม่อาจแก้ไขได้
เนื่องจากคําขอของมนุษย์ต่างดาว พวกเขาจึงนํามันออกมาอีกครั้ง
วัตถุนี้ย่อมไม่ธรรมดา ลอร์ดแห่งรูนไม่เต็มใจยอมแพ้มันง่ายๆ แม้จะไม่อาจหาความลับได้ นี่ก็คือสมบัติที่มนุษย์ต่างดาวเดินทางข้ามอวกาศมาเพื่อนํากลับไป
“มนุษย์ต่างดาวจะให้เวลาเราจนถึงพรุ่งนี้ เรามีเวลาพิจารณาเพียงหนึ่งคืน”ลอร์ดแห่งรูนหรี่ตา
“หากเราสามารถจับตัวมนุษย์ต่างดาวได้ ไม่เพียงแต่เราจะได้วิเคราะห์ร่างกายของเผ่าพันธ์อวกาศ แต่เรายังได้รับความรู้ทั้งหมดของเขา นี่คือโอกาสที่จะอยู่เหนือองค์กรอื่นทั้งหมด” นี่คือชาย ที่เป็นนายพลของกองทัพ เขาสวมชุดเกราะหนักและน้ําเสียงก็ก้าวร้าวมาก”เขาก็แค่คนๆเดียว”
“เขาอาจมีเพื่อน แถมเขายังลงมาบนดาวเรา ซึ่งหมายความว่าไม่ได้จัดการง่ายๆ ผมไม่คิดว่าเราควรสู้กับเขา” บางคนกล่าว
เจ้าหน้าที่แบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าการยอมรับคําขอจะดีกว่า อีกฝั่งโลภมากและอยากจับเป็นๆเพื่อรับเอาผลประโยชน์ทั้งหมด ฝ่ายหลังมีผู้สนับสนุนกว่า ด้วยความที่พวกเขาเคยเห็นวัตถุจากอวกาศมามาก พวกเขาจึงไม่รู้ถึงโลกภายนอก ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ค่อยเคารพแต่อยากรู้มากกว่า
เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวัตถุอวกาศเหล่านี้ก้าวหน้าเกินกว่าดาวเคราะห์ลับสีฟ้าจะรู้ได้ พวก เขาสามารถเรียนรู้ได้แค่ปลายภูเขาน้ําแข็ง แต่ทว่าความไม่รู้มักทําให้เกิดความอวดดี นอกจากนี้ ทั่วดาวเคราะห์ยังไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งระดับกาแล็กซี่ การมาเพียงลําพังของหานเซี่ยวทําให้พวกเขาห้าวหาญ
ผู้สนับสนุนให้ขัดแย้งแนะนํากลยุทธ์ต่อต้าน
“เรามีเวลาหนึ่งคืน ซึ่งมากพอจะรวบรวมทหารประมาณหมื่นนายให้ปิดล้อมพื้นที่นั้นเงียบๆ เราสามารถใช้รูนต้องห้าม นักรบชั้นสูงเหล่านี้จะสามารถทนได้ รวมกับอาวุธรูนขนาดใหญ่ มันย่อมมากพอจะเอาชนะมนุษย์ต่างดาว เขาต้องไม่คิดว่าเราจะโจมตีเขา”
ดวงตาของลอร์ดแห่งรูนสลับระหว่างความสงบและความโลภ ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจ ปฏิเส ธคําขอของมนุษย์ต่างดาว หากพวกเขาสามารถจับตัวมนุษย์ต่างดาวได้เป็นๆ ผลประโยชน์ทั้งหม ดย่อมเป็นของพวกเขา
เขากวาดตามองรอบๆและกล่าว”รวบรวมกําลังทหารและนําอาวุธที่แข็งแกร่งสุดออกมา นี่คือ โอกาสในรอบพันปี การระวังตัวมากไปอาจทําให้เราสูญเสีย เราต้องจับตัวเขาให้ได้ไม่ว่าจะยังไง”
ลําแสงแรกของดวงอาทิตย์ปรากฏบนขอบฟ้า และสาดใส่หานเชี่ยวผู้ยังนั่งบนหิน
ขนตาหานเชี่ยวขยับและเขาก็ลืมตาขึ้น หมอกยามเช้าที่เย็นและสดชื่นคลอเคลียบนผิวเขา และรู้สึกเปียกชื้น ทําให้หานเชี่ยวรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเล็กน้อยหลังไม่ได้นอนหลับมาทั้งคืน
“มันก็เกือบเช้าแล้ว ศัตรูควรมาถึงในไม่ช้า”
มีหยดน้ําตกใส่หน้าเขา เขาแหงนมองท้องฟ้าและยกคิ้วขึ้น” ดูเหมือนว่าฝนจะตก”
ฝนโปรยปรายลงมา
หานเชี่ยวยืนขึ้นและมองไปรอบๆป่า ต้นไม้ไหวทําให้บรรยกาศแปลกๆ ในป่ามืด เขารู้สึกถึงจิตสังหารที่กลมกลืนมา
ทันใดนั้น แรงกดดันก็กดบนตัวเขาและทําให้การเคลื่อนไหวเขาช้าลง หานเชี่ยวตระหนักว่า เขาต้องใช้กําลังมากขึ้นเพื่อคงไว้ซึ่งความเร็วปกติ มันน่าจะเป็นผลของรุนแรงโน้มถ่วงบางชนิด
“ตามคาด พวกมันเลือกสงคราม”
หานเชี่ยวพยักหน้าในใจ องค์กบรดาวต่างก็เหมือนกับกบก้นบ่น พวกเขาไม่รู้ถึงสถานการณ์ เอาแต่เพ้อฝันว่าจะควบคุมและได้รับผลประโยชน์ทุกอย่าง
ความกลัวทําให้คนระวังตัว อารยธรรมทั่วไปจะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวอย่างระมัดระวัง แต่นั่นไม่ได้หมายถึงชาวพื้นเมืองทั้งหมด มีบางพวกที่อ่อนน้อมและบางพวกที่โลภมาก อารยธรรมพื้น เมืองโหดร้ายบางแห่งอาจคิดว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นปีศาจและเลือกต่อสู้กับพวกเขาด้วยประเทศทั้งหมด ซึ่งเกิดมานับครั้งไม่ถ้วน
ยิ่งพวกเขาโลภ พวกเขาก็ยิ่งชอบเล่นกับไฟ
กองทัพองครักษ์รูนปรากฏจากป่าในทุกทิศทาง ธนูรูนพันอันยกเล็งใส่เขา และทหารประชิดพันนายก็กําลังรุกคืบเข้ามา กองทัพสองพันเหล่านี้ก็แค่แนวหน้าทัพหลังยังซ่อนลึกในป่า เมืองรูนได้ส่งกองกําลังทั้งหมด70%ออกมา
“มนุษย์ต่างดาว แกควรเข้าใจภาษาเรา ฉันคือผู้บัญชาการของกองทัพพิทักษ์เมืองรูน แบ็คซาส แกถูกล้อมแล้ว เราจะไม่ทําร้ายแก จงอย่าต่อต้านและตามเรามา”
ผู้บัญชาการในชุดเกราะรูนงดงามยืนอยู่ใจกลางกองทัพและกล่าวเสียงเย็น เขาคือนายพล ที่แนะนําให้สู้เมื่อคืนก่อนตลอดคืน เขารวบรวมกองทัพและลอบเข้าปาเงียบๆ วงล้อมก่อตัวขึ้น และแม้กระทั่งผู้ก่อตั้งรูนสงครามก็ยังไม่มีโอกาส นั่นคือบุคคลที่แข็งแกร่งสุดในประวัติศาสตร์ของเมืองรูน
ทหารมองมนุษย์ต่างดาวอย่างอยากรู้ เขาไม่ได้ดูน่ากลัวเลย
“เห็นได้ชัดว่าฉันไม่มีทางเลือกนอกจากไปเมืองพวกแกเป็นการส่วนตัว ช่างโง่งมกันนัก” หาน เชี่ยวแสดงสีหน้าเสียใจ แต่ในใจกลับยินดี
เมื่อได้ยินแบบนี้ นักรบรูนก็ประหม่า อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามองสหายนับไม่ถ้วนรอบๆ พวกเขาก็มั่นใจอีกครั้ง
ใบหน้าของแบ็คซาสแข็งที่อ
การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว?
หลังรวบรวมข้อเสนอแนะเมื่อคืน พวกเขาก็ได้คิดกลยุทธ์มากมายที่มนุษย์ต่างดาวอาจมี พวกเขาเตรียมตัวมาดี แบ็คซาสนึกถึงกลยุทธ์เหล่านี้และรู้สึกมั่นใจ
ภูมิประเทศปาค่อนข้างเสียเปรียบสําหรับหานเชี่ยว เขากวาดตามองรอบๆและหันไปทางเมืองรูน
ฉันควรมุ่งตรงไปที่นั่น!
Related