ตอนที่ 482 กับดัก
หลังช่วยเอเมสจับอีซอปและทําภารกิจลุล่วง หานเซียวก็อารมณ์ดี แต่ทว่า เมื่อหานเซียวเห็นกลุ่มนักรบโกโดร่า อารมณ์เขาก็ร่วงลง
เขาจ่าชุดรบของโกโดร่าได้ และนักรบเหล่านี้ก็ไม่ใช่ผู้สังเกตชั้นต่ํา พวกเขากลับเป็นกองกําลังพิเศษที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ และหัวหน้าก็คือคนที่โด่งดังมากในชีวิตก่อนหน้าเขา ในเวอร์ชั่น2.0 คนๆนี้คือบุคคลสําคัญในการรับมือกับมหันตภัยกลายพันธ์บนอความารีน ภารกิจส่วนใหญ่ที่ผู้เล่นรับจากค่ายโกโดร่ายังออกมาโดยเขาเช่นกัน เขาเหมือนตัวละครระดับผู้บัญชากรและNPCสําคัญของผู้เล่น ดังนั้น หานเซียวจึงคุ้นเคยกับเขามาก
นากาคิน เจ้าหน้าที่ของตําหนักสงคราม นักสู้ระดับA เขาจะรับเฉพาะภารกิจสําคัญและการที่เขาปรากฏบนนอเรียส มันก็หมายความว่ามีเรื่องสําคัญ ความคิดพลันผุดขึ้นในหัวเขาและหานเซียวก็คิดถึงโกโดร่าเลือดผสมที่เขาเจอไม่กี่วันก่อน อัลวิน
ทั้งสองควรเกี่ยวกันหานเซี่ยวคิดกับตัวเอง
มีภาพแปลงประหลาดอีกอันที่ทําให้เขาสับสน นากาคินตรงหน้าเขามีความสง่างามและเต็มไปด้วยความหาญกล้า ก้าวของเขากว้างยาวและทุกย่างก้าวก็มั่นคงหนักแน่น ในความทรงจําของหานเชียว เมื่อผู้เล่นบนอความารีนพบนากาคินครั้งแรก เขาพิการไปครึ่งตัว ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาแนบติดกระดูกและไม่เพียงแค่นั้น แขนซ้ายและขาทั้งสองข้างเขายังเป็นขาเทียม เขายังต้องใช้เครื่องช่วยพยุงชีพจํานวนมากเพื่อช่วยให้เขามีชีวิต
และมันก็ห่างจากเวอร์ชั่น2.0ไม่ถึงหนึ่งปี
เช่นนั้น นากาคินก็ต้องพิการในช่วงเวลานี้ แต่เวลาก็ไม่แน่นอน
ดวงตาหานเซียวเป็นประกาย และผุดขึ้น เขาผละจากผู้บริหารนอเรียสและมายืนตรงหน้านากาคิน
“คุณเป็นใคร?อย่าขวางทาง”นักรบโกโดร่าหยุด และนากาคินก็มองหานเซียว
หานเซียวแนะนําตัวเองง่ายๆ
“แบล็คสตาร์?โอ้ ผมได้ยินชื่อคุณมาก่อน คุณและทหารรับจ้างคนอื่นทําลายยานแม่ดาราทมิฬได้สําเร็จ ทําดีมาก”
นากาคินพยักหน้าและไม่เก็บมาใส่ใจ ภารกิจย่อมสําคัญกว่า เขารู้แค่ชื่อของหานเซียวเพราะลูกน้องเขาเคย กล่าวถึงผ่านๆ ตอนนี้เขารีบมาก ดังนั้นเขาจึงถามอย่างหงุดหงิด”ท่าไมคุณถึงมาหยุดเรา?”
“ผมแค่อยากมาสวัสดี และอยากถามว่าพวกคุณต้องการความช่วยเหลือไหม” นี่คือวลีทั่วไปที่ผู้เล่นใช้เริ่มการ สนทนากับNPC หานเซียวกําลังพยายามดูว่าเขาจะได้รับภารกิจและเข้าใจเจตนาของชาวโกโดร่าไหม เขาขาดข้อมูลและไม่รู้ว่าดาราทมิฬกับโกโดร่ากําลังเผชิญหน้ากับบนนอเรียส เขาแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ
นักรบเหล่านี้คือกําลังเสริมที่ถูกส่งมาโดยโกโดร่า และภารกิจพวกเขาคือการช่วยอัลวิน ในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้า ร่างแยกสองร่างของอัลวินถูกจับ และสถานการณ์ก็ไม่อาจล่าช้าได้แม้แต่วินาทีเดียว จากร่างแยกของอัลวิน พวกเขาพบว่าบุคคลที่แข็งแกร่งสุดในทีมไล่ล่าอัลวินคือบุคคลระดับBนามฟอร์ซิท เช่นนั้น โกโดร่าจึงส่งนากาคิน ผู้อยู่ใกล้สุดมาจัดการ
นากาคินรู้สึกว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือใดและก็คิดว่าตัวเองจัดการกับศัตรูได้ เช่นนั้น เขาจึงตอบเรา ไม่ต้องการความช่วยเหลือ ผมกําลังรีบ”
หลังพูดจบ นากาคินก็เดินผ่านหานเซียวและนําคนของเขาไป
หานเซียวมองตามหลังโกโดร่าเหล่านั้น ลูบคางและพึมพํา”จิ๊ ฉันไม่อาจกระตุ้นภารกิจได้ งานที่ต้องให้ตัวตนระดับภัยพิบัติมาเอง มันย่อมเป็นภารกิจที่มีความเสี่ยง
เนื่องจากนากาคินไม่ต้อนรับคนนอก หานเซียวจึงลืมเรื่องนี้ไป เขาจะไม่ลดระดับตนเองไปเกาะติด
จากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างสถานะ หลังได้รับบัตรอัญเชิญตัวละครเอเมส เขาก็ยังไม่ได้ตรวจสอบมัน
[บัตรอัญเชิญตัวละครเอเมส]
สนามพลัง-เนตรมังกร : บีบอัดสื่อกลางในพื้นที่หนึ่ง มีผลบังคับใช้กับทุกสสาร)และเป้าหมายตัวละครเดียว ตัวละครเป้าหมายจะตกในสถานะ[ติดกับ] สําหรับทุกๆสถานะพละกําลังร้อยหน่วย เวลาควบคุมจะลดลง1วินาที
เวลาควบคุมพื้นฐาน : 18วินาที
การใช้ : 0/1
หานเซียวรู้สึกว่าผลการควบคุมยังยอมรับได้ เอเมสมีทักษะหลากหลาย และระดับเธอ ทักษะเกือบ70%เป็นประโยชน์หมด แม้เขาจะไม่ได้รับทักษะโจมตี ทักษะควบคุมก็ยังยึดหยุ่นและมีข้อดีของมัน
จากนั้นเขาก็ออกท่าและกลับพื้นดิน หลังเช่าฐานที่มั่นชั่วคราว เขาก็เตรียมพักสักสองสามวัน ในเวลาเดียวกัน เขาก็จะซื้อทรัพยากรบางอย่าง นอเรียสมีหลายร้าย และเขาก็ตั้งใจเสริมพลังให้จักรกลเขา ความรู้ขั้นสูงทั้งสองและความรู้ขั้นกลางมากมายช่วยให้เขาได้รับพิมพ์เขียวดีขึ้น และมันก็พอให้เขาอัปเกรดทั้งหมดได้ เขายังเหลือค่าประสบการณ์อีกกว่ายี่สิบล้าน และตราบเท่าที่เขาใช้มันอย่างประหยัด มันก็จะพาให้ได้รับพิมพ์เขียว
เพียงเมื่อทุกคนกําลังพักผ่อน พายุก็ระเบิดขึ้น
นากาคินพานักรบโกโดร่าหลายสิบขึ้นเครื่องและมาถึงตึกระฟ้าบริเวณรอบนอกของเมือง4 อาคารสูงเต็มย่าน และมีสถานีรถบัสแม่เหล็กที่เชื่อมต่อกับเมืองไม่ไกลออกไป
ตามรายงานของอัลวิน ฐานชั่วคราวของกองกําลังดาราทมิฬอยู่บนตึกระฟ้าตึกที่88 และมันก็ตั้งอยู่ใจกลางตึก
ร่างหลักของอัลวินมักติดต่อกับกําลขังเสริมจากโกโดร่าและใช้ร่างแยกเขาเพื่อสังเกตสมาชิกของดาราทมิฬ เพื่อส่งข้อมูลให้นากาคิน คําขอเขาคือให้นากาคินกําจัดกองกําลังดาราทมิฬทั้งหมดก่อนร่างจริงเขาจะปรากฏ เขาระวังตัวมาก
“กองกําลังศัตรูอยู่ด้านใน เราจะทําลายฐานพวกมันก่อนแล้วค่อยไปจัดการกับสมาชิกดาราทมิฬที่ปฏิบัติการด้านนอกเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูตื่นตัว ปัจจุบัน ฐานศัตรูยังไม่รู้ถึงการมาของเรา และเราก็มีข้อมูลเหนือกว่า โจมตี เลย!”
เครื่องบินร่อนลงช้าๆและเข้าใกล้อาคารเป้าหมาย สายตาของนากาคินเคร่งขรึมขณะกําหมัด เปลวไฟสีทองเริ่มไหลไปทั่วแขนราวกับมันเป็นของเหลว
หมัดเขากระแทกกับกําแพงด้านนอกของอาคาร
บูม!
ทันใดนั้น คลื่นพลังสีขาวก็ส่งออกไปทุกทิศทาง!
กระจกทั้งหมดในอาคารแตกเป็นเสี่ยงๆ!
พลังหมัดยิงทะลุถึงแปดชั้นและสร้างเป็นหลุมใหญ่ทั้งสองฝั่งอาคาร ทั่วตึกเริ่มส่งเสียงดัง และใจกลางอาคารก็โค้งเล็กน้อย!
ไม่ต้องพูดถึงอาคาร มันเป็นเรื่องง่ายสําหรับนักสู้ระดับภัยพิบัติที่จะทําลายแม้กระทั่งยานรบ ตราบเท่าที่เขามีเวลาพอ เขาสามารถเปลี่ยนเป็นรถขุดและเปลี่ยนภูมิทัศน์ของดาวทั้งดวงได้
หลังทําลายอาคารด้วยหมัดเดียว นากาคินก็พุ่งเข้าไปพร้อมลูกน้องเขาและโจมตีฐานศัตรู เมื่อเข้าไป เขาก็เจอกับพวกฟอร์ซิททันที
นากาคินส่งสัญญาณมือและนักรบโกโดร่าก็ล้อมกองกําลังของฟอร์ซิทไว้ จากนั้นก็กล่าว“ฉันคือนากาคิน จากตําหนักสงครามแห่งโกโดร่า พวกแกถูกล้อมไว้หมดแล้ว วางอาวุธและยอมจํานนซะ ฉันจะส่งพวกแกทุกคนไปคุกสายรุ้ง”
อาคารสั่นสะเทือนอย่างไม่มั่นคงและในที่สุดฟอร์ซิทก็ปรับสมดุลได้ เผยให้เห็นรอยยิ้มร้ายกาจ เขาหัวเราะราวกับว่าเหยื่อได้ติดกับเขาแล้ว “ดูเหมือนว่าเราจะจับปลาตัวใหญ่ได้ นากาคิน ดูรอบๆแกสิ ใครกันที่ถูกล้อม?”
กลิ่นอายทรงพลังสองสายระเบิดออกมาและยึดกองกําลังของนากาคินไว้ตรงกลาง
นากาคินรีบหันไปมองและเห็นอานูกับเอ็มเบอร์กําลังจ้องเขา
จิตสังหารรุนแรงดูเหมือนจะทําให้พื้นที่รอบตัวเขาถูกแช่แข็ง
“ทําไมถึงมีตัวตนระดับภัยพิบัติถึงสองคน?!สายข่าวเราผิดพลาด!”ใบหน้าของนากาคินเปลี่ยนไป
ข้อมูลของอัลวินระบุว่าคนที่แข็งแกร่งสุดคือระดับB โกโดร่าจึงส่งระดับAมาจัดการ ด้วยการลงมือของนากาคิน แม้ศัตรูจะซ่อนพวกพิเศษระดับAไว้ เขาก็ยังสามารถสู้กับอีกฝ่ายได้อย่างเท่าเทียม แต่ทว่า โกโดร่ากลับคา ดไม่ถึงว่าดาราทมิฬจะส่งตัวตนระดับภัยพิบัติมาถึงสองเพื่อฆ่าผู้ทรยศคนเดียว นี่คล้ายกับการฆ่าไก่ด้วยมีดฆ่าวัว นี่คือกับดักที่ดาราทมิฬเตรียมไว้
อานูและเอ็มเบอร์ไม่ได้ปรากฏตรงหน้าร่างแยกของอัลวินและฟอร์ซิทก็คือผู้ลงมือในฐานะหัวหน้า เช่นนั้น อัลวินจึงเชื่อว่าไม่มีตัวตนระดับภัยพิบัติอยู่ด้วย ดาราทมิฬได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าโกโดราต้องส่งกําลังเสริมมา และตั้งใจหลอกอัลวินให้คิดเช่นนั้น พวกเขาคาดไว้แล้วว่ากําลังเสริมต้องมีระดับมาด้วยอย่างมากก็หนึ่งคน และนี่ก็จะกลายเป็นเหยื่อของอานูและเอ็มเบอร์!
ดาราทมิฬไม่ได้อยากไล่ล่าแค่คนทรยศเท่านั้น พวกเขายังวางกับดักเพื่อทําให้โกโดร่าเสียหนึ่งในนักสู้ชั้นน่า!
นี่คือเหตุผลที่อานและเอ็มเบอร์ร่วมมือกัน โกโดร่าได้ติดกับของดาราทมิฬเข้าจังๆ
นักรบโกโดร่ารู้สึกหนาวเย็น และแผ่นหลังพวกเขาก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น แรงกดดันมหาศาลจากการเผชิญ หน้าสองสุดยอดแทบทําให้หัวใจพวกเขาหยุดเต้น พวกเขากังวลมากและไม่รู้ด้วยซ้ําว่าควรป้องกันด้านไหน
ใบหน้าของนากาคินดํามืด และรู้ว่ามันยากที่จะมีชีวิตรอดกลับไปได้
“วันนี้เราอาจจะตาย…”
เปลวไฟของนักสู้ปกคลุมทั่วร่างและกลิ่นอายที่ระเบิดออกมาของเขาก็เทียบได้กับอานและเอ็มเบอร์ จากนั้น เขาก็ตั้งท่าสู้ และมองเห็นความแน่วแน่ในดวงตาเขา เขากัดฟัน เปล่งเสียงคํารามหนักแน่น
“แต่ก่อนเราจะตาย เราก็จะลากพวกมันไปด้วย!”