ณ ห้องรับรองของเรือนจำประชาชนเมืองเจียงซี!
จงเหว่ยกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ พลางยกขาขึ้นมาไขว้กันขณะจิบชาในมือของเขาอย่างสบายใจ
“เฮ้อ ฉันนี่ช่างโชคดีจริงๆ! หลานชายของฉันยอมจ่ายเงินให้ฉันตั้ง 3 ล้านหยวนเพื่อฆ่าไอ้เวรนั่น แต่ฉันต้องจ่ายแค่ 300,000 หยวนเท่านั้น ที่จะทำข้อตกลงกับอาเฉวียนเดอะไวเปอร์เพื่อจัดการมัน! ฉันได้กำไรตั้ง 2.7 ล้านหยวน!”
หลังจากพึมพำ รอยยิ้มของจงเหว่ยก็ร่าเริงสดใส
เขามองดูนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วพบว่าเขารอมาประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้ว
“ไอ้เวรนั่นน่าจะตายไปแล้ว!”
จงเหว่ยหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาทันทีเพื่อแจ้งให้จงเฉียงได้ทราบถึงข่าวดี
ตอนนั้นเอง ประตูห้องรับรองก็ถูกเตะเข้ามาจากด้านนอก!
จงเหว่ยตกใจ เขาตั้งใจจะด่าเสียงดังออกไป ทว่าเมื่อเขารับรู้ถึงตัวตนของคนที่ทำกริยาหยาบคายแบบนั้น เขาก็กลืนคำพูดของเขาลงคอไป
“ผู้…ผู้กำกับเจียง ?”
จงเหว่ยรีบลุกยืนทันที ขณะที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเข้ม
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้าของเจียงเต๋าก็มืดมนลงอย่างมาก เขาถามจงเหว่ยว่า “หัวหน้าจง คุณได้จับคนที่ชื่อว่าเย่เฟิงมาวันนี้ใช่หรือไม่ ?”
จงเหว่ยตะลึงในทันที ขณะที่เขาพยักหน้าตอบ “ใช่ครับ เด็กคนนั้นเป็นบุคคลต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีข่มขู่ ดังนั้นผมจึงนำกำลังเข้าจับเขาในย่านชุมชนแออัด! แต่เขาเป็นแค่ คนจน ๆ ที่ไร้ค่า! มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ ? ผู้กำกับเจียง มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ ?”
‘ย่านชุมชนแออัด ?’
‘คนจน ๆ ?’
‘มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ?’
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เจียงเต๋าก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ขณะที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม พลางตวาดว่า “ไอ้ชาติชั่ว! แกรู้หรือเปล่าว่าเขานั้นเป็นใคร?”
‘อะไรนะ ?’
หัวใจของจงเหว่ยสั่นรัว ขณะที่เขาตอบว่า “ผู้กำกับเจียง เขาก็เป็นแค่คนจน ๆ ที่อาศัยอยู่ในเขตสลัม แล้วเขาจะเป็นใครได้อีก”
หลังจากพูดแล้วเจียงเต๋าก็ได้ยินเสียงดังเข้ามาจากนอกประตู
“เมื่อแกไม่รู้ ให้พวกเราบอกดีไหม!”
‘หืมม ?’
จงเหว่ยตกตะลึงในทันที
เขาเห็นชายแก่ที่มีผมและเคราสีขาวค่อย ๆ เดินเข้าประตูมา
เมื่อชายชราเข้าประตูมาแล้ว เขาจ้องไปที่หน้าของจงเหว่ยและพูดด้วยเสียงอู้อี้ว่า “เขาเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตของฉันเอง ไป๋ซ่ง!”
ชายชราอีกสามคนก็เข้ามาในห้องทันที
“เขาเป็นหลานชายของฉัน เย่ฟ่างเฉิง!”
“เขาเป็นอาจารย์ของฉัน หลิงซูเทียน!”
“เขายังเป็นเจ้านายของฉัน ซู่กวงอีกด้วย!”
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นในทันทีก็มีชายฉกรรจ์และหญิงสาวที่งดงามเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
“เขาเป็นเจ้านายของฉัน หมาป่าคลั่งหมัดเหล็กกล้า!”
‘อะไรนะ!’
หลังจากได้ยินคำพูดของพวกเขา จงเหว่ยก็ตัวแข็งเป็นหินทันที
‘ไป๋ซ่ง ?’
‘เย่ฟ่างเฉิง ?’
‘หลิงซูเทียน อาจารย์หลิง ?’
‘ซู่กวง หมอซู่ ?’
‘และหมาป่าคลั่ง!’
…
เมื่อได้ยินชื่อเหล่านี้ นั่นเป็นเหมือนกระสุนปืนที่เจาะเข้าไปในหูของเขา และเมื่อมองใบหน้าที่คุ้นเคยของพวกเขานั้น จงเหว่ยรู้สึกขนทั่วทั้งร่างกายและศีรษะกำลังลุก เพราะเขากลัวจนหัวใจเกือบหยุดเต้น!
และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือสิ่งที่เย่เฟิงเป็นต่อพวกผู้มีอิทธิพลเหล่านี้!
‘ผู้ช่วยชีวิต ?’
‘อาจารย์ ?’
‘เจ้านาย ?’
‘นั่นเป็นไปไม่ได้!’
จงเหว่ยเปลี่ยนเป็นมืดมนในทันที ขณะที่เขามองดูเหล่าผู้มีอิทธิพลตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ!
ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้เป็นตัวแทนที่แสดงถึง ตระกูลไป๋ ตระกูลเย่ ตระกูลหลิง ตระกูลซู่ เหล่าตระกูลใหญ่ในภาคใต้ของจีน…
แม้แต่หมาป่าคลั่งและโรสก็ยังมาที่นี่…
เหล่าผู้มีอิทธิพลระดับสูงสุดของเมืองเจียงซีต้องมาถึงที่นี่!
‘นั่น…มันเป็นไปไม่ได้!’
“เป็นไปไม่ได้! จงเฉียงบอกผมว่าเขาเป็นแค่คนจน ที่อาศัยอยู่ในสลัม! เขาจะเป็นที่รู้จักกับบุคคลสำคัญจำนวนมากแบบนี้ได้ยังไง! เขาจะกลายมาเป็นอาจารย์หรือผู้ช่วยชีวิตของพวกคนระดับสูงเหล่านี้ได้ยังไง ? แม้แต่เจ้านายของหมาป่าคลั่งด้วย! นั่นมันเป็น…เป็นไปไม่ได้!”
จงเหว่ยกลัวมาก จนเขาล้มลงกับพื้นด้วยความไม่เชื่อ
‘ใครกันแน่ที่ฉันไปจับมา ?’
เขารู้สึกเศร้าเสียใจอย่างมากในตอนนี้
“ไอ้งั่ง!”
เจียงเต๋าโมโหจงเหว่ยอย่างเหลืออด ขณะที่เขายกจงเหว่ยขึ้นมา ก่อนที่จะกระชากคอเสื้อแล้วคำรามใส่หน้าเขาอย่างเกรี้ยวกราด
“ไอ้ชาติหมา แกมัวแต่มองอะไรอยู่ ? รีบปล่อยเขาเลย! ตอนนี้!”
จงเหว่ยตัวสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว
‘ปล่อยเขางั้นเหรอ ?’
‘แต่เขาอาจจะตายไปแล้ว แล้วฉันจะปล่อยเขาได้ยังไง ?’
จงเหว่ยเกือบจะร้องไห้ แต่เขาทำได้เพียงพยักหน้าอย่างเร่งรีบ ขณะรีบวิ่งออกจากประตูไป
อย่างไรก็ตามในใจของเขา เขาต้องการให้เย่เฟิงนั้นตายไปแล้ว
มีวิธีการนี้เท่านั้นที่เขาจะป้ายความผิดทั้งหมดไปที่อาเฉวียนเดอะไวเปอร์ และทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากการถูกลงโทษ
‘เมื่อพวกผู้มีอิทธิพลระเบิดอารมณ์ใส่อาเฉวียนเดอะไวเปอร์ ฉันก็จะปลอดภัย‘
จงเหว่ยอธิษฐานอยู่ในใจอย่างเงียบ ๆ !
ทว่าไม่นานหลังจากที่เขาออกจากประตูห้องรับรองเรือนจำมา เขาก็ต้องตัวสั่นอีกครั้ง พร้อมเผยให้เห็นท่าทางที่หวาดกลัวพลางพูดติด ๆ ขัด ๆ
“เขา…เขายัง!”
เมื่อมองไปข้างหน้า ดวงตาของจงเหว่ยก็แทบโผล่ออกมาจากเบ้าตา หน้าของเขาซีดเซียวลงไปอย่างมาก!
ไม่ไกลกันนัก กลุ่มผู้ต้องขังในชุดนักโทษกำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้า ๆ ด้วยพลังฉีที่โหดเหี้ยม!
คนที่เดินนำอยู่ข้างหน้านั้นก็คือเย่เฟิง!
ด้วยเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา จงเหว่ยตื่นตระหนก ขณะที่เหงื่อของเขาถูกขับออกมาจนเปียกชุ่ม
ด้วยเสียงอู้อี้ในลำคอ เขาถอยกลับได้เพียงไม่กี่ก้าว ก่อนจะล้มกลิ้ง แล้วคลานกลับเข้าไปในห้อง
ทันใดนั้น เย่เฟิงก็เดินเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ ตามหลังมาด้วย อาซานเดอะบอลด์ บลัดดี้ไนฟ์และคนอื่น ๆ !
หลังจากนั้น ก็มีร่างหลายร่างถูกโยนลงบนพื้นอย่างแรง เหมือนสุนัขที่ตายไปแล้ว!
ด้วยสภาพที่โชกเลือดร่างพวกนั้นคือ อาเฉวียนเดอะไวเปอร์และพวกผู้ติดตามของเขา
‘ฉันต้องตายแน่!’
เมื่อเห็นใบหน้าที่น่าสังเวชของอาเฉวียนเดอะไวเปอร์ จงเหว่ยก็ตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัวอย่างมาก ในเวลาเดียวกันนั้นของเหลวสีเหลืองจำนวนหนึ่งก็ไหลออกมาจากร่างกายส่วนล่างของเขา
เขารู้ว่าเขาจะต้องตายอย่างแน่นอนในคราวนี้
“คุณคือ…คุณเย่ใช่ไหม ?” เจียงเต๋ารู้สึกว่าเปลือกตาของเขากระตุกอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เขาถามเย่เฟิงด้วยรอยยิ้มกว้าง
เย่เฟิงพยักหน้าอย่างใจเย็น จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่อาเฉวียนเดอะไวเปอร์ ผู้ซึ่งนอนอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขที่ตายแล้วพลางพูดว่า “คุณสามารถถามเขาได้ ถ้าคุณมีคำถาม!”
‘หืมม ?’
เจียงเต๋าตกตะลึงในทันที เขาจับจ้องไปที่อาเฉวียนเดอะไวเปอร์ และพบว่าเขานั้นเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดที่ไหลออกมาอย่างหนัก
นอกจากนี้ใบหน้าของอาเฉวียนเดอะไวเปอร์ นั้นซีดเซียวจนน่ากลัว ราวกับว่าเขาเพิ่งเห็นผีมา
ก่อนที่เจียงเต๋าจะถามเขา อาเฉวียนเดอะไวเปอร์ก็รีบแทรกตอบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “มัน…มันเป็นเพราะจงเหว่ย มันบอกว่าจะจ่ายเงินให้สมาชิกในครอบครัวของผม 300,000 หยวนและสั่งให้ผมฆ่าคุณเย่!”
…
คำพูดของเขาเหมือน ฟิวส์ที่จุดชนวนความโกรธเกรี้ยวของเจียงเต๋าอย่างสมบูรณ์
เจียงเต๋าไม่เคยนึกเลยว่าจงเหว่ยจะเหิมเกริมขนาดนี้ ไอ้สารเลวนี่กล้าจะทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้ลับหลังเขา!
“จงเหว่ย ทำดีมาก! ดีมาก ๆ เลย!”
เจียงเต๋ากัดฟันพูด ขณะใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ แล้วตะโกนว่า “แกถูกไล่ออก! แล้วรอฉันลากคอแกเข้าคุกได้เลย!”
คำพูดของเขาเหมือนผลักจงเหว่ยลงไปสู่นรก
ใบหน้าของเขานั้นซีดเผือด ในที่สุดจงเหว่ยก็ตระหนักถึงความผิดพลาดของเขา เขารีบพุ่งตัวไปอยู่ข้างหน้าเย่เฟิงพร้อมคุกเข่าลงและคำนับพลางพูดว่า “คุณเย่ ผม…ผมผิดไปแล้ว! ผมถูกหลอกโดยจงเฉียง ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะไม่มีวันทำสิ่งที่ชั่วร้ายแบบนี้! กรุณายกโทษให้ผมด้วย! กรุณายกโทษให้ผมด้วยนะครับ!”
จงเหว่ยรู้สึกเสียใจอย่างมาก
ทว่าเย่เฟิงนั้นไม่ได้แสดงความเมตตาใด ๆ ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย
“แกไม่ใช่คนเดียวที่ต้องการจะฆ่าฉัน และไม่ใช่คนสุดท้าย! แต่ว่าแกนั้นเป็นคนที่โง่ที่สุดอย่างแน่นอน!”
เย่เฟิงพูดในขณะที่เขาเผยสีหน้าที่น่ากลัว “ตาต่อตาฟันต่อฟันนั้นถึงจะเรียกว่ายุติธรรม! ในเมื่อแกต้องการที่จะฆ่าฉัน แกก็จะต้องถูกฆ่า!”
“ดังนั้นก็ จงตายไปซะ!”
‘อะไรนะ!’
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา จงเหว่ยก็ตกใจลนลาน
เขาคิดไว้ว่าเย่เฟิงนั้นคงจะไม่ยกโทษให้เขา แต่เขาคาดไม่ถึงว่าเย่เฟิงจะกล้าฆ่าเขา
จงเหว่ยนั้นมองหมอกสีดำที่พุ่งเข้าไปอยู่ในร่างกายของเขาด้วยความเร็วแสงแทบไม่ทัน
ตัวของจงเหว่ยนั้นสั่นสะท้านอย่างหนักอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ!
อ๊าก!
เมื่อเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น กล้ามเนื้อของจงเหว่ยเริ่มบิดตัวและเจ็บปวดราวกับฝูงมดกำลังเดินและงูพิษกำลังเลื้อยไปทั่วทั้งร่างกายของเขา นี่มันแปลกมาก!
ในเวลาเดียวกันใบหน้าของจงเหว่ยตื่นตระหนกและสิ้นหวัง!
จากนั้นร่างของเขาก็เริ่มแตกสลาย เหมือนกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกไฟไหม้!
ในพริบตาเขานั้นก็กลายเป็นกองเถ้าถ่าน!
จงเหว่ยได้ตายแล้ว!