“ไม่! เป็นไปไม่ได้! เขาจะกลายเป็นเจ้านายใหญ่ของตระกูลซือกงได้ยังไง!”
จงเฉียงแสดงอาการตกใจมากที่สุด เมื่อเทียบจากทุกคนในห้องโถงนี้
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเขาสามารถที่จะเหยียบเย่เฟิงให้จมใต้เท้าของเขาอย่างโหดร้ายในฐานะลูกบุญธรรมของซื่อเสี่ยวเทียน แต่เขาไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะกลายมาเป็นเจ้านายใหญ่ของตระกูลซือกงแบบนี้!
ตระกูลซือกงเป็นตระกูลที่สำคัญทางตอนเหนือของจีน ซึ่งมีอำนาจมากกว่าตระกูลไป๋และตระกูลกงด้วยซ้ำ!
ตระกูลซื่อเป็นเพียงตระกูลสาขาของตระกูลซือกงเท่านั้น และซื่อเสี่ยวเทียนเองก็เป็นเพียงหัวหน้าตระกูลสาขาของตระกูลซือกง!
อาจเป็นไปได้ว่า เจ้านายใหญ่ของตระกูลซือกงนั้นจะต้องมีขุมพลังที่ไม่อาจมีใครเทียบเทียมได้!
แม้ว่าชายชรากู๋ ผู้ที่แข็งแกร่งและมีอำนาจของตระกูลซือกง ยังต้องคุกเข่าลงต่อหน้าเย่เฟิง!
แต่ว่า…ทำไมกัน…เย่เฟิงทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร!
จงเฉียงไม่อยากจะเชื่อเลยและเขาก็ไม่กล้าที่จะเชื่อเหตุการณ์ตรงหน้า!
เขาจ้องมองเย่เฟิงด้วยสีหน้าประหลาดใจพลางคิดหนัก
หลังจากได้ยินคำพูดของชายชรากู๋ ซื่อเสี่ยวเทียนและลูกชายของเขาก็ตัวสั่นงันงกเพราะพวกเขากลัวจนแทบจะขาดใจตาย
ในขณะนั้นทั้งคู่ทรุดลงไปกองกับพื้น กางเกงของพวกเขาแต่ละคนนั้นมีกลิ่นเหม็นจาง ๆ ลอยออกมา เนื่องจากปัสสาวะที่ชุ่มโชกอยู่
ซือกงทัวและเหล่าผู้อาวุโสทั้ง 5 ที่ทั้งทรงพลังของตระกูลซือกง ต่างถูกฆ่าโดยเย่เฟิงทั้งสิ้น แทบไม่ต้องพูดถึงตระกูลสาขาอื่น ๆ ของตระกูลซือกงเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเขารู้ว่าเขาได้ทำให้บุคคลที่แข็งแกร่งและมีพลังอำนาจเช่นนี้ไม่พอใจ และตอนนี้เขาก็สูญเสียคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำของตระกูลซือกง ซื่อเสี่ยวเทียนก็แทบคลั่ง!
ซื่อเสี่ยวเทียนรีบคุกเข่าลงต่อหน้าเย่เฟิงแล้วก้มหน้าเหมือนกระเทียมที่ถูกตำจนแหลกในครกหิน
“ผมขอแสดงความเคารพ เจ้า…เจ้านายใหญ่! ผมไม่รู้ว่าท่านจะมาที่นี่ ผมสมควรตายเพราะกิริยาที่หยาบคายก่อนหน้านี้! โปรดเมตตาต่อผมด้วย!”
ซื่อเสี่ยวเทียน พยายามขอร้องขณะที่เขายังคุกเข่าลงเอาหน้าผากแตะพื้นเบื้องหน้าเย่เฟิง
ในพริบตาเดียว เลือดสีแดงฉาน ไหลออกจากหน้าผากของเขานองเป็นแอ่งน้ำเล็ก ๆ
ซื่อเสี่ยวเทียนนั้นได้หยุดพลังฉีที่เกรี้ยวกราดก่อนหน้านี้ไปอย่างหมดสิ้น
ตรงกันข้าม ตอนนี้เขาเหมือนสุนัขจรจัดที่พยายามโบกหางร้องขอความเมตตามากกว่า!
ทว่าเย่เฟิงนั้นไม่ได้ชายตามองเขาเลยแม้แต่น้อย เขากลับจ้องไปที่ชายชรากู๋และพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดจะเย็นชาว่า “นายต้องการจะหยุดฉันงั้นเหรอ ?”
…
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ใบหน้าของชายชรากู๋ก็เริ่มชุ่มเหงื่อ
เขารู้สึกราวกับว่าเขานั้นกำลังถูกจ้องมองโดยปีศาจร้าย
ตราบใดที่เขาตอบว่าใช่ เขาก็คงถึงคาดที่จะต้องตายอย่างแน่นอน!
ชายชรากู๋รู้สึกได้ถึงพลังฉีที่เย็นยะเยือกพุ่งตรงมาที่หน้าผากของเขาแล่นลงไปถึงฝ่าเท้า เขาจึงรีบอธิบายให้เย่เฟิงฟัง “เจ้านายใหญ่ ท่านคงจะเข้าใจผมผิดแล้ว! ซื่อเสี่ยวเทียนและคนของเขาลักพาตัวคุณหนูอันซี ดังนั้นพวกเขาจึงสมควรตาย! ผมจะทำตามคำสั่งของท่านแน่นอนครับเจ้านายใหญ่!”
หลังจากได้ยินคำพูดของชายชรากู๋ เย่เฟิงก็พยักหน้าอย่างพอใจ ขณะที่เขาพูดด้วยท่าทางที่ดูเคร่งขรึม “ดี! ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันจะต้องรักษาคำพูด!”
“ฉันได้บอกนายไปแล้วว่าฉันจะฆ่าล้างบางสมาชิกตระกูลของเขาทั้งหมด ดังนั้นฉันจะทำให้มันเกิดขึ้น!”
‘อะไรนะ!’
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ซื่อเสี่ยวเทียน นายน้อยซื่อและจงเฉียง รู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกสายฟ้าฟาด
‘เราต้องตายแน่!’
‘เราทุกคนตายอย่างแน่นอน!’
หลังจากนั้น กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดดำก็เข้ามาในห้องโถงพร้อมกับกระบี่ในมือ พวกเขาแน่ใจว่าตระกูลซื่อและตระกูลจงคงจะต้องถูกกำจัดทิ้งอย่างแน่นอน!
จากนั้นเย่เฟิงก็จับจ้องไปที่ซื่อเสี่ยวเทียนและอีกสองคน พลางฉีกยิ้มที่น่ากลัวอย่างสุดซึ้ง “ถ้าแกทำร้ายพี่น้องของฉัน แกต้องตายแน่นอน! และถ้าแกทำร้ายผู้หญิงของฉัน แกจะต้องตายด้วยวิธีที่น่าสมเพชอย่างที่สุด!”
“บิงโก พวกแกได้รางวัลแจ็คพอตแล้ว!”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ซื่อเสี่ยวเทียน นายน้อยซื่อและจงเฉียง สีหน้าของพวกเขาก็ฉาบไปด้วยความหวาดกลัวอย่างมาก
แต่ก่อนที่พวกเขาจะตอบกลับ เย่เฟิงได้วาดลวดลายบนอากาศ!
ทันใดนั้นอักษรรูนเลือดสามตัวก็ปรากฏขึ้นในอากาศ และตรึงลงบนร่างกายของพวกเขาแต่ละคนตามลำดับในเสี้ยววินาที
อ๊าก!
อักษรรูนนั้นดูลึกลับและเป็นลางร้าย!
มันเป็นเหมือนบล็อกเหล็กสีแดงที่ร้อนฉ่า ที่เอาไว้ทาบในพวกปศุสัตว์ พวกมันแนบติดกับร่างทั้งสาม ควันสีดำลอยคลุ้งขึ้นไปในอากาศ ขณะที่กลิ่นของผิวหนังที่กำลังไหม้เกรียมราวกับเนื้อสัตว์ที่ถูกย่างไฟ
อ๊าก!
ซื่อเสี่ยวเทียน นายน้อยซื่อและจงเฉียง ตัวสั่นด้วยความเจ็บปวด พวกเขากรีดร้องเสียงดังราวกับเป็นหมูที่กำลังถูกฆ่า จากนั้นพวกเขาก็ล้มลงบนพื้น กลิ้งไปมาและดิ้นทุรนทุรายอย่างบ้าคลั่ง
นอกจากนี้อักษรรูนเลือดทั้งสามก็ค่อย ๆ แทรกตัวเข้าไปสู่กระแสเลือดของพวกเขาอย่างช้า ๆ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยจากเดิมขึ้นมา 10 หรืออาจจะ 100 เท่า!
ความรู้สึกที่กำลังแผดเผาอย่างรุนแรง เกือบจะทำให้ซื่อเสี่ยวเทียน นายน้อยซื่อและจงเฉียงแทบคลั่ง
ทว่านี่มันก็เป็นเพียงการเริ่มต้น!
ต่อมาใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงสด
นิ้วของพวกเขาเริ่มละลายเป็นหยดเลือด จากนั้นก็ลามไปที่ข้อมือของพวกเขา…
ขณะเดียวกันความเจ็บปวดที่รุนแรงยังคงแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย!
พวกเขาอยากตายให้พ้น ๆ ไป!
เมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของพวกเขาและท่าทางที่น่าสมเพช ชายชรากู๋และคนอื่น ๆ ก็กลัวมากจนเกือบจะสิ้นสติ
แม้แต่ เศียรอสูรหลังค่อมก็ยังรู้สึกว่าเปลือกตาของเขานั้นกำลังกระตุกอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเขาจะเคยฆ่าคนมาก่อนหน้านี้มากมาย แต่เขาก็ไม่เคยใช้วิธีที่โหดร้ายเช่นนี้
‘ปีศาจ’
ในขณะนั้นเศียรอสูรหลังค่อมก็เข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่า เจ้านายคนใหม่ของเขานั้นก็คือปีศาจ!
“มันคือคาถาวิญญาณนรก! มันสามารถเพิ่มความรู้สึกเจ็บปวดของพวกมันได้ถึง 100 เท่าและทำให้พวกมันรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกไฟนรกเผาไหม้! พวกมันคงอยากจะตายมากกว่าทนอยู่ต่อไป!”
เย่เฟิงพูดอย่างใจเย็นราวกับว่าเขากำลังพูดเรื่องทั่วไปที่ไม่สำคัญ
“คาถานี้คงอยู่ได้ถึง 10 ชั่วโมง! ชายชรากู๋ นายและคนของนายอยู่ที่นี่และเฝ้าดูพวกเขาตาย ทั้งทางร่างกายและจิตวิญญาณ พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้กลับชาติมาเกิดด้วยซ้ำ!”
หลังจากพูดแบบนั้นเย่เฟิงก็ประคองร่างอันซีลุกขึ้นแล้วพาออกไป ตามด้วยเศียรอสูรหลังค่อมและสมาชิกคนอื่น ๆ ของกลุ่มความมืด เขาไม่แม้แต่จะเหลือบตากลับไปมองที่ซื่อเสี่ยวเทียน นายน้อยซื่อและจงเฉียงแม้แต่น้อย
จนกระทั่งเย่เฟิงออกไปจากที่นั่น ชายชรากู๋และคนของเขาก็ทรุดตัวลงกับพื้น
พวกเขาทั้งหมดรู้สึกเหมือนเพิ่งกลับมาจากประตูนรก
คาถาวิญญาณนรก!
เมื่อพวกเขานึกถึงชื่อนี้ ชายชรากู๋และคนของเขาก็ตัวสั่นด้วยความกลัว
พวกเขามองเห็นทั้งสามคน ที่กำลังแสดงอาการทุรนทุรายอย่างน่าสมเพช พวกเขายิ่งรู้สึกหวาดกลัว
แต่ละคนสัญญากับตัวเองข้างในใจพวกเขาว่า
แม้ว่าพวกเขาจะต้องต่อสู้กับคนทั้งโลกหรือสวรรค์ พวกเขาจะไม่มีวันต่อต้านเย่เฟิง เพราะเย่เฟิงจะทำให้พวกเขารู้สึกถึงการลงทัณฑ์ของปีศาจ!
…
ดวงจันทร์กำลังทอแสงเย็น ๆ สีเงิน อยู่เหนือฟากฟ้าตามราตรี!
ทว่าตระกูลซื่อและตระกูลจงกำลังประสบกับการสังหารหมู่ที่นองเลือด!
เมื่อมองดูอันซีในอ้อมแขนของเขา ดวงตาของเย่เฟิงก็เป็นประกาย
‘กายาวิญญาณแต่กำเนิด! กายาพิษระดับสุงสุด! กายาเหมันต์อัศจรรย์! ฉันได้พบกับ 3 ร่างกายที่ไม่มีใครเทียบได้ตลอดกาล! ฉันสงสัยว่ายังมีความลับอีกมากมายแค่ไหนกันบนโลกใบนี้!’
‘ถ้ามันเป็นอย่างที่ฉันคาดเดาไว้ จริง ๆ แล้วโลกก็คือกับดัก กับดักที่ลึกลับและน่ากลัวที่สุดในจักรวาล!’
เย่เฟิงรู้สึกว่าโลกอาจมีความลับที่น่าอัศจรรย์ซ่อนอยู่!
ตราบเท่าที่ความลับนี้มาจากพลังพิเศษเหล่านั้นในจักรวาล มันจะทำให้ทั้งจักรวาลบ้าคลั่งอย่างแน่นอน
เย่เฟิงรู้สึกร้อนใจในตอนนี้!
เขารู้สึกได้ว่าภัยพิบัติกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้!
เขาจะต้องแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเท่านั้นเพื่อที่จะมีชีวิตรอดและปกป้องแต่ละคนที่อยู่ข้างเขา!
เมื่อมองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนอันกว้างใหญ่ เย่เฟิงเผยให้เห็นแววตาที่น่ากลัว ขณะที่เขาพึมพำ “ถ้าเหล่าเทพเจ้ามาต่อสู้กับฉัน ฉันจะฆ่าเทพเจ้าพวกนั้นทิ้งซะ! ถ้าพญายมมาหาเรื่องฉัน ฉันก็จะฆ่าพญายมด้วยเหมือนกัน! ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ฉัน จักรพรรดิปีศาจ กำลังรอพวกแกอยู่!”